สองขาของเธออ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงจนต้องเอนกายพิงร่างชายหนุ่มเอาไว้

เธอคิดว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถพอจะท้าสู้ฟ้าดิน จนถึงตอนนี้ถึงได้รู้ว่า แม้แต่หมาตัวเดียวเธอก็ยังสู้ไม่ได้

ที่นี่ไม่ใช่โลกยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เขาเว่ยอวิ๋นของคุณยาย แต่เป็นป่ารกร้างเมื่อหนึ่งพันปีก่อน

หากไม่ใช่เพราะตา卜ล่ำบึ้ก ป่านนี้เธออาจจะกลายเป็นซากศพใต้กรงเล็บของเจ้าหมาดำไปแล้วก็ได้!

กู้จิ้งควบคุมตัวเองไม่ได้เลย เธอเห็นตา卜ล่ำบึ้กหิ้วคอเจ้าหมาดำออกไปแถมยังใช้เท้าเตะไล่มัน แต่เธอก็ยังตัวสั่นไม่หาย

ตา卜ล่ำบึ้กกลับเข้ามากอดเธอเอาไว้

ความรู้สึกหวาดกลัวจากการเฉียดใกล้ความตายเกาะกุมหัวใจของเธอ กู้จิ้งขดร่างสั่นระริกอยู่ในอ้อมอกของเขา สองมือกอดเอวของเขาแน่น

 

ตาล่ำบึ้กเอ่ยว่า “****@$&%$” ด้วยเสียงแหบพร่าอ่อนโยนพลางใช้มือหยาบกร้านลูบหลังเธอเป็นเชิงปลอบใจ

แต่สำหรับกู้จิ้ง แค่นี้ยังไม่พอ

เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังกอดเธอเอาไว้แน่นท่ามกลางถ้ำอันมืดมิด

ยามนี้กองไฟไม่ได้ลุกโชนเหมือนตอนแรกอีกแล้ว แสงไฟส่องสว่างเป็นพักๆ ทำให้ในถ้ำเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง ใบหน้าหยาบกร้านค่อนข้างรกรุงรังของชายหนุ่มดูทั้งแปลกหน้าทั้งคุ้นเคย

เขากำลังมองเธอด้วยสายตาลึกล้ำอ่อนโยน ความสงสารในแววตาเห็นได้อย่างชัดเจน

เขารู้ว่าเธอกำลังตกใจมาก ดังนั้นจึงพยายามปลอบโยนเธอสุดความสามารถ

แต่มันไม่พอ ค่ำคืนมืดมิดท่ามกลางป่าลึกที่ไม่คุ้นเคย เสียงหมาหอนซึ่งดังแว่วมาราวกับเสียงภูตผี รวมทั้งความรู้สึกหวาดกลัวที่เกือบจะต้องเสียชีวิตทำให้เธอกลายเป็นคนละโมบ

เธอหลับตาลงพลางยื่นมือสั่นระริกไปโอบลำคอของเขาเอาไว้แน่น

เธอต้องการแรงกระตุ้นที่รุนแรงกว่ามาช่วยให้ลืมเสียงน่าสยดสยองของกรงเล็บแหลมคมที่ครูดกับผนังหินเมื่อครู่

ดังนั้น เธอจึงใช้แขนโอบรอบคอชายหนุ่มเอาไว้ หวังว่าเขาจะมอบให้มากกว่านี้

แต่เขาก็เพียงแค่กอดเธอเอาไว้แน่นพลางถูไถแก้มกับใบหน้าของเธอ

เขาพึมพำเสียงแหบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอไม่เข้าใจ แต่ก็รู้ว่าเขากำลังปลอบใจเธอ

แต่ทำไมเล่า เห็นชัดๆ ว่าร่างของเขาแข็งเกร็งจนมีสภาพไม่ต่างจากธนูที่พร้อมจะยิงได้ทุกเมื่อ แต่เขากลับอดทนไม่ยอมทำอะไร เขายังคงกอดเธอเอาไว้เฉยๆ เท่านั้น

กู้จิ้งไม่พอใจ

ทำไมถึงเป็นแบบนี้? หรือเขายังคิดถึงเด็กสาวใบหน้ารูปผลท้อกับแม่ม่ายท่าทางยั่วยวนนั่นอีก?

เธอส่งเสียงฮึดฮัด จากนั้นก็ใช้แขนโอบรอบคอของเขาเอาไว้ด้วยความไม่พอใจแล้วเริ่มถูไถร่างของตัวเองกับร่างของเขา

ตา卜ล่ำบึ้กส่งเสียงคำรามเบาๆ

เธอฟังแล้วแทบจะทนไม่ได้

เธอชอบเสียงนี้ มันเปี่ยมด้วยพลังและฮอร์โมน นี่คือพลังของผู้ชายที่ทำให้เธอปรารถนาและรู้สึกปลอดภัยมากที่สุดเมื่ออยู่ท่ามกลางความสิ้นหวังและอันตรายในป่าดงดิบเช่นนี้

เธอส่งเสียงครางเบาๆ พลางใช้มือประคองใบหน้าเขาเอาไว้อย่างน้อยอกน้อยใจ จากนั้นก็เริ่มแทะเล็ม แค่แทะเล็มยังไม่พอ เธอยังเบียดตัวเองเข้าหาเขาอีกด้วย

เธอต้องการพลังและการปลอบใจจากเขา

เธอสัมผัสได้ว่าชั่ววินาทีนี้ ร่างของตา卜ล่ำบึ้กกลายเป็นหินไปเสียแล้ว

 

กู้จิ้งไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองหลับไปได้อย่างไร สรุปแล้วหลังจากส่งเสียงฮึดฮัดร้องไห้โวยวายกอดเขาไม่ยอมปล่อยแถมยังแทะเล็มไม่หยุด สุดท้ายเธอก็หลับไปทั้งน้ำตาโดยมีตาล่ำบึ้กตบหลังเบาๆ ด้วยความอ่อนโยน

วันรุ่งขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แสงแดดสดใสก็ลอดผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้และหมอกจางๆ ลงมายังพื้นหญ้าตรงหน้าถ้ำ รอบด้านที่เต็มไปด้วยเสียงนกร้อง ยุง, แมลงวันและแมลงสาบที่ก่อความรำคาญเมื่อคืนวานเหมือนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ตา卜ล่ำบึ้กเปลือยอกเดินค้อมกายผ่านปากถ้ำเข้ามาส่งยิ้มให้ จากนั้นก็ยื่นมือมาตรงหน้าเธอเหมือนอยากจะโอ้อวดสิ่งที่อยู่บนฝ่ามือ

บนฝ่ามือของเขาคือไข่นกกระทาห้าฟอง

กู้จิ้งถอนใจ ทำไมถึงเป็นไข่อีกแล้ว…

แต่เธอก็ยอมรับมาแล้วเริ่มแกะเปลือกกินทีละฟอง

ตา卜ล่ำบึ้กหยิบเนื้อกวางที่เหลือจากเมื่อคืนวานออกมาฉีกกิน

ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงนั่งอยู่บนก้อนหินภายใต้แสงตะวัน หยาดเหงื่อไหลลงมาตามแผ่นหลังเป็นเส้นโค้งแสนเซ็กซี่ก่อนจะลับหายเข้าไปในเอวกางเกง

“จุ๊ๆ เอวหมาตัวผู้” กู้จิ้งแทะไข่นกกระทาพลางเอ่ยชม จากนั้นก็อดใช้ภาษาโบราณที่เพิ่งเรียนมากล่าวคำพูดประโยคนี้ออกมาไม่ได้

แม้เขาจะมีรูปร่างแข็งแกร่งบึกบึน แต่ก็ไม่ได้มีกล้ามเป็นมัดน่ากลัวเหมือนเทรนเนอร์เพาะกาย ทว่าดูได้สัดส่วนเป็นเงางามมากกว่า

“ไปเป็นนายแบบได้เลยนะเนี่ย” เธอโยนเปลือกไข่นกกระทาทิ้งพลางทอดถอนใจอีกรอบ

แต่เสียดายที่ผู้ชายเซ็กซี่แบบนี้ไม่สนใจเธอเลย

เมื่อวานเธอทำถึงขนาดนั้นแล้ว เขากลับไม่ยอมทำอะไรสักนิด

เจ๋ง นายเจ๋งมาก!

หึๆ

ตา卜ล่ำบึ้กคงจะได้ยินเสียงพึมพำของเธอ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมอง จากนั้นก็ขยับมานั่งยองๆ ตรงหน้า

ท่าที่เขาย่อกายลงนั่งยองๆ ดูองอาจห้าวหาญมาก

“@$&*@…หมา @$&%$ หมา ไล่ไป…@$^%$…หมา”

ระหว่างที่พูด เขายังทำท่าโบกมือไล่ให้ดูอีกด้วย

กู้จิ้งเอียงคอพลางกะพริบตาปริบๆ เข้าใจดีว่าเขากำลังบอกว่า เขาไล่เจ้าหมาดำน่ากลัวตัวนั้นไปแล้ว

เพราะเมื่อครู่เธอพูดถึงเอวหมาตัวผู้อย่างนั้นหรือ? เขาไม่เข้าใจความหมายของคำว่าเอวหมาตัวผู้ แต่จับคำว่า ‘หมา’ ได้ก็เลยเชื่อมโยงไปถึงหมาสีดำตัวใหญ่เมื่อคืนวาน?

กู้จิ้งอยากห้ามตัวเองไม่ให้หัวเราะ แต่สุดท้ายก็อดไม่ไหว ต้องหัวเราะออกมา

เมื่อคืนมืดก็มืดหนาวก็หนาวแมลงก็เยอะ แถมยังมีหมาน่ากลัวอีกตัว เธอจึงหวาดกลัวมาก แต่ตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้น ฟ้าสว่างแล้ว ความมืดและความชื้นสลายไป เธอจึงไม่รู้สึกกลัวอีก

ตา卜ล่ำบึ้กเห็นเธอหัวเราะก็ยิ้มตาม

เธอเห็นเขายิ้มก็ยิ่งหัวเราะเสียงดัง

ตา卜ล่ำบึ้กเริ่มเก็บข้าวของ “เรา ออกไป ภูเขา”

เขาคงรู้ว่าพูดมากไปกู้จิ้งก็ฟังไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงเอ่ยคำที่เธอรู้จักออกมาเป็นคำๆ

“เรา ออกไป ภูเขา” เธอพูดเลียนสำเนียงของเขา

ทั้งที่เป็นคำพูดเดียวกัน แต่เสียงของเขาทุ้มต่ำ ส่วนเสียงของเธอกังวานใสกว่ามาก

ตา卜ล่ำบึ้กจูงมือเธอเอาไว้ ช่วยจับกระเป๋าหนังให้สะพายอยู่บนบ่าของเธอ จากนั้นก็พาเดินออกจากถ้ำ

ระหว่างทาง ไม่ว่าเขาเห็นอะไรก็จะชี้ให้เธอดูแล้วออกเสียงให้ฟัง เธอเองก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ภาษาต่างประเทศ เพียงแต่เป็นภาษาถิ่นที่มีสำเนียงท้องถิ่นหนักมากเท่านั้น ขอเพียงจับหลักได้ ถึงเขาจะไม่สอน เธอก็พอจะคาดเดาได้

ด้วยเหตุนี้ พอเธอเอ่ยขึ้นว่า “ข้างนอก ทำอะไร” แววยินดีแกมชื่นชมก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาเอื้อมมือมาลูบผมเธอ

“ข้างนอก ซื้อ” เขาพูดพลางทำท่าบอกใบ้

กู้จิ้งมองเขาโบกมือไปมาก็พอจะทายได้ เขาถูกไล่ออกจากหมู่บ้านมาแต่ตัวก็เลยจะไปซื้อเครื่องเรือนกับอาหารข้างนอกอย่างนั้นหรือ?

แต่…เขาจนขนาดนี้ มีเงินอย่างนั้นหรือ?

เธอมองเขาด้วยแววตาสงสัย

เขาสัมผัสได้ทันทีว่าแววตาของเธอไม่ถูกต้องนัก ดังนั้นจึงเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงไม่เข้าใจ

เธอคิดๆ ดูก็พูดว่า “เงิน?”

เขากะพริบตาปริบๆ เหมือนไม่เข้าใจ

เห็นเขาไม่เข้าใจ เธอก็รู้ว่าตัวเองออกเสียงคำว่าเงินไม่ถูกต้อง แต่เธอก็นึกไม่ออกว่าจะบอกใบ้คำว่าเงินอย่างไร สมัยนี้พวกเขาใช้เงินแบบไหน ก้อนทอง? เหรียญทองแดง? หรืออะไรกันแน่? คิดๆ ดูก็แล้วไปเถิด เรื่องนี้สื่อสารยากเกินไป ไม่ถามดีกว่า

เธอเลือกให้ลิ้นพักผ่อน

แต่ในตอนนั้นเอง เขากลับล้วงมือเข้าไปในถุงผ้าเนื้อหยาบแล้วควักอะไรบางอย่างที่ส่องประกายวาววับออกมา

มันมีประกายแสงสีขาวบาดตา รูปร่างเหมือนเรือ

นี่คือก้อนเงินสมัยโบราณที่ร่ำลือกันสินะ!

กู้จิ้งรีบรับมาพลิกดูด้วยความดีอกดีใจ จากนั้นจึงหันไปมองตา卜ล่ำบึ้กด้วยสายตางุนงง

เขาจนขนาดนี้ ทำไมถึงมีของดีแบบนี้? ถึงกู้จิ้งจะไม่รู้หน่วยวัดค่าของเงินในสมัยโบราณ แต่เธอก็เคยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์บนชั้นหนังสือของคุณปู่ ดังนั้นจึงพอจะรู้ว่าในสมัยโบราณของจีน แร่เงินและทองมีน้อยมาก เงินจึงเป็นของล้ำค่า เงินก้อนหนึ่งมากพอให้ครอบครัวหนึ่งใช้จ่ายได้หลายปีเลยทีเดียว

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตา卜ล่ำบึ้กมีก้อนเงินรูปเรือเปล่งประกายวาววับแบบนี้ เขาก็คือคนรวย!

ดวงตาของเธอเปล่งประกายชื่นชมบูชา

ตา卜ล่ำบึ้กมองท่าทางดีอกดีใจของเธอแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เขาชี้ไปที่ก้อนเงินแล้วก็ชี้ที่เธอ ความหมายคือต้องการมอบก้อนเงินก้อนนั้นให้เธอ

กู้จิ้งจะกล้ารับได้อย่างไร เธอส่งมันกลับไปให้เขาพลางเอ่ยถามว่า “นี่…เพราะอะไร?”

แม้คำพูดของเธอจะขาดเป็นห้วงๆ ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ตา卜ล่ำบึ้กผู้ชาญฉลาดก็เข้าใจ

“ช่วยชีวิต ผู้ชาย เอามา” เขาทำท่าบอกใบ้ สุดท้ายก็ยกขาขึ้นทำท่าเตะ

กู้จิ้งกะพริบตาปริบๆ เข้าใจทันที

เธอจินตนาการภาพเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นตอนนั้น เขาเตะฝ่ายตรงข้ามด้วยท่าทางองอาจห้าวหาญแล้วประกาศกร้าวว่า ‘ใครอยากได้เงินเหม็นๆ ของเจ้ากัน กล้าทำร้ายเพื่อนของข้า รับลูกเตะของข้าซะ!’

จากนั้นก็โบกแขนเสื้อจากมาอย่างสง่าผ่าเผย

แต่คิดไม่ถึงว่าเขาไม่เพียงแค่เตะผู้อื่น แต่ยังเอาเงินของผู้อื่นมาด้วย!

นี่…

กู้จิ้งอดมองผู้ชายตรงหน้าอีกครั้งไม่ได้ ไหนบอกว่าเป็นผู้ชายบ้านนอกแสนดีที่สัตย์ซื่อใจกว้างไร้ความเห็นแก่ตัวอย่างไรเล่า?