บทที่ 135 ทดลองแบบร่าง

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

จากนั้นวีนาก็ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อล้างกระเพาะช่วยชีวิต หลังจากพ้นขีดอันตราย ทุกอย่างก็เป็นตามที่เทาเท่คิดไว้

เทาเท่ยืนอยู่ตรงหน้าเตียงของวีนา ละสายตามองใบหน้าวีนา คิดว่าแปลกหน้าสุดๆ และอึดอัดแปลกๆ

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แม่และน้องของเขาไม่เหมือนเค้าเดิมแบบนี้?

เป็นเพราะหลินจือจริงเหรอ?

ก็ไม่ใช่

ไม่มีหลินจือ ไม่ช้าก็เร็ววันหนึ่งพวกเธอก็ต้องทะเลาะกับเขาด้วยเรื่องอื่น เพราะว่านิสัยของพวกเธอเป็นแบบนี้

ที่หลายปีนี้ไม่ได้ก่อเรื่อง เพราะตำแหน่งของพวกเขาเหมือนกัน

ทั้งการเรียนหน้าที่การงานต่างดีเลิศ เป็นอย่างที่วีนาปรารถนา

คบกับซูซี วีนาพอใจมาก

ต่อมาแต่งกับหลินจือ ถึงตอนแรกวีนาจะไม่ยอม แต่เห็นเขาไม่รักหลินจือ วีนาก็ไม่ได้ไม่พอใจอีก

การขัดแย้งเริ่มจากเขาไม่อยากแต่งงานกับซูซี สาเหตุนั้นเพราะไม่เป็นดั่งที่วีนาหวัง

แต่เขาที่เป็นคนใช้ชีวิต มีสิ่งที่ชอบและเลือกของตัวเองไว้แล้ว จะตามใจวีนาหมดได้อย่างไรกัน

มีความสามารถในการตัดสินใจมาหลายปี เทาเท่ไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งจะความเหน็ดเหนื่อยจะมาจากคนในครอบครัวที่สนิทของเขาเอง

วันถัดมาวีนาฟื้น เทาเท่เฝ้าอยู่ข้างเตียง

นอกจากดูแลเธอ เขาก็ไม่พูดถึงเรื่องที่ให้หลินจือถอนฟ้องเลย เขาไม่พูดเลยสักนิด

สุดท้ายวีนาก็คลุ้มคลั่งอย่างทนไม่ไหว:“หรือว่าแกไม่สนความเป็นความตายของฉันเลย?นี่มันชีวิตคนเลยนะ!”

เทาเท่ตอบกลับนิ่งๆ:“แม่ ถ้าวันนั้นหลินจือถูกชายสองคนนั้นแตะต้องจริงๆ เธอก็ไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป นั่นก็ชีวิตคนเหมือนกัน”

วีนาตะโกนออกไป:“ก็เธอไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอ?”

เทาเท่ที่เทน้ำก็ชะงักไป ถ้าเกิดเรื่อง ก็คงสายไปแล้ว

แต่ชัดเจนมากว่า แม่เขากับพินอินไม่คิดว่านี่คือปัญหาเลย

“อือ ไม่เป็นไรจริงๆ และดีที่ไม่เป็นไร ดังนั้นพินอินก็น่าจะไม่โดนโทษหนักมาก”แน่นอนว่าผิดหวังกับวีนาสุดๆ ดังนั้นตอนนี้เทาเท่สามารถเผชิญหน้าอย่างนิ่งเงียบกับวีนาเพื่อพูดอะไรออกมาได้แล้ว

วีนาโกรธคำพูดของเขาจนร้องไห้เสียงดังอีกครั้ง:“ทำไมชีวิตฉันลำบากแบบนี้ ครอบครัวนี้ไม่มีใครสงสารหรือทำอะไรเพื่อฉันเลย!”

คำพูดแบบนี้เทาเท่ที่ได้ยินเข้าหูก็รู้สึกแรงกดดัน เขาลุกขึ้นอย่างทนไม่ไหว:“ผมยังมีธุระ ไปบริษัทก่อนนะ”

พูดจบเขาก็หันกลับออกไป ปล่อยให้วีนาร้องไห้เสียงโวยวายอยู่ในห้องคนไข้

ไวท์ยังรอเขาอยู่ข้างนอก เขาก็ได้ยินการเคลื่อนไหวข้างใน จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ:“ทำไมน้าวีนาอายุตั้งมากขนาดนี้ถึงคิดไม่ได้ ตอนนี้เธอทะเลาะกับนายแบบนี้ ต่อไปจะอยู่กับนายอย่างไร?สุดท้ายแล้วเธอก็ยังต้องพึ่งนายที่เป็นลูกชาย”

“อีกอย่าง นายทำแบบนี้ก็ไม่ได้เป็นการทำร้ายพินอิน ให้เธอได้รับบทเรียนบ้างจะได้จำ ต่อไปจะได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี”

เทาเท่ได้ยินเสียงร้องไห้โหยหวนเสียงดังจากในห้องคนไข้ ก็หัวเราะเสียงเย็นชา:“เธอไม่ได้คิดไม่ได้ แต่เธอไม่พอใจที่ฉันไม่ได้ทำตามความตั้งใจของเธอ”

“ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ได้อยากจะปกป้องพินอินให้พินอินพ้นจากการถูกคุมขัง เธอแค่อยากให้ทุกคนฟังเธอเท่านั้น เป็นการควบคุมจากความหวาดกลัว”

“และก็ ถ้าพินอินถูกตัดสินจำคุก ก็เท่ากับประกาศว่าเธอล้มเหลวในการเลี้ยงดูพินอินตั้งหลายปีนี้ เธอเป็นคนแกร่ง รับความล้มเหลวนี้ไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้จึงพยายามจะหยุดมัน”

ไวท์ฟังคำวิเคราะห์ของเทาเท่จบก็ตกใจไปแป๊บหนึ่ง ดูเหมือน……เทาเท่จะวิเคราะห์ความในใจของวีนาได้ไม่เลว

เดินไปกับเทาเท่ไปไวท์ก็เสนอไปว่า:“จะหาจิตแพทย์มาช่วยหน่อยไหม?ฉันกลัวว่าแบบนี้ต่อไปสภาพของน้าวีนาจะยิ่งแย่?”

“นายคิดว่าเธอจะรับได้?”เทาเท่ไม่นึกถึงความเป็นไปได้นี้เลย

จากนิสัยของวีนาแล้ว กลัวว่าจะไล่จิตแพทย์ออกไปน่ะสิ

หลินจือออกจากโรงพยาบาลแล้วเจเทาวน์ก็รีบกลับบ้านเกิดอยู่กับคุณแม่เจนีต่อ ช่วงนี้นอกจากเตรียมการเป็นผู้กำกับละครเรื่อง “The Legend of Concubine Rong ” นี้แล้ว เขาก็เลื่อนงานอื่นๆไป

ส่วนการดูแลบริษัท กลับส่งต่อให้ คุณCพันธมิตรที่ไม่เคยเห็น

เพราะพันธมิตรคนนี้ตอนนี้อยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้นเขาจะประชุมทางโทรศัพท์ในวันจันทร์ เพื่อฟังรายงานจากแผนกต่างๆ และให้คำแนะนำในเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพันธมิตรคนนี้ต้องตั้งชื่อแทนตัวให้ตัวเองว่า “C” ด้วย ทำไมไม่ใช่ชื่อสกุลตัวเองไปเลย?

มีคนเดาว่า พันธมิตรคนนี้น่าจะชื่อโคเรียกว่าคุณโคคงไม่เพราะ ดังนั้นเลยเปลี่ยนเป็น คุณC

และทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าทำไม คุณCคนนี้ตอนประชุมทางโทรศัพท์ต้องเปลี่ยนเสียงด้วย แต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความสามารถของ คุณCคนนี้ได้ เพราะว่าตอนที่เขาแนะนำหลายๆเรื่องมักจะมีกระชับและตรงประเด็นดี

คำพูดรวบรัด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่โดดเด่นของเขา

ก่อนเจเทาวน์ไปก็พูดกับหลินจือเรื่องที่เทาเท่เสนอให้เธอลองเป็นนักเขียนบททดลองแบบร่างหนังสือใหม่ของจอร์แดน หลินจือได้ยินว่าเป็นข้อเสนอของเทาเท่ ก็ตกใจมาก

เทาเท่เห็นเธอดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน กล้าให้เธอลองเขียนแบบร่างของจอร์แดน

เธอในสายตาเทาเท่ น่าจะเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างเลยไม่ใช่เหรอ?

เจเทาวน์พูด:“ตัวผมคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี คุณลองดูได้นะ”

“ถ้าไม่ผ่าน ก็คือว่าเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง”

“แน่นอนว่า ถ้าผ่าน ก็พิสูจน์ว่าคุณมีความสามารถนี้จริงๆ”

ที่จริงหลินจือไม่อยากร่วมงานหรือเกี่ยวข้องใดๆกับเทาเท่อีก แต่บทหนังสือใหม่ของจอร์แดนครั้งนี้ เธอไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้จริงๆ เธอฝันว่าอยากร่วมงานกับจอร์แดน

เจเทาวน์โน้มน้าวแบบนี้ พอเธอคิดแล้วก็ตกลงทันที

ยังไงซะเธอก็ไม่แน่ว่าจะผ่าน และก็ไม่แน่ว่าจะได้ร่วมงานกับเทาเท่ต่อนี่

ช่วงนี้นานิไม่มีงานเท่าไหร่ ดังนั้นหลังจากหลินจือออกจากโรงพยาบาลนานิก็แทบจะมากินข้าวที่บ้านหลินจือทุกวัน

ที่จริงหลินจือรู้ว่า นานิก็กังวลว่าเธอจะเป็นอะไรอีก

ทั้งสองกลับไม่รบกวนกันและกัน ตอนที่หลินจือทำงานนานิก็นั่งบนโซฟาดูละคร หรืออ่านบทละครเรื่องใหม่ของเธอ

เช้าวันนั้นนานิเข้าประตูบ้านหลินจือมาก็พูด:“ห่า ได้ยินว่าแม่เทาเท่ฆ่าตัวตาย”

หลินจือที่กำลังชงกาแฟก็ตกตะลึงมาก:“อะไรนะ?”

วีนาฆ่าตัวตาย?

หลังจากนานิเตะรองเท้าที่หลุดไปก็เข้ามายื่นภาพในโทรศัพท์ให้หลินจือดู:“ฉันเห็นมีคนพูดในเน็ต”

นานิดำน้ำโต้คลื่นทั้งวัน เบาะแสข่าวใดๆก็ไม่คลาดสายตาเธอไป

นานิพูด:“มีคนถ่ายภาพที่เทาเท่ปรากฏตัวที่โรงพยาบาลกลางดึกด้วยเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยได้ และแม่เขาที่ถูกส่งไปช่วยชีวิต”

“และยังมีคนได้ยินว่าเทาเท่ทะเลาะกับแม่เขา เหมือนเรื่องน้องสาวเขา แต่ตอนนี้ข่าวพวกนี้ถูกลบไปแล้ว ดีที่ฉันแคปไว้ทัน”

นานิพูดอีกว่า:“ฉันเดา จะต้องเป็นวีนาไม่พอใจที่ครั้งนี้เทาเท่ไม่สนใจพินอินแน่ เลยสร้างปัญหาให้เขา