บทที่ 256 การละเล่นของวู่หยาน และสงครามเหนือน่านฟ้าล่ะ

Shoujo Grand Summoning ไปจีบสาวที่โลกอนิเมะกันเถอะ!

บทที่ 256 การละเล่นของวู่หยาน! และสงครามเหนือน่านฟ้าล่ะ!!
เรลกันพุ่งผ่านตำแหน่งเดิมของคาคิเนะไป ส่วนคาคิเนะที่หลบมาได้ก็กำลังมีสีหน้า
สั่นๆอยู่ ราวกับว่าเพิ่งหลบรอดการโจมตีที่น่ากลัวสุดๆมาได้
คาคิเนะที่ไม่สังเกตเห็นความต่างด้านพลังของเรลกันอันนี้กับเรลกันของมิโคโตะ ก็
เลยทำได้แค่หันไปกัดฟันมองวู่หานด้านล่าง
“ทำไมแกถึงใช้เรลกันของ มิซากะ มิโคโตะ ได้?”
วู่หยานที่กำลังทำหน้ายิ้มก็มองคาคิเนะที่ตัวสั่น จากนั้นภายในแววตาเขาก็มี
ความคิดสนุกๆอย่างนึงแว่บผ่าน เมื่อคิดได้เขาก็ลงมือทำทันที มือล้วงลงไปหยิบ
เหรียญอีกอันนึงออกมา แล้วเอามาโยนเล่นในมือ จากนั้นหันไปพูดกับคาคิเนะ
ด้วยน้ำเสียงกวนประสาทถึงขีดสุด
“น่านน~สิ ทำไมกันน้า~~?”
“แก…..”
สีหน้าตกใจของคาคิเนะค่อยๆหายไป แทนที่ด้วยความโกรธอันหนาแน่น ปีกสาม
คู่ด้านหลังสะบัดไปมา จากนั้นก็มีลำแสงเลเซอร์หกสายยิงออกมา!
เห็นแบบนี้วู่หยานก็ยิง ‘เรลกัน’ ออกไป!
สาวๆทั้งสี่ที่มองดูอยู่ต่างก็ประหลาดใจ ที่เห็นเรลกันสามารถยันเลเซอร์ทั้งหกได้
ไม่นานนักเรลกันก็ทะลวงผ่านไปได้เข้าไปหาคาคิเนะ
มองดูเรลกันที่พุ่งมาหาตน ถึงคาคิเนะจะไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามอะไรจากมัน แต่ทว่า
ในแววตาเขาก็ยังคงมีประกายความกลัวอยู่
สุดท้ายคาคิเนะก็เลือกหลบ ถึงเรลกันจะมีความเร็วเป็นสามเท่าของเสียง แต่ด้วย
ปีกทั้งหกทำให้เขาหลบไปได้อีกครั้ง
เห็นคาคิเนะหลบได้ วู่หยานก็ก็หัวเราะออกมาด้วยสีหน้าว่า ‘ตูไม่แคร์’ เขาหยิบ
เหรียญออกมาแล้วยิงใส่คาคิเนะใหม่…….
วู่หยานที่กำลังคึกสุดขีดได้เริ่มยิงเรลกันรัวๆใส่คาคิเนะ ส่วนทางคาคิเนะก็บินหลบ
รัวๆเช่นกัน
คาคิเนะไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่า ตอนที่หลบ เรลกัน เขาก็ได้บินสูงขึ้นจากพื้นดินมาก
ขึ้นเรื่อยๆแล้ว………
มุกิโนะ คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ มองดูวู่หยานที่ยิงเรลกันไม่หยุด ก่อน
จะเงยหน้ามองคาคิเนะที่บินหนีสูงขึ้นไปเรื่อยๆ พวกเธอก็รู้สึกแปลกๆอย่างบอก
ไม่ถูก
เห็นอยู่ว่า เรลกัน ยิงคาคิเนะที่มีปีกอยู่ไม่ได้ แล้วทำไมวู่หยานถึงยังจะยินไม่หยุด
แบบนั้นล่ะ………
อีกคนนึงก็ประหลาดไม่แพ้กัน ทำไมคาคิเนะถึงต้องหลบด้วย? เรลกันมันไม่ได้
รุนแรงอะไรขนาดนั้นสักหน่อยนี่?
ทางคาคิเนะเองก็เริ่มจะรู้สึกแล้วว่าเรลกันอันนี้มันดูไม่รุนแรงเท่าของมิโคโตะ……
ในแววตาฉายความลังเล แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะหลบต่อไปโดยการบินสูงขึ้นจาก
พื้น
เห็นคาคิเนะที่หลบเรลกันราวกับตัวตั่นที่หลบค้อน วู่หยานก็หัวเราะจากนั้นเขาก็
หยุดยิงเรลกัน
ฝ่ามือทั้งสองกางออก ก่อนจะมีประกายไฟฟ้าปรากฏออกมาจากนิ้วมือทั้งสิบ
กระแสไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้าภายใต้การควบคุมของวู่หยาน พวกมันต่างก็
ซึมเข้าไปในดิน วินาทีต่อมา ก็มีทรายเหล็กขนาดจิ๋วลอยออกมาจากพื้นเข้าไป
หมุนวนตรงขาและแขนทั้งสองของวู่หยาน
มองดู มุกิโนะ คินุฮาตะ เฟรนด้า และ ทาคิสึโบะ วู่หยานก็หัวเราะคิก “รอแป๊ป
นะ อีกเดียวก็จบแล้ว…….”
จากนั้นภายใต้สายตาของสี่สาว วู่หยานก็โผบินขึ้นฟ้า ก่อนจะหลายเป็นลำแสงมุ่ง
ตรงไปหาคาคิเนะ!
ขณะที่คาคิเนะกำลังโล่งอกที่เรลกันหายไปซะที ภายใต้สภาวะผ่อนคลายของเขา
ชั่วพริบตาต่อมานั่นเองก็มีคนๆนึงมาปรากฏตรงหน้าเขา!
ใบหน้าที่คุ้นเคยทำคาคิเนะช็อค เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายเองก็บินได้ด้วย!
ยื่นมือออกมาคว้าจับที่คอเสื่อคาคิเนะ ภายใต้สีหน้าที่เปลี่ยนสีของเขา วู่หยานก็
จับโยนข้ามไหล่ตัวเองอย่างแรงขึ้นไปบนฟ้าที่อยู่สูงขึ้นไป!
คาคิเนะตัวปลิวไปในอากาศด้วยใบหน้าที่ผสมปนเปไปด้วยความโกรธและความ
อัปยศ เขาไม่คิดเลยว่าตัวองจะโดนทำแบบนี้ด้วยคนที่เขาดูถูกตอนแรก!
เขากางปีกหยุดร่างกายตัวเอง ก่อนที่จะยิงเลเซอร์กลับไปที่วู่หยาน
นัยน์ตาสีทองหดตัว วู่หยานขยับตัวหลบหลีกเลเซอร์ดอกแล้วดอกเล่าอย่าง
รวดเร็วจนเกิดเป็นภาพติดตา (@นึกถึงตอนขยับเมาท์เร็วๆอ่ะจะเห็นลูกศรหลาย
อัน)
คาคิเนะกระพือปีกอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เลเซอร์แต่เป็นเปลวเพลิงสีดำปล่อยไปที่วู่
หยาน!
แรงกดดันที่เพลิงสีดำส่งมาทำให้วู่หยานสีหน้าเปลี่ยนไป เขาฉีกข้างหลบออกไป
ได้!
ทว่าเปลวเพลิงสีดำกลับหักเลี้ยวและไล่ตามหลังวู่หยาน นี่ทำให้เขาฉงนงุนงง
คาคิเนะหัวเราะเย้ย บนใบหน้ามีรอยยิ้มยั่วยุ เขาที่มีพลังสร้างสสารใหม่จึงไม่ใช่
เรื่องยากอะไรเลยที่จะสร้างภัยธรรมชาติอย่างลมพายุ หรือเปลวไฟ และการสั่งให้
มันติดตามเป้าหมายก็ยังเป็นอะไรที่ง่ายมากเหมือนกัน เขาสามารถตั้งให้เปลวไฟ
ติดตามเป้าหมายด้วยออร่า การเคลื่อนไหว หรือจะเป็นกลิ่นก็ได้!
วู่หยานมองคาคิเนะที่กำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่ ก่อนจะก้มหัวมองลงไป พอเห็นว่า
ตัวเองอยู่ห่างจากพื้นดินมากแล้วเขาก็ฉีกยิ้ม
เปลวไฟสีดำไล่ตามวู่หยานจะทันอยู่แล้ว ชั่ววินาทีที่มันจะโดนตัวเขา ร่างกายวู่
หยานก็ปล่อยกระแสไฟฟ้าจำนวนมากออกมา!
ไฟฟ้าปะทะกับไฟ ส่งเสียงระเบิดขึ้น ก่อนที่จะกลายเป็นสะเก็ดไฟและไฟฟ้า
กระจายหายไป………
เร่งความเร็ว!วู่หยานพุ่งตรงมาหาคาคิเนะด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะหยุดเมื่อได้
ระยะไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป จากนั้นเขาก็มองคาคิเนะ ทว่าครั้งนี้มันต่างออกไปใน
นัยน์ตาสีทองของวู่หยานนั่นไม่มีอารมณ์ความรู้สึกอยู่เลย!
ราวกับว่าเขากำลังมองคนที่อีกไม่นานก็จะต้องตาย!
คาคิเนะขมวดคิ้ว มองไปที่อีกฝ่ายที่อยู่ๆก็หยุด เขาเอ่ยเสียงต่ำด้วยรอยยิ้มว่า
“อะไร? ยอมแพ้แล้ว? แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้มันจบแบบนี้เหรอ?”
ได้ยิน วู่หยานก็หัวเราะเบาๆ เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ แล้วพูดว่า “ที่นี่
ไม่เลวเลยเนอะว่ามั้ย?”
“ห๊ะ?” คาคิเนะตอบกลับด้วยความน้ำเสียงไม่เข้าใจ หลังจากนั้นเขาก็ส่ายหน้าพูด
ยิ้มๆว่า “ไม่คิดเลยว่าแกยังจะมีอารมณ์มาเอ่ยชมสิ่งแวดล้อมด้วย หรือว่าแกคิดจะ
ถ่วงเวลา? แกได้ส่งสัญญาณเรียกมิซากะ มิโคโตะ หรือไม่ก็คนอื่นให้มาช่วยแล้ว
ใช่มั้ย?”
“เปล่าเลย ก็อย่างที่บอกตอนแรกที่นี่จะมีแค่ฉันเท่านั้น หึ ถ่วงเวลาเหรอ? ไม่
จำเป็นสักนิด……”วู่หยานส่ายหัว ในนัยน์ตาสีทองของเขาได้เปร่งประกายมองไป
ที่คาคิเนะ
“ฉันก็แค่กำลังคิดว่าที่นี่มันสวยดี เหมาะเป็สถานที่ตายของนายเลยอ่ะนะ…….”
“ตาย?” คาคิเนะยกคิ้ว ก่อนที่จะหัวเราะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักเสียง
หัวเราะนี้ก็ได้ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
“แกกำลังจะบอกว่าคิดจะฆ่าฉันที่นี่? ฮ่าฮ่าฮ่า!!!! นี่เป็นมุขตลกที่สุดเท่าที่ฉันเคย
ฟังมาเลย!!!”
คาคิเนะยกมือขึ้น จากนั้นก็มีจุดสีดำปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า พวกมัน
ราวกับเป็นหิ่งห้อยที่โอบล้อมรอบตัวเขา ก่อนที่จะพากันไปรวมตัวที่ฝ่ามือทั้งสอง
ข้างเขา ไม่นานนักก็เกิดลูกบอลสีดำสนิทขึ้นสองลูก!
มองดูลูกบอลที่ทำให้บรรยากาศรอบๆสั่นไหว คาคิเนะก็ฉีกยิ้มดูดุร้าย แล้วพูด
กับวู่หยาน “ฉันคงต้องขอดูหน่อยแล้ว ว่าแกจะฆ่าฉันได้ด้วยวิธีไหน!!!”
“…..อีกไม่นานนายก็จะรู้แล้ว…”
สิ้นเสียงเขา ธนูยาวสีดำโปล่งใสก็ได้ปรากฏขึ้นในมือวู่หยาน………