ตอนที่ 202 แนะนํากรรมการตัดสิน

หลังจากกลับไปที่โรงแรมพฤกษาสวรรค์ผู้อาวุโสชานถอนหายใจขณะมองไปที่หยวน

“ข้ารู้ว่าเจ้าดึงดูดความสนใจของผู้อาวุโสซึ่งในการแข่งขันด้วยพรสวรรค์ของเจ้าเอง แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเราจะได้พบกับเธอก่อนการแข่งขัน และถึงขั้นที่เธอจะพยายามแย่งเจ้าไปจากนิกาย เรานี่กลายปัญหาแล้ว…”

“ทําไมมันถึงมีปัญหาละ ข้าปฏิเสธคําเชิญของเธอที่ให้ข้าไปเข้าร่วมกับนิกายดนตรีสวรรค์แล้ว” หยวนกล่าว

“เพียงเพราะแค่เจ้าปฏิเสธคําเชิญของเธอไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมแพ้เจ้าหรอกนะศิษย์หยวน และเมื่อรู้นิสัยของผู้อาวุโสข่งละก็ เธอจะพยายามไล่ล่าเจ้าต่อไปเรื่อยๆจนกว่าเธอจะเบื่อ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสองสามปี หรือไม่ก็อาจจะเป็นทศวรรษ…”

“หวังว่าเจ้าสํานักจะสามารถโน้มน้าวผู้อาวุโสซ่งให้ยอมแพ้ได้” ผู้อาวุโสซวนถอนหายใจดังเชือก

“ตอนนี้เจ้าควรอยู่ในโรงแรมตลอดทั้งวัน และทางที่ดีควรอยู่อย่างเงียบๆหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นที่สวนสาธารณะในวันนี้ เพราะข้าแน่ใจว่าเรื่องนี้มันแพร่กระจายออกไปแล้ว”

เป็นไปตามที่ผู้อาวุโสซวนคาดเดาผู้คนที่เห็นการแสดงของหยวนได้พูดถึงสิ่งที่พวกเขาเห็นต่อๆกันไป พวกเขาพูดว่า มีผู้เชี่ยวชาญพิณที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนจากวิหารแก่นมังกรได้เอาชนะซ่งหลิงเอ๋อร์ของนิกายดนตรีสวรรค์ได้ แต่แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อข่าวลือนี้ในตอนแรกเนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญคนที่พูดถึงมีจริงหรือไม่

ในขณะที่ผู้คนเริ่มแพร่กระจายข่าวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งนักดนตรีที่มีชื่อเสียงบางคนก็พูดแบบเดียวกัน ทําให้เริ่มมีคนอดไม่ได้ที่จะเริ่มเชื่อข่าวลือในระดับหนึ่ง

“เนื่องจากไม่มีอะไรต้องทําจนกว่าจะถึงการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ งั้นข้าจะออกจากระบบแล้ว” หยวนพูดกับผู้อาวุโสทั้งสองก่อนที่จะออกจากระบบและใช้เวลาที่เหลือของวันในการฝึกฝนในโลกแห่งความเป็นจริง และในช่วงท้ายของวันนั่นก็ทําให้เขาได้ก้าวไปอีกระดับหนึ่ง ตอนนี้หยวนอยู่ในระดับผู้ฝึกวิญญาณระดับเจ็ดแล้ว

วันรุ่งขึ้นหลังจากกลับเข้ามาใน Cultivation Online หยวนและคนอื่นๆก็เตรียมพร้อมสําหรับการแข่งขัน

หลังจากเตรียมตัวเสร็จพวกเขาก็ออกจากโรงแรมและไปที่พื้นที่ชุมนุมอีกครั้ง

“ขอให้พวกเจ้าทั้งสองคนโชคดี พวกเราจะดูการแสดงของเจ้าในพื้นที่สําหรับผู้ชม” ผู้อาวุโสชานกล่าวกับหยวนและเฟยยู่หยานเมื่อพวกเขามาถึงด้านหน้าทางเข้าพื้นที่ชุมนุม

“โชคดีนะหยวน! ข้าจะเป็นกําลังใจให้เจ้า!” ซวนหวู่ฮั่นพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเธอ

“โชคดีศิษย์หยวน” หมินลี่พูดกับเขาด้วยความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเธอที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

“ขอให้โชคดีและเหนือสิ่งอื่นใดขอให้มีความสุข” ผู้อาวุโสซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณทุกคนมากๆ” หยวนพูดกับพวกเขาก่อนจะเดินตามเฟยยู่หยานเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม

“หืม…ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีคนน้อยกว่าเมื่อก่อนนะ มันเกิดอะไรขึ้น?” หยวนถามหลังจากสังเกตเห็นว่าพื้นที่ชุมนุมว่างเปล่ามากกว่าเมื่อเทียบกับเมื่อวาน

“เหตุผลก็คือ ตอนนี้อนุญาตให้เข้าเฉพาะผู้เข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น” เฟยยู่หยานกล่าว

“ตอนนี้ยังมีเวลาอีกชั่วโมงกว่าๆจนกว่าพวกเขาจะปิดประตูและเริ่มการแข่งขัน พวกเราไปหาที่นั่งรอจนกว่าจะถึงเวลานั้นกันเถอะ”

หยวนพยักหน้าและเดินตามเฟยยู่หยานไปรอบๆ จนพวกเขาพบจุดที่ไม่มีคนอยู่ นั่นเป็นบริเวณใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง พวกเขาทั้งคู่ก็นั่งลงตรงนั้นเพื่อให้ถึงเวลา

“ดูตรงนั้นสิ นางฟ้าเฟยจากวิหารแก่นมังกรไม่ใช่หรือ เธอก็เข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้เช่นกัน!”

“คู่ของเธอเป็นใครกัน และทําไมคนๆนั้นถึงสวมหน้ากาก

ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเฟยยู่หยานอย่างรวดเร็วและบางคนก็ตัดสินใจที่จะเข้าหาเธอด้วยการทักทายอย่างเป็นมิตร

“สวัสดีนางฟ้าเฟย ข้าชื่อว่านหูจากตระกูลว่าน ข้าอยากจะบอกให้เจ้ารู้ว่าข้าเริ่มเล่นพิณหลังจากที่ได้เห็นการแสดงของเจ้าในการแข่งขันครั้งก่อน และตอนนี้ข้ากําลังเข้าร่วมการแข่งขันด้วยตัวเอง”

“นางฟ้าเฟยเจ้าจําข้าได้ไหมข้าชื่อต่รูฮุย ข้าได้อันดับที่ 8 ในการแข่งขันครั้งล่าสุด”

เฟยยู่หยานมองไปที่คนเหล่านี้แล้วเธอก็พูดว่า

“ได้โปรดอย่ารบกวนข้าตอนนี้ ข้ากําลังพยายามมีสมาธิกับการแข่งขัน หากพวกเจ้ามีเวลามากพอที่จะพูดคุย ข้าแนะนําให้ใช้เวลานั้นเตรียมตัวสําหรับการแข่งขันแทน”

คนเหล่านี้ตกตะลึงกับคําตอบที่เย็นชาของเฟยยู่หยาน แต่ไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึงเนื่องจากเฟยยู่หยานเป็นที่รู้กันดีว่าเธอชอบอยู่ห่างไกลจากผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ชาย

ในขณะเดียวกันหยวนได้สํารวจพื้นที่รอบๆเขา โดยให้ความสนใจกับผู้คนที่เพิ่งเข้ามาในสถานที่นั้นราวกับว่า เขากําลังค้นหาบุคคลบางคนอยู่

แน่นอนว่าเขาแค่พยายามดูว่ามีผู้เล่นกี่คน

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและประตูสู่การชุมนุมก็ปิดลงในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา

“ยินดีต้อนรับสู่การแข่งขันพิณครั้งที่ 100”

ทันใดนั้นใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้เข้าร่วม เสียงที่ดังออกมาทําให้สถานที่นั้นเงียบลงทันที

“นั่นคือผู้อาวุโสซู..” หยวนพึมพําหลังจากเห็นเขา

“นามสกุลของข้าคือซู และข้าเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้” ผู้อาวุโส กล่าวและกล่าวต่อว่า

“ให้ข้าได้แนะนําผู้ตัดสินอีกสองคนที่จะร่วมงานกับข้าในวันนี้”

ไม่กี่วินาทีต่อมาร่างสองร่างก็ลงมาจากท้องฟ้าและยืนอยู่ข้างๆผู้อาวุโสซู

หนึ่งในนั้นคือผู้หญิงที่สวมชุดสีแดงเลือดหมูและมีผ้าคลุมศีรษะ ขณะที่ผู้ตัดสินอีกคนเป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่ เปล่งออร่าอันทรงพลังออกมา

“ทางด้านขวาของข้าคือผู้อาวุโสซ่งผู้นํานิกายดนตรีสวรรค์” ผู้อาวุโสซูแนะนําซ่งหลิงเอ๋อ

จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ชายร่างสูงและพูดว่า

“อีกด้านหนึ่งของข้าคือผู้อาวุโสจิ้งจากนิกายวังสวรรค์และโลกซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันในปีนี้!”

หลังจากแนะนําผู้ตัดสินแล้วผู้อาวุโสซูกล่าวต่อว่า

“โดยปกติเราจะให้คะแนนพวกเจ้าแต่ละคนแยกกันจนกว่าจะถึงรอบสุดท้าย แต่อย่างที่พวกเจ้าส่วนใหญ่คาดเดาได้…”

ในขณะที่ผู้อาวุโสซูพูดคุยเกี่ยวกับการแข่งขันซ่งหลิงเอ๋อก็ค้นหาคนในฝูงชนด้วยสายตาอันแหลมคมของเธอจากด้านหลังผ้าคลุม ดูเหมือนพยายามมองหาบุคคลบางคนอยู่

“ข้าเจอเขาแล้ว! เขาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้จริงๆ! หยวน!”

ดวงตาของซ่งหลิงเอ๋อเบิกกว้างเมื่อเธอเห็นหยวนสวมหน้ากากหยกดํายืนอยู่ข้างๆเฟยยู่หยาน และเธอรู้สึกได้ทันทีว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วกว่าเมื่อครู่ด้วยเหตุผลบางอย่าง