เมื่อเงินแปดสิบล้านถูกโอนเข้าบัญชีของ เสี่ยวหลัวแล้ว เขาก็ได้โยนมีดทิ้งไปและพูดกับ เกิง โจวชิงว่า”ไปบอกเรื่องนี้กับ หลง ซานกุย ในนามของฉัน ว่ามันถึงเวลาเปลี่ยนที่จะตัวแทนความดำมืนของ เจียงเฉิง แล้ว”
เสี่ยวหลัวตบไหล่ของ เกิง โจวชิง แล้วหันไปมอง กู่ กุ้ยหลิน พร้อมกับเดินไปหาเธอ ทิ้งให้ เกิง โจวชิง ที่ตกตะลึงจนเหงื่อเย็นไหลออกมา
กู่ กุ้ยหลิน ที่ตามตัวเต็มไปด้วยรอยบาดแผล เมื่อเธอเห็น เสี่ยวหลัว เดินเข้ามาเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “คุณมันเป็นปีศาจ!”
“ฉันเป็นคนที่ช่วยคุณเอาไว้นะ ทำไมคุณยังไม่ขอบคุณฉันอีก” เสี่ยวหลัว ยิ้มออกมาเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็นั่งลงไป และยื่นมือออกไปช่วยเธอ กู่ กุ้ยหลิน มองไปที่เสี่ยวหลัวอย่างเย็นชา: “คุณกำลังจะทำอะไร?”
“พาคุณไปโรงพยาบาล คุณเป็นพยานเพียงคนเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ฉันถูกบังคับให้ต้องต่อสู้กลับเมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ถึงชีวิต และฉันก็จะต้องช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกู่ด้วย เพราะฉันจะต้องมั่นใจว่าคุณจะต้องปลอดภัย ไม่เช่นนั้นฉันจะเดือดร้อนเป็นมากแน่ๆ” เสี่ยวหลัว พูด
เสี่ยวหลัวไม่สนใจสายตาที่เย็นชาของเธอและช่วยพยุงเธอขึ้นมาจากพื้น
กู่ กุ้ยหลิน รู้สึกอับอายและโกรธแค้น เธอจ้องมองไปที่ เสี่ยวหลัว อย่างมุ่งร้าย: “ฉันจะต้องนำคุณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้!”
“แล้วฉันจะรอ” เสี่ยวหลัว พูดออกมา
……
“ท่านประธาน เสี่ยวหลัวได้ต่อสู้ครั้งใหญ่ ในคาสิโน ฮวางเทียน ของ หลง ซานกุย เมื่อคืนนี้ สมาชิกแก๊งมังกรกว่าห้าสิบสามคน ถูกตัดมือขาดจนหมด และ เกิง โจวชิง ที่เป็นคนดูแล คาสิโน ฮวางเทียน ก็ได้หลบหนีไปจาก หลง ซานกุย พร้อมกับเงินจำนวนกว่า 10 ล้านหยวน”
ที่ ฉงชาน พาวิลเลี่ยน เล้งโจว กำลังรายงานสถานการณ์ล่าสุดต่อ ชู หยุนเชียง ที่กำลังนั่งเล่นโก๊ะกับ จี เซินเจิ้น อย่างสบายอารมณ์
ข้อมูลนี้มันทำให้ จี เซินเจิ้น ตกใจ: “ตัดมือคนกว่า 53 คน เขาคิดว่าตำรวจเจียงเฉิง จะปล่อยเขาไปง่ายๆหรือไง? เสี่ยวหลัว เขากำลังคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่ เขากำลังจะทำลายอนาคตของตัวเองหรือไง!”
ชู หยุนเชียง วางหมากลงไปและพูดอออกมาอย่างร่าเริงว่า “อย่าประมาท เสี่ยวหลัว ไปถ้าเขากล้าที่จะทำเช่นนั้น เขาก็คงจะเตรียนการรับมือเอาไว้แล้ว”
เล้ง โจว พยักหน้า: “เมื่อคืนนี้ เสี่ยวหลัว อยู่กับ กู่ กุ้ยหลิน หัวหน้าทีมสืบสวนคดีอาชญากรรมของ เจียงเฉิง General Administration เธอยืนยันว่า เสี่ยวหลัว นั้นทำเพียงแค่ปกป้องตัวเองตามกฎหมาย และวีดีโอจากกล้องวงจรปิดของคาสิโน ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากลุ่มของแก๊งมังกร ได้ไล่ทุบตีพวกนักพนันอย่างบ้าคลั่ง และในที่ท้ายที่สุดพวกมันก็ได้ไปคุกคามชีวิตของ กู่ กุ้ยหลิน และในช่วงเวลานั้น เสี่ยวหลัว ก็ได้ออกมาช่วยเธอ และ ผบ.ตร. ของเจียงเฉิง ก็ยังได้มอบธงเพื่อเป็นเกียรติแก่ เสี่ยวหลัว สำหรับเรื่องนี้และเขาก็ยังได้ขอบคุณเสี่ยวหลัวที่ได้ช่วยชีวิตคนของตำรวจเจียงเฉิง อีกด้วย ”
เมื่อพูดจบใบหน้าของ เล้งโจว ก็แสดงถึงอาการตกตะลึง เขาก็รู้สึกชื่นชม เสี่ยวหลัว จริงๆ แก๊งมังกรได้ทุบทำลายร้านค้าหลายแห่งของ หลัวฝาง และ เสี่ยวหลัว ก็ได้ไปทุบทำลายคาสิโนที่ทำกำไรให้กับ หลง ซานกุย เป็นการตอบแทน และเขาถึงกับตัดมือของสมาชิกแก๊งมังกรไปกว่า 53 คน เขาแก้แค้นด้วยเลือดเพื่อตอบโต้ หลง ซานกุย เสี่ยวหลัวเขาเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญที่ไม่เกรงกลัวอะไรเลยจริงๆ
“ฮ่าฮ่าฮ่า … งดงามมาก ถ้าเสี่ยวหลัวเกิดในช่วงทศวรรษที่ 1930 เขาจะต้องเป็นคนที่สร้างความโกลาหลด้วยกลยุทธ์ที่กล้าหาญของเขาแน่ๆ และในตอนนี้เขาก็จะต้องมีอำนาจมากกว่านี้อย่างแน่นอน”
ชู หยุนเชียง กล่าวชม เสี่ยว อย่างไม่ตระหนี่คำชมแต่อย่างใด จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาและพูดต่อว่า “แต่เขาก็ทำตัวเปิดเผยมากเกินไป และนี่มันอาจจะทำให้เขาไปได้ไม่ไกล ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญมากมายอยู่รอบตัวเขา ที่เขาสามารถไว้วางใจได้ และด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา มันจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะต่อกรกับ หลง ซานกุย แต่เขาก็ทำได้ดีมากแล้วในการโค่นล้ม คาสิโน ฮวางเทียน”
“อย่างไรก็ตามฉันก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางของเขาทั้งหมด หลง ซานกุย นั้นเป็นคนอารมณ์ร้ายและร้ายกาจมาก และ คาสิโน ฮวางเทียน ก็คือความภาคภูมิใจของเขา เมื่อทรัพย์สินที่สำคัญของเขาถูกทำลาย และความภาคภูมิใจที่ถูกเหยียบย่ำ การแก้แค้นของเขาก็จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงมันจะโจมตีไปทั่วทั้งกระดานเหมือนกับคลื่นสึนามิ เสี่ยวหลัว เขาคงจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับมันได้เลย บริษัทหลัวฝาง ก็จะพังทลายลงไปอีกครั้งภายใต้การแก้แค้นของ หลง ซานกุย”
“ใช่แล้ว หลง ซานกุย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับเขา เขาไม่เคยฆ่าคนด้วยตัวเอง แต่ในเมืองเจียงเฉิง แห่งนี้เขาเป็นเหมือนกับราชาแห่งนรกที่ยังมีชีวิตอยู่ หาก ราชาแห่งนรก ต้องการให้มีใครตายลงในตอนกลางคืน มันก็จะไม่มีใครรอดมาจนถึงตอนเช้า เสี่ยวหลัว ที่ทำให้ หลง ซานกุย โกรธ เขาก็คงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ” จี เซินเจิ้น พูดออกมาอย่างเห็นอกเห็นใจ
ซู หยุนเชียง ไม่ได้พูดออกมา เขาทำเพียงเดินหมากอย่างรอบคอบ
จี เซินเจิ้น มองไปที่กระดานโก๊ะอย่างประหลาดใจและพูดว่า: “เหลือสามตัว เสมอกันงั้นเหรอ?”
“เสมอกัน ทำใจเถอะ”
ชู หยุนเชียง หัวเราะออกมาอย่างร่าเริง“คราวนี้ฉันจะเป็นผู้สร้างสันติ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จี เซินเจิ้น ก็เงยหน้าขึ้นมาและมองเข้าไปในดวงตาของเขา คำพูดของ ชู หยุนเชียง นั้นอาจจะกำลังส่งสัญญาณว่า เขาตั้งใจที่จะสนับสนุน เสี่ยวหลัว ใช่หรือไม่? มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เขาจะทำให้โกรธของ หลง ซานกุย สงบอารมณ์ลงได้!
……
ค่ำคืนนี้ เมืองเจียงเฉิง นั้นถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน
ในเวลานี้ก็มี
รถสีดำสามคัน แล่นมาจากระยะไกลทำลายความเงียบสงบนี้ แสงไฟของรถมันได้สะท้อนให้เห็นพืชพันธุ์ที่นี่ ภาพสะท้อนของพืชที่ลาดอยู่บนพื้นดูเหมือนกับเงาปีศาจร้าย
“พี่หลง ฉันไม่กล้าอีกต่อไปแล้ว มันจะไม่ทำอีกแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตที่ต่ำต้อยของฉันด้วยเถอะ!”
ชายวัยกลางคนถูกมัดด้วยเชือกเส้นหนา ถูกลากออกจากรถคันแรก โดยชายร่างใหญ่หลายคน ผมของเขากระเซอะกระเชิงและร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยรอยฟกช้ำ หลังจากที่ถูกทุบตี มันคือ เกิง โจวชิง ผู้จัดการคาสิโน ในเวลานี้เขาไม่ได้เย่อหยิ่งเหมือนกับในวันนั้นอีกต่อไป ตอนนี้เขาเหมือนกับสุนัขที่กำลังตื่นตระหนกจากความเจ็บปวด
เกิง โจวชิง ก้มหัวไปที่ รถสีดำคันที่อยู่ตรงกลาง เขากระแทกหน้าผากของเขาลงไปที่พื้นด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้ง แม้ว่าการก้มหัวกระแทกแต่ละครั้งจะก็มีเสียงดังสนั่นขณะที่มันกระทบกับพื้นแข็งก็ตาม แต่ชายร่างใหญ่ที่อยู่ข้างเขาก็ยังไม่ได้สนใจอะไร พวกเขายังคงก้มหน้าขุดหลุมที่พื้นดินต่อไป
“เกิง โจวชิง,พี่หลง ปฏิบัติต่อแกมาเป็นอย่างดีพอสมควร และได้อนุญาตให้แกได้จัดการคาสิโน ฮวางเทียน แต่ในท้ายที่สุด แกกลับหนีไปพร้อมกับเงินจำนวน สิบล้านหยวน ของเขา แกกล้าหาญมาก!” คนที่มีผมสีทองพูดกับ เกิง โจวชิง ขณะที่เขาก้าวเดินออกมาจากรถ ดูเหมือนว่าเขาจะมีอายุประมาณสามสิบปี เขาสวมเสื้อแจ็คเก็ตและกางเกงขายาวสีขาว เขาดูโหดเหี้ยมด้วยคิ้วที่ดูเหมือนจะยกขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันมีรอยย่นอยู่บนหน้าผากของเขา ซึ่งสิ่งนี้มันได้ช่วยเพิ่มให้สีหน้าที่ชั่วร้ายของเขาดูชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น
“ต้า หยวน จากความเป็นเพื่อนที่ผ่านมาของเรา โปรดช่วยฉันด้วย พี่หลง ได้โปรดช่วยฉันด้วย พี่หลง!” เกิง โจวซิง ขอร้องอ้อนวอนขณะที่เอื้อมมือของเขาออกไปจับที่ต้นขาของ ต้า หยวน
ต้า หยวน หัวเราะจากนั้นสีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาและมืดมน “ไปขอร้องกับแม่ของแกเถอะ!”
ต้า หยวน เตะไปที่ใบหน้าของ เกิง โจวชิง อย่างรุนแรง ฟันของ เกิง โจวชิง หลุดออกจากปากขณะที่หัวของเขาหมุนวนไปรอบๆจากแรงเตะ เลือดสดพุ่งออกมาจากปากที่ช้ำ และไหลรินลงมาที่คางของเขา ในขณะที่เขานอนคว่ำอยู่มันก็มีของเหลวสีเข้มและหนืดำไกลหยดลงสู่พื้นดินอย่างต่อเนื่อง
เกิง โจวชิง ล้มลงไปที่เท้าของชายอีกคน ด้วยจมูกที่งองุ้ม คนนี้แต่งกายด้วยชุดสีดำและที่ผมของเขาก็ถูกตัดออกมาอย่างฉูดฉาด
“เฮย หลาง…”
เกิง โจวชิง มองไปที่ชายผิวดำด้วยสายตาที่อ้อนวอน และตะโกนเรียกชื่อของมันด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
เฮย หราน เหลือบมองไปที่ เกิง โจวชิง อย่างไม่แยแส เขาสูดหายใจเข้าเบาๆ และเตะไปที่ เกิง โจวชิง เหมือนกับชายก่อนหน้า
ชายคนอีกคนที่สามสวมแว่นตาขอบทองและมีผมแสกกลาง แว่นตาของเขามันไม่ได้ซ่อนแววตาที่ดูเย็นชาและมีพิษเหมือนกับงูพิษเลยแม้แต่น้อย
ชายสวมแว่นขอบทองจับไปที่ผมของ เกิง โจวชิง อย่างแรงให้มันเงยหน้าขึ้นมา “ฉัน เล้งเปา ฉันเกลียดคนที่ทรยศต่อพี่หลงมากที่สุด”
ชายวามแว่นตาขอบทองส่งลูกเตะที่ทรงพลัง ให้กับ เกิง โจวชิง อีกครั้ง
จากนั้นชายอีกคนที่สวมชุดสูทที่เรียบร้อย ผมของเขามันวับเสยไปด้านหลัง เขาเดินขึ้นมาพร้อมกับปรับเน็คไท จากนั้นเขาก็ถ่มน้ำลายใส่ เกิง โจวชิง พร้อมกับพูดออกมาว่า“ไอขยะ!”
ชายที่สวมชุดสูท ยื่นมือออกไป ขอมีดจากชายคนก่อนหน้า จากนั้นเขาก็แทงมีดไปยังใบหน้าของ เกิง โจวชิง อย่างไร้ความปราณี มีดสั้นแทงเข้าไปที่ใบหน้าด้านซ้ายของ เกิง โจวชิง จนทะลุออกไปทางด้านขวาของใบหน้า เหมือนกับไม้เสียบลูกชิ้น
“อ๊ากกก ~”
เกิง โจวชิง กรีดร้องเสียงแหลมสูงออกมา ตอนนี้เขาไม่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้อีกต่อไป เพราะว่าปากของเขามันเต็มไปด้วยเลือด และการแสดงออกที่เจ็บปวดมันก็เต็มไปทั่วทั้งใบหน้าของเขา
“ฮั่น เหมียน การแทงในครั้งของคุณ แค่ดูมันฉันก็รู้สึกเจ็บแทนแล้ว” ต้า หยวน ที่มีผมสีเหลืองพูดออกมาอย่างติดตลก
ชายในชุดสูทเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือของตัวเองและพูดออกมาว่า“ขยะ สมควรได้รับการลงโทษเช่นนี้”