180 : ลูกชิ้นปลาน้อยที่ตกใจจนร่วงหล่นหมด

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ ตอนที่ 180 : ลูกชิ้นปลาน้อยที่ตกใจจนร่วงหล่นหมด –

 

เฉียนเสี่ยวยู่เริ่มแผนการ!

 

เขาคุกเข่าขอหญิงสาวแต่งงานด้วยใบหน้าที่จริงจัง

 

“โย่วโย่ว ผมชอบคุณมานานแล้ว”

 

“แม้ว่าผมจะไม่มีเงินมาก แต่หัวใจของผมก็รักคุณคนเดียว ผมได้แต่ขอให้คุณนั้นยอมรับหัวใจที่ต่ําต้อยของผม แหวนวงนี้เป็นแหวนที่ผมใช้เงินเก็บทั้งหมดซื้อมา ผมขอสาบานผมจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับคุณและมอบหัวใจของผมแก่คุณเท่านั้น!”

 

แต่ใครจะรู้

 

พนักงานเสิร์ฟสาวมองเขาด้วยสายตาดูถูกก่อนจะทําหน้าบึ้งใส่เขาและดูถูกอย่างรุนแรง

 

“หึ! เป็นแค่คางคกแต่กลับอยากกินเนื้อหงส์งั้นหรอ? เอาหน้าไปส่องกับหม้อไฟหน่อยไหมว่าตัวเองเป็นยังไง? นายคู่ควรกับฉันหรอ?”

 

เธอปัดมือของเฉียนเสี่ยวยู่ที่กําลังถือแหวนเพรชอยู่ออก ก่อนจะเดินตรงมาทางเจียงเฉินแล้วกระพริบตาพร้อมกับยิ้มออกมา “หนุ่มหล่อคนนี้ดูก็รู้แล้วว่าเป็นคนรวย! คุณดีกว่าเขาที่เป็นแค่พนักงานเสิร์ฟคนนั้นที่กําลังคุกเข่าอยู่ตั้ง 99,999 เท่า! ผลไม้จานนี้ฉันให้ฟรีค่ะ- เรามาทําความรู้จักกันหน่อยไหมคะ?”

 

เฉียนเสี่ยวยู่ลุกขึ้นมาและชี้ไปที่เจียงเฉินด้วยใบหน้าที่เศร้าโศกและโกรธเคืองก่อนจะพูดออกมา “ทุกคน ลองดูสิ เจียงเฉินคนนี้กลั่นแกล้งผมใช้อํานาจมาข่มเหงรังแกคนจนๆแบบผม! ขุดหลุมฝังผมทั้งเป็นแถมยังใช้เงินมาหลอกล่อหญิงสาวที่ผมรักที่สุด ชีวิตขิงผมมันน่าสงสารจริงๆ”

 

ฉากสุดคลาสสิก(แบบเดิมๆ) คนจนผู้ถูกรังเกียจและคนรวยผู้ถูกรักดึงดูดคนเข้ามาสนใจอีกครั้ง

 

ผู้คนมากมายต่างพูดคุยกัน

 

“มีเงินมันสุดยอดขนาดนั้นเลยหรอ?”

 

“แม้แต่ผู้หญิงของเพื่อนร่วมชั้นเขาก็ยังกล้าไปยั่วยวน? นี่เขาไม่มีความเป็นพี่น้องเลยหรอ?”

 

พูดจบก็มีคนโต้แย้งทันที

 

“นายใช้ตาข้างไหนดูกัน ถึงได้เห็นหนุ่มหล่อคนนั้นยั่วยวนพนักงานคนนั้นน่ะ?”

 

“เห็นได้ชัดเลยว่าพนักงานสาวคนนั้นตกหลุมรักหนุ่มหล่อคนนั้นเอง มันไม่เกี่ยวอะไรกับเงินเลยโอเคไหม?”

 

“ฉันเองก็รู้สึกว่าพนักงานเสิร์ฟชายคนนี้จะเล่นเกินจริงไปหน่อย เหมือนเขาจะจงใจรีดไถเงินไปทุกที่มากกว่า?”

 

เจียงเฉินมองไปทางพนักงานเสิร์ฟสาวที่มีคะแนนความสวยอยู่แค่ 60 คะแนนก่อนจะหันกลับไปมองที่ซูเสี่ยวเสี่ยว สาวสวยระดับเทพธิดาที่มีความสวย 95 คะแนน!

 

ซูเสี่ยวเสี่ยว 95 คะแนน!

 

พนักงานเสิร์ฟสาว 60 คะแนน!

 

ทั้งๆที่ฉันมีแฟนสาวสวย 95 คะแนนอยู่ข้างๆอยู่แล้วเขาจะไปเข้าหาหญิงสาวที่มีความสวยแค่ 60 คะแนนไปทําไม??

 

นี่สมองของเธอตายไปแล้วรึเปล่า?

 

และก็มีคนไม่น้อยที่เห็นเรื่องนี้เช่นกัน พวกเขาพากันหัวเราะแล้วพูดออกมา “แฟนของเขาสวยกว่าเธอตั้งเป็นร้อยเท่า โอเคไหม?”

 

“ถ้าเขาทิ้งดอกไม้งามของตัวเองมาเอาดอกหญ้าข้างทางแบบเธอเขาก็คงไม่มีสมองแล้ว!”

 

“พรูด! ตลกจริงๆ”

 

เฉียนเสี่ยวยู่ไม่สนใจเขาพยายามเล่นละครต่อไป

 

“หึ! เจียงเฉิน ฉันมองนายออกแล้ว! แม้ว่านายจะทําเป็นพบเธอเป็นครั้งแรก แต่ความจริงนายแอบติดต่อกับเธอมานานแล้วใช่ไหม? นายกล้าทําแบบนี้ได้ยังไง?”

 

“ภรรยาของเพื่อน นายไม่ควรมายุ่ง!”

 

“แต่เจียงเฉิน เพราะการที่นายมีเงินนายก็เลยจะกลั่นแกล้งฉันใช่ไหมล่ะ?”

 

เจียงเฉินยิ้มอย่างขมขืนก่อนจะพูดกับพนักงานเสิร์ฟสาว “คุณชื่อโย่วโย่วใช่ไหม? คุณได้อ่านบทจากเขามาก่อนไหม? คุณได้ช่วยเขาแสดงรึเปล่า? ผมไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนใช่ไหม?”

 

หญิงสาวใจแข็งพยายามเล่นละครต่อเธอเดินไปหาเฉียนเสี่ยวยู่และพูดออกมาเสียงดัง “ฉันขอบอกนายให้ชัดเจนเลยนะ! ฉันน่ะรู้จักเพื่อนร่วมชั้นของนายมานานแล้วและฉันก็ชอบเขาด้วย! เขาทั้งรวยทั้งหน้าตาดี ไม่ว่าเขาจะมีแฟนหรือไม่ฉันก็ยังชอบเขาอยู่ดี! แต่ฉันไม่มีวันชอบคนแคระแบบนายหรอก!”

 

เฉียนเสี่ยวยู่คุกเข่าลงกับพื้นก่อนจะเอาแหวนออกมา “โย่วโย่ว! ก่อนหน้านี้ผมจนก็จริงแต่ให้โอกาศฉันเถอะนะ 30 ปีในเหอตงและอีก 30 ปีในเหอซี อย่าได้รังแกหนุ่มสาว จนๆเด็ดขาด!”

 

เจียงเฉิน “???”

 

ทําไมประโยคนี้ฟังดูคุ้นๆ?

 

โย่วโย่วทําสีหน้าเย็นชาและหยิ่งยโส เธอปัดมือของเฉียนเสี่ยวยู่จนแหวนหลุดลอยจากมือของเขาก่อนมาตกหน้าเจียงเฉิน

 

โย่วโย่วพูดเสียงดัง “นายมันคนไร้ค่า! แม้ว่าเมื่อก่อนนายจะมีพรสวรรค์ก็เถอะ – โอ้..ไม่สิ ต้องเรียกว่าแค่พรสวรรค์ในการเรียน! แต่ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ? นายไม่มีรถ ไม่มีบ้าน ทั้งเตี้ยแล้วก็จน! เป็นแบบนี้แล้วยังกล้ามาจีบฉันอีกหรอ? หึ! ฉันไปตามจีบเจียงเฉินดีกว่า”

 

เฉียนเสี่ยวยู่ในตอนนี้ได้เขาสู่จุดสูงสุดของการขายหน้าที่น่าสังเวช แล้วเขาหัวเราะออกมาอย่างน่าสงสาร

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

“โลกนี้แทบจะทําให้ฉันขําจนบ้าตาย!”

 

“วัตถุสิ่งของและเงินเท่านั้นสินะที่สําคัญกับผู้หญิง

 

“แต่รักแท้ของฉันมันกลับไร้ค่า!”

 

เจียงเฉินดูพูดไม่ออก เขาหยิบแหวนขึ้นมาก่อนจะส่งไปให้เฉียนเสี่ยวยู่

 

“อ่ะ ของนายเชิญแสดงต่อไปเถอะ!”

 

เฉียนเสี่ยวยู่ยิ้มออกมา “ฉันไม่อยากเห็นแหวนนี้อีกแล้ว! โยนมันออกไปให้ฉัน! โยนมันออกไป!”

 

เขาพูดพร้อมกับชี้ไปที่หม้อไฟ

 

เจียงเฉิน “โอ้—

 

เจียงเฉินโยนไปที่หม้อไฟ

 

แต่ใครจะคิดเฉียนเสี่ยวยู่เริ่มเล่นละครอีกครั้ง เขาตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง “นายยังรังแกฉันไม่พออีกหรอ? นายเอาแหวนเพรชของฉันโยนลงไปในหม้อไฟได้ยังไง? นั่นเป็นแหวนเพรชที่ฉันต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดของฉันซื้อมาเลยนะ!”

 

คนรอบๆเริ่มพากันเห็นใจเฉียนเสียวยู่ –

 

“น่าสงสารจังเลย”

 

“มันน่าสงสารจริงๆ แย่มาก!”

 

“เขาไม่ได้ตั้งใจรึเปล่า?”

 

“ทําให้คนอื่นแค้นโดยการแย่งคนรักเขาไปยังไม่พอ ยังย่ำยีเขาอย่างนี้ยังจะอีกหรอ?”

 

เจียงเฉินพูดไม่ออก

 

ไม่เสียแรงที่เฉียนเสี่ยวยู่ทํางานร้านหม้อไฟ เขาโยนหม้อทิ้งลงไปบนพื้นอย่างแรง

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวกระซิบกับเจียงเฉิน “สามี- เพื่อนร่วมชั้นของนายมีปัญหากับที่นี่รึเปล่า?”

 

เจียงเฉินกระซิบตอบ “ดูการแสดงของเขาต่อไปก่อน ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเขาจะยังเตรียมอะไรไว้อีก”

 

แน่นอนว่าหลังจากที่เตรียมตัวมานานจุดพีคก็มาถึง!

 

เฉียนเสี่ยวยู่ชี้ไปที่เจียงเฉินอย่างโกรธเคือง “เจ้าสุนัขคู่นี้”

 

เขาวิ่งไปหลังร้านด้วยความโกรธ

 

ผ่านไป 1 นาที

 

พวกเขาก็เห็นเฉียนเสี่ยวยู่ในชุดสูทแบรนด์ดังเดินออกมาพร้อมกับแว่นกันแดด

 

นอกจากเขาแล้วก็ยังตามมาด้วยพนักงานเสิร์ฟในชุดเครื่องแบบขาวดําหลายสิบคน

 

หนุ่มหล่อ สาวสวยพากันร้องเต้นออกมาพร้อมกัน

 

ยิ่งใหญ่มาก!

 

ทุกคนในร้านพากันงงกันหมด–

 

เรื่องเป็นแบบนี้ได้ยังไง?

 

เขาไม่ได้จะหนีหรอ?

 

เขาเป็นพนักงานเสิร์ฟไม่ใช่หรอ?

 

ทําไมจู่ๆถึงได้กลายมาเป็นเถ้าแก่ผู้ร่ํารวยไปแล้ว?

 

แถมยังมีชายหญิงมากมายออกมาร้องเพลงและเต้นให้เขา?

 

การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันแบบนี้ทําให้ทุกคนต้องตกตะลึง!

 

แม้แต่ “หญิงสาว” ที่เยาะเย้ยเขาก่อนหน้านี้ก็อยากคุกเข่าเลียแข้งเลียขาของเขา–

 

ซูเสี่ยวเสี่ยว :

 

ลูกชิ้นปลาที่อยู่บนจานในมือของซูเสี่ยวเสี่ยวร่วงหล่นลงไปทั้งจาน–

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

เฉียนเสี่ยวยู่เดินอย่างโอ้อวดตรงไปทางเจียงเฉิน

 

เขามองลงมาอย่างดูถูกราวกับตัวเองเป็นราชาที่กลับมาเกิดใหม่เขาพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ “เป็นยังไงล่ะ มัวแต่ดูถูกฉัน รู้รึยังว่าฉันเก่งแค่ไหน จริงๆแล้วหลังจากเรียนจบฉันก็เริ่มธุรกิจหม้อไฟจนทุกวันนี้มันก็มีสาขาทั่วประเทศ! เมื่อกี้ฉันก็แค่มาสํารวจร้านเล่นๆด้วยตัวเองแต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกับนาย แถมยังมาทําตัวอวดดีต่อหน้าฉัน ตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ หลังจากโดนฉันตบหน้าไป? ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

เจียงเฉินหัวเราะออกมา

 

ใครกันแน่ที่โอ้อวดออกมา–

 

เป็นนายเองไม่ใช่รึยังไงที่สร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมาแล้วปลอมตัวเป็นหมูกินเสือนะ?

 

จงใจแกล้งจนแล้วรอตอกหน้ากลับ

 

น่าขยะแขยงจริงๆ!

 

ฉันเจียงเฉินไม่เคยแสดงความแข็งแกร่งออกมา โดยเฉพาะการแกล้งจน ฉันคนนี้ยิ่งไม่เคย!

 

และที่เขายอมเก็บตัวเงียบๆก็เพราะ [ระบบลงชื่อเข้าใช้ ประสบการณ์ชีวิต]

 

ของฉันมันไม่ใช่แค่การแกล้งทํา แต่เป็นเพราะระบบนั้นต้องการ ไม่อย่างงั้นเขาก็จะไม่มีรางวัลจากระบบ

 

แต่เฉียนเสี่ยวยู่คนนี้กลับจงใจทํา!

 

เขานั้นรู้ดีว่าเจียงเฉินนั้นไม่ได้ต้องการที่จะกลั่นแกล้งตัวเอง และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เจียงเฉินจะไปกลั่นแกล้งเขา แต่เขากลับจงใจวางกับดักแล้วทําให้เจียงเฉินกลายมาเป็นหินรองเท้าให้เขาเหยียบขึ้นไป

 

และตอนนี้เขาก็เริ่มการแสดงอีกครั้ง

 

สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดนั้นยังมาไม่ถึง!

 

เฉียนเสี่ยวยู่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออก

 

“ฮัลโหล? พ่อบ้านใช่ไหม? ตอนนี้ผมเบื่อที่จะออกมาเที่ยวข้างนอกแล้ว [ไหตี่เลา] ก็ถูกฉันทําให้เป็นร้านอาหารระดับประเทศไปแล้ว น่าเสียดายจริงๆ ฉันคงไม่ได้กลับไปสืบทอดมรดกพันล้านแล้ว!”

 

เขายิ้มเยาะและมองมาทางเจียงเฉิน

 

โย่วโย่วคนก่อนหน้านี้ที่ดูถูกเขาก็เปลี่ยนสีหน้าไปในทันที เธอมองไปทางเจียงเฉินแล้วพูดออกมา “ฉันมองนายออกแล้ว นายมันก็แค่พวกอันธพาล!”

 

พูดจบเธอก็วิ่งเข้าไปและทุบขาของเฉียนเสี่ยวยู่และบอกว่าเธอนั้นเสียใจมากเธอคุกเข่าต่อหน้าเขาเพื่อขอคืนดี

 

การแกล้งจนและการโอ้อวดถูกแสดงออกมาต่อหน้าคนทั้งร้าน

 

จากนั้นเฉียนเสี่ยวยู่ก็ตะโกนออกมาอย่างมีชัย “เจียงเฉิน นายคงคิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะว่าฉันถึงกับกล้าทิ้งมรดกจากตระกูลนับพันล้านและออกมาหาประสบการณ์ชีวิตแบบนี้”

 

“วันนี้มีพนักงานของฉันคนหนึ่งที่ป่วย และก็บังเอิญที่ฉันมาเจอพอดี ฉันก็เลยลงมาทํางานแทนเขาอย่างมีความสุข แบบนี้ยังไงล่ะ”

 

“และนั่นก็เป็นสาเหตุที่นายดูถูกฉัน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ฉันคงต้องขอโทษด้วยนะ ที่ทํานายเข้าใจผิด เพราะจริงๆแล้วฉันนั้นทั้งหล่อทั้งรวย-”

 

เฉียนเสี่ยวยู่ที่คิดว่าตัวเองนั้นประสบความสําเร็จในชีวิตอย่างสูง ก็หัวเราะออกมาอย่งบ้าคลั่ง

 

เจียงเฉินหัวเราะออกมา “แบบนั้นก็ดีแล้ว”

 

เจียงเฉินยืนขึ้นแล้วโยนเงิน 5,000 หยวน

 

“ฉันยังมีธุระที่ต้องทํา นายก็เล่นละครต่อไปก็แล้วกัน นี่เงินค่าอาหารของฉัน”

 

เฉียนเสี่ยวยู่ชี้ไปที่เจียงเฉินแล้วหัวเราะออกมา “ฉันเพิ่งส่งคนไปตรวจสอบนายมา นายน่ะขับตีตี้จริงๆ– นายจะกล้าเสียเงินขนาดนี้จริงหรอ?”

 

เจียงเฉินยิ้มแล้วพูดออกมา “ฉันได้เงินมาจากการขับตีตี้ก็จริง แต่การทํางานหนักมันก็ได้เงินจริงไหมล่ะ?”

 

เจียงเฉินดึงตัวซูเสี่ยวเสี่ยวขึ้นมาแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ ที่นี่มีคนอ้างตัวราวกับตัวเองเป็นจักรพรรดิ ดังนั้นสามีคนนี้คงต้องพาเธอไปกินที่อื่นแล้ว”

 

ซูเสี่ยวเสี่ยวจ้องมองไปที่เฉียนเสี่ยวยู่อย่างรังเกียจ และรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ปัญญาอ่อนมากจริงๆ!

 

เพื่อที่จะอวดดีตัวเองนั้นก็ไม่เลือกวิธีการไม่ว่ามันจะชั่วร้ายแค่ไหนก็ตาม!

 

บรรดาลูกค้าที่อยู่รอบๆก็เริ่มเข้าใจแผนการของเฉียนเสี่ยวยู่กัน พวกเขาต่างกัดฟันด้วยความโกรธเคือง!

 

“แม่งเอ๊ย! ที่แท้ก็คนอวดดีนี่เอง!”

 

“หึหึ! ทุกอย่างที่เขาทําเป็นการแสดงทั้งหมด!”

 

“เขาเรียนจบจากมหาลัยสุยมู่เพื่ออะไรกัน? ออกมาแกล้งจนหรอ? ความรู้สึกของเขามันต้องแย่ขนาดไหนกันถึงได้ทําแบบนี้ และใส่ร้ายเพื่อนร่วมห้องสุดหล่อคนนั้นแล้วก็ค่อยเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา?!”

 

“ พนักงานของร้านก็เอากับเขาด้วย ไร้สาระจริงๆ!”

 

“โอ้ย! ฉันแทยจะอ้วกอยู่แล้ว!”

 

บรรดาลูกค้าพากันถ่มน้ําลายลงหม้อเพื่อระบายความโกรธแค้นกันที่ละคน

 

จ่ายบิลเดินออกไป

 

ในเวลานี้เอง Rol-Royce Cullinan ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านหม้อไฟ

 

ชายร่างใหญ่คนหนึ่งเดินลงมา

 

ฉินกั๋วต่ง!