ตอนที่ 181 : แม่ของฉันไม่ตีฉันมาสามวันแล้ว!
ฉินกั๋วต่งเดินเข้าไปในร้านด้วยความเคร่งขรึม
คนในร้านอาหารต่างพากันหันมาสนใจฉินถั่วต่งด้วยความรวดเร็ว
ทุกคนสามารถสังเกตได้ถึงความโกรธและความหยิ่งทะนง ทําให้พวกเขานั้นมั่นใจว่าคนๆนี้จะต้องเป็นคนใหญ่คนโตที่คอยออกคําสั่งมาเป็นเวลานานแน่!
เฉียนเสี่ยวยู่ที่กําลังแสดงต่อหน้าเจียงเฉินอยู่อย่างเมามันพอเห็นฉินกั๋วต่งเขาก็ยิ่งมีความสุข เขาเดินออกไปหาฉินถั่วต่งแล้วตะโกนออกมา “คุณลุง!”
เมื่อเจียงเฉินเห็นว่าเป็นฉินกั๋วต่งมมปากของเขาก็ยกยิ้ม
เฉียนเสี่ยวยู่เป็นหลานของฉินกั๋วต่งงั้นหรอ?
น่าสนใจ
เดิมทีเจียงเฉินกําลังคิดอยู่ว่า–
เขานั้นจะตบหน้ากลับยังไงดี?
แม้ว่าเจียงเฉินจะไม่ต้องการแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา แต่คนอย่างเฉียนเสียวยู่ที่อวดดีและเหยียบย่ําเขา ถ้าเขาไม่ได้ตบหน้ากลับอย่างรุนแรงเขาคงทนดูต่อไปไม่ไหว
แต่ตอนนี้มีฉินกั๋วต่งอยู่ที่นี่เจียงเฉินก็รู้สึกว่าเขานั้นคงจะได้ดูละครดีๆได้แล้ว
ด้วยใบหน้าที่เย็นชาของฉินกั๋วต่งเขามองขึ้นขึ้นลงไปที่หลานชายของเขา เฉียนเสี่ยวยู่ ก่อนจะขมวดคิ้วและตําหนิออกมา “ดูแกสิ วันๆเอาแต่ยุ่งอยู่กับงาน แค่เดินออกไปดูโลกภายนอกว่าหน้าตามันเปลี่ยนแปลงยังไงบ้างไม่เป็นรึยังไง?!”
เฉียนเสี่ยวยู่กลัวลุงคนนี้มาก เขานั้นไม่ต่างจากหนูที่เห็นแมวเขาพยักหน้าแล้วก้มโค้งลงทันที
ฉินกั๋วต่งตําหนิ “แม่ของแกตามหาแกไปทั่วแถมยังมาขอให้ฉันพาแกกลับไปดูแลอีก ตั้งแต่ที่แกเปิดร้านนี่พ่อของแกก็ยุ่งอยู่กับมันทุกวัน จนไม่ได้ทุบตีแกมาตั้งสามเดือนแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะแกโทรหาพ่อบ้านฉันก็คงไม่รู้ว่าแกนั้นมาอยู่ที่นี่!”
ระหว่างที่เขากําลังติหนิเฉียนเสี่ยวยู่ เขาก็มองเห็นเจียงเฉินพอดี!
ดวงตาของฉินกั๋วต่งเป็นประกาย เขาก้าวเข้าไปหาเจียงเฉินทันที
ในเวลานี้เองเฉียนเสี่ยวยู่ก็ไม่พลาดที่จะโอ้อวดต่อหน้าเจียงเฉินเขาพูดออกมาอย่างมีชีวิตชีวา “นายรู้ไหมว่า ลุงของฉันทํางานที่ไหน? บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินยังไงล่ะ ”
“หุบปาก!”
ฉินกั๋วต่งหันไปตบหน้าของเฉียนเสี่ยวยู่ด้วยหลังมือ
เฉียนเสี่ยวยู่โดนตบหน้าหันไป 480 องศา–
ฉินกั๋วต่งตําหนิออกมาด้วยความหงุดหงิด “คุณเจียงเป็นเพื่อนร่วมงานของฉัน เขามีอิทธิพลอย่างมากในโลกธุรกิจ! ทําไมเขาจะไม่รู้จักฉัน? แกนี้มันเป็นเจ้างั่งตัวใหญ่ ทําให้ฉันต้องเสียหน้าแก่ๆของฉันจริงๆเลย! ออกไปได้แล้ว!”
หุ้นของฉินกั๋วต่งในบริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนเฉินนั้นถูกเจียงเฉินกว้านซื้อไปมากจนเขาต้องตกใจ เขานั้นมั่นใจว่าภูมิหลังของเจียงเฉินนั้นจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!
เฉียนเสี่ยวยู่ปิดหน้าของตัวเองด้วยความตกตะลึง–
คนรอบๆต่างพากันหัวเราะออกมา-
“แกล้งทําเป็นอันธพาลแต่สุดท้ายก็เจอเหตุการณ์พลิกผันจนได้!”
“อวดดีแทบตายสุดท้ายหาเรื่องใส่ตัว!”
“ความรู้สึกแบบนี้หน่อมหล่อคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่!”
“น้องชายคนนี้เป็นคนขับไม่ใช่หรอ? ทําไมเขาถึงได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานของคนใหญ่คนโตได้?”
ฉินกั๋วต่งแทบอดทนไม่ไหวที่จะฆ่าหลานชายของตัวเอ งด้วยไม้เขาหันไปมองเจียงเฉินแล้วยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “คุณเจียงอย่าถือสาหลานของผมเลยเขาชอบโอ้อวดมาตั้ง แต่เด็ก มันเรียกว่าอะไรนะ– อะไรนะ?..”
“ใช่แล้วๆ แสดงความแข็งแกร่ง!”
ฉินกั๋วต่งยิ้มเจื่อนๆ “เดี๋ยวฉันกับแม่ของเขาจะสั่งสอนเขาเอง ถ้าชุดเล็กก็น่าจะซัก 3 วันถ้าชุดใหญ่ก็ซัก 5 วัน ฉันรอที่จะถลกหนังเขาออกมาไม่ไหวแล้ว เด็กคนนี้ทําตัวโอ้อวดมาตั้งแต่เด็ก ดัดนิสัยยังไงก็ไม่หายซักที
“ช่วงนี้น้องสาวของฉันลงทุนจัดการกับร้านไหตี่เลาเลย ทําให้เธอไม่มีเวลามาจัดการกับเจ้าเด็กนี่ และทําให้เขาเริ่มหยิ่งผยองขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการแกล้งทําเป็นหมูกินเสือ เขาไปตามร้านต่างๆของตัวเองแกล้งไปเป็นพนักงานเสิร์ฟ แล้วก็แบล็กเมล์พวกเขา ก่อนจะเริ่มทําการดูถูกแล้วยังส่งให้พนักงานคนอื่นๆในร้านต้องมาร่วมมือกับเขาในการแสดงอีก!”
เจียงเฉิน “…”
ลูกค้า “…”
ที่แท้เจ้าหมอนี่ทําแบบนี้มามากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว?
ฉินกั๋วต่งยิ่งพูดยิ่งโมโห
เขาตบหน้าเฉียนเสี่ยวยู่ด้วยหลังมืออีกครั้ง!
ตบ–
เฉียนเสี่ยวยโดนตบหน้าหัน 360 องศาไปอีกรอบ
ฉินถั่วต่งคําราม “แกไม่รู้รึไงว่ากําลังอวดดีอยู่ต่อหน้าใคร! คุณเจียงเฉินเป็นคนที่แกมาโอ้อวดต่อหน้าได้ยังไง?! ต่อให้แกสืบทอดทรัพย์สินของทั้งตระกูลก็เทียบเขาไม่ได้!”
ฉินกั๋วต่งเตะเข้าที่ตูดของเฉียนเสี่ยวยู่
เฉียนเสี่ยวยู่ที่โดนเตะก็ตัวหมุนไป 720 องศา
น่าสงสาร –
แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือความเจ็บปวดมากมายที่เฉียนเสี่ยวยู่ได้รับ
อะไรกัน?
แม้ว่าฉันจะสืบทอดทรัพย์สินของตระกูลทั้งหมด แต่เมื่อเทียบกับเจียงเฉินแล้วฉันก็ยังเทียบเขาไม่ได้เนี่ยนะ?
เป็นไปไม่ได้
เฉียนเสี่ยวยู่ตะโกนออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณลุง! เรื่องที่ลงบอกว่าผมชอบทําตัวโอ้อวดเรื่องนั้นผมยอมรับมัน! แต่เรื่องที่ลุงบอกว่าต่อให้ผมสืบทอดมรดกของตระกูลแล้วยังเทียบเขาไม่ได้? ผมไม่ยอมรับ! เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม ผมรู้ว่าเขานั้นมันก็แค่เด็กกําพร้าไม่มีมรดกให้สืบทอด ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แล้วเขาจะไปรวยกว่าผมได้ยังไง?!”
ฉินถั่วต่งคํารามออกมาอย่างเกี้ยวกราด “เจ้าลูกเต่าน้อย! แม้ว่าตุณเจียงเขาเริ่มต้นจากมือเปล่า แต่การพัฒนาของเขาดีกว่าบ้านเรามาก ความแข็งแกร่งของเขานั้นอย่างน้อยก็เทียบเท่าตระกูลฉินทั้งตระกูล! ไอ้เด็กสําส่อน แกกล้าดียังไงถึงไปยั่วโมโหเขา? อยากตายนักรียังไง?!”
ฉินถั่วต่งเดินเข้าไปหาแล้วเริ่มทุบตีอย่างรุนแรง
ฉินถั่วต่งนั้นโตขึ้นมาในกองทัพ เขานั้นถูกฝึกมาให้ใส่ใจกับรูปแบบการทํางานที่ดี ทําตามกฎระเบียบและข้อห้าม และสิ่งที่เขานั้นเกลียดที่สุดก็คือการโอ้อวด– ดังนั้นเขาจึงลงมือหนักมากและให้ความเจ็บปวดไม่น้อย—
“อ๊าก-โอ้ย–
เฉียนเสี่ยวยู่ถูกทุบตีจนร้องออกมาราวกับหมูที่ร้องโหยหวน
ลูกค้าในร้านต่างมองดูด้วยความเพลิดเพลิน
“สมควรโดนแล้ว!
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ลูกที่ไม่โดนแม่ตีมาสามวัน–แต่กลับมาโดนลุงตีแทน!”
“น่าสงสารจริงๆ
“หนุ่มน้อยความคิดของนายมันอันตรายมากจริงๆ”
เจียงเฉินยังไม่รีบไปเขานั่งลงและกินเนื้อแกะเล่นอย่างเอร็ดอร่อย
และเมื่อยิ่งเห็นว่าเฉียนเสี่ยวยู่ถูกทุบตีจนร้องออกมาราวกับหมู มันก็ยิ่งทําให้เขารู้สึกอร่อยขึ้นไปอีก
อืม นี่แหละจุดจบของพวกโอ้อวด–
ฉินกั๋วต่งทุบตีเฉียนเสี่ยวยู่ไปครึ่งชั่วโมง เจียงเฉินลุกขึ้นยืนช้าๆและพูดออกมา “ประธานฉินทําไมต้องถือสาเด็กๆแบบนี้ด้วย มาๆ มานั่งกินกันดีกว่า”
ลูกค้ารอบๆยังคงพูดคุยกันต่อไป
เจียงเฉินพูดออกมาช้าๆ “หลังจากกินเสร็จจะได้มีแรงเพิ่มอีกหน่อย”
เฉียนเสี่ยวยู่ : ( 1 )
สติแตก –
บรรดาลูกค้าที่อยู่รอบๆพากันหัวเราะออกมา
“ใช่ๆ พักกินก่อนจะได้มีแรงไปทุบตีเขาต่อ!”
“นิสัยแบบนี้ต้องทุบตีทั้งวันพึงจะหาย!”
“หรือ ฉันจะไปตีเองดี!”
“เจอแบบนี้แล้วมือเท้ามันคันจริงๆ”
ลูกค้าในร้านต่างก็ไม่พอใจกับการกระทําของเฉียนเสียวยู่!
หลังจากที่เห็นแบบนี้พวกเขาก็เริ่มสบายใจกัน!
เฉียนเสี่ยวยู่ในตอนนี้จมูกของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงใบหน้าบวม เขาร้องไห้ออกมา “คุณเจียง ผมรู้แล้วว่าผมผิดไปแล้วที่ไปโอ้อวดต่อหน้าคุณ คุณยอดเยี่ยมกว่าผมมาก! ได้โปรดเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันเถอะนะ ฉันผิดไปแล้วจริงๆ”
เจียงเฉินหัวเราะออกมา
สาหรับคนอื่นเขาก็อาจจะใจกว้างด้วย แต่สําหรับเฉียนเสี่ยวยู่ผู้เอาแต่โอ้อวดต่อหน้าคนอื่นต่อให้สอนซักกี่รอบก็ไม่เปลี่ยนแปลง คงจะต้องโดนเขาสั่งสอนซักหน่อย
“พี่เฉิน ผมเสียใจจริงๆ!”
“ผมทําตัวโอ้อวดมาตั้งแต่เด็กไม่เคยรู้จักสํานึกผิด จนตอนนี้มันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ!”
“แม้ว่าผมจะเป็นคนที่เรียนเก่ง แต่ผมกลับสับสนกับอนาคตของตัวเอง ผมไม่มีพรสวรรค์อะไรเลย ผมก็เลยทําตัวนิสัยไม่ดีทําตัวโอ้อวดแบบนี้ จนทุกวันนี้จะเปลี่ยนนิสัยแบบนี้ก็ทําไม่ได้”
“แต่วันนี้ผมก็ต้องขอบคุณพี่เฉินที่ทําให้ผมตาสว่าง ทําให้ผมรู้ว่าการโอ้อวดมันไม่มีอะไรดี”
“ฮือๆ- พี่เฉินผมไม่อยากโอ้อวดอีกแล้ว ผมอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ!”
เจียงเฉินยืนขึ้นและเดินไปข้างหน้าราวกับนักบวชที่กําลังมองดูลูกแกะหลงทางก่อนจะพูดออกมา “ก็ดีที่รู้ว่าหลงทาง แล้วยังกลับมาได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความมั่นคงและความตั้งใจ หากเอาแต่โอ้อวดสุดท้ายแล้วก็…ทีนี้”
เสี่ยวยู่ยังคงนั่งสํานึกผิดอยู่อย่างนั้นก่อนจะพูดออกมา
“ก่อนหน้านี้ผมนั้นเห็นพี่เฉินเดินเข้ามาพร้อมกับแฟนสาวที่สวยราวกับเทพธิดา ผมก็เลยอดไม่ได้ที่จะอิจฉาเลยต้องโอ้อวด”
เจียงเฉินที่เห็นแบบนั้นก็เข้าใจได้ทันที อีกฝ่ายนั้นมองเห็นเขาที่พาซูเสี่ยวเสี่ยวที่สวยงามราวกับเทพธิดาเดินเข้ามา เลยทําให้อีกฝ่ายนั้นรู้สึกสับสนก่อนจะพาตัวเองลงสู่หุบเหวแห่งการเสแสร้ง!
เฮ้อ!
เจียงเฉินส่ายหน้าก่อนจะมองไปที่เฉียนเสี่ยวยู่ที่โดนทุบตีจนใบหน้าไม่ต่างจากหมู “ถ้านายอดใจไม่ไหวแล้วอยากจะโอ้อวดก็มาหาฉันเถอะ”
“หา?”
เฉียนเสี่ยวยู่เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะพูดด้วยสีหน้างุนงง “ทําไมกัน? พี่ไม่โทษผมแล้วหรอ?”
เจียงเฉินเงยหน้าขึ้นก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “ฉันมีวิธีกว่า 1 ล้านวิธีที่จะทําให้นายได้ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างฉันกับนาย!”
เฉียนเสี่ยวยู่ตัวสั่น
คุกเข่า
ไม่กล้าขยับ