ตอนที่ 208

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 208: หอคอยเทียนหลิง

 

“81 อย่างงั้นเหรอ อันดับนี้ออกจะต่ำไปหน่อยนะ…..”

 

เป็นธรรมดาที่อี้เทียนหยุนจะไม่พอใจ เขาคิดว่าตัวเองควรจะได้อันดับที่สูงกว่านี้ แม้ว่าเขาจะไม่สนใจเกี่ยวกับสิ่งนี้ ทั้งยังไม่ได้วางแผนว่าจะเข้าเป็นศิษย์ของที่นี่ แต่ด้วยความเร็วที่ออกมา อันดับที่ 81 ออกจะต่ำไปจริงๆ

 

“ลูกพี่ ท่านคิดว่าต่ำไปอย่างงั้นเหรอ?” หยางอวี่เผยรอยยิ้มหน้าเกลียดจนเกือบจะกลายเป็นร้องไห้ออกมา แทบจะคุกเข่าให้กับเขา “ข้าเข้าร่วมกับที่นี่มานานยังอยู่แค่อันดับที่ 83 แต่ท่านยังคิดว่าอันดับของตนต่ำไอย่างงั้นเหรอ? ท่านอยู่เหนือรายชื่ออื่นๆ ไปตั้งหลายคน ไม่ได้อยู่อันดับท้ายๆ สักหน่อย ท่านยังไม่พอใจอีกเหรอ”

 

อี้เทียนหยุนรู้กฎของการจัดอันดับดี การตัดสินอันดับของเขามาจากความเร็วในการผ่านป่าวงกต ถ้าเขาเป็นอันดับ 1 อย่างนั้นคงจะไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ นี่จำเป็นต้องทดสอบระดับความเข้าใจอีก เพียงแค่ความเร็วในการผ่านป่าวงกตอย่างเดียวก็ได้อันดับที่ 81 แล้ว ไม่ใช่เพราะว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่เป็นเพราะว่าเขามีความเป็นไปได้ที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่ ดังนั้นจึงได้อันดับที่ 81 ไป

 

“ข้าก็แค่พูดเล่นเท่านั้นเอง” อี้เทียนหยุนยิ้มสบายๆ ออกมา “คนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ข้า เพราะกลัวจะมีปัญหากับเฟิงยู่หลง แต่เจ้ากลับกล้าเข้าใกล้ข้า แท้จริงแล้วเจ้ามีเป้าหมายอะไร?”

 

เขามองขึ้นอันดับที่สูงขึ้นไป จากนั้นก็เห็นรายชื่อของเฟิงยู่หลงอยู่ในอันดับที่ 30 หยางซีเสวี่ยอยู่ในอันดับที่ 22 ดูแล้วอันดับของพวกเขาก็สูงมาก ที่หยางซีเสวี่ยปฏิเสธเฟิงยู่หลง ที่แท้ก็เพราะความสามารถของตนไม่ได้แย่ สามารถอยู่ในอันดับที่ 23 จากอัจฉริยะจำนวนมาก แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าระดับของเธอนั้นน่าตื่นตะลึงขนาดไหน

 

“ไม่ได้มีเป้าหมายอะไร แค่เห็นท่านผ่านป่าวงกตได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ามา ก็เลยอยากทำความรู้จักก็เท่านั้น…..” เขาถูมือ พร้อมกับยิ้มออกมา ดูแล้วไม่ได้เจตนาร้ายอะไร

 

“ถ้าไม่อยากพูด ข้าก็ไม่บังคับ เมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าก็ขอตัวก่อนก็แล้วกัน ส่วนเจ้าก็อยู่ที่นี่เถอะ” อี้เทียนหยุนไม่สนใจเขา พร้อมกับหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก

 

“เดี๋ยวก่อน ข้าบอก!” หยางอวี่กลัวอี้เทียนหยุน จึงเลือกจะบอกความจริงออกไป

 

“ข้ากำลังฟัง” อี้เทียนหยุนยิ้มออกมา

 

“ที่จริงแล้วข้ามีความแค้นกับเฟิงยู่หลง เพียงแต่ไม่กล้าสู้กับมัน การที่ท่านทำร้ายมันจนสาหัส ทำให้ข้ารู้สึกเลื่อมใส!” หยางอวี่ยิ้ม “มาเป็นเพื่อนกันเถอะ เรื่องราวในวังเทียนจี๋ข้ารู้ดี เรื่องไหนที่ไม่เข้าใจ ท่านสามารถถามข้าได้!”

 

“เจ้ารู้เรื่องทุกอย่างดีอย่างงั้นเหรอ?”  อี้เทียนหยุนเริ่มสนใจ

 

“แน่นอนอยู่แล้ว ในวังเทียนจี๋ไม่มีใครที่ข้าไม่รู้จัก กระทั่งสถานการณ์ภายนอก ข้าก็รู้เรื่องเป็นอย่างดี ตระกูลหยางของเราเป็นตระกูลที่เก็บรวบรวมข่าวสาร ท่านอยากรู้อะไรข้าจะไปถามมาให้” หยางอวี่ยิ้ม เต็มไปด้วยความมั่นใจ

 

“หยางซีเสวี่ยเป็นอะไรกับเจ้า?” อี้เทียนหยุนถาม

 

“เธอเป็นพี่สาวของข้า….” หยางอวี่พูดด้วยรอยยิ้ม “เฟิงยู่หลงนั้นไม่เหมาะที่จะเป็นพี่เขยของข้า ยิ่งกว่านั้น ตระกูลเฟิงตอนนี้ยิ่งมายิ่งอวดดี ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลพวกเรายิ่งมายิ่งย่ำแย่ ท่านสามารถจัดการเขาได้นับว่าเป็นเรื่องดี ยังไงก็ตาม ท่านก็ต้องระวังตัวไว้ให้ดี ตระกูลเฟิงจะต้องไม่ปล่อยท่านไปแน่ คนอื่นๆ ในตำหนักเทียนเหวินก็จะไม่ปล่อยท่านไปเช่นกัน”

 

“แม้ข้าจะช่วยท่านต่อสู้ไม่ได้….. แต่ข้าจะบอกข่าวทุกอย่างให้กับท่าน บอกเส้นทางหลบหนี บอกว่าใครที่มีความแค้นต่อท่าน หรือจะลงมือกับท่าน ข้าจะบอกท่านล่วงหน้าเอง!”

 

นี่ช่างเป็นสหายผู้ส่งข่าวสารอันสมบูรณ์แบบจริงๆ แต่เรื่องนี้สำหรับเขาแล้ว ไม่ได้มีความหมายอะไร

 

“ไม่ต้องหรอก ข้าจัดการของข้าเองได้”

 

ต่อหน้าพลังที่เด็ดขาดของเขา ไม่ว่ากลโกงหรือแผนร้ายอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้น

 

“นี่ท่านมั่นใจขนาดนั้นเชียว?” หยางอวี่ถึงกับตัวสั่น เรื่องที่ควรพูดเขาก็พูดไปหมดแล้ว

 

“ก็ตามนั้นแหละ” อี้เทียนหยุนยิ้ม “เอาล่ะ แล้วข้าจะไปหาคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นได้ที่ไหน?”

 

“นี่…. ต้องไปที่หอคอยเทียนหลิง ถ้าอยากจะหาคนเก่งๆ ล่ะก็ ต้องไปที่หอคอยเทียนหลิง…… หรือว่าท่านจะไปท้าพวกเขา?” หยางอวี่พูดอย่างตกใจ

 

“ไม่หรอก ข้าแค่อยากจะดูเท่านั้น” อี้เทียนหยุนพูด “ข้าจะไปหอคอยเทียนหลิง เจ้าจะไปด้วยกันไหม?”

 

“ไป ไปแน่นอนอยู่แล้ว!” หยางอวี่เหมือนได้กลิ่นว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น

 

เขาไม่รู้ว่าที่อี้เทียนหยุนไปนั้น ไม่ได้ต้องการไปท้าดวลกับใคร เขาแค่อยากจะไปดูว่ามีอัจฉริยะหน้าไหนที่คุ้มค่าแก่การขุดค้นบ้างก็เท่านั้น

 

จากนั้น พวกเขาก็เดินไปยังหอคอยเทียนหลิง และไม่นาน พวกเขาก็มาถึงยังหอคอยเทียนหลิงซึ่งอยู่ในตำหนักเทียนเหวิน ในเมื่อตำหนักเทียนเหวินแห่งนี้ไม่ได้มีฐานะต่ำนัก ดังนั้น ที่นี่จึงเต็มไปด้วยทรัพยากรชั้นดีหลายอย่าง

 

หอคอยเทียนหลิงเป็นหอคอยที่มีไว้เพื่อรวบรวมพลังวิญญาณ มีด้วยกันทั้งหมด 5 ชั้น ยิ่งชั้นสูง ก็ยิ่งต้องการพลังวิญญาณที่สูงตามไปด้วย ด้วยเหตุนั้น การฝึกฝนยังที่แห่งนั้น จึงทำให้ผลลัพธ์ในการฝึกยิ่งแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย ไม่เพียงแต่จะช่วยฝึกฝนด้านพลังวิญญาณเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับฝึกตนอีกด้วย! สามารถพูดได้ว่า เป็นการยกระดับสองต่อ

 

การเข้าไปในที่นั่นมีเวลาจำกัด ซึ่งขึ้นอยู่กับอันดับสูงต่ำ ทำให้มีจำนวนวันที่แตกต่างกัน

 

เพราะว่าอี้เทียนหยุนเพิ่งเข้ามาใหม่ ดังนั้นจึงมีจำนวนวันเพิ่มให้ แต่จำนวนวันนี้ก็ไม่ได้มากนัก เพียงแค่ 5 วันนั้น เมื่อรวมกับอันดับของเขา ทำให้อยู่ในนั้นได้ทั้งหมด 10 ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไร

 

“นี่คือหอคอยเทียนหลิง ช่างโอ่อ่าจริงๆ”

 

อี้เทียนหยุนเงยหน้าขึ้นมอง หอคอยนี้ตั้งตระหง่านพร้อมกับสร้างขึ้นวิธีพิเศษเซวียนเทียน ทำการกักเก็บพลังวิญญาณเอาไว้ข้างใน นอกจากตรงประตูทางเข้าแล้ว ตรงอื่นไม่มีพลังวิญญาณรั่วไหลออกมาแม้แต่น้อย

 

หลังจากเขาเดินเข้ามา ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่กดทับลงมาจากข้างบน นี่ขนาดยังไม่ได้เดินขึ้นบันไดเลยนะ เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่หนักราวกับเหล็ก กำลังกดทับลงมายังร่างของเขา

 

“แรงกดดันนี้ช่างเยี่ยมจริงๆ เหมาะแก่การฝึกฝนของพวกระดับต่ำยิ่งนัก” อี้เทียนหยุนพยักหน้า พื้นเพของวังเทียนจี๋นี่ไม่เลวจริงๆ แม้ว่าจะตกต่ำ แต่ก็ไม่อ่อนแอ

 

เมื่อมีสถานที่เหมาะสมแก่การฝึกฝน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะเพิ่มเป็นสองเท่าโดยที่ลงแรงเพียงแค่ครึ่งเดียว นี่เปรียบได้กับอาวุธลับของผู้ด้อยพรสวรรค์เพื่อใช้ไล่ตามอัจฉริยะ

 

“มันแน่นอนอยู่แล้ว หอคอยเทียนหลิงนี้เป็นของเรา เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การฝึกฝนเป็นที่สุด แต่ข้อจำกัดก็ค่อนข้างใหญ่ ถ้าไม่มีจำนวนวันก็ไม่สามารถเข้าไปได้…..” หยางอวี่พูดอย่างน่าสงสาร “จำนวนวันของข้าใช้ไปหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นข้าคงจะเข้าไปฝึกในนั้นเช่นกัน”

 

หลังจากเข้ามา เขาก็เห็นชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ

 

หยางอวี่ยิ้ม จากนั้นก็พูดกับชายชราคนนั้นว่า “ผู้จัดการหวง พวกเรามาฝึก”

 

นี่ไม่จำเป็นต้องให้อี้เทียนหยุนเอ่ยปาก หยางอวี่ก็จัดการพูดให้ก่อน จากนั้น อี้เทียนหยุนก็หยิบป้ายฐานะส่งออกไป ต้องการฝึกฝนที่นี่ จำเป็นต้องใช้ป้ายฐานะนี้

 

ชายชราคนนั้นรับป้ายฐานะนี้ไป จากนั้นก็มองดูเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าคือคนที่เพิ่งมาใหม่สินะ เพิ่งเข้ามาก็สร้างสถิติขึ้นไม่น้อย พรสวรรค์ก็ดี….. น่าสนใจมาก แล้วเจ้าอยากจะเข้าไปฝึกที่ชั้นไหน?”

 

“ชั้น 5” อี้เทียนหยุนตอบไปโดยไม่ต้องคิด เขาเลือกชั้นที่สูงที่สุดทันที

 

ชั้นอื่นไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา ถึงยังไงก็ตัดวันเหมือนกัน ด้วยระดับปัจจุบันของเขา ต่อให้เป็นชั้น 5 ก็ไม่ได้มีแรงกดดันใดๆ ต่อเขาอย่างแน่นอน