ตอนที่ 209

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 209: ชั้น 5

 

เปิดปากออกมาก็ชั้น 5 แล้ว อย่าว่าแต่หยางอวี่ แม้แต่ผู้จัดการหวงเองยังตกใจ

 

“ชั้น 5?” ผู้จัดการหวงตกใจ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ความทะเยอทยานของเจ้านี่ไม่ใช่น้อยๆ จริงๆ ยังไม่เคยสัมผัสชั้นอื่นๆ เลยด้วยซ้ำก็คิดจะไปชั้น 5 แล้ว? ตอนนี้ที่ชั้น 5 นั้น คนที่สามารถทนได้มีเพียงผู้อยู่ในรายชื่อ 30 อันดับแรกเท่านั้น เจ้าจะเอาอย่างนี้จริงๆ? ถ้าลงมา จำนวนวันของเจ้าจะต้องถูกตัดเช่นกัน เมื่อถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่จะเสียหน้าเท่านั้น แต่จำนวนวันก็จะน้อยลงไปอีกวันด้วย”

 

“ขอบคุณผู้จัดการหวงสำหรับคำแนะนำ แต่ข้าจะไปที่ชั้น 5 จริงๆ ส่วนจำนวนวันนั้น เอาเป็นสิบวันไปเลย” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“อะไรนะ สิบวัน?” ผู้จัดการหวงตาโต มองไปยังอี้เทียนหยุนพร้อมกับพูดออกมาด้วยท่าทางเซ่อๆ ว่า “เจ้าจะเอาอย่างนี้จริงๆ? คนที่จะอยู่บนชั้น 5 ได้ถึง 10 วัน มีแต่ 15 อันดับแรกเท่านั้น”

 

เขารู้ว่าพรสวรรค์ด้านพลังวิญญาณของอี้เทียนหยุนนั้นยอดเยี่ยม แต่เพิ่งมาก็เลือกระดับความยากสูงสุดแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด ถ้าเลือกเป็นวันแล้ว จำนวนที่ถูกตัดก็จะเป็นจำนวนวัน ถ้าทนไม่ไหว ก็จะกลายเป็นสูญเปล่าไป

 

“ผู้เยาว์ตัดสินใจว่าจะเอาอย่างนี้แน่แล้ว!” อี้เทียนหยุนมีสายตามุ่งมั่น ทำให้ผู้จัดการหวงส่ายหัวถอนใจ เขาเป็นแค่ผู้เฝ้าหอ ไม่มีสิทธิ์แทรกแซงตัวเลือกของศิษย์ ถึงยังไงถ้ามาข้อผิดพลาดขึ้น มันก็เป็นสิ่งที่พวกเขาเลือกเอง

 

เขาหวังจะให้ประสบการณ์สั่งสอนเขา จึงไม่พูดอะไรอีก

 

“ก็ได้ ข้าจะลงทะเบียนให้ จำนวนวันทั้งหมดของเจ้าหมดลงแล้ว ตอนนี้ขึ้นไปที่ชั้น 5 ได้ แต่จำไว้ ถ้าไม่ไหวก็ให้ลงมา ส่วนชั้นอื่นๆ นั้น เจ้าไม่สามารถเข้าไปได้” ผู้จัดการหวงพูดเตือนเขา

 

หอคอยเทียนหลิงเมื่อเลือกชั้นไหนก็เป็นชั้นนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นชั้นอื่นได้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีความใจอ่อน แต่กฎนี้ก็เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาช้านานแล้ว เมื่อเลือกแล้ว ก็ไม่สามารถถอยกลับได้ เหตุผลที่ตั้งกฎอย่างนี้ก็เพราะว่ามียันต์ช่วยชีวิตยังไงล่ะ

 

ครั้งหนึ่งเคยมีคนฝึกจนหมดสติ ทำให้ยันต์ช่วยชีวิตแตกออกเป็นชิ้นๆ พร้อมกับเปิดใช้งานระบบช่วยชีวิต พร้อมกับส่งคนในนั้นออกมา แต่ละชั้นต่างก็มียันต์ช่วยชีวิตที่ต่างกัน ถึงยังไงแล้ว ความหนาแน่นของแต่ละชั้นก็ไม่เท่ากัน

 

ทั้งยันต์ช่วยชีวิตยังมีระบบในการช่วยรวบรวบพลังวิญญาณอีกด้วย ถ้าให้พูดตรงๆ ก็คือ เมื่อเปิดใช้ยันต์ช่วยชีวิต ก็เท่ากับว่าตนเองกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตี ต้องถูกพลังวิญญาณโจมตีอย่างต่อเนื่อง

 

หากปราศจากสิ่งนี้ การไปยังชั้น 5 ก็จะกลายเป็นไร้ความหมายไป

 

ส่วนถ้าจะให้เปลี่ยนจากยันต์ช่วยชีวิตเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นความรับชอบต่อตัวเลือกของตน ใครใช้ให้ตัวเองเลือกสิ่งที่เกินตัวกันล่ะ

 

“มารดามันเถอะ ลูกพี่ ท่านจะเอาอย่างนั้นจริงๆ เหรอ? ชั้น 5 เป็นที่ที่เหล่า 25 อันดับแรกขึ้นไป ถ้าท่านขึ้นไป ท่านจะต้องหมดสติอย่างรวดเร็วแน่นอน ท่านจะเอาอย่างนั้นจริงๆ?” หยางอวี่ที่ตกตะลึงก็ได้สติแล้วพูดถามออกมา

 

“แน่นอน หรือว่าเจ้าคิดว่าข้ากำลังเล่นๆ อย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนส่ายหัว

 

“นี่….. ข้าว่าท่านลองเริ่มที่ชั้น 3 ดีกว่าไหม ข้าคิดว่าที่นั่นเหมาะกับท่านมากกว่า หรือว่าจะชั้น 4 …… ไม่ ไม่ได้….. แม้ว่าชั้น 5 จะให้ค่าประสบการณ์ต่อวันที่ดีกว่า แต่ถ้าเกิดท่านล้มเหลวขึ้นมาล่ะ นั่นเท่ากับเสียจำนวนวันเปล่าๆ ไปหลายวันเลยนะ? เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างก็ถือว่าจบสิ้น” หยางอวี่พยายามหว่านล้อมไม่หยุด เขาคิดว่าอี้เทียนหยุนจะต้องอยู่ได้ไม่นานแน่ ถ้าหมดสติไป นั่นเท่ากับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่เชียวนะ

 

“ก็ใช่ ถ้าข้าหมดสติ ทรัพยากรที่ได้ก็น้อยจนไม่พอให้เคี้ยว” อี้เทียนหยุนทราบถึงความหวังดีของเขา แต่ว่าเขาก็รู้จักระดับตนเองดี

 

ระดับก่อแกนวิญญาณอย่างเขาจะมาหมดสติในที่แห่งนี้เนี่ยนะ? พูดเป็นเล่น!

 

อี้เทียนหยุนรับยันต์ช่วยชีวิตนี้มา จากนั้นก็เดินตรงไปยังชั้น 5 อย่างรวดเร็ว เขาขึ้นบันไดจนมาถึงชั้น 5 บนนี้ แรงกดดันที่ส่งออกมารุนแรงมาก แม้จะมีค่ายกลใหญ่ที่ประตูหน้าผนึกไว้ แต่ก็เหมือนจะมีบางสิ่งจากข้างในส่งผ่านออกไปได้อยู่ดี

 

เมื่อเขามาถึงชั้น 5 เขาก็เห็นประตูขวางอยู่ ในนั้นมีคนจำนวนไม่มากเท่าไหร่กำลังนั่งฝึกฝน

 

อี้เทียนหยุนไม่ลังเล เขาก้าวเข้าไปข้างใน ที่ด้านนอก หยางอวี่ยังคงมองดูเขา หลังจากที่เข้าไป ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่พุ่งเข้ามาจากสี่ทิศแปดทาง หลังจากเลือกตำแหน่งได้แล้ว เขาก็หยิบเอายันต์ช่วยชีวิตออกมา หลังจากใส่พลังวิญญาณเข้าไป แรงกดดันที่น่าสะพรึงก็โหมซัดเข้ามาในทันที ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับเขาแล้ว มันไม่ได้มีความหมายอะไรนัก

 

เขารู้สึกเพียงแค่ได้ยินเสียงหึ่งๆ ดังในหัว จากนั้นก็เริ่มขจัดแรงปะทะของพลังวิญญาณนี้ออกไป ยังไงก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย มีเพียงความรู้สึกคันเล็กๆ ยังไงก็ตาม แม้จะเล็กน้อย แต่มันก็ช่วยเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับเขา!

 

ภายใต้พลังวิญญาณที่โถมเข้ามา ก็ย่อมมีพลังวิญญาณบริสุทธิ์ปนอยู่ด้วย ซึ่งกำลังแทรกซึมเข้าไปในร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง นี่ก็เหมือนกับการใช้แรงปะทะของพลังวิญญาณเพื่อทะลวงเข้าไปยังร่างของเขา พร้อมกับแหวกว่ายไปเรื่อยเปื่อยในร่างกายของเขา ช่วยให้เขาดูดซับได้ง่ายขึ้น

 

“ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 300, 350, 340…..”

 

เนื่องเพราะเป็นสถานที่ฝึกสำหรับระดับปรับแต่งวิญญาณ ดังนั้นค่าประสบการณ์ที่ได้จึงไม่มาก เพราะงั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะเปิดใช้งานโหมดคลั่ง

 

“ช่างเป็นที่ฝึกที่ดีจริงๆ ถ้ามีหอคอยเทียนหลิงอยู่ในซากโบราณสถานเทียนเฉินได้ก็ดีสิ จะได้ทำเป็นที่ฝึกพิเศษ เหมาะให้ศิษย์ที่ฝึกเป็นนักสลักอาคมไว้ฝึกฝน…..” อี้เทียนหยุนชื่นชมที่แห่งนี้ แม้ว่าจะไม่พอใจผลลัพธ์ที่ได้ แต่ก็ค่อนข้างพอใจกับระบบของที่นี่ ถ้ามีไว้ที่ซากโบราณสถานเทียนเฉินสักอันจะดีแค่ไหนกันนะ

 

แม้ว่าเขาจะมีความรู้ของเผ่าภูต แต่ก็มีอักษรรูนบางตัวที่เขายังสร้างไม่ได้ เพราะอักษรรูนของเผ่าภูตนั้นมีอำนาจมาก แม้แต่ระดับที่แย่ที่สุดยังต้องเป็นระดับหลอมรวมขึ้นไปถึงจะสร้างออกมาได้ แต่ระดับของศิษย์ใหม่นั้นไม่มีอยู่ในความทรงจำของเขา

 

นี่จึงถือเป็นแหล่งอ้างอิงใหญ่สำหรับเขา ให้เขาได้ศึกษาว่าจะนำกลับไปสร้างที่ซากโบราณสถานเทียนเฉิน เพื่อเป็นที่ฝึกเฉพาะ

 

ในขณะที่เขากำลังสำรวจรอบๆ เขาก็ทำการมองหาศิษย์ที่โดดเด่นของที่นี่ไปด้วย และเมื่อมองไป ทันใดนั้น สายตาของเขาก็พบเข้ากับคนคุ้นเคยที่กำลังนั่งฝึกฝนอยู่ นั่นก็คือหยางซีเสวี่ย เหมือนว่าก่อนหน้านี้ที่เธอจากมา เธอจะมาฝึกฝนในหอคอยเทียนหลิงแห่งนี้

 

“นี่ นี่เจ้าเข้ามาชั้น 5 เลยเหรอ?” หยางซีเสวี่ยตกใจ อี้เทียนหยุนเพิ่งจะมาได้ไม่ถึงวัน เขาไม่แม้แต่ลองที่ชั้นอื่น แต่กลับมาที่ชั้น 5 เลย!

 

อี้เทียนหยุนเพิ่งมาถึงก็มีหลายคนสังเกตเห็นเขาแล้ว กระทั่งหยางซีเสวี่ยก็เช่นกัน

 

เพิ่งมาได้ไม่นานก็คิดจะเทียบรุ่นกับเหล่าศิษย์พี่แล้ว ขึ้นมาชั้น 5 นี้ นี่เขาไม่กลัวตายเลยอย่างงั้นเหรอ?

 

หลังจากเขามา ผู้คนก็ราวหม้อต้มที่กำลังเดือน หลายคนมองมาที่เขาด้วยสายตาไม่ปกติ บางคนรู้สึกดูถูก คิดว่าอี้เทียนหยุนไม่ประมาณตน คิดเคี้ยวกลืนสิ่งที่ยากจะกลืนไหว!

 

“นี่ไม่ใช่คนที่เพิ่งมาใหม่หรอกเหรอ? กล้าไม่เบาเลยนี่ มาถึงก็ขึ้นไปชั้น 5 แล้ว ข้าขอพนันว่า ไม่เกิน 1 วัน เขาจะต้องม้วนหัวกลับมาอย่างแน่นอน”

 

“1 วันอย่างงั้นเหรอ? ข้าว่าอยากมากก็ได้แค่อีกไม่นานนี้หรอก!”

 

“ไม่รู้ว่าเขาลงทะเบียนไว้กี่วัน ถ้าลงไว้หลายวัน นั่นก็ถือว่าโง่แล้ว”

 

……

 

คนที่คุยกันนี้คือพวก 30 อันดับแรก พวกเขาพากันส่ายหัว ไม่พอใจอี้เทียนหยุนอย่างมาก เขาจัดการเฟิงยู่หลงอย่างสาหัส แล้วตอนนี้ยังคิดจะมาเทียบชั้นพวกเขาอีก?

 

ไม่มีใครรู้ว่าอี้เทียนหยุนมาที่นี่ทำไม เขามาเพราะอยากจะมาดูอัจฉริยะ แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนมาศึกษาค่ายกลของที่นี่แล้ว ดูว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้ยังไง