หลินจือไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเทาเท่ถึงดูชุดงานแต่ง แต่ในใจเธอก็รู้สึกไม่ดีนัก
แต่เธอไม่ได้แสดงออกมา ได้แต่หันไปมองนอกหน้าต่าง
ความคับข้องใจระหว่างเธอกับเทาเท่จบไปแล้ว เธอรู้สึกแค่ไหนก็จะไม่แสดงอารมณ์ต่อหน้าเขา
ทั้งสองไม่พูดอะไรตลอดทาง กลับมาถึงโรงแรมแล้วก็เข้าไปในห้องโถงของโรงแรม ก็เห็นซูซีกับเนมารออยู่ที่นั่นจริงๆ
ทั้งสองดูเหมือนจะนั่งดื่มกาแฟกันอย่างสบายๆ แต่มองมาที่ประตูโรงแรมอยู่ตลอดเวลาเผยให้เห็นถึงความวิตกกังวลในใจของพวกเขา
หลังจากเห็นร่างของทั้งสองคน เนมาก็เดินเข้ามาก่อน และทักทายพวกเขาก่อน:“ประธานเทาเท่ หลิน นี่พวกคุณไปทำอะไรมาเหรอ?ทำไมกลับมาช้าขนาดนี้?”
เนมาพูดไปก็ไม่หยุดสำรวจอาการที่ใบหน้าพวกเขาสองคน กลัวจะพลาดอะไรไป
เทาเท่ยกมุมปากขึ้นมาหัวเราะอย่างเย็นชา ชูมือขึ้นโอบหลินจือที่อยู่ข้างๆแล้วพูด:”พวกเราไปเดตมา”
หลินจือ:“……”
นี่เขาเอาทริกอะไรมารับมือซูซีกับเนมา?
และก็ จำเป็นต้องกอดเธอเหรอ?
เนมาก็ไม่คิดว่าจะมีคำตอบแบบนี้อ้าปากออกมาไม่พูดอยู่นานสักคำ
เนมาอยู่ในความตกตะลึง เขาไม่เคยคิดว่าระหว่างเทาเท่กับหลินจือจะมีอะไรที่คลุมเครือ ซูซีเคยพูดอะไรต่อหน้าเขา
ถึงจะบอกว่าเพราะเรื่องครั้งที่แล้วที่เขากับผู้ช่วยผู้กำกับคนนั้น เทาเท่จึงปกป้องหลินจือ แต่เขาคิดว่าเทาเท่คิดว่าพวกเขาทำตัวเกินไป ดังนั้นจึงแบนพวกเขาแบบนั้น
น่าจะเป็นเพราะเรื่องอื้อฉาวระหว่างซูซีกับเทาเท่ที่แพร่กระจายไปทั่ว ทำให้เนมาเกิดความบิดเบือน นั่นก็คือผู้หญิงข้างกายของเทาเท่ น่าจะเป็นซูซีที่เป็นคุณหนูผู้ดีที่งามพร้อม ผู้หญิงธรรมดาอย่างหลินจือ เทาเท่ไม่มีทางมองได้
แต่ตอนนี้……
เนมาตกตะลึงจนพูดไม่ออก ซูซีกลับโกรธจนพูดไม่ออก
เธอไม่เชื่อมาตลอดว่าเทาเท่จะรักหลินจือจริงๆ เมื่อก่อนเธอเคยได้ยินจากพินอินว่า วันนั้นที่หลินจือถูกจับตัวไปเทาเท่ก็ยอมรับว่ารักหลินจือที่โกดัง ซูซีคิดว่าเพ้อเจ้อเกินไป
หลายปีที่ผ่านมา เทาเท่ไม่ชอบหลินจือเลย ทำไมตอนนี้ชอบซะได้?
เนมาตะลึง ซูซีตกใจ ตอนที่ทั้งสองไม่พูดอะไร เทาเท่ก็โอบหลินจือเดินออกไป
จนร่างทั้งสองหายไปจากในลิฟต์ ซูซีจึงได้สติคืนมาว่าเธอกับเนมายังไม่พูดฉีกหน้าหลินจือเลย จึงโกรธทันทีแล้วกระทืบเท้าไป
ซูซีเอาความโกรธพาลใส่เนมา:“คุณจะตะลึงงันตรงนั้นทำบ้าอะไรอีก?ทำไมไม่ทำเรื่องสำคัญ!”
เนมาได้สติคืนมา ก็รีบขอโทษเธอ:“ขอโทษครับประธานซูซีผมเพิ่งตกตะลึงไป ประธานเทาเท่ทำไมเขากับหลินจือ——”
เนมาเห็นซูซีไม่ตกใจอะไร จึงถามอีกว่า:“คุณไม่ตกใจที่เขาสองคนมีความสัมพันธ์กัน?”
ซูซีพูดอย่างเซ็งๆ:“มีอะไรให้ตกใจเหรอ ตัวตนอย่างยัยหลินจือนั่น ดูใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ที่จริงแล้วตัวอ่อยสุดๆ!”
ซูซีจงใจทำให้ชื่อเสียงหลินจือแปดเปื้อน ยังไงซะเนมาก็ไม่รู้ว่าภรรยาเก่าของเทาเท่ก็คือหลินจือ
เนมาฟังเธอพูดเสร็จก็เท้าสะเอวพูดว่า:“ครั้งที่แล้วโจมอนปกป้องเธอ ตอนนี้ก็มาอ่อยประธานเทาเท่อีก มองไม่ออกจริง ความสามารถสูงมาก”
ซูซีหันกลับเดินไปนั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าดูแย่ ขมวดคิ้วพูด:“ตอนนี้จอร์แดนต้องการให้นักเขียนบททำอีกบท คุณว่าเขาหมายความว่าไง?”
เนมาทดลองความหอมหวานของการคัดลอกต้นฉบับแล้วก็ไม่คิดอะไรอีก:“สนทำไมล่ะ หลินจือเขียนอะไรพวกเราแค่เอามาก็พอแล้ว แค่ทำไวกว่าเธอ ต้องบดขยี้เธอได้อย่างแน่นอน”
“คุณไม่เห็นที่จอร์แดนคุยกับพวกเราอย่างมีความสุขเหรอ?ผมที่มีประสบการณ์เป็นผู้กำกับกับนักเขียนบทมาหลายปี บวกกับคุณที่มีเงินทุน ไม่มีเหตุผลที่เขาไม่เลือกเรา”เนมาภูมิใจมาก“เทาเท่รวยแล้วไงล่ะ?หลินจือเป็นแค่นักเขียนบทที่โนเนม ไม่ได้รับผลงานที่จริงจังได้อย่างแน่นอน”
“เมื่อก่อนผลงานของนักเขียนบทของเธอร่วมงานกับคนอื่นทั้งนั้น หรือก็เขียนโครงร่างให้คนอื่น ”The Legend of Concubine Rong ” อะไรนั่น แม้ว่าจะยอดเยี่ยม แต่ยังไม่เริ่มถ่ายเลย จำนวนผู้ชมกับการโต้ตอบของผู้ชมก็ไม่อาจรับประกันได้ จอร์แดนจะซื้อของเธอได้ไง”
ซูซีใจเย็นขึ้นมากหลังจากคำพูดนี้ของเนมา เธอจึงพูดไปอีกว่า:“พูดถึง”The Legend of Concubine Rong ” แล้ว พวกเราก็เอาต้นฉบับนี้มาได้ไม่ใช่เหรอ?พวกเราเร่งมือหน่อยดีไหม ก่อนพวกเขาเริ่มถ่าย”
แค่ก่อนที่พวกเขาจะถ่ายและเข้าโรง ถึงตอนนั้นพวกเจเทาวน์ถ่ายออกมาก็จะเป็นการลอกเลียนแบบ
ซูซีกับเนมาสองคนนี้ ตั้งแต่ที่ซูซีเตรียมบริษัทของตัวเองแล้วติดต่อเนมา ทั้งสองก็เข้าใจพฤติกรรมอันลึกซึ้งของกันและกันโดยไม่ต้องพูดให้ชัดเจน
ดังนั้นซูซีพูดแบบนี้เนมาก็ตกลงทันที:“งั้นก็ต้องเร่งมือหน่อย คนของผมน่าจะแก้สคริปต์ใกล้เสร็จแล้ว”
ถึงแม้พวกเขาได้สคริปต์ในคอมหลินจือมาแล้ว แต่ก็รู้ว่าจะลอกทุกตัวไม่ได้ ดังนั้นเนมาเลยหาคนมาปรับเปลี่ยนง่ายๆ
อย่างเช่นต้นฉบับที่พวกเขาให้จอร์แดนวันนี้ ก็ปรับตามแนวความคิดของหลินจือ
แต่ลอกยังไงก็คือลอก สไตล์ของทุกคนนั้นมีเอกลักษณ์ แก้ไปคำหนึ่ง สไตล์ก็เปลี่ยนไปหมด นักเขียนบทรุ่นเก่าแก่ๆอย่างจอร์แดน ไม่มีทางที่จะไม่รู้สึก
เทาเท่โอบหลินจือเข้าไปในลิฟต์แล้ว หลินจือก็ก้าวไปด้านข้างเป็นอย่างแรก เว้นระยะห่างกับเทาเท่ก่อนเอง
เทาเท่เหลือบมองเธอโดยไม่พูดอะไร ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกต่อไป
หลินจือสงบลงไม่ได้ เธอคิดแล้วก็ถามออกไปว่า:“ทำไมคุณต้องบอกว่าพวกเราไปเดตอะไรกันด้วย?”
เทาเท่พูดนิ่งๆ:“ผลลัพธ์คุณก็เห็นแล้วนี่?”
หลินจือคิดว่าเธอต้องพูดให้ชัดเจน:“ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้ว ถ้าถูกคนถ่ายไว้ได้ ถูกพูดออกไปแย่แน่ คนอื่นจะหาว่าฉันจับปลาสองมือได้”
“และก็ประธานเจเทาวน์เป็นคนสาธารณะ ถึงตอนนั้นเขาก็จะได้รับผลกระทบไม่ดีไปด้วย”
เทาเท่หายใจไม่ออกเกือบจะโกรธเพราะคำพูดเธอ เธอกลับคิดเผื่อเจเทาวน์
แต่ว่า ในเมื่อเป็นแฟนกันแล้ว ทำไมเธอเรียกเจเทาวน์อย่างห่างเหินขนาดนั้นว่า“ประธานเจเทาวน์”?
พอคิดแบบนี้เขาก็ถามไปว่า:“คุณเรียกแฟนตัวเองว่า‘ประธานเจเทาวน์’?”
หลินจือตกใจเล็กน้อย ในใจคิดว่าเขาฉลาดไปแล้ว รายละเอียดแบบนี้ยังจับได้
แต่เธอก็ตอบเขาด้วยรอยยิ้มนิ่งๆ:“เรียกว่าประธานเจเทาวน์แล้วทำไม?ไม่มีใครกำหนดว่าเรียกแฟนตัวเองแบบนี้ไม่ได้นี่?ฉันชอบเรียกเขาแบบนี้ไม่ได้เหรอ?”
ทันใดนั้นเทาเท่ก็เอนเอวเล็กน้อยแล้วเข้าใกล้เธอ ดวงตาสีดำคู่นั้นที่คมและลึกซึ้ง จ้องเธอแบบนั้นและพูดอย่างเกียจคร้านไปทีละคำว่า:“ไม่ทำไม แค่รู้สึกว่า……ห่างเหินมากเท่านั้น”