บทที่ 145 พิมพ์งานทำให้เธอมีความสุข

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลินจือรับได้ที่ไหนกันที่สายตาของเทาเท่เข้ามาใกล้ชิดและถามแบบนี้ เธอละสายตาออกพยายามพูดอย่างใจเย็น:“พวกเราก็แค่เพิ่งคบกัน เลยไม่ไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่นัก”

สายตาเทาเท่หม่นลงไป ลุกขึ้นมองไปข้างหน้า ไม่พูดอะไร

เมื่อกี๊เขาทนไม่ไหว เกือบถามเธอแล้วว่าตอนนี้เธอกับเจเทาวน์พัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว

แป๊บเดียวลิฟต์ก็ถึงชั้นที่พวกเขาอยู่ ก่อนกลับห้องใครห้องมันหลินจือก็ถามเทาเท่:“ตอนนี้คุยงานเสร็จแล้ว คุณจองตั๋วกลับเมืองเจสเวิร์ดเมื่อไหร่คะ?”

เทาเท่พูด:ได้ยินว่าผมมาเมืองเวลฟ์ คืนนี้เลยมีเพื่อนจะจัดนัดกินข้าว พรุ่งนี้เช้าค่อยไป”

หลินจือพยักหน้า:“อ้อ งั้นเดี๋ยวฉันจองตั๋วกลับไป”

เทาเท่ไม่พอใจอย่างมาก:ก็แค่ตั้งแต่เย็นไปจนดึกเอง คุณรอผมหน่อยไม่ได้เหรอ?พรุ่งนี้พวกเรากลับไปด้วยกัน”

หลินจือคิดว่าคำพูดเขาไร้เหตุผล:“ประธานเทาเท่ คุณไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย ทำไมฉันต้องรอคุณ?ต่างคนต่างกลับก็พอ”

เทาเท่พูดอย่างจริงจัง:“ผมเป็นห่วงคุณที่กลับเองคนเดียว ไม่มีใครรู้ว่าซูซีกับเนมาจะทำอะไรอีก”

โดนเทาเท่พูดแบบนี้ หลินจือก็เงียบลง

หลังจากผ่านเรื่องที่ถูกพินอินจับตัวไป ตอนนี้เธอให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองมาก

ตอนนี้ซูซีกับเนมายังอยู่โรงแรมนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปเมื่อไหร่ เธอจึงไม่ค่อยกล้าไปคนเดียวเท่าไหร่นัก

เทาเท่พูดอีกว่า:“คุณตั้งใจเขียนต้นฉบับที่โรงแรมก็ได้ เดี๋ยวเอาคอมผมไปใช้ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อ ตอนค่ำก็ไปงานเลี้ยงกับผม”

หลินจือฟังแล้วก็รีบส่ายมือ:“ไม่ต้องๆ ฉันรอเขียนต้นฉบับอยู่ที่โรงแรมดีกว่า”

ล้อเล่นบ้าอะไรเนี่ย เธอที่เป็นภรรยาเก่า ออกไปงานเลี้ยงกินข้าวของเพื่อนกับเขาเนี่ยนะ?

และก็ เธอจึงอยู่ต่อเพราะคำพูดสั้นๆของเทาเท่นี่ เธอสงสัยจริงๆว่าเมื่อกี๊เขาพูดอะไรให้เธอไปงานเลี้ยงกับเขา ก็เพื่อเชิญเธอ

“เดี๋ยวผมเอาคอมให้คุณ”เทาเท่พูดจบก็หันกลับแตะคีย์การ์ดเข้าไปในห้องตัวเอง

ไม่นานเขาก็หยิบคอมออกมา ยื่นให้เธอแล้วกำชับว่า:“รหัสคือวันเกิดของผม”

หลินจือ:“……”

เธอกัดฟันเล็กน้อย

สรุปคือเธอควรจะยังจำวันเกิดของเขาหลังจากหย่าร้างไปหนึ่งปีไหม?หรือว่าไม่ควรจะจำได้?

เทาเท่เลิกคิวขึ้นแล้วยัดคอมใส่ในอ้อมแขนเธอ จากนั้นหันกลับไปในห้องของตัวเอง

หลินจือได้แต่อุ้มคอมเขากลับห้อง นั่งลงหน้าโต๊ะทำงานแล้วก็เปิดเครื่องกรอกวันเกิดเขาไปเงียบๆ

วันเกิดเขาทุกปีเธอจะฉลองให้เขาจากใจ เธอจะลืมวันเกิดเขาได้อย่างไรกันล่ะ?

แต่ถึงแม้เปิดคอมของเทาเท่ หลินจือก็ยังใช้คอมของตัวเองปรับบทส่วนนั้นที่จอร์แดนให้มาใหม่อีกเล็กน้อย จากนั้นนั่งรอให้ซูซีกับเนมามาตกหลุมพราง

ทำเรื่องนี้เสร็จเธอก็ใช้คอมของเทาเท่เขียนสคริปต์ของ ”The Legend of Concubine Rong ” ต่อ ตอนนี้คอมของเธอเธอไม่กล้าเขียนอะไรเลย

หกโมงเย็น เทาเท่มาเคาะประตูของเธอต่อ เขาที่เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าลำลองใหม่ยืนพูดอยู่หน้าประตู:“ผมจะออกไปแล้ว ก่อนสี่ทุ่มจะกลับมานะ”

หลินจือคิดว่าตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องรายงานเธอเลยว่าจะกลับกี่โมง ดังนั้นเลยได้แต่พูดไปนิ่งๆ:“เที่ยวให้สนุก”

เมื่อก่อนตอนแต่งงาน ตอนดึกเขาไม่เคยบอกเธอเลยสักครั้งว่าจะกลับกี่โมงยังไง ตอนนี้พอหย่าแล้วก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

จนตอนนี้เธอยังจำได้ดี ทุกครั้งที่เขากลับบ้านมาดึกเธอกลับไม่รู้ว่าเขาไปเที่ยวกลางคืนที่ไหน เธออดทนได้อย่างไรกันนะ

ตอนแต่งงานแรกๆ เธอก็เคยคุยกับเขาเรื่องนี้

เขามองเธออย่างเฉยเมยแล้วหัวเราะอย่างเย็นชา:หลินจือ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร?เธอมีสิทธิ์อะไรมาถามว่าฉันอยู่ที่ไหน?ดูตัวตนของเธอด้วย ทำเรื่องน่ารังเกียจเหล่านี้ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ!

เธออยากรู้ว่าเขาจะกลับมากี่โมง ที่จริงไม่ได้อยากก้าวก่ายเขาเลย เธอแค่อยากเตรียมซุปแก้เมาให้เขาเท่านั้น

คิดถึงอดีตเหล่านั้น อารมณ์ของหลินจือก็อดไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบอีกครั้ง

แต่ว่า เทาเท่ก็ยังถามตรงนั้นอีกว่า:“คุณแน่ใจนะว่าไม่ไปกับผมด้วย?”

หลินจือเลยจะปิดประตูไล่เขาไป

เทาเท่เงียบอยู่หน้าประตูสักพัก จากนั้นพูดเสียงเบา:“ขอโทษ”

ชัดเจนว่า เขาเองก็ตระหนักได้ว่า ที่เขาเพิ่งรายงานการเดินทางเธอไปเมื่อกี๊สัมผัสไปถึงหัวใจของเธอ เป็นเรื่องในอดีตที่ไม่มีความสุข

หลินจือเม้มปากยืนอยู่หน้าประตู ไม่พูดอะไร

เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร บาดแผลในใจเธอเมื่อหลายปีนั้น ไม่ใช่ว่าแค่คำขอโทษสักคำก็จะรักษาได้?

แต่หย่าไปแล้ว เธอก็ไม่ได้มีแผนจะไล่ล่าอะไร ดังนั้นเลยเงียบไปเลยดีกว่า

เทาเท่เห็นเธอไม่พูด ตัวเองเลยพูดก่อนว่า:“อาหารค่ำของคุณเดี๋ยวมีคนเอามาให้”

หลินจือจึงตอบไปว่า:“ขอบคุณ”

เทาเท่เงียบไปแล้วพูดอีกว่า:“ผมให้คนสืบการเดินทางของซูซีกับเนมาแล้ว เย็นวันนี้พวกเขาจะกลับเมืองเจสเวิร์ดแล้ว”

“อือ”หลินจือตอบกลับไปสักพัก เสียงฝีเท้าของชายหนุ่มก็ดังขึ้น เดินออกไปไกลเรื่อยๆ

หลินจือกลับไปนั่งที่หน้าคอมใหม่อีกครั้ง พิมพ์งานต่อไปด้วยจิตใจที่สงบสุข

หลังจากหย่าเธอก็เรียนรู้การใช้งานมาปรับอารมณ์ตัวเอง เวลาที่อารมณ์ดีก็พิมพ์งาน เวลาที่อารมณ์ไม่ดีก็ยังต้องพิมพ์งาน

พูดง่ายๆก็คือ พิมพ์งานทำให้เธอมีความสุข

แล้วยิ่งตอนนี้เธอยังรับบทของจอร์แดนมาแก้ได้อีกด้วย พลังของการพิมพ์งานก็มากขึ้น

เธอต้องใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดเขียนบทของ ”The Legend of Concubine Rong ” ให้เสร็จสิ้น จากนั้นตั้งใจแก้หนังสือใหม่ของจอร์แดน

ใช่สิ หนังสือใหม่ของจอร์แดนที่ชื่อฉันจะหาคุณให้เจอเป็นผลงานชิ้นแรกของเขาหลังจากกลับมา และก็เป็นครั้งแรกที่เขาลองใช้วิธีการเล่าเรื่องที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมแบบสืบสวน+ลึกลับ+ความรัก

เรื่องราวพูดถึงเรื่องราวของชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่ออกตามหาคนรักโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น หลังจากการหายตัวไปของเธอ

คดีซับซ้อนหลายคดี และยังมีตัวละครลึกลับแต่ละคน เนื้อเรื่องก็กระชับมากขึ้น ระทึกขวัญแต่ก็ยังมาพร้อมกับความรักหวานซึ้งจับใจมากมาย ทำให้ผู้อ่านทุกคนร้องไห้ตามหัวเราะตามได้

ต้องยอมรับว่า จอร์แดนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านนี้จริงๆ แค่เขาอยากจะลอง เขาก็สามารถเขียนได้ดี

ตอนที่กินข้าวเที่ยงกับเทาเท่หลินจือถึงได้รู้ว่า ตอนที่เธอเขียนงานอยู่ในห้องทำงาน จอร์แดนคุยกับเทาเท่ที่ข้างนอกอยู่นาน

จอร์แดนบอกว่าเพื่อลองแนวใหม่นี้ เขาเริ่มค้นหาข้อมูลล่วงหน้าอยู่นาน และยังดูละครรักแนวสืบสวนดังๆมากมาย แค่บันทึกอย่างเดียวก็ทำหนังสือหนาๆได้หลายเล่มแล้ว

คดีในเรื่องก็ยังเป็นคดีจริงๆที่เขานำมาดัดแปลง พยายามให้ทุกเรื่องราวทุกคำพูด สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้

และส่วนที่หนังสือเล่มนี้พูดถึงความรัก ก็ยังเป็นความรักที่ลืมไม่ลงในวัยหนุ่มของเขา เพื่อระลึกถึงคนๆนั้น เขาก็ใช้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นจอร์แดนยังพูดว่า ที่เขียนชื่อหนังสือนี้ว่าฉันจะหาคุณให้เจอเพราะอยากชดเชยความเสียใจของตัวเอง เพราะผู้หญิงคนนั้นที่เธอเคยรักเมื่อยังหนุ่ม เอาคืนกลับมาไม่ได้แล้ว

ความฝันที่ไม่สมหวังเหล่านั้น ได้แต่เขียนลงในเรื่องราวของตัวเอง