หลังจากหลินจือฟังเทาเท่เล่าพื้นหลังของหนังสือเล่มนี้ที่จอร์แดนเขียน ด้านหนึ่งก็ชื่นชมความจริงจังและเข้มงวดที่จอร์แดนมีต่อผลงานนี้ อีกด้านก็เหนื่อยใจกับจอร์แดนที่มีเรื่องราวความรักแบบนี้
มองออกว่าจอร์แดนเป็นคนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความรักและคุณธรรม แม้ว่าความรักในวัยหนุ่มจะจบลงไป แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการปฏิบัติต่อความสัมพันธ์ที่สองของเขา หลายปีนี้เขารักกับภรรยาคนปัจจุบันอย่างสุดซึ้ง
บางทีนี่อาจเป็นทัศนคติที่ถูกต้องที่ควรมีต่อความรู้สึก ควรลืมเมื่อถึงเวลาต้องลืม และปล่อยวางเมื่อถึงเวลาต้องปล่อยวาง
หลินจือรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเรียนรู้กับจอร์แดนในด้านนี้ให้เยอะๆ ที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป
ตอนสามทุ่ม หลินจือกำลังทำต้นฉบับตรงหน้าโต๊ะทำงานต่อ จู่ๆก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากห้องข้างๆ เธองงเล็กน้อย ทำไมเทาเท่กลับมาเร็วจัง?
เขาไม่ได้บอกว่าก่อนสี่ทุ่มเหรอ?
นี่แค่สามทุ่ม ทำไมกลับมาแล้ว?
แต่หลินจือไม่คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าในเมื่อเขากลับมาแล้ว ก็คงไม่มีอะไรอีก
ตอนจะพิมพ์งานต่อไป จู่ๆก็ได้ยินว่ามีคนเคาะประตูอีกครั้ง เคาะแรงมาก
เธอเดินไปดูที่ช่องตาแมว ก็เป็นเทาเท่
เธอเปิดประตูอย่างไม่เข้าใจ สุดท้ายชายหนุ่มที่สูงใหญ่ก็ล้มใส่ที่ตัวเธอ หลินจือตกใจจนรีบยกมือขึ้นออกแรงประคองเขาไว้
“ผมอยากดื่มน้ำ”ชายหนุ่มพิงไปที่ตัวเธอ พึมพำอย่างเมาๆ
หลินจือ:“……”
หลินจือพยายามผลักตัวเขาออกจากตัวเอง ถามอย่างเหนื่อยหอบ:“ห้องคุณเองไม่มีเหรอไง?”
“ผมอยากดื่มอุ่นๆ”ชายหนุ่มพูดจบก็ล้มใส่เธออีกครั้ง
ร่างของหลินจือยันเขาไม่ไหว ดังนั้นเลยได้แต่ยกมือขึ้นมาประคองเขาวางเขาไปที่โซฟา
โยนลงไปแบบนี้ ทำหลินจือเหนื่อยกระหืดกระหอบ
เธอมองชายหนุ่มที่เมาอยู่ตรงโซฟา โกรธอย่างมาก:“เทาเท่ ท้องคุณไม่ดี ทำไมต้องเอาแต่ดื่มเหล้าแบบนี้?”
เทาเท่ที่พิงตรงโซฟาได้ยินก็ลืมตาเล็กน้อย แววตาปกคลุมไปด้วยอารมณ์:“ผมก็ไม่อยากดื่ม แต่รู้สึกเสียใจ”
หลินจือเม้มริมฝปาก ไม่สนใจความหมายลึกซึ้งในแววตาของเทาเท่ หันกลับไปเทน้ำให้เขา
หลังจากป้อนน้ำเปล่าอุ่นๆให้เขาแล้ว หลินจือก็เอาแก้วน้ำวางไว้บนโต๊ะน้ำชาตรงหน้าโซฟา ตอนจะไปก็ถูกเทาเท่คว้ามือไว้
“หลินจือ ผมเสียใจ”
“เสียใจที่ตอนนั้นหย่ากับคุณ”
หลินจือหันไปมองที่ชายหนุ่มตรงโซฟาเงียบๆ มือของเขากุมข้อมือขาวๆของเธอไว้แน่นมากขึ้น
ตอนนี้หลินจือยืนขึ้นมา เทาเท่อยู่ที่โซฟา เขาดึงมือเธอไว้ด้วยความจริงใจ คนนอกมองเห็นฉากนี้ จะต้องคิดว่าหลินจือสูงส่งมากแน่ จะต้องคิดว่าเทาเท่เป็นฝ่ายที่นอบน้อมแน่นอน
เทาเท่กุมมือเธอแล้วพูดต่อไปว่า:“ผมก็เสียใจด้วยที่ช่วงนี้ยอมรับความจริงอย่างเงียบๆว่าคุณคบกับเจเทาวน์”
เดิมทีคำพูดก่อนหน้านี้เทาเท่พูดอย่างเต็มไปด้วยความรัก แต่จากนั้นหลินจือก็เห็นเขาหรี่ตาลงกัดฟันพูดไปอีกว่า:“ผมควรจะจับคุณไปที่อำเภอ ให้คุณแต่งงานกับผมใหม่อีกครั้ง”
หลินจือ:“……”
อกอีแป้นจะแตก!
เขาพูดหยาบก็ว่าไปแล้ว นี่ยังอยากจะจับเธอไปแต่งงานที่อำเภออีก!
เขากลัวว่านี่จะบ้า!
เทาเท่พูดคำนี้ออกมา ก็ทำให้หลินจือนึกถึงความเย่อหยิ่งที่ครอบงำในอดีตของเขา ทันใดนั้นเธอก็ไม่อยากสนใจอะไรเขาอีก มือออกแรงสะบัดมือตัวเองออกมา หันกลับจะออกไป
แต่ใครจะไปรู้ว่าเทาเท่เหมือนไม่มีกระดูก ขณะที่เธอออกแรงดึงมือออกก็เหวี่ยงร่างสูงใหญ่ของเขาไปข้างหน้าด้วย และหัวก็ชนไปที่โต๊ะน้ำชาตรงหน้าโซฟา
เสียงดัง“ปัง”ขึ้นมา หลินจือเกือบกระโดดขึ้นมา ไม่สนใจอะไร เธอรีบย่อตัวลงไปประคองเทาเท่
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเทาเท่ เธอก็จะมีความผิด ยังไงเขาก็เป็นคนที่แบกรับฟอเรนากรุ๊ปไว้ทั้งหมด และยังมีเศรษฐกิจทั้งหมดของเมืองเจสเวิร์ด
“เทาเท่?”
“คุณโอเคใช่ไหม?”
หลังจากหลินจือประคองเขาขึ้นมา ก็เห็นหน้าผากเทาเท่เป็นรอยแดงๆ
“จะตายไม่ได้นะ”ที่จริงหลินจืออยากประคองเขาไปที่โซฟา สุดท้ายเขาเองก็โบกไล่เธอไป และยังพูดจาที่ดูขุ่นเคืองแบบนี้ด้วย จากนั้นตัวเองก็กลับไปที่โซฟาอีกครั้ง
หลินจือคิดเล็กน้อยจากนั้นก็ขอโทษเขา:“ขอโทษนะ เมื่อกี๊ฉันไม่คิดว่าคุณจะนั่งไม่มั่นคง”
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ใครจะไปคิดว่าผู้ชายตัวใหญ่อย่างเทาเท่นี้ จะถูกเธอลากลงมาได้อย่างง่ายดาย
ทางที่ดีเขาอย่าจงใจล้มไปเองเลย กลยุทธ์ทุกข์กายแบบนี้ก็จะไม่คุ้ม
เทาเท่ไม่พูดสักคำ ได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดแรงๆ จากนั้นก็ล้มลงที่โซฟาไม่ขยับ
หลินจือปวดหัวอย่างมาก:“น้ำก็ดื่มหมดแล้ว คุณกลับไปนอนห้องตัวเองเถอะ?”
ชายหนุ่มที่โซฟาไม่ขยับ เดิมทีหลินจือยังอยากไล่เขาไป แต่พอเห็นรอยแดงที่หน้าผากเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมา
เธอหันกลับไปที่ห้องน้ำ เอาผ้าขนหนูซับน้ำเย็น ออกมาประคบบนหน้าผากเขาเบาๆ
หวังว่าพรุ่งนี้เช้าจะไม่ทิ้งรอยอะไรไว้นะ ไม่งั้นจะทำลายภาพลักษณ์เขามาก
หลินจือประคบให้เขาไปมาสามรอบ ตอนที่เธอซักผ้าขนหนูเสร็จออกมาจากห้องน้ำ เทาเท่ก็หลับไปบนโซฟาแล้ว
หลินจือจ้องใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มแล้วกัดฟัน คืนนี้เขาทำเธอทรมานอย่างเหลือทน ส่วนเขากลับหลับแล้ว
งั้นเขาก็นอนที่โซฟาไปเถอะ!
ทิ้งเตียงใหญ่ๆของตัวเองไม่นอน มานอนที่โซฟาเธอแบบนี้ ประสาท
หลินจือหันกลับไปที่ห้องอย่างโมโห ล็อกประตูแล้วก็นอนพักผ่อน
หลับสนิทตลอดคืน
เช้าวันถัดมาหลินจือตื่นมาก็ลืมแล้วเมื่อคืนเทาเท่นอนตรงโซฟาในห้องเธอ ดังนั้นเลยเปิดประตูห้องออกมาอย่างสะลึมสะลือ เงยหน้าไปเห็นชายหนุ่มที่นั่งตรงโซฟา หลินจือก็ตกใจจนรีบหดตัวกลับไปที่ห้อง
ที่ตัวเธอสวมแค่ชุดนอน และในชุดนอนก็ไม่สวมอะไรด้วย ……
หลังจากเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ เธอจึงเดินออกไปใหม่อีกครั้ง
เธอขมวดคิ้วถามชายหนุ่มที่โซฟา:“ทำไมคุณยังไม่ไปอีก?”
เพราะว่านอนกกบนโซฟาทั้งคืน เสื้อผ้าที่ราคาแพงของเขาจึงยับยู่ยี่อย่างไม่สมควรนัก
บวกกับหนวดเคราที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ ตัวเขาดูโทรมเล็กน้อย
“เมื่อคืน ขอโทษนะ”เขาเงยมองไปที่หลินจือ ขอโทษด้วยเสียงเศร้าๆ
“ไม่เป็นไร ยังไงคนที่โดนชนก็ไม่ใช่ฉัน”หลินจือมองหน้าผากเขาที่ยังทิ้งรอยแดงไว้ ก็ตลกแปลกๆ
เทาเท่ยกมือขึ้นมาลูบหน้าปากตัวเอง แล้วก็ส่งเสียงร้องออกมา
เจ็บมากเลยห่าเอ๊ย
เขาลุกขึ้นมาจากโซฟา:“คุณไปล้างหน้าล้างตาเถอะ เดี๋ยวลงไปกินข้าวเช้า”
“จอร์แดนโทรมา บอกว่าได้รับต้นฉบับของซูซีกับเนมาแล้ว เหมือนกับส่วนนั้นที่คุณเขียนไปงั้นๆ ยืนยันได้ว่าพวกเขาคัดลอก”
“เขาบอกที่เหลือเขาจะจัดการเอง พวกเราสนแค่ทำตัวเองให้ดีก็พอ”
ความหมายคือ พวกเขากลับไปก็เซ็นสัญญา ส่วนทางซูซีกับเนมาจอร์แดนจะจัดการเอง
หลินจือพยักหน้า จากสิ่งนี้แสดงว่า บริษัทใหม่ของซูซีได้ก้าวเท้าผิดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ใครให้เธอทำสิ่งผิดแบบนี้กันล่ะ