ตอนที่ 209 จำคุก (1)

ยอดหญิงอันดับหนึ่ง

อา​หลัง​ตั้งตัว​ไม่ทัน​จึง​ถอย​ไป​ชนกับ​โต๊ะ​ด้านหลัง​ดัง​ตุบ​ ​ท้ายทอย​ฟาด​เข้าไป​เต็มๆ​ ​รู้สึก​มึน​จน​ลุก​แทบ​ไม่​ขึ้น

ป้า​จู้​สี่​ตระหนกตกใจ​จึง​รีบ​เข้าไป​พยุง​ไว้​ ​พอล​อง​จับ​ที่​ท้ายทอย​ก็​พบ​ว่า​มี​ก้อน​กลม​ใหญ่​บวม​เป่ง

หง​เยียน​เห็น​เลย​เดิน​เข้าไป​คว้า​มือ​หญิง​ออกเรือน​คน​หนึ่ง​ ​หญิง​ออกเรือน​คน​นั้น​ยัง​ไม่ทัน​โอด​ร้อง​ก็​ถูก​หง​เยียน​โยน​ออกหน้า​ร้าน​ไป​พร้อมกับ​ตะกร้า​ ​คนที​่​มุง​ดู​พวก​นั้น​ก็​เกือบ​โดน​ลูกหลง​ไป​ด้วย​ ​เมื่อ​เห็น​หง​เยียน​เริ่ม​โมโห​จึง​รีบ​ถอยห่าง​กัน​หลาย​ก้าว

หญิง​ออกเรือน​ร่าง​ท้วม​ที่​เป็น​คน​เริ่ม​ก่อเรื่อง​ดึง​แขน​เสื้อ​ลง​พร้อม​เขม่น​ตา​ใส่​ ​“​กล้า​ลงมือ​กับ​พวก​ข้างั​้​นรึ​!​ ​เหิมเกริม​ใหญ่​แล้ว​นะ​!​”

หญิง​ออกเรือน​หลาย​คน​พากั​นพุ​่ง​เข้ามา​ ​หง​เยียน​จึง​ได้​หยิบ​ไม้​ค้ำ​ประตู​แท่ง​ยาว​ออกมา​ฟาด​ใส่​ ​“​ใคร​กล้า​เข้ามา​อีก​!​”

หญิง​ออกเรือน​หลาย​คน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​หง​เยียน​เคย​เรียน​ศิลปะ​ป้องกันตัว​ ​จึง​ได้​ถอยห่าง​จาก​ร้าน​อย่างรวดเร็ว​ ​แต่​ก็​ยัง​ไม่วาย​ยืน​ด่าทอ​อยู่​ตรงหน้า​ร้าน​ ​ตอนนั้น​ ​บริเวณ​ไม่​ไกล​ ​มี​ชายหนุ่ม​ผลัก​บ่าว​รับใช้​ที่​พยุง​ตัวเอง​ออก​และ​เริ่ม​เดิน​เร็ว​ ​“​ยัง​ไม่​ถอย​ไป​อีก​!​”

“​ท่าน​…​ชาย​”​ ​หญิง​ออกเรือน​หลาย​คน​เห็น​มี​คน​มา​ ​ก็​พากั​นก​ลัว​ตัวสั่น​งันงก

หง​เยียน​กอด​แท่ง​ไม้​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ประตู​ ​พอ​มองออก​ไป​ก็​เห็น​เป็น​สวี​่​มู่​เจิน​ที่​หน้าตา​ซีด​ขาว​ไร้​เลือด​ ​คล้าย​ว่า​อาการ​บาดเจ็บ​ยัง​มิ​หาย​ดี​ ​เขา​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​พลาง​เอ่ย​ ​“​พวก​เจ้า​เกรงกลัว​แต่​พ่อ​ข้า​ใช่​หรือไม่​ ​ถ้า​ใคร​กล้ามา​เหยียบ​ที่นี่​อีก​ ​กลับ​ไป​ ​ข้า​จะ​ตี​ขา​ให้​หัก​และ​ประกาศ​ขาย​ไล่ออก​จาก​จวน​”

หญิง​พวก​นั้น​ซุบซิบ​อยู่​หลาย​ประโยค​แล้วจึง​พากัน​เดิน​จากไป​อย่างรวดเร็ว

บ่าว​รับใช้​สอง​คน​เห็นท่าน​ชาย​สีหน้า​ไม่​สู้​ดี​จึง​ขับไล่​พวก​ที่​มุง​ดู​อยู่​ข้างๆ​ ​“​ไป​ๆ​ๆ​ ​จะ​ดู​สิ่งใด​อีก​ ​ชอบ​ดู​เรื่อง​แบบนี้​ก็​กลับ​ไปดู​เมีย​ของ​ตัวเอง​ซะ​”

พวก​คนที​่​มุง​ดู​ถุยน้ำลาย​จากนั้น​พากัน​เดิน​จากไป

ป้า​จู้​สี่​เข้าใจ​ทันที​ ​ที่แท้​พวก​ผู้หญิง​โหดร้าย​นั่น​เป็น​บ่าว​รับใช้​ใน​เรือน​สวี​่​นี่เอง​ ​ดูๆ​ ​แล้ว​นายท่าน​สวี​่​เป็น​คน​สั่ง​ให้​พวก​นั้น​มาทำ​ลาย​ความต้องการ​ของ​หง​เยียน​ ​ถึงว่า​หง​เยียน​อดทน​อดกลั้น​มิ​ยอม​สู้

สวี​่​มู่​เจิน​หันหลัง​กลับ​ไป​ ​เห็น​หง​เยียน​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​ประตู​ ​ผมเผ้า​กระเซอะกระเซิง​ ​ทั่ว​เรือนร่าง​เปียกปอน​เหนอะหนะ​ ​กำลัง​กอด​แท่ง​ไม้​เอาไว้​ ​ใบหน้า​นอกจาก​มี​คราบ​สกปรก​แล้ว​ ​ยัง​มี​รอย​ช้ำ​อีก​หลาย​จุด​ ​แต่​ท่าทาง​เหมือน​ไม่รู้​สึก​เจ็บ​แต่อย่างใด

เขา​รู้สึก​เจ็บปวด​แทน​ ​พยายาม​พยุง​ร่าง​ตัวเอง​และ​เดิน​เข้าไป​คว้านาง​ไว้​ ​จากนั้น​ก็​พา​ไป​ยัง​ลาน​กว้าง​ด้านหลัง​ร้าน

ภายใน​ลาน​กว้าง​ ​ป้า​จู้​สี่​นำ​น้ำอุ่น​มา​ให้​ ​กำลังจะ​เช็ด​ทำความสะอาด​ให้​หง​เยียน​ ​แต่​ท่านชาย​สวี​่​ส่งสายตา​ให้​หนึ่ง​ที​ก็​เข้าใจ​ทันที​ ​จึง​ได้​วาง​กะละมัง​ลง​และ​เดิน​ออก​ไป

สวี​่​มู่​เจิน​นำ​ผ้า​ชุบ​น้ำ​บิด​น้ำ​ออก​หมาดๆ​ ​จากนั้น​ปัด​ผม​ออก​และ​เริ่ม​เช็ดหน้า​ให้​นาง​ทีละเล็กทีละน้อย​ ​เมื่อ​คราบ​สกปรก​เช็ด​ออก​หมด​แล้ว​ ​จึง​ทำให้​เห็น​รอย​ฟกช้ำ​ตรง​จมูก​กับ​หน้าผาก​ชัด​ขึ้น​ ​เขา​ถึงกับ​ชะงัก​ ​จากนั้น​ฝืนยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ถาม​ ​“​เจ็บ​ไหม​”

หง​เยียน​ได้สติ​จึง​หยิบ​ผ้าขนหนู​มา​เช็ด​เอง​พลาง​ตอบ​ ​“​ไม่​เจ็บ​เจ้าค่ะ​”

แต่​พอ​ผ้าเช็ดหน้า​สัมผัส​รอยแผล​ ​มือ​ของ​นาง​นั้น​ก็​สั่น​หงึกๆ​ ​คิ้ว​ของ​นาง​ก็​ขมวด​ย่น

สวี​่​มู่​เจิน​กะพริบตา​แล้ว​ไอค​่​อก​แค่ก​สอง​สาม​ที​ ​จากนั้น​หันหลัง​กลับ​และ​ออกคำสั่ง​ ​“​ไป​ซื้อ​ยา​แก้​ฟกช้ำ​มา​หน่อย​”

“​ขอรับ​ ​ท่านชาย​”​ ​บ่าว​รับใช้​ด้านนอก​น้อม​รับคำ​สั่ง

หง​เยียน​เห็น​เขา​ไอ​ ​เลย​วาง​ผ้าขนหนู​ลง​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​“​อาการ​ของ​ท่าน​เป็น​อย่างไรบ้าง​”​ ​นาง​ยื่นมือ​ลอง​แตะ​ที่​หน้าอก​ของ​ชายหนุ่ม​อย่าง​แผ่วเบา

“​ไม่เป็นไร​แล้ว​ ​พักผ่อน​ไป​สอง​สาม​วันดี​ขึ้น​มาก​แล้ว​ล่ะ​”​ ​สวี​่​มู่​เจิน​หลบสายตา​ ​จับ​ข้อมือ​นาง​ไว้

นาง​ดึง​มือ​กลับมา​โดย​มิ​ให้​คนตรง​ข้าม​รู้สึกตัว

สวี​่​มู่​เจิน​สัมผัส​ได้​ว่านาง​พยายาม​หลบ​ ​แต่​ก็​ทำ​เหมือน​ไม่รู้สึกตัว​ ​เอ่ย​กล่าว​พร้อม​ยิ้มอ่อน​ ​“​เจ้า​วางใจ​เถิด​ ​พวกเขา​ไม่กล้า​มา​อีกแล้ว​ล่ะ​”

หง​เยียน​เงยหน้า​ขึ้น​ ​เขา​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนหวาน​เป็นธรรมชาติ​ ​เหมือน​เมื่อก่อน​ไม่มี​เปลี่ยน​ ​ชายหนุ่ม​เช่นนี้​เขา​มีชีวิต​ใน​แบบ​ของ​เขา

เดิมที​คิด​ว่า​ตราบใดที่​ต่อสู้​เพื่อ​สิ่ง​นั้น​ ​สุดท้าย​ก็​จะ​ได้รับ​สิ่ง​นั้น​มา​เอง​ ​แต่​ความเป็นจริง​หา​ได้​เป็น​เช่นนั้น​ไม่

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ผิดหวัง​ใน​ตัวนาง​ ​บอกว่า​นาง​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​สู้

วันนี้​ ​นาง​ได้​ต่อสู้​แล้ว​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่​ประสบความสำเร็จ​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่​เสียใจ​ ​เท่านี้​ก็​เพียงพอ​แล้ว

หลาย​วัน​มานี​้​ ​นาง​ตัดสินใจ​อย่าง​งุนงง​ ​ความคิด​ก็​กระจัดกระจาย​ ​ถึง​เวลา​ให้​ความคิด​รวม​เป็นหนึ่ง​แล้ว​ ​นาง​เอ่ย​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​เรื่อง​ของ​เรา​สอง​คน​ ​ควร​จบ​ได้​แล้ว​”

สวี​่​มู่​เจิน​ไม่​แปลกใจ​ที่นาง​พูด​ออกมา​เช่นนี้​ ​มุม​ปาก​ขยับ​ขึ้น​ยิ้ม​แทน​ ​“​เจ้า​จะ​ยอมแพ้​แล้ว​ใช่ไหม​”

หง​เยียน​ไม่รู้​จะ​ตอบ​อย่างไร

“​เจ้า​พูด​เอง​มิใช่​รึ​ว่า​จะ​ดูแล​ข้า​ตลอดชีวิต​”​ ​นัยน์ตา​เริ่ม​เศร้าหมอง

หง​เยียน​ก้มหน้า​ลง

เวลา​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สวี​่​มู่​เจิน​ยืน​ขึ้น​ ​พร้อม​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นิ่ง​สงบ​ ​“​เจ้า​พูด​ถูก​ ​เรื่อง​นี้​ควร​จบ​ได้​แล้ว​”

หง​เยียน​เงยหน้า​ขึ้น​อีกที​ก็​พบ​ว่า​เขา​ได้​เดิน​ออกจาก​ร้าน​เซียงห​ยิง​ซิ่ว​ไป​แล้ว

อาการ​บาดเจ็บ​ของ​สวี​่​มู่​เจิน​ไม่เป็นอะไร​มาก​แล้ว​ ​ดีขึ้น​ทุกวัน​ ​เพียงแต่​ฝั่ง​ท่าน​อายัง​ไม่ยอม​ใจอ่อน​ ​ภายหลัง​ ​แม้แต่​ชูซ​ย่า​ไป​ถึง​หน้า​ประตู​แล้วแต่​ก็​ยัง​ไม่ยอม​ให้​พบ​ ​นั่น​หมายความว่า​จะ​ไม่ยอม​ฟัง​คำ​เกลี้ยกล่อม​ของ​หลานสาว​อีก

ท่าน​อา​สั่ง​ให้​มอมอ​ใน​เรือน​ไปหา​เรื่อง​ที่​ร้าน​เซียงห​ยิง​ซิ่ว​ ​เดิมที​หง​เยียน​สั่ง​ให้​คนใน​ร้าน​ห้าม​นำ​เรื่อง​นี้​ไป​บอกอ​วิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เด็ดขาด​ ​ภายหลัง​ไม่​กี่​วัน​ ​วันที่​ชูซ​ย่ามา​เอา​สมุดบันทึก​บัญชี​ที่​ร้าน​ ​อา​หลัง​รู้สึก​ถึง​ความ​ไม่​ยุติธรรม​แทน​หง​เยียน​จึง​ได้​เผลอ​พูด​ออก​ไป

ชูซ​ย่า​กลับมา​ถึง​จึง​เล่าเรื่อง​ทั้งหมด​ให้​กับ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ ​และ​ก็​อด​ถอนหายใจ​ไม่ได้​ ​“​ไม่ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​ท่านชาย​กับ​แม่นาง​หง​เยียน​คงอยู่​ด้วยกัน​ไม่ได้​แล้ว​จริงๆ​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​ให้​นายท่าน​สงบอารมณ์​ให้​ได้​ก่อน​ ​เพราะ​ทาง​ไป​สู่​ความสุข​นั้น​เต็มไปด้วย​อุปสรรค​”

หาก​เป็น​เพราะ​ทาง​ไป​สู่​ความสุข​นั้น​เต็มไปด้วย​อุปสรรค​ ​ก็​ยังดี​ ​แต่​กลัว​ว่า​อุปสรรค​นั้น​จะ​มาก​ไป​จน​ผ่านพ้น​มัน​ไป​ไม่ได้​น่ะ​สิ

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​เข้าใจ​ดี​ว่า​ท่าน​อา​เป็น​คนที​่​แม้​มีนิ​สัย​อารมณ์ร้าย​ ​แต่​ด้วย​ความ​เป็น​พ่อค้า​ ​ก็​นับว่า​มีนิ​สัย​ปลิ้นปล้อน​อยู่​บ้าง​ ​หาก​ไม่​ถึง​คราสุด​วิสัย​จำใจ​อย่างยิ่ง​ ​ก็​หา​ได้​ชอบ​หักหน้า​กัน​อย่างเปิดเผย​ไม่​ ​และ​ยิ่ง​ไม่มีทาง​สั่ง​ให้​คน​ไปหา​เรื่อง​ด่าทอ​ใน​ที่สาธารณะ​แน่นอน

อีก​อย่าง​ ​ท่าน​อา​เข้าใจ​ดี​ว่า​ร้าน​เซียงห​ยิง​ซิ่ว​เป็น​ร้าน​ของ​ตน​ ​อย่างน้อย​ก็​ต้อง​ไว้หน้า​นาง​อยู่​บ้าง

ครั้งนี้​กลับ​สั่ง​ให้​คน​ไป​ทำร้าย​กัน​ถึงที่​ร้าน​ ​หมายความว่า​ท่าน​อาตัด​สิน​ใจเด็ด​ขาด​แล้ว​ว่า​ ​เรื่อง​ที่​หง​เยียน​จะ​มา​เป็น​ลูกสะใภ้​ตระกูล​สวี​่​จะ​ไม่มี​พื้นที่​ว่าง​ให้​ต่อรอง​ใดๆ​ ​อีก

แต่​นาง​ก็​เข้าใจ​ดี​ว่า​ท่าน​พี่​ต้องการ​สิ่งใด​ ​เห็น​เป็น​ท่านชาย​ไม่เอา​การ​เอางาน​ ​ประพฤติ​ตัว​เหลาะแหละ​ ​ไม่​ชอบ​การผูก​มัด​ ​แต่​เป็น​คนที​่​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​หาก​ไม่ใช่​ ​ก็​คง​ไม่​ดูเหมือน​ปล่อย​หลงระเริง​ตามใจ​เวลา​อยู่​ด้านนอก​ ​แต่​ความจริง​กลับ​สามารถ​สร้าง​ความ​สนิทสนม​กับ​ไท่​จื่อ​ได้​ ​และ​ยัง​ก้าว​เข้าสู่​หน่วยงานราชการ​โดย​ใช้​สถานะ​การ​เป็น​ลูกหลาน​พ่อค้า​อีกด้วย

หลาย​ปี​มานี​้​ ​เวลา​อยู่​ด้านนอก​ ​พอ​มีโอกาส​ท่าน​พี่​ก็​เล่น​สนุก​บ้าง​เป็นครั้งเป็นคราว​ ​และ​หา​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มี​เรื่อง​รัก​ๆ​ ​ใคร่​ๆ​ ​แต่​นี่​ก็​เป็น​เพียง​เรื่อง​สนุก​ที่​ท่านชาย​เมืองกรุง​เขา​ทำ​กัน​ ​ทุกอย่าง​ล้วน​ผ่าน​มา​ผ่าน​ไป​เร็ว​ราวกับ​ลม​พัด​ ​หา​ได้​มี​ความจริงจัง​ต่อกัน​ไม่

เมื่อ​เขา​มั่นใจ​ใน​สิ่งใดสิ่งหนึ่ง​แล้ว​ ​ก็​ยาก​ที่จะ​เปลี่ยนใจ​เช่นกัน

นาง​รู้สึก​ว้าวุ่น​ใจ​ไม่​นิ่ง​ตลอดเวลา​ ​จึง​สั่ง​ให้​ชูซ​ย่า​คอย​สังเกต​ฝั่ง​ตระกูล​สวี​่​ไว้

หลาย​วัน​ผ่าน​ไป​ ​ฝั่ง​ตระกูล​สวี​่​นิ่ง​สงบ​ ​ส่วน​ร้าน​เซียงห​ยิง​ซิ่ว​ถูก​ท่าน​อา​หาเรื่อง​ไป​แล้ว​หนึ่ง​ครั้ง​ ​เกรง​ว่า​ท่าน​พี่​ก็​คงได้​ประท้วง​ไป​แล้ว​ ​จึง​ไม่มี​ครั้ง​ที่สอง​เกิดขึ้น​ ​ร้านค้า​กลับคืน​สู่​ความสงบ​เหมือน​วันวาน​ ​ต่าง​คน​ต่าง​ทำหน้าที่​ของ​ตัวเอง​ราวกับ​ไม่เคย​มีสิ​่ง​ใด​เกิดขึ้น

แต่​สถานการณ์​ยิ่ง​นิ่ง​ ​อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว้าวุ่น​ใจ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

ค่ำคืน​นี้​ ​ชูซ​ย่า​กลับมา​จาก​จวน​สวี​่​และ​รายงาน​เหมือน​ทุกวัน

และ​ก็​เหมือนกับ​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ที่​อาการ​ของ​ท่านชาย​นั้น​ดีขึ้น​มาก​พอสมควร​ ​ส่วน​นายท่า​นมี​สีหน้า​หม่นหมอง​ดูรีบ​ร้อน​ยุ่ง​มาก​ ​ชูซ​ย่า​แอบ​ถาม​กับ​พ่อบ้าน​ตระกูล​สวี​่​จึง​ทำให้​ทราบ​ว่า​สวี​่​เจ๋อ​เทา​เห็น​อาการ​ของ​ลูกชาย​ดีขึ้น​ ​จึง​ได้​เริ่ม​เตรียม​สินสอดทองหมั้น​แล้ว

อวิ​๋น​หว่าน​ชิ่น​รู้สึก​ตื่นเต้น​มากกว่า​หลาย​วันก่อน​พลาง​เอ่ย​ถาม​ ​“​ท่าน​พี่​ล่ะ​ ​ท่าน​พี่​มี​ปฏิกิริยา​อย่างไร​ ​ทะเลาะ​กับ​ท่าน​อา​อีก​หรือไม่​”