ตอนที่ 1520 ออกจากแม่น้ำอเวจี

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน

เวลาสองวันผ่านไปในชั่วพริบตา

 

 

ภายในชีพจรสีขาวเทา บนยอดเขามหึมาไร้นามแห่งหนึ่ง สีเขตอาคมมหึมารัศมีกว้างร้อยจั้งตั้งอยู่ตรงนั้น

 

 

บริเวณขอบของเขตอาคมนี้ มีแท่นสูงตั้งอยู่แปดแห่ง บนแท่นสูงแต่ละแห่งปักธงสูงมหึมาไว้หนึ่งด้าม บนธงมีอักขระสีเงินทองสองสีเปล่งประกายอ่อนๆ ไม่หยุด

 

 

บริเวณใจกลางของเขตอาคม หานลี่กำลังยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ขยับเขยื้อน

 

 

ข้างนอกมีคนยืนอยู่บางตา ซึ่งก็คือชายชราแซ่เจียงและหยวนเหยาเหยียนลี่สองสาว

 

 

ตอนนี้ชายผ้าคลุมของชายชรากำลังโบกพลิ้ว แหงนหน้ามองไปยังหมอกสลัวๆ บนท้องฟ้า

 

 

กลางอากาศสูง มีรอยสีขาวมหึมายาวร้อยจั้งเศษอยู่เส้นหนึ่งปรากฏผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ตรงนั้น

 

 

“สหายหาน แม้ว่าข้าสามารถช่วยแยกมิติของแม่น้ำอเวจี ใช้พลังของเขตอาคมส่งตัวเจ้าไปภายนอกได้ แต่จะส่งเจ้าไปที่ใดในแดนภายนอกนั้น ข้ากลับไม่สามารถรับรองได้ แต่เจ้าวางใจ ไม่มีทางส่งเจ้าไปที่ทวีปอื่นแน่ อย่างมากก็ยังอยู่ในบริเวณใกล้เคียงของเผ่าวิญญาณเหาะเหิน” หลังจากผ่านไปนานสองนาน ชายชราก็ก้มหน้าลงแล้วกล่าวกับหานลี่

 

 

“ขอบพระคุณอาวุโสที่กล่าวเตือน ชนรุ่นหลังทราบแล้วขอรับ” หานลี่รู้สึกใจหาบวาบ พลันตอบกลับด้วยความเคารพ

 

 

“ดีมาก เหลือเวลาไม่มากแล้ว ข้าจะร่ายคาถาส่งเจ้าออกจากแม่น้ำอเวจีเดี๋ยวนี้ ใช่แล้ว ของสิ่งนี้เก็บไว้ให้ดี เมื่อเจ้ารวบรวมสิ่งของเพียงพอและคิดจะเข้ามาที่นี่อีกครั้ง เจ้าสามารถทำตามวิธีที่บรรยายบนนี้และเข้ามาที่แม่น้ำอเวจีได้อีกครั้ง ส่วนของสิ่งนี้ข้าก็มีแค่ชิ้นเดียวด้วย อีกทั้งยังเป็นของที่ใช้แล้วทิ้ง” ชายชราโบกมือคราหนึ่ง ของสองอย่างก็พวยพุ่งออกมา

 

 

หานลี่รีบยื่นมือรับ เมื่อจ้องมองคราหนึ่ง ก็หลุดปากร้องออกมา “จานดับดารา! คาดไม่ถึงว่าอาวุโสจะมีของสิ่งนี้ด้วย?”

 

 

ในมือปรากฏกล่องทรงกลมใบหนึ่งเปล่งแสงสีขาววิบวับ กับม้วนคัมภีร์หยกสีฟ้าอีกม้วนหนึ่ง

 

 

“咦,你也知道此物,倒也真不容易。不过这不是真正的逆星盘,只不过是一件仿制品而已。但是炼制此物的材料极为难寻,我原先炼制了几块,但大半都用掉了。如今只剩下这一件了。玉简中有让你利用此物进入冥河之地的方法。你以后再仔细看看吧。另外,当日你用来探路的噬金虫,也一并收回吧。。”老者脸上讶色一闪,但随即淡淡说了两句,接着袖袍又是一抖。

 

 

“เอ๋ เจ้าก็รู้จักของสิ่งนี้ ไม่ง่ายจริงๆ นะเนี่ย ทว่าสิ่งนี้ไม่ใช่จานดับดาราที่แท้จริง เป็นแค่ของลอกเลียนเท่านั้น แต่วัตถุที่ใช้หลอมสิ่งนี้ก็หายากสุดๆ ตอนแรกข้าหลอมมาหลายใบ แต่ส่วนใหญ่ก็ใช้หมดไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ใบนี้เท่านั้น ในม้ววนคัมภีร์หยกมีวิธีใช้ของสิ่งนี้เข้ามาในแม่น้ำอเวจี หลังจากนี้เจ้าค่อยอ่านดูให้ละเอียดก็แล้วกัน นอกจากนี้ แมลงกลืนทองที่เจ้าใช้สำรวจเส้นทางในวันนั้น ก็เก็บกลับไปเถอะ” ชายชราเผยสีหน้าประหลาดใจบนใบหน้าออกมาแวบหนึ่ง แต่ฉับพลันก็พูดอย่างเรียบๆ แล้วสั่นแขนเสื้ออีกคราหนึ่ง

 

 

ทันใดนั้นวัตถุสีเขียวสลัวๆ ก็พวยพุ่งออกจากแขนเสื้อของเขา คาดไม่ถึงว่าจะเป็นสถูปไม้สีเขียวมรกต

 

 

สมบัติชิ้นนี้หมุนเคว้งรอบหนึ่ง ทันใดนั้นดอกไม้สีทองสองดอกก็พุ่งออกมาจากสถูป

 

 

ที่แท้ก็คือแมลงกลืนทองที่ถูกชายชราเก็บไปในตอนแรกนั่นเอง

 

 

หานลี่เห็นดังนี้ก็ดีใจ พลันโบกมือคราหนึ่ง แมลงกลืนทองทั้งสองตัวก็กางปีกแล้วพุ่งกลับมาหาในทันที

 

 

“สหายหาน คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถเพาะเลี้ยงแมลงกลืนทองจนโตเต็มวัยได้ นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากจริงๆ แต่ว่าข้าขอเตือนด้วยความจริงใจสักหน่อย แม้ว่าแมลงกลืนทองร่างโตเต็มวัยจะน่ากลัวสุดๆ แต่ถึงอย่างไรก็จัดเป็นแมลงวิญญาณที่รวมกันเป็นฝูง เพียงแค่มีปริมาณที่แน่นอนแล้ว จึงจะสามารถสำแดงอานุภาพที่แท้จริงของมันออกมาได้ หากมีแค่ไม่กี่ตัว ง่ายมากที่จะถูกผู้บำเพ็ญเพียรระดับสูงใช้สมบัติจำพวกศิลาพฤกษายับยั้งพวกมัน ทำให้ต้องพิชิตด้วยกลยุทธ์ปาฏิหาริย์เท่านั้น สหายสิ้นเปลืองความคิดกับแมลงกลืนทองเหล่านี้ มิสู้ทุ่มเทกับการฝึกฝนของตัวเองให้มากหน่อยจะดีกว่า แน่นอนว่าหากสหายสามารถเพาะเลี้ยงแมลงกลืนทองที่โตเต็มวัยได้เป็นพันตัว และสามารถควบคุมได้ราวกับแขนขาตัวเอง เช่นนั้นเจ้าก็สามารถบุกตะลุยแดนวิญญาณได้กว่าครึ่งแล้ว สมบัติจำพวกศิลาพฤกษาทั่วไปก็ไม่สามารถกักขังแมงกลืนทองร่างโตเต็มวัยที่มากมายเช่นนี้ได้ แต่แมลงกลืนทองที่มากมายเช่นนี้ มีแต่จะทำให้สิ้นเปลืองจิตสัมผัส แม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับมหาเมธีอย่างพวกข้าก็ไม่สามารถรับได้ หึๆ หากเจ้าสามารถเพาะเลี้ยงราชาแมลงกลืนทองในตำนานได้ อย่าว่าแต่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับมหาเมธีเช่นข้าเลย เกรงว่าแม้แต่เซียนแท้บนสวรรค์ก็ยังต้องถอยห่างไปสามฉื่อ” ชายชราหัวเราะเบาๆ สองสามคราแล้วกล่าวเตือน

 

 

“ราชาแมลงกลืนทอง!” หานลี่ได้ยินแล้วตะลึงงัน เขาเพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก

 

 

“ทำไม่รึ เจ้าไม่รู้จักหรือ อ๋อ ก็จริงอยู่ คนที่รู้จักราชาแมลงกลืนทองก็มีแค่เผ่าแมงเม่าไม่กี่คนกับเผ่าที่มีความเกี่ยวข้องกับแมลงเท่านั้น ไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก เกี่ยวกับเรื่องนี้ข้าขอไม่พูดอะไรมาก หากมีโอกาส เจ้าสามารถไปหาข้อมูลด้วยตัวเองได้ ราชาแมลงนี้เป็นแค่ตำนานที่เล่าต่อกันมาไม่รู้นานเท่าไหร่ ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีใครสามารถเพาะเลี้ยงได้จริงๆ เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมากหรอก” ชายชรายิ้มคราหนึ่ง จากนั้นก็ไม่อยากพูดอะไรมากอีก พลันตั้งท่าร่ายคาถามือเดียว!

 

 

เกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นขึ้น หลังจากกลางอากาศเกิดเสียงอัสนี ท้องฟ้าบริเวณใกล้เคียงก็เกิดเมฆดำขึ้นอย่างหนาแน่น พร้อมกับพายุหมุนที่ก่อตัวอย่างบ้าคลั่ง

 

 

ท่ามกลางพายุ มีเสียงบริกรรมคาถาดังจากปากของชายชราอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเสียงจะไม่ได้ แต่กลับได้ยินชัดเจนผิดปกติ

 

 

ฉากที่ชวนให้ตกตะลึงพรึงเพริดพลันปรากฏขึ้น

 

 

มองไม่เห็นว่าชายชราทำอะไรอีก ธงมหึมาบนแท่นสูงทั้งแปดเกิดการสั่นสะเทือนพร้อมกัน ภายใต้ผืนธงที่โยกไหวรับลม ทั้งเขตอาคมก็เริ่มส่งเสียงหึ่งๆ ขึ้น

 

 

เส้นไหมวิญญาณหลากหลายสีสันปรากฏออกมาจากบริเวณใกล้เคียงของเขตอาคม กลายเป็นม่านแสงซัดออกไปที่ธงมหึมาแปดด้ามอย่างพร้อมเพรียง

 

 

ขณะที่ธงมหึมาแปดด้ามเปล่งแสงวิญญาณระยิบระยับ ม่านแสงหมื่นสายก็ค่อยๆ แผ่แรงกดวิญญาณอันน่าสะพรึงออกมาเป็นระลอกๆ

 

 

แต่ละแห่งของเขตอาคมต่างก็เปล่งแสงเจิดจ้า อักขระแต่ละตัวต่างทยอยกระโดดโลดเต้นออกมาจากเขตอาคม

 

 

หานลี่ที่อยู่ใจกลางสุดของเขตอาคม สามารถรับรู้ได้ถึงอานุภาพอันน่ากลัวที่แฝงอยู่ในอักขระเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน

 

 

หากอักขระเหล่านี้ระเบิดออกพร้อมกัน เกรงว่าตัวเขาที่มีเอ็นทองแดงกระดูกเหล็กก็ไม่อาจต้านทานได้อย่างแน่นอน

 

 

หานลี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย พลางสูดหายใจลึก

 

 

หยวนเหยาที่อยู่นอกเขตอาคมมองดูภาพนี้ก็มีสีหน้าเปลี่ยน มองดูสายตาของหานลี่ก็อดไม่ได้ที่จะเผยความกังวลออกมาเล็กน้อย

 

 

ในตอนนี้เอง ชายชราก็ส่งเสียงร้องเบาๆ ออกจากปากอย่างฉับพลัน

 

 

ธงมหึมาแปดด้ามหมุนโคจรรอบหนึ่ง ลำแสงหนาๆ แปดสายก็พวยพุ่งออกจากผืนธงพร้อมกัน แล้วหายวับไปในชั้นบรรยากาศสูงอย่างไร้ร่องรอย

 

 

ทันใดนั้นรอยสีขาวกลางอากาศเส้นนั้นก็เปล่งแสงเจิดจ้า ดูกระจ่างชัดกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า

 

 

ชายชราเห็นเช่นนี้ มือหนึ่งก็สั่นแขนเสื้อไปในอากาศ

 

 

กลางอากาศเหนือเขตอาคมเกิดเสียงดังอื้ออึ้งขึ้นคราหนึ่ง ฉับพลันก็เกิดแสงสีเขียวเจิดจ้าพร่ามัว ปรากฏเป็นกระบี่แสงสีเขียวสลัวๆ เล่มหนึ่ง ยาวประมาณหลายจั้ง

 

 

“ฟัน!” ชายชราเปล่งเสียงร้องเฉียบขาดด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ พลันยื่นนิ้วสองนิ้วแตะไปที่กระบี่แสงเบาๆ

 

 

กระบี่แสงสีเขียวตั้งตรงขึ้นในชั่วพริบตา แล้วฟันไปตรงรอยสีขาวกลางอากาศอย่างแม่นยำ

 

 

กลางอากาศบริเวณใกล้เคียงส่งเสียงหึ่งๆ ดังลั่น อากาศเกิดการหดตัวลง ราวกับพลังปราณฟ้าดินในบริเวณใกล้เคียงถูกกระบี่เล่มนี้ดูดไปจนหมด

 

 

คาดไม่ถึงว่าภายในพริบตาที่กระบี่ยักษ์สีเขียวฟันออกไป จะขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าอย่างบ้าคลั่ง ราวกับศาสตราเทวะสูงเสียดฟ้าที่ปกคลุมท้องฟ้ากว่าครึ่ง

 

 

“แคว่ก!” เกิดเสียงแหวกอากาศดังขึ้นทั่วทั้งผืนฟ้า

 

 

คาดไม่ถึงว่ากระบี่ยักษ์มหึมาสีเขียวจะตัดผ่ารอยสีขาวเส้นนั้น

 

 

ภายในรอยสีขาว ปรากฏเส้นรอยแตกเรียวยาวสีดำเปรอะออกมาเส้นหนึ่ง

 

 

ชายชราโบกมือคราหนึ่ง กระบี่ยักษ์ก็แตกสลายหายไป

 

 

ในขณะเดียวกัน บริเวณใกล้เคียงของรอยแยกสีดำก็ปรากฏอักขระมหึมาขึ้นแปดตัว แต่ละตัวมีขนาดเท่าเรือนหลังหนึ่ง หมุนโคจรเปล่งแสงสีทองระยิบระยับไม่หยุด

 

 

หานลี่เห็นเพียงอากาศรอบๆ อัดแน่นขึ้น จากนั้นอักขระในเขตอาคมที่อยู่ใต้เท้าก็ลอยขึ้นไปบนร่างเขาพร้อมกัน

 

 

เขารู้สึกตกตะลึง ขณะที่กำลังรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกขนพอง อักขระเหล่านั้นก็กลายเป็นม่านแสงหลากสี หมุนโคจรล้อมรอบหานลี่อย่างรวดเร็ว

 

 

เห็นเพียงรอบด้านเลือนรางเล็กน้อย ร่างทั้งร่างพลันหมุนติ้ว

 

 

หลังจากสิ้นเสียงร้องแหลมประหลาด ลำแสงห้าสีสายหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาจากใจกลางของเขตอาคม แล้วหายวับเข้าไปในรอยแยกสีดำ

 

 

ในเวลาเดียวกัน แสงทั้งหมดของเขตอาคมก็ดับลง และหยุดการทำงาน

 

 

ใจกลางของเขตอาคมว่างเปล่าไร้ผู้คน ไม่เหลือร่องรอยของหานลี่

 

 

“อาจารย์ พี่หานส่งออกไปแล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ?” หยวนเหยาเห็นทั้งหมดนี่กับตาตัวเอง ก็ไม่อาจปิดบังความกังวลของตัวเองไว้ได้ จึงถามชายชราด้วยความทนไม่ไหว

 

 

“เหยาเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล การร่ายคาถาครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก ตอนนี้เขาน่าจะกลับถึงแดนวิญญาณแล้ว หากมีวาสนา อย่างเร็วก็หลายร้อยปี อย่างยาวนานก็พันกว่าปี เขาจะต้องกลับมาที่แม่น้ำอเวจีอย่างแน่นอน เจ้าก็จะมีโอกาสได้พบเขาอีก” ชายชราแซ่เจียงหัวเราะเหอะๆ คราหนึ่งแล้วตอบกลับ

 

 

ดูเหมือนชายชราผู้นี้จะมองบางอย่างออก ในน้ำเสียงแฝงไว้ซึ่งเจตนาหยอกล้อเล็กน้อย!

 

 

หยวนเหยาหน้าแดงเล็กน้อย ไม่ได้แก้ต่างอะไร เพียงแต่อดไม่ได้ที่จะมองไปบนฟ้าอีกครั้ง

 

 

เห็นเพียงรอยแยกสีดำกลางอากาศสูง ในเวลานี้ค่อยๆ ผสานกันทีละน้อย แล้วกลายเป็นรอยสีขาวเส้นหนึ่งอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆ เลือนราง

 

 

“ศิษย์น้อง พวกเรากลับไปกันเถอะ ไม่ใช่ว่าอาวุโสเจียงบอกแล้วหรือว่าหากมีวาสนาก็จะได้พบกันอีกแน่นอน อย่ามองว่าตอนนี้พลังยุทธ์กับอิทธิฤทธิ์ของศิษย์น้องตามสหายหานไม่ทันเลย แต่มีอาวุโสเจียงอาจารย์ผู้นี้อยู่ เชื่อว่าหลายร้อยปีต่อมา ระดับพลังยุทธ์ของศิษย์น้องจะต้องไม่ด้อยไปกว่าเขาแน่” เหยียนลี่เดินออกมา ข้อมือข้างหนึ่งวางนาบบนบ่าของหยวนเหยา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

 

 

“หึๆ แม่หนูคนนี้พูดได้ไม่เลว แม้ว่าเจ้าหนูแซ่หานจะไม่ได้ง่ายดาย แต่เหยาเอ๋อร์มีผู้เฒ่าค่อยชี้แนะด้วยตัวเอง การจะเข้าสู่ระดับหลอมสูญก็แทบจะเป็นเรื่องที่มั่นใจได้ แม้กระทั่งทำให้เจ้าเข้าสู่ระดับผสานอินทรีย์ ผู้เฒ่าก็มั่นใจถึงสี่ห้าส่วน” ชายชราแซ่เจียงพูดด้วยความมั่นใจตัวเองเป็นอย่างยิ่ง

 

 

“อาจารย์มีพระคุณยิ่งใหญ่เช่นนี้ เหยาเอ๋อร์จะต้องทุ่มเทฝึกฝนอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!” ถึงอย่างไรหยวนเหยาก็ไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา หลังจากที่นางได้ยินวาจานี้ก็ดึงสติกลับมา แล้วแสดงความเคารพชายชราด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

 

 

ในเวลาเดียวกับที่หานลี่ถูกชายชราแซ่เจียงทะลวงอากาศส่งออกจากแม่น้ำอเวจี ภายในทุ่งกว้างผืนหนึ่งซึ่งไกลออกไปจากชีพจรสีขาวเทาแห่งนี้ไม่รู้กี่หมื่นลี้ ลิ่วจู๋ หญิงงามผมขาว ชายชุดโลหิตและหุ่นเชิดโลหิตม่วงกำลังติดอยู่ในมหาสมุทรแมลง คุมเชิงกันอย่างยากลำบาก

 

 

รอบด้านของพวกเขา ไม่ว่าจะพื้นดินหรือท้องฟ้า ทุกหนทุกแห่งล้วนเต็มไปด้วยแมลงประหลาดชนิดหนึ่งรูปร่างคล้ายตะขาบ แต่บนหลังมีปีกงอกคู่หนึ่ง ที่หางมีตะขอ กำลังโอบล้อมโจมตี สร้างสถานการณ์พัดกระพือฮือโหมไปทั่วทั้งผืนฟ้าและปฐพี

 

 

แมลงประหลาดเหล่านี้แต่ละตัวมีขนาดสามถึงสี่ฉื่อ โหดเ**้ยมดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังห้าวหาญไม่กลัวตาย

 

 

ตอนนี้ลิ่วจู๋ได้กลายร่างเป็นแมลงยักษ์สีดำตัวหนึ่ง บนร่างเปล่งแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน พวยพุ่งออกมาเป็นพักๆ ทำให้แมลงเหล่านั้นถูกทะลวงร่างและทยอยกันแตกสลาย

 

 

ส่วนหุ่นเชิดโลหิตที่อยู่ภายใต้การร่ายคาถาของชายชุดโลหิต ร่างของมันก็มีขนาดใหญ่ขึ้นพันเท่า บนร่างมีประกายแสงสีทองลอยเป็นเกลียวขึ้น ดวงตาสีโลหิตทั้งหกพ่นลำแสงออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดหย่อน

 

 

หญิงงามผมขาวผู้นั้นได้สวมเกราะศึกสีดำอีกครั้ง ค้อนประหลาดที่อยู่เหนือศีรษะของนางถูกกระตุ้นอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นทะเลเพลิงสีเขียวผืนหนึ่งในบริเวณใกล้เคียงของหญิงงามผมขาว ขัดขวางแมลงประหลาดพวกนั้นไว้ภายนอก

 

 

พวกลิ่วจู๋ต่างก็เป็นฝ่ายได้เปรียบมากอย่างเห็นได้ชัด ทว่าสีหน้าของทั้งสามคนกลับดูกระหืดกระหอบ

 

 

เนื่องจากไม่ว่าพวกเขาจะสังหารไปมากเท่าไหร่ แมลงประหลาดที่อยู่รอบด้านก็พุ่งเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด

 

 

สถานที่ที่ไกลออกจากกลุ่มต่อสู้สิบกว่าลี้ แมลงประหลาดหน้าคนรูปร่างคล้ายตั๊กแตนตำข้าวตัวหนึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ

 

 

สองตาอันเย็นยะเยือกของแมลงตัวนี้กำลังจ้องมองกลุ่มต่อสู้ของพวกลิ่วจู๋ เปล่งแสงเย็นสุดขั้วระยิบระยับ

 

 

และกลางอากาศเหนือแมลงตัวนี้ มีวัตถุครึ่งวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางร้อยจั้งลอยคว้างอยู่ตรงนั้น เปล่งแสงสีเงินวิบวับไม่หยุดนิ่ง มีแมลงประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนโถมทะลักออกมาจากบนนั้น และกระโจนเข้าใส่พวกลิ่วจู๋ที่อยู่ไกลๆ อย่างไม่ขาดสาย