บทที่ 1130 เข้ามาใกล้ๆ สิ รับรองว่าพี่สาวไม่กินเธอแน่นอน

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

มีสองก้อนจริงๆ ด้วย!

แต่ร่างกายของซอมบี้ สามารถรองรับไวรัสนางพญาสองก้อนพร้อมกันได้ด้วยหรอ?

“ไม่รู้สิ…ฉันก็เพิ่งเคยเจอเรื่องอย่างนี้เป็นครั้งแรก! แต่ตอนนี้ดูจากทฤษฎีแล้วก็น่าจะเป็นไปได้” ซย่าน่าครุ่นคิด แล้วพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ!

“หมายว่ายังไง?” หลิงม่อรีบถาม ถึงแม้ระหว่างเขากับซย่าน่ามีสายสัมพันธ์ทางจิตเชื่อมอยู่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของซย่าน่า ตัวเธอย่อมรู้ดีที่สุด

“เพราะว่าตอนนี้ไวรัสนางพญาก้อนใหม่เป็นรูปร่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งก็หมายความว่ามันเริ่มทำงานแล้ว ถ้าหากว่าร่างกายฉันไม่อาจรับสถานการณ์นี้ได้ หรือเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ตอนนี้ฉันก็น่าจะแสดงอาการออกมาแล้ว แต่พี่ดูสิ ฉันยังสบายดีอยู่ไม่ใช่หรอ?” พูดจบ ซย่าน่าก็พ่นหายใจแรงๆ “แต่ถึงอย่างนั้น สถานการณ์มันก็ค่อนข้างซับซ้อน…”

“แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ มันก็ง่ายมากเหมือนกัน…หลังจากที่ไวรัสนางพญารวมตัวกันใหม่ มันก็เข้ายึดสมองของฉันโดยตรง และเข้าไปแทนที่แหล่งแพร่เชื่อไวรัสที่เคยมี พี่ลองนึกภาพร่างกายที่ป่วยอยู่แล้วอยู่ๆ ก็ป่วยเป็นโรคใหม่สิ มันคล้ายๆ แบบนั้นแหละ อย่างเช่นหลังจากที่โรคมอ 2 ชนะโรคหวัด มันก็กลายเป็นปัญหาใหม่ของร่างกาย เพียงแต่สิ่งที่ต่างจากอาการเจ็บป่วยก็คือ เชื้อไวรัสชนิดนี้มีอานุภาพที่ร้ายแรงกว่า เพราะมันจะตรงเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายของเรา เพื่อเร่งการกลายพันธุ์…สาเหตุที่ฉันต้องยกโรคม. 2 เป็นตัวอย่าง เพราะว่าไวรัสนางพญาก้อนใหม่ก็เหมือนกับโรคนี้ ที่ส่งผลกระทบต่อสมองเป็นหลัก…” (โรคม. 2 เป็นการแสดงออกเหมือนเด็กๆ ที่ทำเหมือนว่าตัวเองรู้ไปหมดทุกสิ่ง เหมือนตัวเองโตแล้ว แต่กลับดูถูกคนที่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ หรือการที่เชื่อว่าตนเองนั้นวิเศษเหนือผู้อื่น มีสิทธิ์และมีพลังอำนาจเหนือคนอื่น)

“เธอหมายความว่า ตอนนี้สมองของเธอถูกโรคม. 2 ยึดครองแล้ว?” หลิงม่อถาม

“…อันนั้นฉันแค่ยกตัวอย่างไหม…แต่ว่า มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉันหมายความอย่างที่พี่เข้าใจนั่นแหละ” ซย่าน่าพยักหน้า

“แต่รู้สึกว่าเธอไม่ได้พูดถึงส่วนอื่นในร่างกายเธอเลยนี่…นั่นไม่ได้หมายความว่าไวรัสนางพญาก้อนเดิมยังส่งผลกระทบต่อร่างกายเธออยู่ ยกเว้นแค่สมองของเธออย่างเดียว และไวรัสนางพญาก้อนใหม่ก็ส่งผลกระทบกับแค่สมองอย่างเดียวหรอกหรอ?” หลิงม่อถาม

ซย่าน่าพยักหน้า

หลิงม่อพลันขมวดคิ้ว “ถ้าอย่างนั้น…ถ้าบวกร่างดวงจิตของเธอเข้าไปด้วย…นี่มันศึกสามก๊กชัดๆ…”

“โถ่…ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็ดีน่ะสิ” ซย่าน่าถอนหายใจ มองหน้าหลิงม่อแล้วบอกว่า “พี่หลิง พี่จำได้ใช่ไหมว่าน่าน่าเกิดขึ้นมาได้ยังไง?”

“น่าน่า? แน่นอนว่าเกิดจากดวงแสงแห่งจิตของเธอ…” หลิงม่อเพิ่งจะพูดได้ครึ่งเดียว สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยน

เขาเข้าใจแล้ว

ดวงแสงแห่งจิตนั้นเป็นเรื่องซับซ้อน แต่หากพูดง่ายๆ มันก็คือโลกแห่งดวงจิตของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตบางชนิดสติปัญญาต่ำ รูปแบบความคิดตายตัว ดวงแสงแห่งจิตก็จะมีขนาดเล็กมาก ขณะที่หากเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระดับสติปัญญาสูง ความคิดกว้างไกล และมีพลังจิตตานุภาพบวกกับสมาธิแก่กล้า ดวงแสงแห่งจิตก็จะแข็งแกร่งมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นดวงแสงแห่งจิตแบบใด ก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในสมองทั้งนั้น และสำหรับซอมบี้ ดวงแสงแห่งจิตของพวกมันจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากระดับการติดเชื้อไวรัสทางสมองของพวกมัน

ยกตัวอย่างเช่นซอมบี้ระดับต่ำ ในระยะแรกที่พวกมันติดเชื้อและกลายพันธุ์ เนื่องจากว่าโครงสร้างสมองนั้นลึกลับซับซ้อน การกลายพันธุ์ของสมองจึงช้ากว่าส่วนอื่นในร่างกาย ดังนั้นโดยทั่วไปร่างกายของพวกมันได้กลายเป็นซอมบี้ไปแล้ว ในขณะที่สมองกลับยังคงอยู่ในระยะเริ่มแรกของการกลายพันธุ์ หรือก็คือยังอยู่ในสภาวะสับสนวุ่นวายนั่นเอง ในเวลานั้นสิ่งที่มันยังคงเหลืออยู่ ก็มีเพียงสัญชาตญาณอันน้อยนิดเท่านั้น นั่นจึงไม่แปลกที่ดวงแสงแห่งจิตของพวกมันจะอ่อนแอ

มีเพียงต้องวิวัฒนาการไปพร้อมกับร่างกายของพวกมันเท่านั้น สมองจึงจะสามารถกลายพันธุ์ได้ในอีกระดับและค่อยๆ ฟื้นคืนสติปัญญากลับมา แต่สมองที่ผ่านการกลายพันธุ์มาแล้ว กลับแตกต่างไปจากเดิมมาก และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมซอมบี้จึงฟื้นคืนสติปัญญากลับมาได้ ทว่ากลับไม่สามารถมีรูปแบบความคิดแบบเดียวกับมนุษย์ได้

สิ่งที่หลิงม่อต้องการจากการที่ให้พวกแย่เลี่ยนวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ มีเพียงเรื่องเดียว คือความเหมือนกันเท่านั้น ส่วนสมองที่ผ่านการกลายพันธุ์ไปแล้ว คงยากที่จะหาทางแก้ไขได้

แต่ตอนนี้ ในสมองของซย่าน่ากลับมีไวรัสนางพญาก้อนใหม่โผล่ขึ้นมา…เนื่องจากเชื้อไวรัสที่หลั่งออกมาแตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งที่นางพญาก้อนนี้นำพามาให้ซย่าน่าในครั้งนี้ ก็คือการกลายพันธุ์แบบใหม่เอี่ยม เชื้อไวรัสส่งผลกระทบต่อสมอง ในขณะที่สมองส่งผลกระทบต่อดวงแสงแห่งจิต ถ้าอย่างนั้นน่าน่าที่เดิมแยกตัวออกมาจากดวงแส่งแห่งจิต ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับเธอเช่นกัน…หรือไม่อย่างนั้นก็…หายไปเลย

“ไม่ ไม่มีทางหายไปเด็ดขาด! ที่น่าน่าเกิดขึ้นมาได้ เพราะว่าซย่าน่ายังเหลือความเป็นมนุษย์อยู่ ขอเพียงความเป็นมนุษย์ของเธอยังไม่หายไป น่าน่าก็จะไม่…”

“หากคิดในแง่ดี ถ้าไวรัสนางพญาสองก้อนอยู่ร่วมกันได้ สำหรับซย่าน่ามันคง…เหมือนซอมบี้ที่อยู่ในระดับชนชั้นสูง แต่มีพลังของชนชั้นสูงสองพลัง และหนึ่งในนั้น ยังเป็นร่างดวงจิตอีกด้วย! เมื่อก่อนหลังจากที่เธอแยกร่าง ถึงแม้ว่าพลังจะแข็งแกร่งไม่แพ้ตอนรวมร่าง แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบที่โดดเด่นมากนัก ในด้านร่างดวงจิต ส่วนมากมีบทบาทเป็นตัวช่วยมากกว่า แต่ถ้าหากเธอสามารถมีไวรัสนางพญาเป็นของตัวเอง เพื่อเร่งการกลายพันธุ์และวิวัฒนาการของสมอง มันก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป…”

“ไม่แน่นะ อาศัยการมีอยู่ของไวรัสนางพญาสองก้อนนี้ ซย่าน่าอาจสามารถก้าวข้ามไปยังระดับซอมบี้ราชาได้โดยตรง แถมไม่ใช่ซอมบี้ราชาทั่วไปอีกด้วย!”

“ถ้าอย่างนั้น ถึงเราจะถูกราชินีแมงมุมตัวนั้นหมายหัว แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้ง พวกเธอก็จะสามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว…ถึงไม่ใช่ราชินีแมงมุมตัวนั้น พวกเธอก็ยังสามารถออกล่าซอมบี้ระดับสูงได้มากกว่าเดิม เพื่อเพิ่มโอกาสในการวิวัฒนาการ…”

หลิงม่อคิดมาถึงตรงนี้ ก็พลันนั่งยองๆ ลงไป สองมือวางลงบนไหล่ซย่าน่า จ้องหน้าเธอ บอกว่า “ซย่าน่า วางใจเถอะ ฉันจะต้องช่วยเธอแน่นอน นี่เป็นโอกาส แต่ก็เป็นอันตรายเหมือนกัน ตอนแรกพวกเราคาดไม่ถึงว่านางพญาก้อนนี้จะให้ผลลัพธ์อย่างนี้ แต่การที่มันรวมตัวขึ้นมาใหม่ในสมองเธอได้ ก็แสดงว่าเธอทำถูกแล้วที่เลือกมัน บางทีอาจเป็นเพราะร่างดวงจิตของเธอที่ทำให้เกิดผลอย่างนี้ขึ้นมาได้”

“ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน…” ซย่าน่าจ้องตาเขาครู่หนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็กระดกมุมปาก บอกว่า “ถ้าอย่างนั้นพี่ต้องคอยเฝ้าฉันไว้ด้วยนะ…อีกอย่าง ห้ามฉวยโอกาสรังแกฉันด้วย” พูดถึงตรงนี้ เธอยังขยิบตาให้หลิงม่ออย่างมีความหมายอีกด้วย

“หื้ม?” หลิงม่อชะงัก “หมายความว่ายังไง?”

แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็เข้าใจสิ่งที่ซย่าน่าพูดแล้ว…

เดิมซย่าน่าก็มีพลังจิตที่ไม่เลวอยู่แล้ว แต่กลับไม่สามารถควบคุมมันได้ นั่นเพราะแต่เดิมสมองของเธอไม่ได้กลายพันธุ์ไปยังด้านพลังจิต ปกติหากใช้ซุ่มโจมตีศัตรูนั้นพอได้ แต่เมื่อเทียบกับซอมบี้ร่างแม่ตัวนั้น ถือว่ายังอ่อนด้อยกว่ามาก

ใจความสำคัญในการวิวัฒนาการในครั้งนี้ ก็คือปรับโครงสร้างสมองของซย่าน่า หลังจากที่ไวรัสนางพญาก้อนนี้ได้เข้ายึดครองสมองของซย่าน่าทั้งหมด มันก็เริ่มกลายพันธุ์อย่างบ้าคลั่ง และผลค้างเคียงโดยตรงที่เกิดขึ้นในระหว่างนี้ ก็คือ…

ซย่าน่าสูญเสียการควบคุมตัวเองไป

“กิน!” สายตาของซย่าน่าพลันแปรเลี่ยน หลังจากตะโกนออกมาสั้นๆ หนึ่งคำ เธอก็พุ่งตัวเข้ามาทางหลิงม่อทันที

หลิงม่อสะดุ้ง รีบโฉบตัวหลบออกไปด้านข้างโดยสัญชาตญาณ

ซย่าน่าพลาดเป้า แต่กลับรีบหันหน้ามาอย่างไม่ยอมลดละ ซ้ำยังแสยะยิ้มมองเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน เดินเซเข้ามา พร้อมกับบอกว่า “เจ้าหนู อย่าหนีสิ เข้ามาเถอะ รับรองว่าพี่สาวจะไม่กินเธอ…”

“…แบบนี้แล้วยังมีหน้ามาบอกฉันว่าห้ามรังแกเธอเนี่ยนะ!”