บทที่ 1131 แบกเคียวดาบท่องยุทธภพ

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

ถึงยังไงก็เป็นซอมบี้ชนชั้นสูงแล้ว…แม้ว่าอยู่ๆ สมองจะเกิดการกลายพันธุ์ครั้งที่สองขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ซย่าน่ากลับไม่ได้สูญเสียสติปัญญาไปอย่างสิ้นเชิงด้วยเหตุนี้ อาการของเธอตอนนี้เหมือนอยู่ในภาวะที่ความคิดสับสนวุ่นวายมากกว่า…และเห็นชัดว่าซย่าน่ารู้ล่วงหน้าแล้วว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาวะแบบนี้…

“ทำเกินไปแล้วนะ…นี่ก็เท่ากับว่าให้ฉันทำได้แค่มอง แต่ห้ามลงมือแล้วก็ห้ามโต้กลับด้วยน่ะสิ! ยัยคนนี้จะเอาเปรียบกันเกินไปแล้ว…ทำเป็นบอกว่าต้องการให้ฉันช่วย ที่แท้คิดฉวยโอกาสเล่นงานฉันแบบเนียนๆ ต่างหาก!” ชั่วขณะหนึ่ง หลิงม่อถูกซย่าน่าไล่บี้อย่างหมดสภาพ…เพราะห้องเก็บของห้องนี้มีพื้นที่ไม่มาก และถึงแม้ซย่าน่าจะอยู่ในระหว่างที่สมองกำลังกลายพันธุ์ แต่ความเร็วทางร่างกายกลับไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย กระทั่งมีแนวโน้มว่าจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

หลิงม่ออาศัยหนวดสัมผัสกับเสี่ยวเฮย จึงทำให้ตัวเองพลิกกลับมาเป็นฝ่ายเหนือกว่า ทว่าเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลี่ย่าหลินที่เดิมยังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับดักแด้ใยไหมก้อนโตของเฮยซือ และพยายามล้วงมือเข้าไปเอาก้อนเหนียวหนืดที่ถูกยัดไว้ข้างใน กลับถูกดึงดูดเข้ามาด้วย เธอพลันคลายมือออกจากดักแด้ก้อนนั้น แล้วหันมามองทางหลิงม่อด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

เสี้ยววินาทีหนึ่ง หลิงม่อพลันรู้สึกราวกับตัวเองถูกอสรพิษที่เพิ่งถูกรบกวนหมายตาเข้าแล้ว และในดวงตาคู่นั้น ราวกับว่าสามารถมองร่างกายเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง…

“นี่มัน…หรือว่ารุ่นพี่ก้าวข้ามสำเร็จแล้ว? ก็จริง…เดิมทีเธอก็ใกล้ก้าวข้ามเต็มทีแล้ว หากกระตุ้นเพียงเล็กน้อยก็อาจก้าวข้าม และกลายเป็นซอมบี้ราชาเต็มตัวในที่สุด…แต่ทำไมต้องหันมาวิ่งไล่ผมอีกคนด้วยเนี่ย!”

หลิงม่อเร่งความเร็วอีกครั้ง ในใจยังคงครุ่นคิดต่อ “เทียบกันแล้ว กลับเป็นซย่าน่าที่ก้าวข้ามได้ยากกว่า เพราะว่าเธอต้องทำให้ไวรัสนางพญาสองก้อนวิวัฒนาการไปพร้อมๆ กัน…แต่ในระหว่างที่เธอกำลังไล่จับเรา กลับเหมือนว่าเธอกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เลยนี่นา…โชคดีที่สมองของเธอกำลังอยู่ในระหว่างกลายพันธุ์ ทำให้เธอสูญเสียการควบคุมไปเป็นช่วงๆ ไม่อย่างนั้นเกิดถูกพวกเธอสองคนจับได้ทั้งอย่างนี้ เราต้องถูกจู่โจมเต็มกำลังแน่…”

“คิกๆ เข้ามาหาพี่สาวเร็วๆ เข้าสิ…”

“ใครจะอยากเข้าไปกันเล่า!” หลิงม่อหันกลับไปตะโกนตอบ

“เดี๋ยวพี่สาวเลี้ยงล่าเถียวเองน่า…” (ล่าเถียว หรือ แป้งเส้นรสเผ็ด ขนมที่เด็กจีนนิยมทาน)

“ไม่เอาโว้ย!”

หลังจากวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่งอยุ่เกือบหนึ่งนาที ในที่สุดหลิงม่อก็มั่นใจแล้ว…

ที่ซย่าน่าเตือนเขาว่าอย่าโต้ตอบนั้น จริงๆ แล้วเธอมีเหตุผล…

อาศัยช่วงที่กำลังวิ่งไล่จับอย่างบ้าคลั่งถึงอกถึงใจนี้ ดวงแสงแห่งจิตและสภาพร่างกายของซย่าน่าล้วนกำลังเกิดการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว…แต่ถ้าหากหลิงม่อลงมือ เช่นจับตัวซย่าน่าเอาไว้ แผนการนี้ก็จะล้มเหลวทันที

“ยัยเด็กคนนี้ จับฉันเป็นคู่ซ้อมโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรเลย…อีกอย่าง เธอจะเชื่อใจฉันเกินไปแล้ว เตือนแค่ประโยคเดียว เธอก็เชื่อแล้วหรอว่าฉันจะยอมวิ่งหนีเอาชีวิตรอดโดยไม่ตอบโต้? จริงๆ เลย…”

ทว่าขณะที่หลิงม่อกำลังลอบหัวเราะด้วยความจนใจ ในใจกลับกำลังตั้งความหวัง…รู้ทั้งรู้ว่าเสี่ยง แต่กลับกล้าทำสองอย่างในเวลาเดียวกัน สไตล์แบบนี้ ช่างเหมือนซย่าน่าในตอนที่ยังเป็นมนุษย์จริงๆ…แล้วก็นิสัยเชื่อใจโดยไม่มีข้อแม้นี่ก็ด้วย…

ยัยเด็กปากหนักคนนี้…หากทำสำเร็จแล้วจะเป็นยังไงบ้างนะ…

สิบนาทีผ่านไป…

ยี่สิบนาทีผ่านไป…

พริบตาเดียว เวลาได้ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ที่หลิงม่อมาที่โกดังแห่งนี้แล้ว

ประตูโกดังปิดแน่นสนิท แต่ถ้าหากมีใครเอาหูแนบติดประตู ก็จะได้ยินเสียง “โครมครามๆๆ” ดังออกมาจากข้างในอย่างต่อเนื่อง…

คนแรกที่หมดแรง ไม่ใช่หลิงม่อ แต่กลับเป็นหลี่ย่าหลิน

หลิงม่อรีบย้อนกลับไป หลังจากจากวิ่งเลี่ยงซย่าน่าที่กำลังโซเซ เขาก็รับร่างหลี่ย่าหลินที่ใกล้จะล้มลงไว้ได้พอดี

พอได้รับการกระตุ้นมากพอ ไวรัสนางพญาในสมองของหลี่ย่าหลินก็เริ่มกระบวนการก้าวข้ามแล้ว…

วิวัฒนาการจากไวรัสนางพญาระดับชนชั้นสูงไปเป็นไวรัสนางพญาระดับราชา สำหรับสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากดักแด้ที่กำลังลอกคราบเป็นผีเสื้อ

เมื่อกลายเป็นซอมบี้ราชา ก็เท่ากับก้าวเข้าสู่อันดับของซอมบี้ระดับสูงอย่างแท้จริงแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่มีซอมบี้ร่างแม่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และมีซอมบี้กลายร่างมากมาย กระทั่งมีสัตว์ประหลาดใต้ดินโผล่ขึ้นมา มีเพียงต้องกลายเป็นซอมบี้ระดับสูงเท่านั้น จึงจะถือว่าได้รับบัตรผ่านที่จะสามารถสู้กับพวกมัน

“แต่ซย่าน่ายังมีพลังล้นเหลืออยู่เลย…ไม่รู้ว่าถ้าเราปล่อยรุ่นพี่ลงเธอจะฉวยจังหวะนั้นกัดเราหรือเปล่า แต่ถ้ายังแบกไว้อย่างนี้ ไม่นานเราก็ต้องถูกเธอตามทันน่ะสิ…”

“ตึงตังๆๆ!”

เสียงอึกทึกอีกหนึ่งระลอกดังมาจากข้างหลังของหลิงม่อ เขายังไม่ทันหันกลับไปมอง ประกายเยือกเย็นเส้นหนึ่งพลันพุ่งเฉียดแผ่นหลังเขาไป ขณะเดียวกันก็มีเศษปูนมากมายกระจายไปทั่วพื้น…

พละกำลัง…ระหว่างที่คนหนึ่งหนีคนหนึ่งไล่ตามอยู่นี้ หลังจากที่ความเร็วของซย่าน่าคงที่ การเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดที่สุดของเธอก็คือ พละกำลัง…

หลังจากที่ไวรัสนางพญาก้อนเดิม “ยอมแพ้” จากสมอง มันก็นำเชื้อไวรัสที่หลั่งออกมาทั้งหมดในระหว่างถูกกระตุ้นไปทำงานกับร่างกายของซย่าน่าแทน ขณะเดียวกันระหว่างที่เกิดการกลายพันธุ์อันน่าทึ้งนี้ขึ้น ทิศทางวิวัฒนาการของร่างกายซย่าน่า ก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดๆ…

แตกต่างจากความอ่อนพลิ้วและรวดเร็วของหลี่ย่าหลิน ข้อดีของซย่าน่านั้นล้วนมุ่งเน้นมาที่จุดนี้จุดเดียว…อีกทั้งหลังจากที่ฟันพื้นจนทะลุด้วยพละกำลังอันมหาศาลแล้ว เมื่อเธอกระชากเคียวดาบออกมาเสียงดัง “สวบ” บนคมดาบของเธอกลับไม่มีร่องรอยเสียหายแม้แต่น้อย แค่จุดนี้ ก็ทำให้หลิงม่อตื่นตะลึงมากแล้ว

“นี่มันแบกเคียวดาบท่องยุทธภพชัดๆ! แต่มันก็จริง แต่ไหนแต่ไรซย่าน่าก็มีทักษะการต่อสู้อยู่แล้ว ขาดก็แต่พละกำลัง…เอ่อ…เดี๋ยวนะ!”

“โครมครามๆ!”

การเปลี่ยนแปลงของซย่าน่าไม่เพียงเกิดขึ้นกับร่างกายเธอเท่านั้น นางพญาด้านพลังจิตก้อนนั้นของเธอก็กำลังปรับโครงสร้างเธออย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพียงแต่แต่เดิมมันก็เป็นไวรัสนางพญาของร่างแม่อยู่แล้ว หลิงม่อเองก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายมันจะสามารถก้ามข้ามไปพร้อมกับนางพญาก้อนเดิมได้หรือไม่…

“นี่ เจ้ามนุษย์หน้าโง่ ยังไม่ยอมแพ้อีกหรอ? หยุดอยู่ตรงนั้นซะดีๆ ให้พี่สาวทำตามใจดีกว่าน่า! รับรองพี่สาวจะดูแลอย่างดีเลยน้า! ไม่รู้ทำไม พี่สาวรู้สึกคุ้นเคยกับเธอมากเลย!” เสียงหัวเราะอย่างฮึกเหิมได้ใจของซย่าน่าดังมาจากข้างหลัง

“ตอนที่เธอบอกว่าเธอแค่เปรียบเทียบกับ ‘โรคม. 2’ ฉันเกือบเชื่อเธอไปแล้ว…จะว่าไปเธอก็ต้องรู้สึกคุ้นเคยกับฉันอยู่แล้วสิโว้ย! ก็ฉันเป็นผู้ชายของเธอนี่!”

“ผู้ชาย? มันคืออะไร? เอาเป็นว่าเลิกขัดขืนเถอะน่า ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ!”

“เธอแค่กำลังน้ำลายไหลต่างหากล่ะ!”

ทันทีที่ได้ยินซย่าน่าตะโกนแผลงฤทธิ์ หลิงม่อก็รู้แล้วว่ายัยเด็กคนนี้กำลังเตรียมจะโจมตีสุดแรงอีกครั้งแล้ว เขารีบปรับท่วงท่าการเคลื่อนไหว ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมหันไปพูดโต้ตอบ

ตามคาด เพราะความคิดของซย่าน่ากำลังอยู่ในสภาวะยุ่งเหยิง ไม่นานเธอจึงเงียบไป…และหลังจากเงียบไป เธอก็ค่อยๆ ลากเคียวดาบเข้ามา และพลันเร่งความเร็วพุ่งตัวมาทางหลิงม่อทันใด

หลิงม่อสัมผัสได้เพียงรมแรงสายหนึ่งปะทะเข้ามาจากข้างหลัง วินาทีต่อมาก็รู้สึกได้ว่าเงาดำเส้นหนึ่งพลันปรากฏเหนือศีรษะ เขารีบยื่นมือไปด้านขวาดึงร่างตัวเองลอยออกไปในแนวขวางพร้อมกับหลี่ย่าหลิน

“โครม!”

เคียวดาบของซย่าน่าเพิ่งจะฟันทะลุพื้นในวินาทีที่แล้ว ทว่าในวินาทีต่อมา เงาร่างของเธอก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว…

“ไปไหนแล้ว!”

หลิงม่อเพิ่งจะยืนอย่างมั่นคง ก็รู้สึกสังหรณ์ใจอย่างรุนแรงทันที เขาพลันเงยหน้า และมองเห็นซย่าน่ากำลังพุ่งตัวลงมายังตัวเองพอดี

แต่ในเสี้ยววินาทีที่หลิงม่อหมายจะหลบหลีก เขากลับหยุดนิ่งทันใด

เคียวดาบของซย่าน่าพุ่งดิ่งลงถึงศีรษะของหลิงม่อ ทว่าสุดท้ายกลับฟันเฉียดผ่านร่างกายของเขาไป…

“สวบ!”

หลิงม่อยืนนิ่งรับรู้ถึงสัมผัสที่คมดาบฟันเฉียดร่างตัวเองไป ไม่นาน ซอมบี้สาวที่ทิ้งตัวลงบนพื้นตรงหน้าเขาก็จ้องหน้าเขาพร้อมใบหน้าเกลื่อนรอยยิ้มประหลาด

“ก็บอกแล้วว่าจะไม่กินน่ะ…”

—————————————————————————–