บทที่ 1132 คำว่าเดท มีความหมายลึกซึ้งกว่าที่คิด

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

เพิ่งสิ้นเสียงพูด เปลือกตาของซย่าน่าพลันปิดลง พร้อมกับร่างที่ล้มเข้ามาทางหลิงม่ออย่างหมดแรง

หลิงม่อยืนอยู่ในสภาพที่แขนข้างหนึ่งกอดหลี่ย่าหลิน หน้าอกมีร่างของซย่าน่าพิงอยู่ แล้วยังต้องหนีบเคียวดาบของเธอไว้ในแขนอีกข้างด้วย…

เมื่อกี้…

ที่ซย่าน่าทำแบบนั้น เธอทำตามสัญชาตญาณของเธอเอง หรือว่า…

หลิงม่อก้มหน้ามองซย่าน่าที่พิงแผงอกเขาอยู่ พลางคลี่มุมปากเบาๆ

ช่างเถอะ ไม่คิดแล้วดีกว่า…

หลังจากวางร่างหลี่ย่าหลินกับซย่าน่าไว้ด้วยกัน หลิงม่อก็อุ้มอวี๋ซือหรานมาวางไว้ใกล้ๆ กันด้วย ในขณะที่เดินไปถึงตรงหน้าดักแด้ก้อนโตก้อนนั้น เขากลับเหลือบเห็นชายเสื้อของใครคนหนึ่งแวบๆ

ชายเสื้อนั้นโผล่ออกมาจากกองกระสอบข้าวสาร พอถูกหลิงม่อมองเห็น มันก็หดกลับเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วราวรู้สึกได้

“เด็กโง่…”

ในเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานี้ เย่เลี่ยนไม่ปรากฏตัวให้เขาเห็นเลยซักครั้ง

ซอมบี้ราชา…คงเป็นเรื่องยากที่จะก้าวข้ามจากซอมบี้ชนชั้นสูงไปถึงระดับนั้นได้…

กระทั่งหลังจากก้าวข้ามสำเร็จแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง หลิงม่อแทบเดาไม่ออกเลย…

แต่พอเย่เลี่ยนซ่อนตัวเงียบๆ หลิงม่อก็รู้แล้วว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับเด็กโง่ของเขาแน่ๆ และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็สั่งสมมาเป็นเวลานานแล้ว จนกระทั่งวันนี้ อาจเป็นวันที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพก็ได้…

ทว่าจนถึงตอนนี้ เย่เลี่ยนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

นั่นทำให้หลิงม่อค่อนข้างร้อนใจ…

…………

“ขลุกขลักๆๆ!”

ลูกบอลสีเงินลูกหนึ่งกลิ้งเข้ามา ตามมาด้วยเงาร่างเส้นหนึ่งที่ปรากฏด้านข้าง

หลิงม่อนั่งลงบนลูกบอลลูกนั้น และหันไปมองด้านข้าง

เย่เลี่ยนกำลังนั่งกอดเข้าอยู่ด้านหลังกองกระสอบข้าวสาร ได้ยินเสียง ก็เพียงเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง

“ว่าไง คนสวย” หลิงม่อทักทาย

เย่เลี่ยนก้มหน้า ไม่พูดไม่จา

“เดทกันไหม?” หลิงม่อถามอีก

เย่เลี่ยนเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง แล้วก็หลุดยิ้มออกมาแวบหนึ่ง

แม้จะแค่แวบเดียว แต่หลิงม่อกลับอึ้งงันไปทันที

รอยยิ้มนี้…

ถึงจะยังดูทื่อๆ อยู่บ้าง แต่มันกลับแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของรอยยิ้มจริงๆ!

รอยยิ้มในยามปกติของพวกเย่เลี่ยน ความจริงแล้วเป็นเพียงการเลียนแบบรอยยิ้มของมนุษย์เท่านั้น คนอื่นอาจมองความแตกต่างนี้ไม่ออก แต่หลิงม่อกลับรู้ดีแก่ใจ

อีกทั้ง เสี้ยววินาทีเมื่อกี้ ดวงแสงแห่งจิตของเย่เลี่ยนก็มีคลื่นความเคลื่อนไหวด้วย!

เป็นเพียงคลื่นเล็กๆ! แต่กลับทำให้หลิงม่ออึ้งไปนานกว่าหนึ่งนาที จนกระทั่งเย่เลี่ยนเป็นฝ่ายเปิดปากพูดขึ้นก่อนเสียเอง…

“แล้วพี่…จะเดทแบบไหนล่ะ?” เย่เลี่ยนถามเสียงเบา

“เอ่อ…” หลิงม่อยังคงไม่หายอึ้ง

“ฉันลองนึกดูแล้ว…การเดทของมนุษย์เหมือนจะมีอยู่สามแบบนะ…นัดเจอกัน นัดเดทกัน นัดเอากัน…” เย่เลี่ยนพูดต่อ

“อันสุดท้ายไม่ใช่แล้วมั้ง…เป็นสาวเป็นนางทำไมพูดไม่น่าฟังแบบนั้นล่ะ! ถ้าจะพูดก็ควรเปลี่ยนคำสิ อย่างเช่น…โถ่ แล้วทำไมฉันต้องสอนเธอเรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ…” หลิงม่อเถียงกับตัวเอง

เย่เลี่ยนจ้องหน้าเขาอย่างงงงันครู่หนึ่ง แล้วจึงค่อยๆ พูดว่า “พี่นั่งทับเฮยซืออยู่นะ…”

“อ้อ…” หลิงม่อตบ “ลูกบอล” ที่อยู่ข้างล่าง บอกว่า “มันไม่ถือสาหรอก”

ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่นานหลิงม่อก็ถามว่า “เด็กโง่…วิวัฒนาการของเธอ…เป็นยังไงบ้าง?”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…” เย่เลี่ยนครุ่นคิด แล้วอยู่ๆ ก็ลุกพรวดขึ้นยืน

เสี้ยววินาทีที่เธอลุกขึ้น หลิงม่อพลันรู้สึกเหมือนตาลาย เหมือนเย่เลี่ยนที่อยู่ตรงหน้าเขาหายตัวไปอย่างรวดเร็ว แต่พอเขาเพ่งมองดีๆ กลับพบว่าเย่เลี่ยนยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้ไปไหน

“นี่มัน…” หลิงม่อก้มหน้ามองฝุ่นที่อยู่ใต้เท้าเธอ “ไม่ได้ลุกออกจากพื้น แล้วก็ไม่มีทางที่ฉันจะตาลาย ดังนั้นคำอธิบายหนึ่งเดียวก็คือ…ดวงตาของเธอ!”

เมื่อกี้สิ่งเดียวที่จะส่งผลกระทบต่อหลิงม่อได้ มีเพียงดวงตาของเย่เลี่ยนเท่านั้น…และเขาก็กำลังจ้องตากับเธอพอดี

“ก็หมายความว่า…อานุภาพของกล้องสลับลายแข็งแกร่งขึ้นแล้วงั้นหรอ? ไม่เพียงมองเห็นการเคลื่อนไหวของคนอื่นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ยังอำพรางการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ด้วย…แต่ว่า…ก้าวข้ามสำเร็จแล้วหรือยังนะ?” หลิงม่อคิดในใจ

หลังจากที่ลุกขึ้นยืน เย่เลี่ยนกลับไม่ขยับเขยื้อนไปมากกว่านั้น เธอเพียงพ่นลมหายใจเบาๆ หนึ่งครั้ง จากนั้นก็หันมามองหลิงม่อ

ทว่าแววตาของเธอ กลับทำให้หลิงม่อต้องอึ้งไปอีกครั้ง

เพราะแววตาของเธอ…แลดูสับสนมาก…

ราวกับว่ามีหลากหลายความรู้สึกพรั่งพรูออกมาพร้อมกันในเสี้ยววินาที แต่ขณะเดียวกันก็คล้ายกับยังคงไว้ซึ่งความเย็นชาและดุดัน…

ดวงตาของเธอยังคงเป็นสีแดง แต่กลับเป็นสีที่มืดมนขึ้นมาก…

เทียบกับซอมบี้ธรรมดาแล้ว สีดวงตาแบบนี้ กลับดูดุดันและโหดร้ายยิ่งกว่า

ราวกับเม็ดเลือดมากมายรวมตัวกันจนกลายมาเป็นสีนี้…

แต่ไหนแต่ไรวิวัฒนาการของซอมบี้คือการเริ่มนับศูนย์จากเลือดเนื้อและร่างกายอันว่างเปล่าอยู่แล้ว

และจุดนี้ ก็สังเกตได้จากสีดวงตาของพวกมันได้อย่างชัดเจน

แต่มันยังไม่จบ เย่เลี่ยน…ยังคงอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลง

เธอดึงดาบสั้นเล่มหนึ่งออกมา เล็บมือของมืออีกข้างค่อยๆ ยาวขึ้น มันไม่คล้ายกับการยาวที่เป็นไปตามการเจริญเติบโตปกติ แต่กลับเหมือนว่ามันกำลังดึงนิ้วมือที่งอเล็กน้อยให้เหยียดตรงช้าๆ หลิงม่อเห็นอย่างนั้นก็ให้นึกหวาดกลัว ทว่าในใจเขาเองก็รู้ดี ร่างกายของซอมบี้แตกต่างจากร่างกายมนุษย์มาก อย่าว่าแต่ทำให้เล็บยาวเลย ถึงจะมีอะไรงอกออกมาจากส่วนอื่นของร่างกาย ก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก

เมื่อเล็บมือทั้งห้าล้วนหงิกงอคล้ายมีดคดโค้ง เย่เลี่ยนยกมือข้างที่ถือดาบสั้นขึ้น และฟันลงไปที่เล็บของตัวเอง

“เคร้ง!”

สะเก็ดไฟพลันปรากฏ!

เย่เลี่ยนทิ้งดาบสั้นที่เกิดรอยร้าวลงพื้น แต่กลับไม่พูดอะไร

หลิงม่อจ้องมองเล็บของเธอ ในใจพลันสะท้านวาบ…

หนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เหมือนว่าวิวัฒนาการของเย่เลี่ยนกำลังก่อตัว…การก้าวข้ามที่แท้จริงของเธอเพิ่งจะเริ่มขึ้น ณ ตอนนี้ต่างหาก…

ทำไมต้องต่อหน้าเขา?

ทำไมต้องรอ?

หลิงม่อไม่มีเวลาถามออกไป เพราะเย่เลี่ยนในตอนนี้ เหมือนกำลังตื่นจากสภาวะงงงันและไร้เดียงสาในเมื่อครู่ และเข้าสู่สภาวะที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

เธอเหมือนซอมบี้ แต่บางครั้งเธอก็ให้ความรู้สึกอีกแบบรางๆ…

“มันคืออะไรกันแน่? อ๊ะ…ใช่แล้ว…” หลิงม่อพลันกระจ่าง “ก็เหมือนกับร่างแม่พวกนั้น…ที่สามารถแผ่กลิ่นอายอันดุดันน่ากลัวออกมา ขณะเดียวกันก็สามารถทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ว่าพวกมันฉลาดมากด้วย…”

ซอมบี้ที่เคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณอย่างเดียว มีเพียงซอมบี้ระดับต่ำสุดเท่านั้น แต่ซอมบี้ที่มีสติปัญญาสูงเหล่านี้ กลับสามารถใช้ทุกอย่างที่พวกมันใช้ได้เพื่ออัพเกรดระดับพลังทำลายล้างให้ถึงจุดสูงสุด เหมือนเจ้าซอมบี้ร่างแม่ในโกดังอาหารแห่งนี้ที่พวกเขาเพิ่งสังหารไป ตอนที่มันกับแมงมุมหัวคนเป็นพันธมิตรกัน พวกมันสามารถทำลายอำเภอหลีหมิงจนไม่เหลือซาก…

ซอมบี้แบบนี้แหละ ที่อันตรายที่สุด…

“เด็กโง่รอก้าวข้ามต่อหน้าเราก็เพราะ…จะบอกเรื่องนี้ให้เรารู้งั้นหรอ?” หลิงม่อจ้องเย่เลี่ยน ในขณะที่ในใจเริ่มสับสนปรวนแปร…

สิ่งที่เย่เลี่ยนต้องการจะสื่อให้เขารู้นั้นชัดเจนมาก…ถ้าหาก…หลิงม่อรู้สึกว่าเธออันตราย เขาสามารถขัดขวางเธอได้ทุกเมื่อ…

บางทีในเวลาหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเธออาจกำลังตัดสินใจเรื่องนี้อยู่ก็ได้ แต่การตัดสินใจนี้ กลับเกี่ยวโยงไปถึงอนาคตของเธอ…รวมถึง…สัญชาตญาณในการวิวัฒนาการของเธอด้วย…

ความปรารถนาในการวิวัฒนาการของซอมบี้นั้นมากจนไม่อาจคาดคิด แต่เธอ…กลับกำลังพยายามสื่อความหมายเรื่องนี้ให้หลิงม่อรู้ กอปรกับรอยยิ้มเมื่อกี้ของเธอ…

หลิงม่ออดเงยหน้าและถามเธอเสียงเบาไม่ได้ “เด็กโง่ นี่เธอ…นึกอะไรออกบ้างแล้วใช่ไหม?”

เย่เลี่ยนพลันสะดุดกึก…

—————————————————————————–