หลานเสวียนหมิงมองเหล่าขุนศึกด้วยสายตาทั้งกังวล ทั้งเจ็บปวด
“พวกเจ้าไม่ได้ยินคำพูดของข้าหรือ? พวกเจ้าคิดจะทำอันใด? หรือต้องให้แม่ทัพใหญ่อย่างข้าปลิดชีพตนเองต่อหน้าท่านอ๋อง เพื่อแสดงถึงความภักดีของสกุลหลานและเผ่าวิหค? ”
เหล่าขุนศึกต่างเงยหน้าขึ้นมองหลานเสวียนหมิงด้วยความลำบากใจ จากนั้นจึงหันไปโค้งคำนับเยี่ยโยวเหยาอย่างพร้อมเพรียงกัน พลางพูดว่า “ท่านอ๋อง กระหม่อมสาบานจะติดตามท่านไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ดวงตาของหลานเสวียนหมิงเผยความโล่งใจ จากนั้นจึงพูดกับซูจิ่นซีว่า “พระชายา ก่อนหน้านี้เป็นกระหม่อมที่เลอะเลือน ไม่เคารพพระชายา กระหม่อมจะออกคำสั่งให้ทุกคนในสกุลหลาน จากนี้ต่อไป หากพระชายาต้องการสิ่งใด สกุลหลานจะต้องปฏิบัติตามอย่างแน่นอน”
ซูจิ่นซีคิ้วกระตุก คำพูดประโยคสุดท้ายของหลานเสวียนหมิงทำให้นางแปลกใจเล็กน้อย
มุมปากพลันปรากฏรอยยิ้มแผ่วเบา
“หลานเสวียนหมิง อย่างไรก็ตาม ภายในใจลึกๆ ของท่านยังรู้สึกว่าข้าเป็นนางมารร้ายที่อยู่ข้างกายท่านอ๋อง เป็นตัวปัญหา เป็นสตรีที่ไร้คุณสมบัติผู้หนึ่ง! ”
หลานเสวียนหมิงครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะหันไปทำความเคารพซูจิ่นซี โดยไม่สบตาของนางและเยี่ยโยวเหยา “ในฐานะสตรี ต้องดูแลสามีสั่งสอนบุตรถึงจะถูก ทั้งไม่ควรยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง ไม่ควรล่อลวงราชา ในเมื่อพระชายาได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษจากท่านอ๋อง ก็ควรเข้าใจจิตใจและงานใหญ่ของท่านอ๋อง ควรหลีกเลี่ยงข้อสงสัยที่มีต่อท่านอ๋อง”
ในยุคสมัยนี้ ไม่ยินยอมให้สตรีเท่าเทียมบุรุษ ยิ่งทนไม่ได้ที่สตรีจะแข็งแกร่งกว่าบุรุษ ซูจิ่นซีเข้าใจดี
ด้วยเหตุนี้ เยี่ยโยวเหยาจึงรู้สึกโกรธ ทว่าซูจิ่นซีกลับดีใจเป็นอย่างมาก นางหัวเราะเสียงดัง
หลานเสวียนหมิงให้คำสัญญาของสกุลหลานต่อซูจิ่นซี นั่นเป็นคำสัญญาส่วนตัวของสกุลหลานที่มีต่อนาง และเป็นคำสัญญาของสุภาพบุรุษ ไม่เกี่ยวกับความภักดีของสกุลหลานที่มีต่อเยี่ยโยวเหยา ยิ่งไม่เกี่ยวกับสถานะของพระชายาโยวอ๋อง เพียงหลานเสวียนหมิงพ่ายแพ้ในการเดิมพัน และติดค้างนางหนึ่งชีวิตเท่านั้น
ทว่าเขาเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งยุคสมัยนี้ สุดท้ายก็ไม่อาจยอมรับซูจิ่นซีที่เป็นสตรีได้
ซูจิ่นซีมีความสุขจนหัวเราะเสียงดัง เพราะหลานเสวียนหมิงไม่ได้หลอกลวงหรือประจบสอพลอ ทว่ากลับพูดความจริงอย่างตรงไปตรงมา
แสดงให้เห็นว่า แม่ทัพหลานท่านนี้เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง อย่างน้อยก็ไม่มีทางเป็นมือมืดที่แอบทำร้ายลับหลังแน่นอน
“หลานเสวียนหมิง ข้าสัญญา วันที่ท่านอ๋องทำการใหญ่สำเร็จ ข้าจะให้โอกาสท่านรักษาชีวิตตนเองหนึ่งครั้ง ทว่าเป็นเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น”
ทันใดนั้น หลานเสวียนหมิงก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ปรากฏความประหลาดใจ มองไปยังเยี่ยโยวเหยาที่ยืนอยู่ด้านหลังซูจิ่นซี ราวกับได้เห็นอันใดบางอย่าง ราวกับได้มองทบทวนซูจิ่นซีใหม่อีกครั้ง
“หลานเยวี่ยหลีถูกพิษที่มีชื่อว่า อูเยี่ยถี จำเป็นต้องใช้ยาสมุนไพรหลายชนิดในการปรุงยาถอนพิษ เวลานี้ยังไม่รู้ว่าต้องไปหาจากที่ใด แต่มีสมุนไพรชนิดหนึ่ง หมอหลวงอวิ๋นยืนยันแล้วว่าอาจหาได้จากหุบเขาเทพโอสถ ข้ากับหมอหลวงอวิ๋นจะรีบไปที่หุบเขาเทพโอสถ หลานเยวี่ยหลีมีเวลาเพียงสิบวันในการถอนพิษ ในสิบวันนี้ หากไม่สามารถหายาสมุนไพรได้ครบทั้งหมด ข้าก็หมดความสามารถที่จะรักษาเช่นกัน”
แม่ทัพหลานตกตะลึงอีกครั้ง ดวงตาเผยความประหลาดใจ
เขาคาดไม่ถึงว่า ก่อนหน้านี้ตนจะเข้าใจสตรีนางนี้ผิด สตรีนางนี้ไม่ได้ฉวยโอกาสแก้แค้น กลับยังเต็มใจถอนพิษให้บุตรสาวของตนอีกด้วย
แท้จริงแล้ว เดิมทีซูจิ่นซีไม่ใช่แม่พระ ตรงกันข้าม นางเป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยกับผู้อื่น คิดเล็กคิดน้อยว่าตนเองจะตอบแทนอีกฝ่ายอย่างไร จิตใจของผู้คนสามารถเปลี่ยนกันได้ การให้อภัยของนาง ต้องดูว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใด
หลานเสวียนหมิงเหลือบมองเยี่ยโยวเหยา เขามองไม่ออกว่าในใจของเยี่ยโยวเหยาคิดอันใด ทว่าไม่เห็นการคัดค้านใดๆ เช่นกัน
“พระชายา เส้นทางไปหนานหลีนั้นไกลมาก วันนี้มืดค่ำแล้ว มิสู้พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทาง ถึงตอนนั้นกระหม่อมจะจัดเตรียมคนไปคอยอารักขาระหว่างทาง และเตรียมเสบียงสำหรับพระชายากับหมอหลวงอวิ๋น”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูจิ่นซีก็ปฏิเสธไป เพราะทางไกลไม่สะดวกพาคนไปมาก ทั้งนางยังมี JX1 JX2 JX3 และJX4 พวกเขาเพียงสี่คนก็พอแล้ว
หลานเสวียนหมิงจึงไม่พูดอันใดอีก
ซูจิ่นซีเข้าไปในห้องเพื่อดูอาการของหลานเยวี่ยซิน ไม่ได้สนใจเยี่ยโยวเหยากับหลานเสวียนหมิงอีก
“พระชายา! ” อวิ๋นจิ่นคำนับซูจิ่นซี
“สถานการณ์เป็นอย่างไร? ”
“เลือดหยุดไหลแล้ว แต่คนยังไม่ฟื้น เสียเลือดไปมาก ต้องดูแลอีกหลายวัน”
ไม่อันตรายถึงชีวิตก็ดีแล้ว
ซูจิ่นซีมองหลานเยวี่ยซินที่นอนอยู่บนเตียง
สตรีนางนี้นับว่าเป็นคนที่มีความกล้าหาญคนหนึ่ง
จากนั้นนางจึงพูดกับอวิ๋นจิ่นว่า “ท่านกับข้า พรุ่งนี้เช้าเดินทางไปหุบเขาเทพโอสถพร้อมกันเถิด! คืนนี้กลับจวนไปเตรียมตัวให้ดี”
“พ่ะย่ะค่ะ! ”
อวิ๋นจิ่นยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับซูจิ่นซี
เมื่อออกมาจากห้อง ภายในเรือนก็ไม่มีผู้ใดแล้ว ไม่รู้ว่าเยี่ยโยวเหยาไปที่ใด ในใจซูจิ่นซีพลันรู้สึกว่างเปล่า
สาวใช้และแม่นมของจวนสกุลหลานสองสามนางบอกว่าได้รับคำสั่งจากหลานเสวียนหมิง ให้มาดูแลหลานเยวี่ยซิน เหลือสาวใช้ไว้สองคนเพื่อรอคำสั่งจากซูจิ่นซี และยังบอกอีกว่าหลานเสวียนหมิงไปทำธุระกับเยี่ยโยวเหยา
ซูจิ่นซีรู้ว่าพวกเขาไปที่วิหารวิญญาณเพื่อสืบสวนฮูหยินมี่กับหลานเยวี่ยหรู พวกนางไม่เพียงเกี่ยวข้องกับเรื่องที่หลานเยวี่ยหลีถูกพิษเท่านั้น ยังสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแคว้นไหวเจียง เวลานี้ต้องไปสอบสวนเป็นเรื่องปกติ
ซูจิ่นซีไม่ได้รั้งอยู่ที่จวนนานนัก หลังจากไปที่เรือนของหลานเยวี่ยหลีแล้ว ก็กำชับให้ซูอวี้กับหมอเทวดาหวาอยู่ที่จวนสกุลหลาน ส่วนนางจะกลับไปพร้อมฮูหยินปี้กับอวิ๋นจิ่น
เช้าวันรุ่งขึ้น ซูจิ่นซีขนสัมภาระเสร็จเรียบร้อย เตรียมออกเดินทางไปกับ JX1 JX2 JX3 และJX4 แน่นอนว่าเหล่าองครักษ์ JX เป็นองครักษ์เงา พวกเขาจึงซ่อนตัวอยู่ในที่ลับเหมือนเช่นเคย
ทว่าเมื่อเดินออกจากประตู ซูจิ่นซีกลับเห็นรถม้าใหญ่โตหรูหราคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูจวนสกุลซู นึกไม่ถึงว่ายังจอดขวางทางซูจิ่นซีอีกด้วย
ซูจิ่นซีขมวดคิ้วมุ่น นางมองอย่างละเอียดตั้งแต่ล้อรถ ชานพักรถม้า ไปจนถึงด้านหน้าที่มีม้าดีสี่ตัว
นางแอบถอนหายใจ ผู้ใดกันที่วางอำนาจใหญ่โตถึงเพียงนี้!
“ซูจิ่นซี ยังไม่ไปอีก! ” ทันใดนั้น มือใหญ่เรียวยาวก็เปิดผ้าม่านออก เผยให้เห็นใบหน้าเคร่งขรึมของเยี่ยโยวเหยาที่ขมวดคิ้วมองซูจิ่นซีอย่างเย็นชา
ซูจิ่นซีนอกจากประหลาดใจแล้ว ยังตกตะลึงไม่น้อย
เยี่ยโยวเหยาเห็นซูจิ่นซียังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ใบหน้ายิ่งทวีความเย็นชา เขาย้ำคำพูดอีกครั้งว่า “ซูจิ่นซี ยังไม่ไปอีก! ”
ไป?
ไปที่ใด?
ซูจิ่นซีไม่สนใจเยี่ยโยวเหยา ทำเพียงเดินไปทางรถม้าที่จวนสกุลซูเตรียมไว้ให้นาง
ทันใดนั้น เหมือนมีลมหนาวพัดมาจากทางด้านหลัง พัดเส้นผมและชายเสื้อซูจิ่นซีจนปลิวสะบัด ทั้งยังพัดเอาเม็ดทรายมาเล็กน้อย ทำให้ซูจิ่นซีไม่สามารถลืมตาได้
ซูจิ่นซียกมือขึ้นป้อง ข้อมือของนางพลันรู้สึกเย็นเฉียบ ไม่รู้ว่าเยี่ยโยวเหยาเหาะมาอยู่ด้านหน้าของนางตั้งแต่เมื่อใด เขาคว้าข้อมือของนางไว้ และดึงตัวนางเข้ามาประชิดกายที่เย็นยะเยือกของตน “ซูจิ่นซี กล้าดีอย่างไรจึงทำเป็นเมินคำพูดของข้า”
ภายในใจซูจิ่นซีรู้สึกสับสน นางยกยิ้มมุมปากด้วยความเย็นชา “ท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไรเพคะ? หากพระองค์สั่งให้หม่อมฉันไปทางตะวันออก หม่อมฉันก็ต้องไปทางตะวันออก หากพระองค์ให้หม่อมฉันไปทางตะวันตก หม่อมฉันก็ต้องไปทางตะวันตกอย่างนั้นหรือ? ”
“ซูจิ่นซี เจ้ายังเป็นสตรีของข้าไม่ใช่หรือ?”