บทที่ 719 หลงผิดคิดไปเอง / บทที่ 720 ขอยอมแพ้

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 719 หลงผิดคิดไปเอง

เหอจวิ้นเฉิงกลืนน้ำลายลงคอ ตะลึงงันไปหมดแล้ว

นี่…เป็นไปได้ยังไง!

เยี่ยมู่ฝานคือเฟลิกซ์?

เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! จะต้องเข้าใจผิดแน่!

ในตอนที่ทุกคนมองหน้ากัน กรรมการบริหารเจิ้งก็ถลาเข้ามา “โอย! ท่านรองประธาน ในที่สุดก็หาเจอสักที ผมอยู่ตรงประตูทางเข้ายังไงก็หาคุณไม่เจอ ผมเตรียมเสื้อให้แล้ว รีบไปเปลี่ยนเถอะ!”

เหมือนสัมผัสได้ว่าบรรยากาศทางนี้ไม่ถูกต้อง กรรมการบริหารเจิ้งจึงเอ่ยอย่างงงงัน “เป็นอะไรกันครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ อ้อ จริงด้วย ผู้อำนวยการเหอ คุณอยากให้ผมตามหารองประธานให้นี่นา คนนี้แหละครับ!”

พูดจบก็มองไปยังเยี่ยมู่ฝาน พูดขึ้นว่า “เฟลิกซ์ นี่คือผู้อำนวยการเหอจากจวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คนบนเวทีก็คือคุณหนูเฉินเมิ่งฉีจากจวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ พวกเขาอยากคุยเรื่องร่วมมือในงานแฟชั่นวีคที่ลอร์เรน…”

เยี่ยมู่ฝานหยิบใบไม้ใบหนึ่งที่ติดบนแขนเสื้อออก “อ้อ เหรอครับ?”

เวลานี้ เหอจวิ้นเฉิงกับเฉินเมิ่งฉีมีความคิดว่าอยากตายแล้ว ขณะฟังคำพูดของกรรมการบริหารเจิ้ง พวกเขาอยากจะหารูมุดเข้าไป

กรรมการบริหารเจิ้งพูดด้วยตัวเองแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากเชื่อก็ไม่ได้!

เมื่อครู่นี้กรรมการผู้บริหารเจิ้งบอกว่าเฟลิกซ์เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ขณะเดินทาง เยี่ยมู่ฝานถึงโผล่มาในสภาพนี้…

ดังนั้นสไตลิสต์มือทองที่พวกเขาคิดหาวิธีเชิญชวนแทบตาย เฟลิกซ์มือเทพที่เป็นที่ต้องการตัว ไม่นึกเลยว่าจะเป็นเจ้าคนไร้ประโยชน์เยี่ยมู่ฝาน

บ้าเอ๊ย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?

ด้วยสภาพของเยี่ยมู่ฝานที่ถูกหวงเทียนขังลืมมาโดยตลอด ทำไมถึงเดินมาถึงขั้นนี้ได้ในเวลาสั้นๆ?

เฉินเมิ่งฉียืนอยู่บนเวที จ้องมองเหอจวิ้นเฉิงอย่างดุดัน

เยี่ยมู่ฝานก็คือเฟลิกซ์ ทำไมเรื่องสำคัญแบบนี้เขาถึงไม่รู้!

ครั้งนี้เหอจวิ้นเฉิงพูดอะไรไม่ออกจริงๆ เขาจะเชื่อมโยงเฟลิกซ์เข้ากับเยี่ยมู่ฝานได้อย่างไร?

แต่เรื่องที่แย่กว่าตามมาทีหลัง

ด้านหน้า มู่เหวินชิงประธานสมาคมแฟชั่นสาวเท้าเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “มู่ฝาน เมื่อกี้เธอบอกว่าการออกแบบของเหอจวิ้นเฉิงเป็นการขโมยผลงานของเธอ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

เยี่ยมู่ฝานมองมู่เหวินชิง “อาจารย์ครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก่อนหน้านี้ไม่นานผมทำต้นฉบับหายไป คิดไม่ถึงว่าที่แท้ผู้อำนวยการเหอจะเก็บได้”

พอได้ยินคำพูดนี้ เหงื่อเย็นเยียบก็ผุดพรายออกจากหน้าผากเหอจวิ้นเฉิง “นี่…นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด…เป็นความเข้าใจผิด…”

ถ้าหากเรื่องนี้ถูกยืนยัน อย่างนั้นเขาก็จบเห่

เหอจวิ้นเฉิงพลันเคร่งเครียด ตัดสินใจปฏิเสธ เอ่ยอย่างแน่วแน่ “ต้นฉบับอะไร! ไม่มีเรื่องแบบนี้แน่นอน เป็นการออกแบบของผมเอง! ท่านประธานท่านต้องเชื่อผมนะครับ!”

พอคิดได้ว่าเยี่ยมู่ฝานไม่มีหลักฐาน เหอจวิ้นเฉิงก็เริ่มมั่นใจ “คุณชายเยี่ย นายบอกว่าเป็นการออกแบบของนาย งั้นก็เอาหลักฐานออกมาสิ! เป็นต้นฉบับที่หายไปเมื่อไร? แล้วไปทำหายที่ไหน?”

เอายังไงดีล่ะ? ไม่มีใช่ไหมล่ะ!

เยี่ยมู่ฝานหัวเราะ “เหอะๆ หลักฐานเหรอ ความจำของผมไม่ค่อยดีเท่าไร จำเรื่องที่ไม่สลักสำคัญแบบนี้ไม่ได้จริงๆ…ความหมายของผู้อำนวยการเหอก็คือ ผมปรักปรำคุณ อิจฉาพรสวรรค์และความสามารถของคุณ ก็เลยใส่ร้ายคุณ อยากจะยึดผลงานของคุณเหรอ?”

เยี่ยมู่ฝานเพิ่งพูดประโยคนี้ เหอจวินเฉิงก็แข็งทื่อ ผู้คนปั่นป่วนกว่าเดิม พากันมองเหอจวิ้นเฉิงด้วยความรังเกียจ

“ล้อเล่นหรือไง เขาเป็นเจ้าภาพงานรางวัลไป๋ฮวา เป็นรองประธานสมาคมแฟชั่น ให้ไปอิจฉาคุณเหรอ?”

“เหอจวิ้นเฉิงหลงผิดไปรึเปล่าเนี่ย?”

เหอจวิ้นเฉิงสติแตก เริ่มไม่ไตร่ตรองคำพูดแล้ว “เยี่ยมู่ฝานไอ้คนโกหก! ผลงานพวกนี้เป็นของฉัน! เป็นการออกแบบของฉัน ไม่มีหลักฐานแต่กลับมาใส่ร้ายฉัน ถ้างั้นฉันก็จะบอกว่านายขโมยผลงานฉันเหมือนกัน!”

———————————————————

บทที่ 720 ขอยอมแพ้

เยี่ยมู่ฝานเผยสีหน้าผ่าเผย เอ่ยอย่างไม่ในใจ “แหม ผู้อำนวยการเหออย่างเพิ่งใจร้อน ผมแค่พูดตามที่คิดเท่านั้น ไม่คิดจะทวงความรับผิดชอบจากคุณหรอก มันก็แค่สไตล์การออกแบบเท่านั้น ของแบบนี้วันหนึ่งผมเอาให้คุณดูสักสิบกว่าอันก็ยังได้

ในเมื่อคุณถูกใจ งั้นก็เอาให้คุณก็ได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถึงยังไงก็เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ถ้าชอบขนาดนี้ ผมเอาให้คุณเล่มหนึ่งเลย!”

“นาย…นายๆ…” เหอจวิ้นเฉิงเกือบกระอักเลือด

เยี่ยมู่ฝานย้ำแล้วย้ำอีกว่าจะไม่เอาเรื่อง ถึงขั้นที่ไม่มีแม้แต่หลักฐาน แต่ว่าความผิดฐานขโมยผลงานก็ตกมาอยู่กับตัวเขาแล้ว บวกกับสถานะในตอนนี้ของอีกฝ่ายเด่นชัดอยู่ตรงนั้น ทุกคนย่อมเชื่อคำพูดอยู่แล้ว

“พระเจ้า คิดไม่ถึงเลยว่าเหอจวิ้นเฉิงจะเป็นคนแบบนี้ เก็บต้นฉบับของคนอื่นไว้เป็นของตัวเองโดยไม่บอกไม่กล่าวเนี่ยนะ!”

“ใช่แล้ว แค่อีกฝ่ายไม่มีหลักฐานก็มั่นใจแล้วเหรอไง?”

“ถึงกับบอกว่าเฟลิกซ์ขโมยผลงานของเขา หลงตัวเองชะมัด!”

คนมุงรอบๆ ซึ่งเมื่อครู่ยังช่วยเหอจวิ้นเฉิงพูดเปลี่ยนทิศทางโดยสิ้นเชิง เมื่อครู่นี้เยาะเย้ยเยี่ยมู่ฝานอย่างไร ตอนนี้ก็เยอะเย้ยเหอจวิ้นเฉิงอย่างนั้น

เหอจวิ้นเฉิงกับเยี่ยมู่ฝานในตอนนี้เปรียบเหมือนขอทานและเศรษฐี

ขอทานคนหนึ่งบอกว่าเศรษฐีขโมยเงินของตัวเอง จะมีใครเชื่อ?

เยี่ยมู่ฝานมองเหอจวิ้นเฉิงที่ถูกผู้คนต่อว่าจนแยกแยะคำด่าไม่ออก ดวงตาเผยความเย็นชา

เหอะ ต่อให้เขาพูดส่งเดชแล้วจะเป็นยังไง

ด้วยตำแหน่งของเขาตอนนี้ ยังจำเป็นต้องมีหลักฐานอีกเหรอ

เอาเป็นว่าแค่เยี่ยมู่ฝานพูดประโยคแบบนี้ในวันนี้ อาชีพการทำงานในชีวิตนี้ของเหอจวิ้นเฉิงก็จบสิ้นแล้ว

เพราะไม่มีใครรู้ว่าในต้นฉบับที่เยี่ยมู่ฝานพูดถึงมีผลงานอยู่เท่าไร และผลงานต่อจากนี้ของเหอจวิ้นเฉิงเป็นเขาออกแบบเองหรือขโมยมาจากต้นฉบับ

เฉินเมิ่งฉีที่สวมผลงานเลียบแบบอยู่ก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไร

ประธานอย่างมู่เหวินชิงย่อมยืนข้างเยี่ยมู่ฝาน อีกทั้งยังช่วยเหลือ ประกาศตัดชื่อเหอจวิ้นเฉิงออกจากสมาคมแฟชั่นต่อหน้าผู้คน แล้วยังให้ร.ป.ภ.ไล่คนออกไป…

สไตลิสต์คนอื่นของจวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ไม่มีหน้าอยู่ต่อ พากันหลบออกไป

เฉินเมิ่งฉีเหมือนกับคนโง่ ยืนตะลึงงันอยู่บนเวทีคนเดียว ไม่มีใครคลี่คลายสถานการณ์ให้เธอ

เธอกอดความหวังมองไปยังเยี่ยมู่ฝาน คนคนนี้ถึงจะเป็นคนสำมะเลเทเมา ไม่สนใจโลกภายนอก แต่ก็ดูแลเธอเต็มที่ ทุกครั้งไม่ว่าเธอมีปัญหาอะไรก็โผล่มาทันที…

แต่ครั้งนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ เยี่ยมู่ฝานแม้แต่จะมองยังไม่มองเธอเลย

ตอนนี้ ชายหนุ่มถูกฝูงชนที่เข้าไปทักทายล้อมไว้ ขนาดท้ายทอยยังมองไม่เห็น…

“เหอะๆ พูดได้ดีๆ…”

เยี่ยมู่ฝานเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ ทว่าพอหางตาเหลือบเห็นคนที่คุ้นเคยเดินมาจากไกลๆ ก็พลันตกใจจนพ่นไวน์ออกมา

“บอสผมมาแล้ว ขอตัวก่อนๆ! รบกวนหลีกหน่อยครับ!” เยี่ยมู่ฝานรีบส่งแก้วไวน์ให้เจ้าหน้าที่ด้านข้าง จากนั้นก็ผลุนผลันพุ่งไปหาคนมา

ขณะมองท่าทางหวาดกลัวของเยี่ยมู่ฝาน กรรมการผู้จัดการหลี่ที่อยู่ใกล้ๆ ก็มีสีหน้าจนปัญญา “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าทุกครั้งที่รองประธานของพวกเราเห็นผอ.เยี่ยจะต้องทำตัวเหมือนหนูเห็นแมวทุกที?”

เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านข้างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “จริงๆ เล้ย…ปกติเฟลิกซ์เท่มาก เวลาอารมณ์ไม่ดีไม่ว่าใครก็ไม่ไว้หน้า แต่ผู้อำนวยการเยี่ยพูดแค่ประโยคเดียวก็ไม่กล้าขยับไปไหนแล้ว!”

“จะว่าไป ผู้อำนวยการเยี่ยแห่งกวงเย่ามาจากไหนกันแน่นะ? ในสังกัดมีเทพมากมายขนาดนั้น!”

……………………………………………………