สภาสูงสุดดำเนินโครงการวิจัยร่วมอย่างจริงจัง และโครงการวิจัยก็เกี่ยวกับธาตุและวิญญาณ จอมเวทส่วนใหญ่จากอัลลินที่คุ้นเคยกับศาสตร์ทั้งสองสาขานี้จะถูกขอให้เข้าร่วมการวิจัย ซึ่งรวมถึงจอมเวทชั้นกลางจากคณะกรรมการตรวจสอบอาร์คานาทั้งราเวนติ แกสตัน ล็อกลินน์ และเปเซอร์ ทุกคนล้วนเป็นผู้มีคุณสมบัติและความสามารถในการตรวจสอบบทความวิจัยที่ส่งเข้ามา

สถานที่ตรวจสอบบทความชั่วคราวตั้งขึ้นภายในคฤหาสน์ในเมืองซาริวา และจอมเวททั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการวิจัยจะสามารถส่งผลการวิจัยของตนให้ตรวจสอบได้โดยไม่ต้องเสียเวลา

ลูเซียนเห็นวูดส์จากวารสารสามัญเดินมาจากอีกฟากของโถงทางเดิน ขณะเขาออกมาจากห้องที่เต็มไปด้วยวงเวท

“สวัสดีขอรับ ท่านวูดส์ ข้าไม่คิดว่าจะเจอท่านที่นี่ ข้าคิดว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาสนามของแรงและโหราศาสตร์”

“สวัสดี อีวานส์ ข้าเป็นบรรณาธิการรองของวารสารอาร์คานาสามัญ และข้าต้องมาค้นคว้าว่ามีผลวิจัยของจอมเวทคนไหนพอจะตีพิมพ์ในนิตยสารของเราได้บ้าง จอมเวทผู้ทรงภูมิในของสายธาตุและวิญญาณต่างมาร่วมตัวในโครงการวิจัยครั้งนี้ แต่วารสารของเราไม่ได้มีอิทธิพลเท่า ‘วารสารอาร์คานา’ หรือ ‘วารสารเวทมนตร์’ ข้าเลยต้องมาหาบทความดีๆ ด้วยตัวเอง”

วูดส์ยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย เขาเข้ามาเป็นบรรณาธิการรองของวารสารอาร์คานาสามัญ เนื่องจากประเด็นตารางธาตุที่ออกมาเมื่อราวสองสัปดาห์ก่อน คะแนนอาร์คานาที่เขาได้รับจากการค้นพบธาตุใหม่สูงทีเดียว และเป็นบทพิสูจน์ว่าตารางธาตุใช้ในเชิงปฏิบัติได้ วูดส์คงอยู่ในระดับสี่มาเป็นเวลานานเกินไปในฐานะจอมเวท แต่ดูเหมือนในที่สุดเขาก็มีโอกาสก้าวหน้าสู่ระดับต่อไปในเวลาอีกประมาณหนึ่งปี

หน้าของวูดส์มีหนวดสีทองขึ้นอยู่ เขาจ้องมองลูเซียนและพูดขึ้น “ข้าได้ยินมาจากท่านถูกซุ่มโจมตี หลังจากข้ามาถึงที่นี่ แล้วเข้าไปในห้องของท่าน พอดีแม่บ้านบอกข้าว่าท่านอยู่ที่นี่… อืม เหมือนท่านกำลังค้นคว้าอะไรที่ยอดเยี่ยมและสุดยอดอีกแล้ว”

หน้าของลูเซียนยังซีดเผือดอยู่เล็กน้อย ร่างกายของเขาเพิ่งฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม เสื้อคลุมแปลงกายต้องได้รับการซ่อมแซม

“ขอบคุณขอรับ ท่านวูดส์ ข้าเพิ่งถูกเล่นงานด้วยเพลิงมา มือสังหารตามล่าท่านเฟลิเป และไม่ได้เล่นงานข้าโดยตรง ข้าเรียกใช้แหวนธาตุที่มีพลังสูงเกินกว่าระดับพลังของข้ามาก เพราะอย่างนี้ข้าถึงได้รับบาดเจ็บ” ลูเซียนอธิบายไปพลางระหว่างเดิน

หลังจากราเวนติและแกสตันพาลูเซียนกลับมาที่คฤหาสน์ แลร์รี่ ทิโมธี และยูลิสิส ต่างพากันมาเยี่ยมดูอาการเขา แต่คนอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ไอริสทีน อาร์เซเลียน และเอลฟ์ตนอื่นๆ ก็ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนลาซาร์และสหายคนอื่นๆ ของเขายังไม่ได้มาเยี่ยมเขา

วูดส์ทำคิ้วย่น “ท่านจะฟื้นตัวจากการบาดเจ็บรุนแรงขนาดนั้นไม่ยาก แต่จะส่งผลต่อวิญญาณและร่างกายของท่าน อายุขัยของท่านจะสั้นลง มันอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับท่านที่มีโอกาสขึ้นเป็นนักเวทชั้นอาวุโสก่อนอายุห้าสิบ แต่ว่านะ อย่าทำแบบนั้นอีกถ้าไม่จำเป็นจริงๆ”

ทั้งสองคนสนทนากันระหว่างเดินเข้าไปในห้องพักของลูเซียน วูดส์หัวเราะเบาๆ ขณะทั้งสองหยุดอยู่หน้าประตู ดูเหมือนห้องนี้ทำให้เขาคิดอะไรขึ้นมาได้ “เดี๋ยวก่อน ท่านเดินออกมาจากจุดส่งบทความวิจัยตอนเราเจอกัน ใช่ไหม ท่านเขียนบทความเสร็จแล้วหรือ?”

“ใช่ขอรับ บทความเป็นผลการศึกษาของสัปดาห์นี้ พูดถึงสสารการเล่นแร่แปรธาตุสามชนิดที่สามารถช่วยทำให้อาหารเจริญเติบโตและวิธีการผลิตสสารครั้งละมากๆ” ลูเซียนยิ้มและผลักเปิดประตู ฟังดูเหมือนเขากำลังพูดถึงบทความทั่วๆ ไป

วูดส์แปลกใจเล็กน้อย เขามองหน้าลูเซียน “ข้าเห็นรายงานวิจัยของท่าน ดูเหมือนท่านกำลังติดขัดอะไรสักอย่าง แต่ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าท่านสามารถแก้ปัญหาเหมือนเป็นเรื่องกล้วยๆ เมื่อไม่กี่นาทีก่อน”

“ข้าได้แนวคิดมาจากผลการวิจัยจากรายงานที่จอมเวทคนอื่นๆ ส่งเข้ามา ข้าก็วิเคราะห์การผสมกันระหว่างไม้ หญ้า ปุ๋ย และของเสีย นั่นเป็นที่มาที่ข้าค้นพบสสารเล่นแร่แปรธาตุที่ละลายน้ำได้สามชนิด” ลูเซียนขอให้แม่บ้านรินน้ำชาให้วูดส์”

วูดส์จิบชาดำจากถ้วยและยิ้มออกมา “น่าสนใจ ถ้าสสารเล่นแร่แปรธาตุสามชนิดนี้สามารถผลิตออกมาเยอะๆ ผลผลิตอาหารของเราจะเพิ่มขึ้นมากมาย แล้วนักเวทและอัศวินจะรวยกันเละ อีกอย่างนะ อีวานส์ บทความของท่านจะผ่านการรับรองจากสภา”

วูดส์โตขึ้นมาในนครอัลลินในฐานะสมาชิกตระกูลนักเวท เขาเลยไม่เคยเข้าใจความยากลำบากของชีวิต ชายผู้เป็นจอมเวทชั้นกลางผู้นี้มีตำแหน่งสูงส่งกว่าชาวนาและยาจกมากนัก บางครั้งเขาก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจชาวนาและคนยากไร้ และวูดส์ไม่ได้คิดว่าบทความของลูเซียนจะมีความสำคัญอะไรมาก ‘สภาเวทมนตร์’ ดำเนินโครงการวิจัยอย่างเคร่งครัด ก็เพียงเพราะสมาชิกจากสภาสูงสุดต้องการศึกษาอาคมเทพของธรรมชาติก็เท่านั้น

“ข้าก็หวังเช่นนั้น” ลูเซียนจิบชาจากถ้วยและตอบอย่างสุขุม

วูดส์วางถ้วยน้ำชาลงและเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงจริงจัง “อีวานส์ เจ้าจะให้เรา ‘วารสารอาร์คานาสามัญ’ ตีพิมพ์บทความของเจ้าได้ไหม? ถึงนี่ยังไม่ถึงครึ่งเดือนของเดือนนี้ อาร์คานาสามัญฉบับเดือนหน้าจะถูกอ้างอิงมากกว่าปกติ ถ้าหนึ่งในการค้นพบครั้งสำคัญของโครงการวิจัยตีพิมพ์อยู่ในวารสารของเราล่วงหน้า”

ลูเซียนยิ้ม “ข้าเคยพูดไว้ว่าข้าจะส่งบทความให้กับนิตยสารของท่านเรื่อยๆ หากข้ามีโอกาส ท่านวูดส์ ท่านเป็นบรรณาธิการคนแรกที่คุยกับข้าวันนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ ตกลง หากบทความของข้าผ่านการรับรองจากสมาชิกสภา ข้ายินดีเผยแพร่บทความกับอาร์คานาสามัญ”

“ข้าขอขอบคุณในนามของอาร์คานาสามัญ อีวานส์ ข้าขอดูบทความที่ว่าหน่อยได้ไหม? ข้าอยากดูว่าข้าจะใส่บทความของท่านในวารสารเดือนหน้าอย่างไรดี” วูดส์ขออย่างสุภาพ ลูเซียนเพิ่งส่งบทไป และวูดส์ก็ไม่อยากชายหนุ่มผู้นี้ระแวง

ไม่มีเหตุผลที่ลูเซียนจะปฏิเสธคำขอ เขาหยิบสำเนาบทความออกมาจากกระเป๋าและส่งให้กับวูดส์ “แน่นอนขอรับ ได้เลย ข้าก็จะส่งรายงานถึงสมาชิกสภาตอนส่งบทความขออ้างอิง ทุกคนจะได้อ่านกันในวันพรุ่งนี้”

วูดส์รับเอกสารบทความมาและเริ่มอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ แม้ว่าลูเซียน อีวานส์ เพิ่งเริ่มศึกษาศาสตร์อาร์คานาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่สภากลับยกย่องบทความทั้งสองชิ้นของเขาอย่างจริงจังมาก บทความชิ้นที่สองของเขาที่ตีพิมพ์เป็นการปฏิวัติของเหล่านักเวทสายธาตุ ฉะนั้น วูดส์ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษในการจัดการกับบทความของลูเซียน

“ถ้าอย่างนั้น พืชสามารถดูดซับธาตุจากสสารที่ละลายน้ำได้อย่างเดียวงั้นหรือ?” วูดส์ตัดสินใจถามก็เพราะผู้เขียนบทความนั่งอยู่ตรงหน้าเขา

ลูเซียนไม่ได้อธิบายคำถามอย่างลงรายละเอียด แต่ก็ยังตอบให้หายสงสัย “ตามผลการทดลอง ใช่ขอรับ”

วูดส์จิบชาอีกหลายอึกก่อนเปิดไปหน้าถัดไป เขาเอ่ยปากชมการทดสอบความแตกต่างที่ลูเซียนออกแบบการวิจัยไว้ ขณะกำลังอภิปรายถึงเนื้อหาของบทความ หลังจากนั้น วูดส์อ่านไปถึงส่วนสุดท้ายของบทความระหว่างคุยกันถึงเรื่องการอภิปรายการผลิตสสารเล่นแร่แปรธาตุที่อ้างถึงในปริมาณมาก

เขาคว้าถ้วยชาอีกครั้งเมื่ออ่านการทดลองการจัดการแร่ฟอสเฟตจบ เขาอยากเปลี่ยนหัวข้อเป็น ‘การสร้างวงเวทปริมาณมาก’ อย่างไรก็ตาม ชื่อเรื่อง ‘การทดลองและการอภิปรายว่าด้วยคาร์บาไมด์สังเคราะห์’ ก็ดึงดูดความสนใจของเขาได้ดี

วูดส์สำลักน้ำชาออกมา ลูเซียนนั่งอยู่ทางด้านขวามือของวูดส์ แต่ก็ยังเปรอะไปด้วยน้ำชาที่กระเซ็นมาถึง

ลูเซียนเช็ดหน้าและถาม “มีอะไรหรือขอรับ ท่านวูดส์”

“อีวานส์ ท่านรู้ไหมว่าท่านกำลังบอกนัยอะไร?!” วูดส์มองหน้าลูเซียนและมีความกลัวซ่อนอยู่ในตาของเขา เขาก้มหน้าลงสำรวจการออกแบบการวิจัยและผลการทดลองอย่างคร่าวๆ “ท่านได้สังเคราะห์คาร์บาไมด์ด้วยก๊าซจริงๆ อย่างนั้นหรือ?” วูดส์พึมพำ ไม่อยากเชื่อข้อมูลที่เขาเพิ่งอ่าน

เขาไม่ใช่นักเวทที่เน้นศึกษาเรื่องวิญญาณ เขาต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้

“อีวานส์ ท่านทำการทดลองด้วยตัวเองหรือเปล่า?” วูดส์จ้องตาลูเซียน

ลูเซียนแกล้งทำท่าสับสนแล้วตอบไป “ขอรับ ข้าใช้วงเวทและวงเวทแร่แปรธาตุทำการทดลองจนสำเร็จ มีปัญหาอะไรขอรับ ท่านวูดส์?”

“อีวานส์ ท่านไม่เข้าใจหรือว่าการทดลองครั้งนี้มีความสำคัญขนาดไหน และปัญหาใหญ่ที่จะตามมาอีก?!” วูดส์ตะโกนออกมา เขาไม่อาจควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป

ลูเซียนส่ายหน้าและยังแสดงท่าทางงุนงงอยู่ “ข้าไม่เข้าใจขอรับ กรุณาเฉลยให้ข้าฟังหน่อยเถอะ”

“อะไรกันวะ อีกแล้วหรือ?” วูดส์สบถออกมา วางมือขวาพาดบนหน้าผาก และพยายามทำใจให้เย็นลง

หลังจากการสอบสวนในช่วงเช้า ราเวนติและแกสตันกลับมายังห้องอ่านหนังสือ ข้อเท็จจริงเดียวที่ทั้งสองคนตรวจเจอก็คือมือลอบสังหารก็คือ ‘ทราเควียร์’ สมาชิกสภาบางคนลองร่าย ‘เวทผูกดวงโหราศาสตร์’ หวังจะดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็มีพลังรบกวนและไม่สามารถเห็นผลที่แม่นยำ จนต้องขอร้องให้นักเวทชั้นตำนานช่วยร่าย ‘เวทผูกดวงโหราศาสตร์’ และอาคมอย่าง ‘เนตรศาสดา’ เพื่อหาร่องรอยหลักฐานในภายหลัง

“ท่านแกสตัน มีบทความที่ต้องรับรองวันนี้ขอรับ” หุ่นพยนต์ธาตุนำเอกสารบทความสามชุดตรงมายังแกสตัน และวางลงบนโต๊ะ ส่วนบทความอื่นๆ ถูกส่งไปยังจอมเวทชั้นกลางอย่างแลร์รี่

แกสตันสังเกตเห็นชื่อที่คุ้นตาอยู่บนบทความชิ้นแรกที่เขาหยิบมาอ่าน ‘ลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์’

แกสตันสั่งให้หุ่นพยนต์ธาตุของเขาส่งบทความทั้งหมดของลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ ให้กับเขาคนเดียว หลังจากเกิดเหตุลอบสังหาร

‘ใช้ได้ พวกเด็กๆ ทำการทดลองกันได้ดี แต่เรายังมีปัญหาเรื่องการศึกษาต้นกำเนิดอาคมเทพและจิตแห่งธรรมชาติที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แม้จะได้รับความช่วยเหลือจาก “มหาจอมเวท” …การศึกษาเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้อย่างนั้นหรือ?’ แกสตันถอนหายใจขณะอ่านบทความ นอกจากนี้ มัลฟิวเรียนจะกลับไปยัง ‘ป่าสตรู๊ป’ ในวันรุ่งขึ้น

พวกเขาต่างรู้แก่ใจดีกว่าศาสนจักรจ้องเล่นงานอยู่ แต่ก็เป็นข้ออ้างที่ดีสำหรับ ‘ราชสำนักเอลฟ์’ และ ‘สภาอาวุโสแห่งดรูอิด’ สิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ได้ก็คือการค้นพบสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติ

แกสตันเคาะนิ้วบนบทความของลูเซียนเบาๆ ‘มัลฟิวเรียนจะยอมอยู่ที่นี่ต่อหลายวันไหมนะ ถ้าเราใช้ผลการศึกษาของบทความชิ้นนี้เป็นข้ออ้าง? แต่ว่านี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาเข้าร่วมในโครงการวิจัย เขาไม่ยอมร่ายอาคมเทพให้เราศึกษา แม้จะตัดสินใจอยู่ต่อ…’ ขณะกำลังใช้ความคิด เขาเปิดหน้าถัดไปของบทความชื่อ ‘การทดลองและการอภิปรายว่าด้วยคาร์บาไมด์สังเคราะห์’

แกสตันตัวสั่นเทาราวกับว่ากระดูกสันหลังของเขาถูกกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน เขายืดตัวตรงขึ้นในทันที และตั้งฌานสมาธิกับการอ่านเนื้อหาของบมความนี้ สีหน้าท่าทางของเขากลับมาดูขึงขังจริงจัง ขณะเขายืนขึ้นและรีบวิ่งไปยังห้องทดลงเวทมนตร์

………………………..