ตอนที่ 361

Black Tech Internet Cafe System

อุณภูมิของเปลวไฟช่างร้อนพล่านปกคลุมไปทั่วพื้นที่ เตียนจู้นำมือของเขามาผสานรวมกันตรงหน้าอกของเขาและสร้างร่องรอยที่แท้จริงหลายตำแหน่ง เปลวไฟที่กำลังเผาไหม้ถูกควบแน่นกลายเป็นความร้อนที่ร้อนแรงราวกับดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า

 

ซากศพล้มตายเป็นเบือคับแน่นทั้งพื้นที่ที่เต็มไปด้วยไฟ แสงของเปลวไฟที่ลุกโชนกำลังขับไล่ความชั่วร้าย ภายในเปลวไฟหลายร่างกำลังดิ้นรนกันอย่างทุรนทุรายขณะที่หมอกสีดำกำลังละลายระเหยและกลายเป็นเถ้าถ่านภายใต้พลังงานความร้อนที่น่ากลัวนี้

 

ชุยเซียนหยันผู้เฝ้าดูการต่อสู้เขารู้สึกสนใจและตกตะลึงอย่างมาก การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไปอย่างมาก “นี่มันอะไร!?”

 

เตียนจู้ค่อยๆ ถอนสาระทางจิตวิญญาณของเขาออกทีละน้อยด้วยความโล่งใจและสับสน “ไฟยี่มุของข้าไม่สามารถทำลายแสงสวรรค์หนานหัวของหวังหลิงจ่าวคนเก่าได้ แต่กลับฆ่าปีศาจเฒ่าเฟิงได้นี่ความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของข้าเติบโตขึ้นอย่างมากมายสินะ”

 

ข้างหน้าพวกเขาเฟิงเจิงอี้ในตอนนี้กลายเป็นแค่ถ่านก้อนสีดำอย่างไม่ต้องสงสัย

 

หน้าของชุยเซียนหยันกระตุกเล็กน้อย “ข้าประหลา่ดใจไม่น้อยเลยที่เตียนจู้ได้ช่วยเหลือผู้อื่นสำเร็จ เทคนิคของท่านช่างทรงพลัง!”

 

“อย่างไรก็ตามนี่คือชัยชนะของเจ้า!” ด้วยมือที่เพรียวบางของเธอละอองเลือดที่เปรอะเปื้อนบนมือได้ลอยผ่านไปยังภูเขาในพริบตา

 

หมอกสีเลือดที่น่าสยดสยองนี้มีสายตาที่มืดมนและชั่วร้ายกำลังจับจ้องผู้ฝึกฝนที่อยู่ใจกลางของวังยี่มุ

 

“ท่านช่างเจ๋งจริงๆ” ชุยเซียนหยันหัวเราะเบาๆ “ถึงอย่างนั้นเจ้าต้องเผาพวกเขาเป็นถ่านเช่นนั้นด้วยหรอ?”

 

ใบหน้าของเธอเอ่ยถามอย่างเศร้าหมอง

 

“ศิษย์น้องเทาหยวน!?”

 

เตียนจู้ทำหน้าตกใจ

 

“ผู้อาวุโสหยินแห่งเฮารัน!?”

 

“ผู้เฒ่าเสี่ยวแห่งหนานหัว!?”

 

“ทำไมพวกท่านถึง .. มาอยู่ที่นี่!?”

 

ผู้ฝึกฝนในวังยี่มุพบว่าผู้พวกเขาที่ยืนอยู่ที่นี่ล้วนเป็นชนชั้นสูงและผู้อาวุโสจากเหตุการเมฆสีเลือด

 

บางคนก็เป็นพื้นของเขาที่อาศัยอยู่ในวังยี่มุ

 

“ท่านอาจารย์! ท่านลุงทุกคนบ้าไปแล้ว! พวกเขาฆ่าสาวกไปตั้งหลายคน .. ผู้ฝึกฝนจากหนานหัวก็เช่นกัน!”

 

“ฮ่าๆๆๆ” ชุยเซียนหยันเงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะ “มันคงดูไม่ดีหากเห็นพวกเขาฆ่ากันใช่มั้ย!?”

 

เตียนจู้ตกตะลึง เขาไม่เพียงแต่จะตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้าเท่านั้น แต่เขายังพบว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าที่แสนคุ้นเคย “เจ้า ..”

 

เขาชี้ไปที่เธอแล้วตะโกนว่า “เจ้าเองก็เป็นผู้อาวุโสไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่ใช่ผู้ปกป้องสถานที่ต้องห้ามกลุ่มหนานหัวใช่มั้ย? แล้วใยเจ้ามาทำงานให้ปีศาจนี่ทำไม!?”

 

“เกิดอะไรขึ้นกับเหล่าผู้อาวุโสและสาวก!?”

 

ใบหน้าของชุเซียนหยันเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “ข้าจะเฉยให้เจ้ารู้ก็ต่อเมื่อส่งเจ้าไปนรกแล้ว!”

 

เตียนจู้ดูหวาดเล็กน้อย “ม้วนหนังสือลับได้บันทึกไว้ว่าหายนะครั้งสุดท้ายของผู้ฝึกฝนทั้งหลายคือกระโดดขึ้นเรือช่วยเหลือปีศาจทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก หรือเอกสารนั้นจะเป็นจริง!?”

 

“มันก็แค่เวทย์มนตร์เล็กๆ ของข้า” ใบหน้าขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง “อย่างไรก็ตามจากที่ข้าพิจารณแล้ว เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจเล็กน้อย เอาล่ะ! ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งที่สองเพื่อเลือกข้าง”

 

“จงพิจารณาอย่างรอบคอบ อาจารย์ระดับสูงหลง,ูของเจ้าที่ใช้เวลาเกือบตลอดชีวิตเพื่อฝึกฝนอย่างหนัก แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยการทำลายความทุกอย่างเพื่อเข้าร่วมกับข้า ข้าสามารถทำให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อหรือจะฆ่าเจ้าให้ตายเพียงแค่คิดก็ได้!”

 

ชุยเซียนหยันกล่าวด้วยเสียงเย้ยหยัน “เจ้าต้องการเสียสละตนเองอย่างเปล่าประโยชน์เพื่อทำสิ่งต่างๆ ที่แม้แต่บรรพบุรุษของเจ้าก็ไม่สามารถทำได้งั้นหรอ?”

 

“เราจะทำสิ่งต่างๆ ที่บรรพบุรุษของเราไม่สามารถทำได้” เสียงจากท้องฟ้าดังขึ้น “เราจะทำสิ่งต่างๆ ที่บรรพบุรุษของเราไม่สามารถทำได้!”

 

ขณะเดียวกันผนังรอบข้างเริ่มมีสีฟ้าปรากฎขึ้น ผู้เฒ่าและสาวกถูกโจมตีอย่างรุนแรง ส่วนเตียนจู้และคนอื่นๆ ที่อยู่ฝั่งเดียวกันถูกขังไว้ในวงสีฟ้า 

 

มันคือ .. คำสาปดักปีศาจ!

 

“มันเป็นใคร!?” ใบหน้าของชุยเซียนหยันล้มลง

 

ทุกคนต่างหันไปทางต้นเสียงและเห็นลำแสงสีเงินพุ่งออกมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น ภายใต้เมฆดำแสงดาบนั้นสว่างราวกับดาวตกที่ตกผ่านท้องฟ้า .. แสงเหล่านั้นที่โฉบเฉียวอย่างรวดเร็วคือผู้ฝึกฝนที่กำลังบินด้วยดาบ

 

“ผู้อาวุโส!” อาจารย์ซีชิทำหน้าโกรธแค้น เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้จะเปลี่ยนไปขนาดนั้น “ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นเจ้า! ทำไมเจ้าถึงได้ยอมแพ้ต่อการล่อลวงของปีศาจ!”

 

“อย่าเข้าใจผิดไปเลยศิษย์น้องของข้า!” ขุยเซียนหยันพูดเย้ย “ข้าไม่ได้ถูกล่อลวง นอกจากนี้ข้าเองยังรู้สึกดีด้วยอายุขัยของข้านั้นยาวนานกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่าและพลังที่ยิงใหญ่ของข้าก็มากจนไม่สามารถจินตนาการได้!”

 

“ข้าไม่เคยรู้สึกดีเช่นนี้มาก่อนเลย!” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “พวกปัญญาอ่อนกำลังจะทำเรื่องปัญญาอ่อนกันอีกแล้ว!”

 

“อย่าเสียเวลากับพวกเขา” ใบหน้าใหญ่ยักษ์จากท้องฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงลึกลับ “เจ้าผู้ฝึกฝนที่น่ารำคาญมารวมตัวกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ข้าจะไม่ประมาทเหมือนครั้งก่อน เด็กน้อยพวกเจ้ามันยังต่ำต้อยเกินไป”

 

“อาจจริงในมุมมองของความแข็งแกร่งในการฝึกฝนที่เจ้ามองเรา” อาจารย์ซีชิกล่าว

 

“แต่ถึงอย่างนั้นหากเจ้าตัดสินใจวัดพลังของเราด้วยพลังของเจ้าเป็นมาตรฐานละก็ .. เจ้าเข้าใจผิดไปมาก!” หวังหลิวจ่าวกล่าว

 

ใบหน้าบนท้องฟ้าเริ่มบิดเบี้ยวไปด้วยคำพูดดูถูก ท้องฟ้าเริ่มมืดมนและลมพายุก็พัดโหมกระหน่ำพร้อมด้วยเสียงดังกึกก้อง!

 

“ท่านไม่ต้องแสงฝีมือหรอก” ชุยเซียนหยันพูดพร้อมหัวเราะอีกครั้ง “ถ้าพวกเจ้าคิดว่ามีความสามารถมากพอที่จะเอาชนะข้าได้ด้วยเทคนิคที่มีประสบการณ์อย่างเตียนจู้ ข้าจะแสดงให้เห็นเองว่าพวกเจ้ายังไร้เดียงสา!”

 

“ดี!” ใบหน้าบนท้องฟ้าเอ่ยว่า “เจ้าอยู่กับข้ามานานแล้ว แสดงพลังของเจ้าให้พวกมันเห็น!”