เทาเท่ตามหลินจือลงลิฟต์มาด้วยกัน หลินจือเอ่ยถามเขาอย่างปวดหัว : “เทาเท่ คุณว่างขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
เทาเท่ขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจ : “เจ้าเล็กผมเป็นคนซื้อมา ผมจะไปดูมันหน่อยจะเป็นอะไรไป?”
หลินจือพูดไม่ออกขึ้นมาทันที
ถ้าหากรู้ตั้งแต่แรกว่าเทาเท่ให้แมวเธอแล้วพวกเขาจะต้องมาติดต่อกันมากขนาดนี้ หลินจือจะไม่มีทางรับอย่างเด็ดขาด แต่ตอนนี้เธอกลับพูดว่าไม่ต้องการเจ้าเล็กแล้วไม่ออกเสียอย่างนั้น
เธอชอบเจ้าเล็กมากเกินไปแล้วจริงๆ ข้อแรกคือท่าทางของเจ้าเล็กดูดีมาก เหมือนกับน่าตาของคนเราที่มีทั้งสวยและขี้เหร่ แมวก็เช่นกัน
แล้วก็ไม่รู้ว่าเทาเท่ไปซื้อแมวตัวนี้มาจากไหน ทั้งสวยทั้งน่ารักอ่อนโยนมากจริงๆ
ความจริงแล้วหลินจือเองก็เป็นพวกชอบรูปลักษณ์หน้าตาเช่นกัน ไม่อย่างนั้นตอนแรกเธอก็คงจะไม่หลงใหลเปลือกนอกของเทาเท่หรอก ตอนนี้ท่าทางของเจ้าเล็กดูดีขนาดนี้ เธอจะไม่หลงได้อย่างนั้นหรือ?
ข้อที่สอง หลินจือรู้สึกว่านิสัยของเจ้าเล็กนั้นเหมือนเธอมาก เงียบ เก็บอารมณ์ ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
หลินจือเห็นเจ้าเล็กแล้วก็เหมือนกับมองเห็นตัวเองในเมื่อก่อน รู้สึกเอ็นดู รู้สึกสงสาร เป็นเพราะความรู้สึกที่หลากหลายเหล่านี้ เธอจึงไม่สามารถออกห่างจากเจ้าเล็กได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เนื่องจากว่าเทาเท่ยืนกรานว่าจะตามเธอกลับไปดูเจ้าเล็ก หลินจือจึงทำได้เพียงต้องนั่งรถเทาเท่ไปด้วย
เทาเท่ขับรถไปพลางเอ่ยพูดไปพลาง : “ที่คุณคุยกับซูซี ผมได้ยินหมดแล้ว”
หลินจือ : “………”
เธอยังคิดว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียอีก ผลปรากฏว่าเขาได้ยินหมดแล้ว หนังหน้าบางๆอย่างเธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันที จะว่าทำตัวไม่ถูกก็ทำตัวไม่ถูกอยู่เช่นกัน
เขาเป็นแบบนี้แล้ว เทาเท่ยังจะหยอกล้อเธอต่ออีก : “ผมไม่รู้เลย กับเรื่องราวเมื่อก่อนนี้ของพวกเรา โดยเฉพาะเรื่องนั้น คุณจะยังจำได้อย่างชัดเจน”
หลินจือลดกระจกรถลงมาให้ลมทางด้านนอกนั้นลดอุณหภูมิบนใบหน้าของตัวเองลงบ้าง หลังจากนั้นก็อธิบายขึ้นอย่างอ้ำๆอึ้งๆ : “ฉันทำเพื่อโจมตีซูซีเท่านั้นเอง……”
เทาเท่รู้ว่าเธอทำเพื่อโจมตีซูซี แต่ก็ตั้งใจที่จะหยอกล้อเธอ ก็เพราะอยากจะเห็นท่าทางอายหน้าแดงในตอนนี้ของเธอ เขาไม่อยากจะเห็นใบหน้าที่เย็นชาของเธออีกแล้วจริงๆ
เทาเท่หันไปถามเธออีกครั้ง : “ทำไมวันนี้ถึงอยากจะกดขี่ซูซีล่ะครับ?”
เนื่องจากว่าเขาเป็นกังวลว่าเธอจะถูกซูซีรังแกต่อไปอีก ดังนั้นถึงได้รีบไปอยู่ดูคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ทางด้านหลังตั้งแต่เช้า ถ้าหากซูซีรังแกเธอตรงไหน เขาก็จะออกหน้าแทนเธอทันที
แต่คิดไม่ถึงว่าตัวเธอเองนั้นจะข่มซูซีได้อย่างไม่สามารถตอบโต้กลับมาได้ แม้กระทั่งจากไปอย่างตกที่นั่งลำบากอีกด้วย
หลินจือมองด้านล่างแล้วเอ่ยขึ้นมานิ่งๆ : “อดทนเสียจนทนไม่ได้แล้วเท่านั้นเองค่ะ”
สามารถพูดได้ว่า ครั้งนี้ซูซีใช้วิธีที่ต่ำทรามขโมยต้นฉบับของเธอ ล้ำเส้นของเธอมากจริงๆ
“คุณไม่รู้สึกสงสารเลยเหรอคะ?” หลินจือย้อนถามกลับไปแบบนี้
เทาเท่เกือบจะโมโหเธอตายอยู่แล้ว เขาจับพวงมาลัยแน่นแล้วหันมาจ้องมองเธอพลางเอ่ยขึ้น : “คุณอยากจะทำให้ผมโมโหคุณใช่ไหม?”
หลินจือเอ่ยพูดขึ้นด้วยความสงสัย : “จริงๆแล้วฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่ว่าคุณชอบซูซีหรอกเหรอ ทำไมจู่ๆก็ไม่แต่งงานกับเธออีกล่ะคะ?”
ตอนที่เธอเพิ่งจะกลับประเทศมานั้น ข่าวที่เขากับซูซีจะแต่งงานกันนั้นกระจายไปทั่ว แล้วจู่ๆเขากับซูซีก็เลิกกัน?
“ใครบอกว่าผมชอบเธอ?”เทาเท่ย้อนถามกลับไปแบบนี้อย่างไม่พอใจ
หลินจือไม่เข้าใจ : “ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอคะ? เมื่อก่อนคุณคบกับเธอ ไม่ใช่เป็นเพราะรักเธอถึงได้คบกับเธอเหรอ?”
เทาเท่ : “……”
เขาสามารถพูดได้ว่าเมื่อก่อนที่เขาคบกับซูซีไม่ได้ใช้หัวใจเลยอย่างนั้นหรือ?
เพียงแค่รู้สึกว่าทุกๆด้านของเธอนั้นเหมาะสมกับการเป็นนายหญิงของตระกูลฟอเรนา อีกทั้งพ่อแม่ของเขาเองก็พอใจในตัวเธอมากด้วยเช่นกัน เขาก็ทำตามสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยคบกับซูซีไปเลย
ไม่ได้รักซูซีมากอะไรเหมือนอย่างที่หลินจือพูด อีกทั้งจนถึงตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจ ว่าเมื่อก่อนเขาอยากได้ผู้หญิงที่สามารถมาเป็นนายหญิงของตระกูลฟอเรนา แต่ตอนนี้ที่เขาต้องการก็คือผู้หญิงที่เขาเทาเท่รัก
ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะสามารถเป็นนายหญิงของตระกูลฟอเรนาได้หรือไม่ เขาก็ต้องการ
แต่เทาเท่เองก็รู้ ถ้าหากเขาบอกว่าไม่ได้ชอบซูซีขนาดนั้น หลินจือจะต้องรู้สึกว่าเขาคนนี้ความรู้สึกจืดจางไปแล้ว ทั้งๆที่เกือบจะแต่งงานกันอยู่แล้วยังพูดว่าไม่ได้ชอบขนาดนั้นอีก
แต่ถ้าหากไม่อธิบาย ก็จะเห็นได้ชัดว่าเขาชอบซูซีมากจริงๆ
สรุปแล้วเวลานี้ เทาเท่รู้สึกว่าเขาข้ามผ่านข้อยากๆทางธุรกิจมามากมายขนาดนั้นแล้ว ไม่ได้ยากเหมือนกับข้อนี้เลย
ก็เลยไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็สร้างคำพูดที่เหมาะสมเอาไว้ได้ : “ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเธอ ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้นอย่างที่คุณคิด”
กลัวว่าหลินจือจะไม่เชื่อ เขาก็อธิบายขึ้นมาอีกครั้ง : “ผมไม่ได้แตะต้องเธอ…..”
หลินจือละสายตาไปพลางเอ่ยขึ้น : “ไม่ได้สัมผัสแตะต้องเธอ ก็ไม่ได้เหมือนความว่าความรู้สึกไม่ได้ลึกซึ้งใช่ไหมคะ?”
เทาเท่เงียบไปพักหนึ่ง เขาตอบเธอเบาๆ : “รู้จักกันนานจนเกิดเป็นความรัก ไม่ใช่เหรอครับ?”
อย่างเช่นเขากับเธอ
หลังจากหลินจืออึ้งไปพักหนึ่งนั้นถึงได้ขบคิดว่าที่รู้จักกันนานจนเกิดเป็นความรักของเทาเท่นั้นหมายถึงอะไร มิน่าล่ะเขาถึงตั้งใจเน้นคำแรกเป็นพิเศษ
เธอกัดฟันโมโหเขาขึ้นมา หลังจากที่ถลึงตาใส่เขาแล้วก็หันไปมองนอกหน้าต่างอย่างหงุดหงิด
และก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คำพูดของเขานั้นนับวันก็ยิ่งไร้ยางอายแบบนี้
เทาเท่เห็นท่าทางของเธอแบบนี้ก็อดที่จะยกมุมปากขึ้นมาไม่ได้
ทั้งสองคนกลับมายังที่พักของหลินจือ พอเปิดประตูนั้นแมวของเจเทาวน์ก็มาต้อนรับ บางทีแมวก็ทำตามเจ้าของ เจ้าหนูเห็นเทาเท่แล้วก็ร้องเหมียวขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจที่เห็นเทาเท่ปรากฏตัวอยู่ที่นี่
เทาเท่เองก็ไม่ชอบเจ้าหนูเช่นกัน ไม่ชอบใครก็จะไม่ชอบของของคนๆนั้นด้วย เขาเกลียดเจเทาวน์ ก็เกลียดแมวของเขาด้วยเช่นกัน
แต่หลินจือก้มตัวลงอุ้มแมวตัวนั้นขึ้นมาอย่างอ่อนโยน เทาเท่รู้สึกไม่ดีนัก เหมือนกับหลินจือกำลังกอดเจเทาวน์อยู่เลยอย่างไรอย่างนั้น
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว หลังจากที่เขาจ้องมองแมวตัวนั้นแล้วก็เปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินเข้ามาพลางเอ่ยถาม : “เจเทาวน์กลับมาเมื่อไหร่ครับ รีบเอาแมวตัวนี้ของเขาไปเถอะ”
หลินจือเอ่ยพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก : “เดี๋ยวเขาก็กลับมาแล้วค่ะ”
เทาเท่รำคาญจะตายอยู่แล้ว
เจทาวน์คนนี้มีแผนการมากจริงๆ เขาจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าหลินจือชอบสัตว์ตัวเล็กๆ ตัวเองกลับมาไม่ได้ ดังนั้นจึงคิดวิธีที่จะให้แมวของตัวเองมาครอบครองหัวใจของหลินจือ
โชคดีที่เขาเองไม่ใช่พวกเรื่องมาก ส่งแมวอีกตัวหนึ่งมาในทันที เพื่อให้แข่งกับแมวตัวนี้ของเจเทาวน์
แต่แมวตัวนั้นที่เขาส่งมานั้นดูเหมือนจะขี้ตื่นตกใจมาก เขาเข้ามาในห้องตั้งนานแล้วก็ยังหาเงาของมันไม่เจอเลยเสียด้วยซ้ำ
“เจ้าเล็กล่ะครับ?”เขาอดที่จะเอ่ยถามหลินจือขึ้นมาไม่ได้
“คงจะอยู่ใต้โซฟาน่ะคะ” จากการที่ได้สัมผัสกันมาเมื่อวานนี้ หลินจือเข้าใจนิสัยของเจ้าเล็กแล้ว
เดิมทีนิสัยกลัวคนแปลกหน้าอยู่แล้ว หรือบางทีเป็นเพราะในบ้านมีแมวอีกตัวหนึ่งอยู่ ดังนั้นนอกจากเจ้าเล็กจะกินข้าวกินน้ำเข้าห้องน้ำแล้ว เวลาส่วนมากก็จะซ่อนตัวขึ้นมา ไม่อยู่ใต้โซฟาก็อยู่หลังตู้
เทาเท่ก้มตัวลงเตรียมจะดึงตัวเจ้าเล็กออกมาจากใต้โซฟาอย่างเข้มงวดเพื่อหวังจะให้ดีขึ้น แมวตัวนี้ทำไมถึงได้ไม่เอางานเอาการแบบนี้นะ ซ่อนตัวอยู่ทั้งวันแบบนี้ ในอ้อมกอดนายหญิงผู้งดงามอ่อนโยนจะยังมีที่สำหรับมันเสียที่ไหนกัน?
เนื่องจากตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองเมื่อเทียบกับเจทาวน์ ดังนั้นเทาเท่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าเล็กจะสามารถได้ใจหลินจือมาได้อย่างเร็วที่สุด แต่มันกลับไม่เอางานเอาการเลยแม้แต่นิดเดียว