ตอนที่ 475 ได้โปรด ช่วยเธอด้วย (2) / ตอนที่ 476 นายมันสมองป่วยสุดๆ

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 475 ได้โปรด ช่วยเธอด้วย (2)

อาหารที่คุณซ่งเตรียมไว้เรียกได้ว่าเป็นอาหารหรูหรา มีแม้กระทั่งอาหารตะวันตก เมื่อสายตานักชิมอย่างอันซย่าซย่ามองออกไปก็มีบับเบิ้ลแห่งความสุขลอยขึ้นบนศีรษะ

หลังจากทักทายกันไม่กี่คำ คุณซ่งก็บอกให้เริ่มทานกันได้ เธอจึงทานอย่างมีความสุข

คุณซ่งยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอันซย่าซย่ากินจนแก้มพองออกมา เขาอดพูดไม่ได้ว่า “ทานเยอะๆ นะ”

“ขอบคุณค่ะคุณอา” อันซย่าซย่าพูดไม่เป็นคำ เมื่อคุณซ่งได้ยิน สายตาก็หม่นหมอง

เซิ่งอี่เจ๋อคีบของโปรดให้อันซย่าซย่าพลางกำชับ “กินช้าๆ หน่อย อย่ากินจนแน่นล่ะ”

แต่ผลก็คืออันซย่าซย่ากินจนแน่นท้อง

เดิมทีเธอกินไม่ได้มาก แต่วันนี้ล้วนเป็นอาหารจานโปรดของเธอทั้งนั้น

มีให้เลือกมากมายจนทำเอาเธอตาลายไปหมด กินไปกินมาก็กินจนแน่นท้อง

โชคดีที่สุภาพบุรุษอย่างคุณซ่งเสนอให้ดื่มชาสักหน่อย เซิ่งอี่เจ๋อประคองอันซย่าซย่าไปที่โซฟาด้วยสีหน้าจนปัญญา เขาลูบพุงกลมๆ ให้เธอ

“ยัยหมู!” เซิ่งอี่เจ๋อพูดอย่างหมั่นไส้

อันซย่าซย่ามองเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอปัดมือเขาแล้วลูบท้องตัวเอง

คุณซ่งจ้องมองอันซย่าซย่าไม่วางตาราวกับว่าจะไม่ยอมพลาดการแสดงออกที่สดใสของเธอ

เซิ่งอี่เจ๋อเห็นถึงความผิดปกติจึงพูดเบาๆ “คุณอาซ่งครับ ซย่าซย่ายังมีเรียนพิเศษ ผมขอตัวไปส่งเธอก่อนนะครับ”

การพูดทดสอบไปแบบนี้ทำให้คุณซ่งแสดงสีหน้าร้อนใจอย่างมากโดยไม่คาดคิด

เขากระแอมเสียง “นั่งต่ออีกหน่อยดีไหม? ฉันเตรียมชากับของว่างให้พวกเธอด้วย”

หลังจากที่เขาปรบมือ สาวใช้ไม่กี่คนก็รีบนำชาและของว่างชั้นเลิศออกมาเสิร์ฟ อันซย่าซย่าพยายามลุกขึ้นมากิน แต่ท้องของเธอกลมเกินไปและไม่สามารถขยับได้

เมื่อเห็นอาหารชั้นเลิศที่อยากกินแต่กินไม่ได้ ใครจะเข้าใจ / (ㄒoㄒ) /~~

เซิ่งอี่เจ๋อเหลือบมองไปชาและของว่างก็ยิ้มเยาะที่มุมปาก

เป็นของโปรดอันซย่าซย่าอีกแล้ว

ตอนกินข้าวเมื่อกี้นี้เขาก็สังเกตเห็นแล้ว เว้นแต่จะเป็นการตรวจสอบความชอบของอันซย่าซย่ามาเป็นพิเศษ ไม่อย่างงั้นก็คงไม่บังเอิญเช่นนี้!

“อี่เจ๋อ อามีเรื่องอยากจะคุยกับซย่าซย่าสักหน่อยน่ะ” คุณซ่งมองมาทางเขา แทบจะเหมือนเป็นการอ้อนวอน

เซิ่งอี่เจ๋อเลิกคิ้ว “ครับ”

ดูเหมือนว่าสุนัขจิ้งจอกทนไม่ไหวที่จะแสดงพิรุธออกมา

เขาลูบผมอันซย่าซย่าแล้วยัดโทรศัพท์มือถือไว้ในมือเธอ ทั้งยังกระซิบกำชับว่าถ้ามีอะไรให้โทรหาเขาได้ จากนั้นก็ตามพ่อบ้านไปเดินเล่นที่สวนข้างหลัง

อันซย่าซย่านั่งตัวตรงอย่างเหนื่อยหน่ายเหมือนนักเรียนที่กำลังโดนตรวจสอบ คุณซ่งอดหัวเราะไม่ได้

“ซย่าซย่า…หนูเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ …” เขาถอนหายใจ

อันซย่าซย่ายิ้มแหย เธอแอบให้คำจำกัดความเขาว่าคุณลุงจอมประหลาด

แปลกมากที่เขาเอาแต่จ้องเธอตลอดเวลา

“อันที่จริง อามีคำขอหนึ่งที่ยากเกินกว่าจะเอ่ย อยากให้หนูช่วย…” คุณซ่งถอนหายใจและมองอันซย่าซย่าด้วยแววตาสว่างไสว

อันซย่าซย่า “เอ่อ…คุณอาพูดมาเถอะค่ะ ถ้าช่วยได้หนูจะช่วย!”

คุณซ่งหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบเล็กน้อย สักพักกลิ่นชาอู่หลงก็ลอยฟุ้งไปทั่วห้อง

“เรื่องที่ซ่งซ่งทำตัวเหลวไหลก่อนหน้านี้ อารู้หมดแล้ว อาต้องขอโทษหนูกับอี่เจ๋อแทนเธอด้วยนะ…อาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยความผิดพลาดที่เธอก่อไว้” คุณซ่งค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ

อันซย่าซย่ายิ้มแห้งโดยไม่ได้แสดงท่าทีอะไร

เธอไม่สามารถให้อภัยกับสิ่งที่ซ่งชิงเฉินทำได้

“ซ่งซ่งมีภาวะโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ ซึ่งพบในระหว่างการตรวจร่างกายครั้งล่าสุด…เธอจึงมีอารมณ์แปรปรวนเมื่อตอนที่อยู่ต่างประเทศ อาจึงไปรับเธอกลับมารักษาตัวในประเทศ…ตอนนี้การปลูกถ่ายไขกระดูกเป็นหนทางการรักษาที่ดีที่สุด…” คุณซ่งมองตาอันซย่าซย่าจนอันซย่าซย่ามึนงง

แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?!

ตอนที่ 476 นายมันสมองป่วยสุดๆ

“ซ่งซ่งกับเธอมีกรุ๊ปเลือดเดียวกัน ฉันอ่านข้อมูลการตรวจร่างกายเธอแล้ว ดัชนีทุกด้านของเธอและหล่อนมันสอดคล้องกันมาก ดังนั้น ฉันขอร้องอย่างจริงใจ บริจาคไขกระดูกให้ซ่งซ่งเถอะนะ ได้โปรดช่วยหล่อนด้วย”

อันซย่าซย่าเข้าใจได้ทันที เธอหมู่โลหิต Rh ลบ หรือที่เรียกว่ากลุ่มเลือดแพนด้า ซึ่งเป็นกรุ๊ปที่หาได้ยาก

ที่แท้ที่อีกฝ่ายเลี้ยงข้าวเธอเยอะขนาดนั้น ก็เพื่อไขกระดูกของเธอสินะ

อันซย่าซย่าก้มศีรษะลงเล็กน้อย ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนโดนหลอกขึ้นมา

คุณซ่งที่คิดว่าเธอคงปฏิเสธ จึงหยิบเช็คธนาคารใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท เขียนตัวเลขลงไปอย่างสง่างาม แล้วยื่นให้อันซย่าซย่า

ดวงตาอันซย่าซย่าเบิกโพลง รู้สึกเช็คใบนั้นราวกับต้มตุ๋นคนได้ เธอจึงยื่นกลับคืนไป

คุณซ่งไออย่างเก้งก้าง คิดสักพักก่อนรับเช็คคืนมา แล้วฉีกเช็คใบใหม่อีกใบ

ครั้งนี้ เขาเพียงแค่เซ็นชื่อไว้เท่านั้น จากนั้นก็ยื่นให้ซย่าซย่า

“เธอเขียนจำนวนเงินได้ตามใจเลย”

อันซว่าซย่าเลือดขึ้นหน้า นิ้วมือก็กดปุ่มโทรด่วนอย่างไม่ทัน ซึ่งมันต่อสายไปที่โทรศัพท์ของเซิ่งอี่เจ๋อ เซิ่งอี่เจ๋อจึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาเห็นอันซย่าซย่าคำนับคุณซ่งด้วยความกระอักกระอ่วนใจ “ขอโทษนะคะ ฉันรับไว้ไม่ได้ค่ะ”

แววตาเขาฉายแววโกรธออกมา

คุณซ่งหมายความว่าอะไรกันแน่ ทำไมให้เช็คอันซย่าซย่า

หรือที่ทำดีด้วยก่อนหน้านี้ล้วนเป็นภาพลวงตา เพียงเพื่อมาเหยียบย่ำอันซย่าซย่าที่นี่หรือ

ด้วยความโกรธที่พรั่งพรูออกมา เขาก้าวไปข้างหน้า คว้ามือเล็กเรียวของอันซย่าซย่าไว้ แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ลุงซ่งครับ พวกเราขอตัวนะครับ”

พูดจบ เขาก็โอบอันซย่าซย่า เดินจากไปอย่างเร่งรีบ

คุณซ่งยิ้มอย่างขมขื่นอยู่บนโซฟา เขาทำผิดตรงไหนกันนะ

เขาอยากจะช่วยซ่งซ่ง เลยทำดีกับอันซย่าซย่าอีกครั้ง แต่เหมือนเขาจะทำไม่สำเร็จทั้งสองรอบ

แสงอาทิตย์อันสดใส เซิ่งอี่เจ๋อเม้มริมฝีปากบางจนเป็นเส้นตรง ใบหน้าหล่อเหลาราวกับประติมากรรมที่เคลือบด้วยชั้นแสงสีทองก็ไม่ปาน

เขาพาอันซย่าซย่าเข้าไปในรถ สั่งคนขับรถอย่างเยือกเย็น “ออกรถ! ไปบ้านอัน!”

คนขับรถสะดุ้งโหยง รีบออกรถอย่างรวดเร็ว

เขาชำเลืองมองท่าทีเซิ่งอี่เจ๋อผ่านกระจกหลัง เหมือนไม่ได้เห็นคุณชายโกรธแบบนี้มานานมากแล้ว

“เซิ่งอี่เจ๋อ…นายจะทำอะไร…” อันซย่าซย่าดึงแขนเสื้อเขา

เซิ่งอี่เจ๋อทำหน้าบึ้ง “ยัยโง่! เขาให้เงินเธอ เธอก็จะรับ น่าหงุดหงิดชะมัด!”

“หะ” อันซย่าซย่ามองเขาด้วยความงงงวย

“ไม่ใช่ว่าเขาวางเช็คให้เธอเลิกกับฉันเหรอ” หน้าอกเซิ่งอี่เจ๋อไหวขึ้นลงอย่างหนักหน่วง

รังควานอันซย่าซย่า สู้มารังควานให้เขาโมโหยังจะดีเสียกว่า

“เขาไม่ได้ให้ฉันเลิกกับนาย” อันซย่าซย่าระงับโทสะเขาสำเร็จ

ความโกรธแค้นเซิ่งอี่เจ๋อกลายเป็นก้อนเลือด ที่จุกอยู่ภายในลำคอ

“เขาบอกว่าซ่งซ่งป่วย ขอให้ฉันบริจาคไขกระดูกให้ แต่กลัวว่าฉันจะปฏิเสธเลยให้เงินฉัน” อันซย่าซย่าอธิบายเสียงเบา “เป็นครั้งแรกที่ฉันพบว่า ตัวเองยังคุ้มค่ากับเงินมากมายขนาดนี้!”

เซิ่งอี่เจ๋อเงียบไปสองวินาที หยิกแก้มยุ้ยของเธอ แล้วถามออกมาว่า “ทำไมเธอไม่พูดให้เร็วกว่านี้”

“ก็นายมันสมองป่วยสุดๆ ไง…” อันซย่าซย่าพูดแขวะ ซึ่งมากับแลกความรุนแรงที่มากขึ้น เธอรู้สึกใบหน้าตนถูกหยิกจนแดงแล้ว จึงขอโทษเสียงอ่อน “ฉันผิดไปแล้ว หยุดหยิกได้แล้ว!”

เซิ่งอี่เจ๋อส่งเสียงหึ แล้วปล่อยมือ

แขนเสื้อถูกดึงเบาๆ อีกครั้ง เสียงอ่อนโยนของหญิงสาวก็ดังขึ้น “ซ่งซ่งกลับประเทศแล้ว นายต้องไปเยี่ยมเธอรึเปล่า”

สายตาเซิ่งอี่เจ๋อเปลี่ยนไป แล้วถามกลับอย่างจริงจังว่า “เธออยากให้ฉันไปหรอ”

อันซย่าซย่าเหมือนกับว่าได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ “งั้นพวกเราก็ไปด้วยกัน!”