ณ ร้านครึ่งเมือง
แม้ว่าฟางฉีจะไม่ได้มีการโฆษณาใดๆ เกี่ยวกับสินค้า แต่สำหรับคนอื่นที่มองเข้ามาแล้ว การต่อสู้กับปีศาจหรือผลลัพท์ที่ได้นั้นส่งเสริมการขายมากกว่าโฆษณาเป็นไหนๆ และที่สำคัญลูกค้าแต่ละรายสามารถเข้ามาในร้านและชมปีศาจได้ฟรี!
หลังการต่อสู้ครั้งนี้ในเมืองครึ่งยังคงดูวุ่นวายเช่นเดิม แต่มันสงบสุขกว่าเดิม
ขณะเดียวกันเกมเก่าๆ ที่จิวหัวอย่าง Resident Evil, Diablo และเซียนกระบี่พิชิตมาร ได้เปิดตัวในร้านที่เมืองครึ่งทีละเกม เกมเหล่านี้ครอบคลุมหลายประเภทรวมไปถึงนิยายแฟนตาซีสมัยใหม่ซึ่งตอนนี้ถือเป็นที่ดึงดูดผู้เล่นกลุ่มใหญ่ไม่น้อย
ในโหมดหมู่แฟนตาซีร้านนี้มีเซียนกระบี่พิตมารและกระบี่เทพสังหารรวมไปถึงไปถึงศึกเทพยุทธภูผาซู ผู้ฝึกฝนหลายคนรู้สึกตื่นเต้นที่พวกเขาจะได้สัมผัสกับเรื่องราวของการฝึกฝนชนิดใหม่ๆ ทุกชนิดคาถาทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังพร้อมด้วยสมบัติทางจิตวิญญาณที่มากมายที่ยากจะพบเห็น
องค์ประกอบต่างๆ เช่นผู้ฝึกฝนระดับสูงนักรบผู้เชี่ยวชาญเรื่องเวทย์มในตร์ สมบัติทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งนั้นอาจดูธรรมดาสำหรับพวกเขา แต่หารู้ไม่ว่าอีกไม่นานพวกเขาจะได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ใน Rsident Evil และ GTAV ตามด้วยอารยธรรมที่แตกต่างของ Diablo และคาถาใหม่ๆ อย่างในแฮร์รี่พอร์ตเตอร์แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องแปลกใจ
นั่นเป็นสาเหตุที่เกมและหนังใหม่เป็นสิ่งที่ดึงดูดทั้งผู้เล่นประจำและผู้เล่นหน้าใหม่ สำหรับผู้เล่นการเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝนถือเป็นผลพลอยได้ พวกเขาจะได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นพร้อมเรียนรู้อารยธรรมที่น่าทึ่งและแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้แม้แต่ GTAV เองก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
ตัวอย่างเช่นหลังจากที่จุนหยางชีได้ใช้เวลาไปกับการวิจัยและสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณโดยคัดลอกจากกลุ่มภูเขาซูแล้ว เขาก็จะใช้เวลาว่างของเขาไปกับการแข่งรถใน GTAV เพื่อเป็นการพักผ่อนนอกจากนี้เขายังซื้อเพลงในคิวโซนไว้ฟังเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้เขายังสามารถเข้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนในการเข้าปล้นธนาคารเพื่อสร้างรายและเพิ่มระดับการฝึกฝนได้อีกด้วย
สำหรับกลุ่มพันธมิตรวู่เว้ยเองพวกเขาไม่มีข้อจำกัดในการวิจัยนอกจากกระจกสวรรค์แล้วพวกเขามีอย่างอื่นให้ค้นคว้าอีกมาก
ขณะเดียวการค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปกับร้านของฟางฉีไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา พวกเขามองว่ามันคุ้มค่าที่จะแลกมา การวิจัยโครงสร้างสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณระดับสูงอย่างเช่นกระจกสวรรค์นั้นใช้จ่ายมากยิ่งกว่า แม้แต่ทางดินแดนทะเลดวงดาวเองก็พบว่ามันยากและคงจะมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยหากจะทำการเลียนแบบ
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งประดิษฐ์จึงหันเหความสนใจของพวกเขาไปวิจัยเกี่ยวกับวัตถุระดับล่าง แต่มีการใช้การอย่างแพร่หลายเช่นการปลูกถ่ายเวทย์มนตร์ อุปกรณ์สื่อสารอย่างหยกรวมไปถึงภาหนะใหม่
สำหรับบางกลุ่มพวกเขาพบวัตถุมากมายที่พวกเขาอาจมีโอกาศได้ใช้ในภายหลังนั้นจึงไม่ผิดหากพวกเขาเริ่มแสวงหาความรู้เพิ่มขึ้น
ท้ายที่สุดขณะเดียวกันระหว่างที่ผู้ฝึกฝนกำลังศึกษาวัตถุระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญเองก็ต้องทำการจัดการให้ดีเช่นกัน เพื่อที่จะได้ออกมาสมบูรณ์แบบและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
หลี่เฮารันไม่สามารถทำงานล่วงเวลาได้เลยในตอนนี้ เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยหลังจากทำการค้นคว้าสมบัติทางจิตวิญญาณ เขาได้เรียนรู้จากเรื่องราวในตำนานเป็นครั้งคราวเท่านั้นเพราะส่วนมากเขาจะเน้นพลังงานส่วนใหญ่ไปทางเกม GTAV ซะมากกว่าในตอนนี้
เวลาเดียวกันเขาเองกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะขาวในห้องวิจัยโดยมีผู้เชี่ยวชาญตรงหน้ารุ่นราวคราวเดียวกัน การสื่อสารของหยกในมือของเขานั้นสะดวกและชัดเชนกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่เขาได้ฉีดสารสำคัญลงในหยก
หลี่ฌอารันกล่าวว่า “ข้าแน่ใจว่าเจ้าต้องเคยเห็นคาถาเช่นนี้มาก่อนซึ่งมันทำให้การส่งสัญญาณของเสียงได้ไกลถึงห้าร้อยกิโลเมตร”
“อย่างไรก็ตามการสะกดแบบนี้สามารถสื่อสานกับหยกธรรมดาได้ตามปกติ พวกท่านมีข้อเสนอแนะมั้ย?”
“อืม ..” ผู้เชี่ยวชาญมองดูและพูดว่า “หรือบางทีเราควรมีการบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วย ซึ่งในการผลิตนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเดิมมาก”
“นอกจากนี้มันจะคล้ายคลึงกับโทรศัพท์สมัยใหม่เราสามารถช้พลังงานลมปรานของเราเพื่อควบคุมมันได้” ผู้ชี่ยวชาญด้านสิ่งประดิษฐ์กล่าวต่อว่า “มันช่วยให้เราประหยัดเวลาและพลังงานได้อีกด้วย”
“แต่การควบคุมด้วยนิ้วอาจยากเกินกว่าจะทำได้” ผู้เชี่ยวชาญอีกคนพยักหน้า “อืม .. ก็ควบคุมมันด้วยพลังภายใน”
“ใช่! ข้าคิดว่านอกจากนี้เรายังสามารถเก็บหยกสื่อสารเพื่อใช้ถ่ายเปลี่ยนข้อมูลสำคัญได้”
“เราควรสร้างโปรแกรมเล็กในโทรศัพท์”
“…”
หลังจากการระดมสมองหารือกันแล้วโครงการก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
“ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำของท่าน ถ้าเราสามารถผลิตหยกสื่อวานได้ตามที่ออกแบบจากความคิดของเรา เราจะกลายเป็นผู้นำคนล่าสุดในโลกผู้ฝึกฝน”
ทุกคนพยักหน้า
หลี่ฌอารันกล่าวว่า “ข้าเรียกมันว่าสงครามการสื่อสารเราศึกษาคาถาจิตวิญญาณตลอดทั้งปี แต่บางทีเราอาจจะละเลยผลกระทบของมันไปบ้าง ลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากการสื่อสารของศัตรูเราถูกตัดออกไปจากสงครามโดยที่เรายังคงสภาพอยู่อย่างสมบูรณ์”
…
เวลาเดียวกัน ณ กลุ่มไทชิ
เหล่าสาวกได้รับการดูแลแต่พวกเขาดูไร้ชีวิตชีวาแววตาของพวกเขาไม่ได้เปล่งประกายเหมือนแต่ก่อน
“การรักษาแบบนี้มีประสิทธิภาพ แต่ก็ให้ผลข้างเคียงบางอย่างในร่างกาย” เฟงชิอธิบาย “ในความเป็นจริงการเสพติดอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ได้อันตรายมาก แต่เราจำเป็นต้องทำเช่นนี้หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ถือโทษเรา”
“แน่นอนเราไม่โทษเจ้า!” ผู้อาวุโสของกลุ่มกล่าวด้วยเสียงเกลียดชัง “เราจะไม่ยกโทษให้ตาจิน จากการปฏิบัติอันชั่วร้าย หากไม่ใช่เพื่อพวกเขาสาวกของเราจะต้องไม่มีจบลงด้วยวิธีแบบนี้ ไม่ต้องกังวลหลังจากเรากลับไปเราจะรวบรวมกองกำลังกลุ่มสำคัญทั้งหมดเพื่อทำสงครามกับตาจิน!”
“ทำสงคราม!” ผู้ฝึกฝนหลายคนร่วมประกาศก้องด้วยความเกลียดชัง “เราต้องทำลายคนชั่วเหล่านี้เพื่อระบายความโกรธ!”
“หลังจากที่เรากลับมาแล้วเราจะรายงานเรื่องนี้ต่อหัวหน้ากลุ่มเพื่อวางแผนสงคราม!”