บทที่ 153 ยิ่งกลัวยิ่งเจอ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“เหล่าซือ!” เมื่อเห็นท่าทีของซือเฮ่าเจียที่กำลังต่อกรกับเย่เทียน โจ๋หย่วนหันกังวลจนเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก

จี้เยียนหรันเป็นเหมือนเจ้าหญิงคนเดียวในบ้านตระกูลจี้ แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับเย่เทียนก็ไม่ชัดเจน ส่วนโจ๋หย่วนหันก็เป็นคนที่ต้องทำมาหากินในเจียงหนัน

ถ้าวันหนึ่งเย่เทียนกลายเป็นคนของตระกูลจี้อย่างเต็มตัว และถ้าหากวันนั้นเย่เทียนคิดจะเล่นงานเขา แล้วเขาจะอยู่ในเจียงหนันต่อได้อย่างไร?

“เหล่าโจ๋ อย่าห้ามผม”

“วัยรุ่นสมัยนี้ อายุน้อยๆ แต่ไม่รู้จักสัมมาคารวะ ถ้าไม่สั่งสอนให้ดี อนาคตจะเอาอยู่เหรอ?”

ซือเฮ่าเจียยืนหยัดที่จะปรับทัศนคติให้กับเย่เทียน

“ผู้บัญชาซือ ผมคิดว่า ยังไงคุณก็เป็นถึงผู้บัญชาแล้ว แต่ผมไม่นึกเลยว่าคุณจะใจแคบขนาดนี้ มันช่างน่าผิดหวังจริงๆ นะครับ”

การที่ถูกคนอื่นต่อว่าอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ แม้แต่คนที่มีนิสัยดีที่สุดยังไม่พอใจได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับเย่เทียน?!

เมื่อเห็นเย่เทียนแสดงท่าทีที่ดูถูกตัวเอง ซือเฮ่าเจียก็ขมวดคิ้วขึ้นแน่นๆ

“พ่อหนุ่ม การที่คุณเก่งในเจียงหนันได้ ก็เพราะคนอื่นเขาเห็นแก่ตระกูลจี้ แต่ไม่ใช่เห็นแก่คุณหรอกนะ”

“อายุน้อยๆ คุณควรทำตัวดีๆ หน่อย ไม่ใช่จะหยิ่งทะนงแบบนี้”

เหตุผลที่เขาพูดมากขนาดนี้ ก็เพราะเขากังวลชีวิตของโจ๋หย่วนหัน

สิ่งที่โจ๋หย่วนหันคิดได้ แล้วทำไมเขาถึงคิดไม่ได้?

ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ใช่แค่การตักเตือนเท่านั้นแล้ว ด้วยคำพูดของเย่เทียนก่อนหน้านี้ เขาสามารถจับเย่เทียนขังได้ด้วยข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานเลยด้วยซ้ำ

เพียงแต่ว่า เขาไม่รู้หรอกว่าเขากำลังเผชิญกับคนประเภทไหนอยู่!

ในสายตาของเย่เทียน เขาคิดว่าซือเฮ่าเจียคนนี้คงเบ่งอำนาจจนเคยชินไปแล้ว ไม่พอใจอะไรก็ใส่อารมณ์ตามใจชอบ โดยเฉพาะการแสร้งทำเป็นว่าเป็นห่วงคนอื่น ซึ่งมันดูแล้วน่าขยะแขยงจนถึงขีดสุด!

เย่เทียนได้แต่แสยะยิ้มเบาๆ และในใจไม่คิดจะถือสาผู้บัญชารองของสถานีตำรวจเมืองเอกคนนี้เลยด้วยซ้ำ

“ผมขอให้คุณมาสั่งสอนผมตั้งแต่เมื่อไหร่? ผมกับคุณเป็นญาติกันเหรอ?”

“ที่สำคัญ คุณมีสิทธิ์อะไร?!”

ในตอนท้าย น้ำเสียงของเย่เทียนก็เย็นชาลง

“ไอ้หนู นายมันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ เลยนะ!”

ซือเฮ่าเจียก็เริ่มโกรธ สีหน้าบูดบึ้งลงทันที เขาไม่นึกเลยว่าเย่เทียนผู้ที่หยิ่งทะนงคนนี้จะไม่มองเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ

“เหอะๆ คนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีคือคุณต่างหาก!”

เย่เทียนหัวเราะอย่างเย็นชาและมองซือเฮ่าเจียด้วยสายตาอันเฉียบคม

“คุณคิดว่าซือเฮ่าเจียอย่างคุณจะเป็นคนสูงส่งกว่างั้นเหรอ คุณรู้ไหม ในสายตาผม คุณก็แค่มดตัวน้อยที่ผมจะบีบให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้!”

“ต่อให้ยังไม่ถึงเวลาตายของคุณ ยมบาลก็ห้ามไม่ได้ถ้าผมจะฆ่าคุณ!”

ซือเฮ่าเจียถึงกับผงะไป แต่เมื่อตั้งสติได้ เขาก็หัวเราะออกมาเหมือนเพิ่งได้ฟังเรื่องตลกที่สุดในโลก

“นายชื่อเย่เทียนใช่ไหม? นายคิดว่านายคือใคร? นายมีปัญญาฆ่าข้าจริงเหรอ?”

“จะบอกให้นะ ข้าเป็นตำรวจอาชญากร ต่อให้ข้าไม่ได้ยืนอยู่แถวหน้ามาหลายปีแล้ว แต่ข้าไม่ได้ต่อกรง่ายขนาดนั้นนะจะบอกให้!”

“แล้วที่สำคัญ นายเบิกตากว้างแล้วมองให้ชัด ที่นี่คือสถานีตำรวจของเมืองเอก ถ้านายสร้างปัญหาที่นี่ นายจะหนีรอดไปได้งั้นเหรอ?!”

เย่เทียนแสดงรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากของเขา “ถ้าผมจะฆ่าคุณ มันก็แค่ธุระภายในสามถึงห้าวิเท่านั้น!”

ซือเฮ่าเจียรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของเย่เทียนมาก เขาได้แค่จ้องเขม็งไปที่เย่เทียนและตัดสินใจว่าจะจับเย่เทียนเข้าคุกให้ได้!

แต่ว่า หลังจากที่เขาเกิดความคิดแบบนั้น ความรู้สึกถึงอันตรายอย่างสุดขั่วก็ผุดขึ้นในใจเขา และความเย็นเยือกก็ได้ผุดขึ้นจากเท้าจนไปถึงบนศีรษะของเขาจนทำให้เขาขนลุกขึ้นทั้งตัว!

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง สายตาของเขาก็บังเอิญสบเข้ากับสายตาอันนิ่งสงบของเย่เทียน ความรู้สึกนั้น มันหยั่งรู้เหมือนหมู่ดาวอันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต!

ซือเฮ่าเจียถึงกับตัวสั่นอย่างกะทันหัน เขารู้สึกว่าสายตาของเย่เทียนนั้นน่ากลัวมาก เขาทำได้เพียงหลบสายตาและไม่กล้าสบตาเย่เทียนอีก ในใจทั้งกลัวและทั้งกังวล

เขาคิดว่าเขาเคยเป็นทหารแนวหน้ามาแล้ว นักโทษคดีฆาตกรรมแบบไหนที่เขาไม่เคยเห็น?

แต่ว่า ในเวลานี้ เขากลับหวาดกลัวสายตาของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ถ้าคนอื่นรู้เขามันจะไม่กลายเป็นเรื่องตลกหรือ?

แต่ ซือเฮ่าเจียที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ในการรับรู้ถึงภัยอันตราย ในใจของเขายังรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้

มันเป็นความรู้สึกว่า ถ้าเขากล้าทำอะไรต่อจากนี้ เขาจะต้องตายอย่างน่าอนาถในวินาทีถัดไป!

“เย่เทียน เหล่าซือเขาไม่ได้ตั้งใจ คุณอย่าเพิ่งใจร้อนนะครับ”

โจ๋หย่วนหันก็สัมผัสถึงกลิ่นอายของความรุนแรงจากตัวของเย่เทียน เขาจึงรีบก้าวออกมาไกล่เกลี่ย

เย่เทียนจ้องมองไปที่ซือเฮ่าเจีย และการดูถูกก็แผ่ซ่านไปจากร่างกายของเขา

“สำหรับความผิดครั้งแรกของคุณ ผมจะยกโทษให้สักครั้ง!”

“แต่ว่า ทางที่ดีคุณอย่ามาหาเรื่องอีก ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณสมควรได้รับ!”

ขณะที่พูด เย่เทียนกดเท้าขวาลงโดยใช้แรงเพียงเล็กน้อย แต่ทันใดนั้น พื้นคอนกรีตแข็งยุบลง และรอยเท้าของเย่เทียนก็ถูกฝากไว้บนพื้น!

“นาย!”

ซือเฮ่าเจียโกรธมาก ในใจคิดจะโต้แย้งต่อ แต่เมื่อสังเกตเห็นรอยเท้าบนพื้นนั้น เขาได้แค่กลืนคำพูดในใจและไม่กล้าพูดอะไรอีก

เย่เทียนไม่ได้สนใจเขาอีก จากนั้นหันมองกลับไปที่โจ๋หย่วนหัน

“ผู้บัญชาโจ๋ คุณบอกว่าเยียนหรันมาที่นี่ แล้วเธออยู่ไหนครับ?”

“คือว่า……”

โจ๋หย่วนหันผงะไปสักพัก จากนั้นส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น “เธอไปหาเบาะแสของคุณยายกระดาษไหว้เจ้ากับหัวหน้ากงแล้วครับ”

“ไปหาเบาะแสของคุณยายกระดาษไหว้เจ้า?”

สีหน้าของเย่เทียนกลายเป็นความกังวลทันที “แย่ละ! พวกเขาไปนานแค่ไหนแล้ว?”

แม้จะไม่พูดถึงจี้เยียนหรันก่อน แต่หลังจากที่รู้จักคนอย่างกงหย่วนเมื่อวานนี้ ถ้าหากพวกเขาเจอตัวคุณยายกระดาษไหว้เจ้าเข้าแล้วจริงๆ เกรงว่าพวกเขาจะเลือกลงมือก่อนโดยที่ไม่รอกำลังเสริมแน่

แต่คุณยายกระดาษไหว้เจ้านั้นมีทักษะในการใช้ยาพิษขั้นดีเลิศ ยิ่งไปกว่านั้น เธออาจมีแมงมุมร้อยพิษเจ็ดสีอยู่ข้างกายอีกด้วย ฉะนั้นด้วยฝีมือที่ยังไม่ถึงแม้แต่ระดับดำของทั้งสองคนนั้น ถ้าขืนสู้กับคุณยายกระดาษไหว้เจ้าจริงๆ เกรงว่าคงต้องตายฟรีเท่านั้น!

กริ๊ง กริ๊ง!

ในขณะนี้ เสียงโทรศัพท์ของซือเฮ่าเจียก็ดังขึ้น

ซือเฮ่าเจียจึงใช้โอกาสนี้ในการปกปิดความลำบากใจ และรีบกดรับสายนั้นทันที

แต่เพียงคำพูดไม่กี่คำ สีหน้าของเขาก็บูดบึ้งจนยากที่จะหาที่เปรียบได้!

“เหล่าซือ เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็นสีหน้าของซือเฮ่าเจียเปลี่ยนไป โจ๋หย่วนหันก็รีบถามเขา

ซือเฮ่าเจียมองไปที่เย่เทียนอย่างลึกซึ้งและพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “หัวหน้ากงกับหัวหน้าจี้ถูกจับ……”

“หา? เป็นไปได้ไง!

โจ๋หย่วนหันตกใจอย่างกะทันหัน

การที่เขามาเมืองเอกก็เพื่อจะรู้จักนิสัยของจี้เยียนหรันที่เกลียดคนชั่วดั่งศัตรู เพราะกลัวว่าเธอจะประมาทเลินเล่อ จึงต้องคอยคิดตามการเคลื่อนไหวของเธอ

แต่ไม่คิดเลยว่า ยิ่งเขาไม่อยากเจอสิ่งใด เขาก็ยิ่งต้องเจอสิ่งนั้น และถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจี้เยียนหรัน เขาจะกลับไปอธิบายกับจี้เจิ้งโก๋อย่างไร?

“พวกเขาอยู่ไหน? ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

เย่เทียนแทบทนรอไม่ได้อีก เขาได้แต่โทษตัวเองที่ประมาทไป เพราะเขาไม่ได้บอกถึงสถานการณ์ของคุณยายกระดาษไหว้เจ้าให้กับจี้เยียนหรันฟังก่อน

“ไป! เราไปกันตอนนี้เลย!”

เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ซือเฮ่าเจียก็เป็นกังวลขึ้นมาทันที และไม่มีเวลาจะสร้างความขัดแย้งกับเย่เทียนอีก

จากจุดยืนของเขาแล้ว แม้จะไม่พูดถึงจี้เยียนหรัน ลูกสาวอันเป็นที่รักของตระกูลจี้ แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าหน่วยอย่างกงหย่วนแล้ว เขาในฐานะผู้นำต้องรับผิดชอบไม่ไหวอย่างแน่นอน!

ในชั่วขณะนั้น ทั้งสามกระวนกระวายใจจนไม่อาจล่าช้าได้ และรถของพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุทันที……