ตอนที่ 309-2 เข้าเมืองและการท้าทายขององค์หญิงหลิงอวิ๋น

ชายาเคียงหทัย

​สวี​ชิง​เฟิง​ย่อม​ยินดี​อย่างมาก​ที่​ได้​ไป​ยัง​เมืองหลวง​กับ​สวี​ชิงปั​๋ว​ ​แม้​จะ​เป็น​เพียง​ลูกพี่ลูกน้อง​กัน​ ​แต่​พี่น้อง​ทั้ง​ห้า​ของ​ตระกูล​สวี​ก็​มี​ความรักใคร่​กัน​มากกว่า​พี่น้อง​ทั่วไป​ ​สวี​ชิง​เฟิ​งก​็​เป็นห่วง​น้อง​สี่​ผู้​สุภาพอ่อนโยน​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​เช่นเดียวกัน​ ​ทันทีที่​เยี​่ย​หลี​บอก​ ​สวี​ชิง​เฟิง​จึง​ตอบ​ตกลง​ทันที​โดย​ไม่ต้อง​คิด​ ​และ​เขา​เลือก​พี่​หก​ลู​ ก​น้อง​ของ​เขา​จาก​หน่วย​กิเลน​ให้​ตาม​สวี​ชิงปั​๋​วก​ลับ​ไป​เมืองหลวง​ด้วยกัน

​แล้วก็​เป็น​อย่างที่​สวี​ชิงปั​๋ว​คาด​ไว้​ ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ยัง​ยื้อ​เอาไว้​อีก​หลาย​วัน​ ​ห้าวัน​ต่อมา​ ​หลังจาก​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​เอาชนะ​กองทัพ​ซี​หลิง​ที่มา​จาก​สอง​ทาง​เพื่อมา​เสริมกำลัง​ให้​แก่​เมืองหลวง​จน​ล่าถอย​ไป​ ​ในที่สุด​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ก็​เรียก​สวี​ชิงปั​๋ว​ไป​เข้าพบ​อีกครั้ง​ ​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​สวี​ชิงปั​๋ว​พูด​อะไร​กับ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ ​แต่​ใน​วันนั้น​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ได้​ออก​ราชโองการ​เพื่อ​แจ้ง​ให้​ใต้​หล้า​ได้รับ​รู้​ว่า​ ​สงคราม​ระหว่าง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​และ​ซี​หลิง​ล้วน​เกิด​จาก​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ ​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ที่​โจมตี​ต้า​ฉู่​โดย​ไม่ได้​รับ​อนุญาต​ ​ต่อมา​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ไม่​เพียง​ไม่​กลับมา​ช่วยเหลือ​ ​แต่​ยัง​กลับ​ไป​โจมตี​ทางใต้​ของ​ต้า​ฉู่​ต่อไป​อีกด้วย​ ​ดังนั้น​ตอนนี้​เมืองหลวง​จึง​ถูก​ล้อมรอบ​ไป​ด้วย​ทหาร​ ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​เห็นอกเห็นใจ​ใน​ความทุกข์ยาก​ของ​ประชาชน​และ​ทหาร​ของ​ซี​หลิง​ ​จึง​เจรจา​ขอ​สงบศึก​กับ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​โดย​จะต​ตัด​แบ่ง​เมือง​ทั้ง​ห้า​ ​อันได้แก่​ ​อัน​ผิง​ ​หลิง​หยาง​ ​ชาง​ผิง​ ​เซ​วี​ยน​หง​ ​ผิง​ชวน​ ​ให้​แก่​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ ​ส่วน​เมืองหลวง​ของ​ซี​หลิง​จะ​ย้าย​ไป​ที่​เมือง​อัน​ ​ซึ่ง​เป็น​ภาค​กลาง​ของ​ซี​หลิง​ภายใน​อีก​สอง​เดือน

​ราชโองการ​นี้​ ​ไม่​เพียง​สั่นสะเทือน​ขุนนาง​ฝ่ายสนับสนุน​และ​ฝ่ายค้าน​เท่านั้น​ ​แม้แต่​ผู้​ที่​มีอำนาจ​ใน​แคว้น​ข้างเคียง​ก็​ตกใจ​เช่นกัน​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่ได้​ครอบครอง​ดินแดน​ทั้งหมด​ของ​ซี​หลิง​ ​แต่​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ก็ได้​ครอง​พื้นที่​ถึง​หนึ่ง​ใน​สาม​ของ​ซี​หลิง​รวมถึง​เมืองหลวง​ภายใน​เวลา​ไม่​ถึง​สาม​เดือน​ ​พลัง​แห่ง​การสงคราม​ที่มา​กมาย​เช่นนี้​ทำให้​ผู้คน​ต้อง​ระแวดระวัง​และ​หวาดกลัว​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​นี่​ยัง​ไม่ใช่​กำลัง​ทหาร​ทั้งหมด​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​ด้วยซ้ำ

​หลังจาก​แถลง​ราชโองการ​ของ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​แล้ว​ ​ค่าย​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​ก็​เต็มไปด้วย​ความรื่นเริง​ ​แตกต่าง​จาก​ที่อื่น​ๆ​ ​ซึ่ง​มี​แต่​ความตกใจ​กลัว​และ​ความโกรธ​ ​ใน​วันที่​เก้า​ที่​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ปิดล้อม​เมืองหลวง​ ​ประตู​ของ​เมืองหลวง​ซี​หลิง​ก็​เปิด​ออก​ในที่สุด​ ​และ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ก็ได้​รับ​ชัยชนะ​จาก​เมือง​ที่​มี​การป้องกัน​อัน​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​ซี​หลิง​โดย​แทบ​ไม่ต้อง​ใช้​ความพยายาม​เลย​ ​ซึ่ง​เรียก​ได้​อย่าง​เต็มปาก​ว่า​ไร้​การนองเลือด

​เนื่องจาก​นี่​ไม่ใช่​การ​ที่​ซี​หลิง​ยอม​จำนวน​ต่อ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ ​ฮ่อง​เต​่​แห่ง​ซี​หลิง​จึง​ไม่ได้​ออกมา​ต้อนรับ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ ​ส่ง​เพียง​ขุนนาง​ของ​ราชสำนัก​ไป​ต้อนรับ​ที่​ประตูเมือง​พร้อมกัน​กับ​สวี​ชิงปั​๋ว​เท่านั้น​ ​แต่​ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​ ​สีหน้า​ของ​ขุนนาง​หลาย​คนใน​ซี​หลิง​ก็​ยังคง​ดู​ย่ำแย่​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​และ​เยี​่ย​หลี​ขี่ม้า​เคียงข้าง​กัน​ ​ตามมา​ด้วย​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ ​ฉิน​เฟิง​และจั​๋​วจิ​้ง​ใน​ชุด​ผ้าแพร​สีแดง​ ​เบื้องหลัง​พวกเขา​มี​หน่วย​เฮ​ยอ​วิ​๋น​ฉี​ซึ่ง​แต่งกาย​ด้วย​ชุด​สีดำ​และ​ขี่ม้า​ใน​สี​เดียวกัน​ ​ซึ่ง​ส่วนหนึ่ง​เดินทัพ​กัน​เข้ามา​แล้ว​ ​แต่​เพื่อ​ไม่​ให้​ผู้คน​ใน​เมือง​หวาดกลัว​ ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​จึง​ไม่ได้​ยก​เข้ามา​ใน​เมือง​กัน​ทั้งหมด​ ​เข้ามา​เพียง​หนึ่ง​หมื่น​นาย​เท่านั้น​ ​ในขณะที่​กองกำลัง​หลาย​แสน​ยังคง​อยู่​ข้างนอก​เมือง​ ​โดย​มี​จาง​ฉี่​หลัน​รับผิดชอบ​ดูแล

​แม้ว่า​จะ​มี​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​การ​ฆ่า​ล้างบาง​ที่​เมือง​เปี้ยน​ใน​ช่วงแรก​ ​แต่​เนื่องจาก​ใน​ภายหลัง​มี​การ​จัดการ​ให้​จบ​ลง​ได้​ด้วยดี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​โดย​พื้นฐาน​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ไม่ได้​รุกราน​ผู้คน​ระหว่างทาง​ที่​เคลื่อน​พล​ผ่าน​ ​และ​ชาวบ้าน​ใน​เมืองหลวง​ซี​หลิง​ก็​ไม่​กลัว​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ ​ทั้งสอง​ฝั่ง​ถนน​จึง​แน่นขนัด​คึกคัก​ไป​ด้วย​ผู้คน​ที่มา​มองดู​ขบวนทพ​ ​เมื่อ​พวกเขา​เห็น​ว่า​สอง​คน​ด้านหน้า​คือ​ติ้ง​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ ​สายตา​อิจฉา​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​จึง​ต่าง​พากั​นม​อง​มาที​่​พวกเขา​ทั้งสอง

​จน​เมื่อ​เข้าไป​ใน​ประตู​ตำหนัก​พระราชวัง​ซี​หลิง​ ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ถึง​ได้​เดิน​ออกมา​ต้อนรับ​ ​พอ​เห็น​ทั้งสอง​ที่​เคียงคู่​กัน​มา​จึง​ผงะ​ไป​เล็กน้อย​ ​แม้​ชื่อเสียง​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​กับ​เยี​่ย​หลี​จะ​ไม่ได้​โด่งดัง​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​ ​แต่​ก็​สามารถ​เรียก​ได้​ว่า​เป็นที่รู้จัก​กัน​ทั่ว​บ้าน​ทั่วเมือง​ ​อีกทั้ง​ม่อ​ซิว​เหยา​เป็นที่รู้จัก​มีชื่อเสียง​ขึ้น​มา​เร็ว​เกินไป​ ​ระหว่าง​นั้น​ก็ได้​ปราบ​ผู้คน​ไป​จำนวน​ไม่น้อย​ ​คนที​่​ไม่​คุ้นเคย​จึง​อาจ​จัด​ว่า​เขา​เป็น​คนใน​รุ่นเก่า​ได้​อย่างง่ายดาย​ ​ในเวลานี้​เมื่อ​ได้​เห็น​คู่​ชาย​หญิง​ตรงหน้า​ ​ฝ่าย​ชาย​ถึงแม้​จะ​ผม​ขาว​ ​แต่​ใบหน้า​กลับ​หล่อเหลา​ ​มีสง่าราศี​ดู​ทรงอำนาจ​ ​ส่วน​ฝ่าย​หญิง​ก็​หมดจด​สง่างาม​ ​ซึ่ง​ทำให้​ผู้คน​รู้สึก​ถึง​ตกตะลึง​จาก​ความสง่างาม​นี้​ ​หาก​มอง​แค่​อายุ​ ​ก็​น่าจะ​เพียง​ยี่สิบ​ต้นๆ​ ​เท่านั้น​ ​บุคลิก​เช่นนี้​ต้อง​เป็น​บุคคล​ชั้นนำ​แห่ง​ยุค​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย

​“​ฮ่า​ๆ​ ​ติ้ง​อ๋อง​ ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ ​ข้า​ได้ยิน​ชื่อเสียง​มานาน​ ​วันนี้​ได้​พบ​ ​ช่าง​มีสง่าราศี​สม​คำเล่าลือ​”​ ​โชคดี​ที่​ฮ่อง​เต​่​แห่ง​ซี​หลิง​ตั้งสติ​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​ละสายตา​จาก​เยี​่ย​หลี​ ​แม้ว่า​เขา​จะ​ชื่นชอบ​ใน​กามารมณ์​ ​ทว่า​ก็​ไม่​ถึงกับ​หื่น​กระหาย​ ​เขา​รู้ดี​ว่า​ผู้หญิง​แบบ​ไหน​ที่สามา​รถ​มอง​ได้​ ​และ​ผู้หญิง​แบบ​ไหน​ที่​ไม่​ควร​มอง​ ​เขา​แยกแยะ​ได้​อย่างชัดเจน

​ม่อ​ซิว​เหยา​กวาดสายตา​มอง​เขา​อย่าง​เย็นชา​ ​ก่อน​จะ​ค่อยๆ​ ​ดึง​สายตา​เยียบ​เย็น​กลับมา

​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​เอ่ย​ ​“​ฝ่า​บาท​เกรงใจ​เกินไป​แล้ว​ ​หาก​มี​อะไร​ที่​ทำให้​ขุ่นเคือง​ ​ฝ่า​บาท​โปรด​อภัย​ด้วย​”

​“​หามิได้​ ​พระ​ชายา​กล่าว​เกินไป​แล้ว​ ​ติ้ง​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​ ​เชิญ​ด้านใน​ก่อน​ ​ข้า​สั่ง​ให้​คน​เตรียม​เหล้าองุ่น​ไว้​แล้ว​ ​ทั้งสอง​ท่าน​อย่า​ได้​เกรงใจ​เลย​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เยี​่ย​หลี​พูด​ก่อนที่​ม่อ​ซิว​เหยา​จะ​เอ่ยปาก​ ​แต่​ใบหน้า​ของ​ติ้ง​อ๋อง​กลับ​ไร้​ซึ่ง​ความไม่พอใจ​ ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​จึง​แน่ใจ​ถึง​ฐานะ​ของ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ใน​หัวใจ​ของ​ติ้ง​อ๋อง​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่รู้​ว่า​ ​ที่​เยี​่ย​หลี​เอ่ยปาก​ขึ้น​ก่อน​ ​ก็​เพื่อ​ช่วย​เขา​ฝ่า​วงล้อม​ออกมา​ได้​ ​มิฉะนั้น​แล้ว​เกรง​ว่า​เขา​คงได้​แสดงท่าที​เป็นมิตร​อยู่​ฝ่าย​เดียว​โดยที่​อีก​ฝ่าย​เมินเฉย​ ​และ​คงได้​อับอาย​ต่อหน้า​ขุนนาง​มากมาย​เช่นนี้​ไป​แล้ว

​“​เชิญ​ฝ่า​บาท​”

​เมื่อ​พวกเขา​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ ​จึง​เพิ่ง​เห็น​ว่า​พระราชวัง​ซี​หลิง​นั้น​แสน​เรียบง่าย​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​ความหรูหรา​โอ่อ่า​ของ​ต้า​ฉู่​เลย​ ​แม้แต่​ของ​ประดับ​ล้ำค่า​ก็​มีอยู่​ไม่​กี่​ชิ้น​ ​ทั้ง​ตำหนัก​ว่างเปล่า​ ​ทำให้​รู้สึก​เยือกเย็น​อย่าง​ไม่มี​สาเหตุ​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​มอง​สวี​ชิงปั​๋ว​ซึ่ง​กำลัง​นั่ง​อยู่​ด้านล่าง​ของ​เขา​ ​เขา​จำ​ข่าว​จากต​หนก​ติ้ง​อ๋อง​ได้​ ​แม้ว่า​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​จะ​ไม่​ฟุ่มเฟือย​ ​แต่​ก็​ไม่น่า​ประหยัด​ถึงขนาด​นี้า​ ​สวี​ชิงปั​๋​วอม​ยิ้ม​มอง​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ที่​กำลัง​ยิ้ม​และ​สนทนา​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา

​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​กะพริบตา​ ​แต่​พอ​เห็น​สี​พระพักตร์​ของ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ที่​กำลัง​แย้มพระสรวล​ก็​เข้าใจ​ทุกอย่าง​ในทันที​ ​เขา​คง​คิด​ว่า​กำลังจะ​สละ​เมืองหลวง​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​คง​กลัว​ว่า​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​จะ​มาถูก​ใจ​ของมีค่า​ภายใน​ตำหนัก​เข้า​ ​จึง​ได้​เตรียมการ​ซ่อน​เอาไว้​ก่อน​

​ภายใน​ตำหนัก​ ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​ก่อน​จะ​เอ่ย​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​ ​เมื่อวาน​เรา​สั่ง​ให้​คน​ส่ง​สาส์น​ไป​ ​ไม่ทราบ​ว่า​ติ้ง​อ๋อง​มี​ความคิดเห็น​อย่างไร​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​พิง​อยู่​บน​เก้าอี้​ ​ยกมือ​ขึ้นไป​รับ​สาส์น​จากจั​๋​วจิ​้​วที​่​อยู่​ด้านหลัง​ ​และ​เอ่ย​เบา​ๆ​ ​“​ข้อเสนอ​ที่​ซี​หลิง​ให้​มา​ ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ต่าง​สามารถ​ตกลง​ได้​ ​ยกเว้น​เพียง​ข้อ​เดียว​…​เรื่อง​หนาน​จ้าว​ ​ได้​โปรด​ให้อภัย​ที่​ข้า​ไม่​อาจ​ช่วยเหลือ​ได้​จริงๆ​”

​ทันใดนั้น​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​พลัน​แข็งกระด้าง​ ​ก่อน​จะ​ฝืนยิ้ม​ ​“​เป็นไปได้​อย่างไร​ ​ติ้ง​อ๋อง​มี​ความสามารถ​อย่าง​น่าอัศจรรย์​ ​ขอ​เพียง​ตั้งใจ​จะ​ช่วย​จาก​ใจจริง​ ​จะ​ช่วยไม่ได้​ได้​อย่างไร​”​ ​ตอนนี้​ศัตรู​ของ​ซี​หลิง​ไม่ได้​มี​เพียง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​เท่านั้น​ ​แคว้น​หนาน​จ้าว​ทาง​ตอน​ใต้​และ​แคว้น​เล็ก​ๆ​ ​ใน​ภูมิภาค​ตะวันตก​ล้วน​ปรารถนา​จ้อง​จะ​เขมือบ​ซี​หลิง​กัน​ทั้งสิ้น​ ​แม้แต่​หนาน​จ้าว​ก็​ส่ง​ทหาร​ไป​ยึดครอง​เมือง​ที่​มีพ​รม​แดน​ติดกัน​ระหว่าง​หนาน​จ้าว​กับ​ซี​หลิง​แล้ว

​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​เสียง​เข้ม​ ​“​ซี​เป่ย​อยู่​ไกล​จาก​หนาน​จ้าว​เกินไป​ ​ถ้า​ต้องการ​ให้​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ส่ง​กองกำลัง​ไป​ปิดล้อม​ ​ข้อ​แรก​ไม่มี​ทั้ง​เหตุ​และ​ไม่มี​ทั้ง​ผล​ ​ข้อ​สอง​ระยะทาง​นั้น​ห่างไกล​ ​เมื่อ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ไป​ถึง​ ​ทหาร​และ​ม้า​ก็​คง​ล้า​กัน​หมด​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​จะ​ตกหลุมพราง​หนาน​จ้าว​เอา​ได้​”

​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ ​“​เรา​ไม่ได้​หมายความ​เช่นนั้น​”​ ​ต่อให้​ม่อ​ซิว​เหยา​ต้องการ​ส่ง​กองกำลัง​ไป​แทน​เขา​ ​เขา​ก็​คง​ไม่กล้า​รับ​ ​ตอนนี้​เขา​หวัง​เพียง​ว่า​ม่อ​ซิว​เหยา​และ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ ​จะ​อยู่​ใน​ดินแดน​ที่​พวกเขา​ได้​ครอบครอง​อย่าง​ซื่อสัตย์​ ​และ​ไม่​ก่อ​อันตราย​ต่อ​พื้นที่​อื่นๆ​ ​ของ​เขา​ก็​พอ​ ​ขอให้​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​ช่วย​ขับไล่​กองทัพ​ของ​หนาน​จ้าว​ ​นี่​เป็นการ​ไล่​สุนัขจิ้งจอก​ออก​ไป​ ​และ​เชิญ​เสือ​เข้ามา​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย

​ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​อย่าง​สงสัย​ ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ ​“​ติ้ง​อ๋อง​มีชื่อเสียง​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​ ​ข้า​เชื่อ​ว่า​ตราบใดที่​ติ้ง​อ๋อง​แสดงท่าที​อะไร​บางอย่าง​ออกมา​ ​หนาน​จ้าว​ย่อม​เจียมตัว​”​ ​ในความเป็นจริง​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ไม่ได้​ให้ความสนใจ​กับ​หนาน​จ้าว​มาก​นัก​ ​แต่​ตอนนี้​เขา​ต้อง​รับมือ​ ​ไม่ใช่​แค่​เพียง​แคว้น​เล็ก​ๆ​ ​ใน​ภูมิภาค​ทางตะวันตก​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​รวมถึง​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งด​้วย​ ​เขา​ไม่มีเวลา​มายุ​่​งกับ​เรื่อง​ของ​หนาน​จ้าว​ ​คราวนี้​…​เขา​ไม่​อยาก​เป็น​หุ่นเชิด​อีกต่อไป​แล้ว​ ​อีกทั้ง​ ​เขา​ได้​สละ​เมืองหลวง​แล้ว​ ​ใน​ใจ​ของ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​รู้ดี​ว่า​ ​หาก​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ได้รับ​โอกาส​กลับมา​อีกครั้ง​ ​ชีวิต​ของ​เขา​จะ​ไม่มี​ความสุข​อย่างแน่นอน