เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 406 เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว
แอเรียนไม่เคยสงสัยในความตั้งใจของแมรี่ ดังนั้นเธอจึงถือหนังสือของเธอขึ้นไปชั้นบนด้วยความเชื่อฟัง “ได้สิ มันมืดมาก ระวังตอนที่ถอดหลอดไฟด้วยนะ”
แมรี่ยิ้มด้วยความดีใจ มาร์คแทบจะไม่ได้กลับบ้านเร็วเลย แมรี่จะไม่ยอมให้แอเรียนเสียโอกาสนี้ไป
เมื่อมาร์คกลับมาที่ห้อง เขาก็ไปนั่งหน้าหน้าต่างฝรั่งเศสพลางพลิกดูหนังสือ หนังสือที่เขาอ่านแตกต่างจากหนังสือของแอเรียน พวกมันทั้งหมดเป็นภาษาต่างประเทศ แอเรียนไม่เก่งภาษาต่างประเทศและเธอจะปวดหัวเมื่อพยายามที่จะทำความเข้าใจกับมัน
เนื่องจากตอนนั้นเป็นเวลาเพียงสามทุ่ม แอเรียนจึงนอนลงบนเตียงและดำเนินการอ่านหนังสือต่อ ก่อนที่เธอจะทันได้อ่านจบประโยคมาร์คก็ดุเธอ “ใครสั่งใครสอนให้นอนอ่านหนังสือ? เธอต้องการที่จะทำลายสายตาตัวเองหรือไง? ลุกขึ้นนั่งถ้าเธออยากจะอ่านมัน ถ้าไม่งั้นก็ไปนอนซะ”
น้ำเสียงของเขาเหมือนพ่อแม่ที่สั่งสอนลูกของตนเอง เธอชินกับมันมานานแล้ว เธอวางหนังสือไว้ข้าง ๆ ด้วยความเชื่อฟังและพยายามที่จะนอนหลับ
หลังจากนั้นไม่นานไฟในห้องก็ถูกปิด เสียงกรอบแกรบของเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกดังขึ้นในอากาศก่อนที่มาร์คจะเข้ามานอนบนเตียงกับเธอในที่สุด
แอเรียนรู้ว่าเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอะไรเลยเธอจึงขยับตัวออกจากเขานิดนึง เธอตกใจเมื่อมาร์คเขยิบเข้าหาเธอและโอบกอดเธอด้วยแขนข้างนึง “ตัวฉันมีหนามหรือไง?”
แอเรียนไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว “ไม่… ฉันร้อนนิดนึง…”
มาร์คหยิบรีโมทแอร์ขึ้นมาแล้วปรับไปที่อุณหภูมิต่ำสุด สิบหกองศาเซลเซียส “นอนซะ”
แอเรียนพูดไม่ออก จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้รู้สึกร้อนอะไร ยี่สิบสามองศาเซลเซียสกำลังพอดีเลย บนเตียงก็มีเพียงผ้าห่มผืนบาง ๆ เธอจึงนำมันมาห่อตัวเอง กระนั้นเธอก็ยังรู้สึกหนาวอยู่ดี “มันหนาวไปนิดนึง…”
มาร์คโยนรีโมทแอร์ให้เธอด้วยความหงุดหงิด “ปรับเอาเองเลย”
แอเรียนเพิ่มอุณหภูมิไปที่ยี่สิบสามองศาเซลเซียสอย่างเงียบ ๆ เธอสังเกตว่ามาร์คกำลังมองมาที่เธอ เธอพูดติดอ่างด้วยความกระวนกระวาย “ฉันไม่ได้อยากเรื่องมากนะ เมื่อกี่มันร้อน แต่ตอนนี้มันหนาว…”
มาร์คขยับแขนของเขาออกมาจากเอวของเธอและนอนหงายหน้ามองเพดานแทน ผ่าห้มนั้นปกคลุมถึงเพียงระดับหน้าท้องของเขา เมื่อสายตาของแอเรียนคุ้นเคยกับความความมืดแล้วเธอจึงสามารถมองเห็นส่วนบนของร่างกายเขาที่เปลือยอยู่ได้และนั้นทำให้เธอตกอยู่ในความงุนงง เมื่อเธอนึกว่าเขาจะนอนเช่นนี้ทั้งฤดูร้อนได้อย่างไรเธอก็รู้สึกราวกับว่าวิญญาณเธอกำลังจะหลุดออกจากร่างกาย มันเป็นการทรมานเธอเพราะเธอไม่สามารถขยับตัวตอนนอนได้อย่างอิสระ
“พรุ่งนี้ไปรับการตรวจติดตามผลที่โรงพยาบาลกันเถอะ” จู่ ๆ มาร์คก็พูดขึ้น
“ไม่ต้องหรอก ฉันว่ามันไม่จำเป็น ตอนนี้ฉันรู็สึกสบายดีมากเลย” แอเรียนไม่อยากไปโรงพยาบาลอีกครั้ง เธอจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของการแท้งของเธอเมื่อเธออยู่ที่นั่น
“มันจำเป็น” มาร์คยืนหยัด
“ฉันไม่อยากไป” แอเรียนสามารถยอมเรื่องอื่นได้ แต่ไม่ใช่กับเรื่องนี้ หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลหลังการแท้งบุตรนั้น เธอสาบานว่าจะกินยารักษาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยและรอวันตายหากเธอป่วยหนักแทนที่จะไปโรงพยาบาลอีกครั้ง มันกลายเป็นความชอกช้ำทางจิตใจสำหรับเธอ
มาร์คไม่ชอบการเถียงกับใคร เขาจึงถามโดยไม่อ้อมค้อมว่า “ทำไมล่ะ?”
ด้วยความที่แอเรียนไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้นอีกเธอจึงตอบว่า “ฉันแค่ไม่อยากไป ฉันจะไม่ไปแม้ว่าคุณจะบังคับฉัน ต่อให้ตายฉันก็จะไม่ไป”
เมื่อเห็นอารมณ์ฉุนเฉียวของเธอมาร์คก็ยอม “เดี๋ยวฉันจะถามหมอให้ ถ้าหมอบอกว่าเธอจำเป็นต้องไป เธอก็ต้องไป”
แอเรียนพลิกตัวหันหลังให้มาร์คและหลับตาลงโดยไม่พูดอะไร
…
ระหว่างอาหารเช้าวันรุ่งขึ้น มาร์คกำลังส่งข้อความหาหมอก่อนที่จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ “ประจำเดือนเธอมารึยัง?”
แอเรียนเหลือบมองแมรี่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ใกล้ ๆ แอเรียนหน้าแดงและตอบอย่างติดอ่าง “ทะ… ทำ… ทำมะ-ไมคุณถึงถามเรื่องนี้?”
มาร์คยื่นหน้าข้อความในโทรศัพธ์ของเขาที่เขาคุยกับหมอให้เธอดู “หมอถาม”
เมื่อเธอเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของเขาเธอจึงพยักหน้า
มาร์คถามต่อ “เปรียบเทียบกับครั้งที่แล้วแล้วมันมาปกติหรือเปล่า?”
เธอรู้ว่าหมอเป็นคนถามเธอจึงตอบไปด้วยเสียงเล็ก ๆ ว่า “ปกติ…”
มาร์ครีบตอบข้อความของหมอทันทีก่อนที่เขาจะวางโทรศัพธ์ลงในที่สุด “ดีแล้ว เธอไม่อยากไปโรงพยาบาลและตอนนี้เธอก็ไม่ต้องไปแล้ว”
แอเรียนวิตกกังวลมาก ทำไมผู้ชายถึงได้ถามคำถามพวกนี้กับเธอ?
เรื่องพวกนั้นมันเป็นความลับที่เธอแบ่งปันกับเพื่อนสนิทเธอ ทิฟฟานี่ เท่านั้น…
“เอ่อ แล้วเธอวางแผนว่าจะทำอะไร? กลับไปทำงานกับเอริกหรืออยู่บ้านต่อ?” จู่ ๆ มาร์คก็เปลี่ยนเรื่องคุยกระทันหัน
ดูเหมือนว่าแอเรียนจะเป็นคนที่รู้สึกอึดอัด
แอเรียนส่ายหัว “ฉันไม่อยากออกแบบอีกแล้ว ฉันอยากลองอะไรใหม่ ๆ แต่ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออก เดี๋ยวนี้จะทำอะไรก็ตามก็ต้องมีที่ แต่ถ้าฉันเช่าร้านมันก็จะแพง ฉันจะไปคิดดูอีกหน่อย อย่างไรก็ตาม ฉันไม่อยากอยู่บ้านด้วย มันน่าเบื่อเกินไป”
มาร์คสนับสนุนความขยันของเธอ “เอาสิ ถ้าเธอนึกออกแล้วว่าจะทำอะไรเดี๋ยวฉันหาที่ให้ เรามีที่ว่างสำหรับเปิดร้าน สำนักงาน และอื่น ๆ เธอจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า ไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ คิด”
“โอเค!” เธอรู้สึกว่าเธอถูกป้อนด้วยน้ำพึ้ง ความหมายของคำพูดของมาร์คหมายความเธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวงั้นเหรอ? เธอสามารถเปิดร้านในที่ว่างของครอบครัวได้
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ไม่อาจปกปิดได้ในดวงตาของเธอ มุมปากของมาร์คก็โค้งขึ้นเช่นกัน ทันใดนั้น สภาพอากาศภายนอกที่ร้อนอบอ้าวตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก
เมื่อแอเรียนติดต่อทิฟฟานี่ช่วงบ่ายสาย ๆ เธอจึงรู้ว่าทิฟฟานี่ได้ลาออกจากงานแล้ว
“จริงเหรอ? ฉันกำลังคิดอยากจะเปิดธุรกิจอยู่พอดี มาทำด้วยกันไหม? มาร์คบอกว่าฉันสามารถใช้หน้าร้านหรือสำนักงานของครอบครัวได้!”