บทที่ 554 : ซื้อเรือยอร์ช – แก้ไขจุดฝังเข็ม

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 554 : ซื้อเรือยอร์ช – แก้ไขจุดฝังเข็ม

หลิงหยุนขับรถไปส่งเสี่ยวเม่ยหนิงที่โรงเรียนมัธยมจิงฉู ระหว่างทางก็ได้กำชับให้เธอท่องจำเคล็ดวิชาที่เขาเขียนให้ขึ้นใจ และเขาจะเป็นผู้ฝึกสอนให้กับเธอเอง

หลังจากที่ส่งเสี่ยวเม่ยหนิงเรียบร้อยแล้ว หลิงหยุนก็รีบกลับไปบ้านอยู่เป็นเพื่อนไป๋เซียนเอ๋อ และเขียนวิชาเก้าเข็มปลุกชีพต่อ

หลังจากที่หลิงหยุนสอบเอนทรานซ์เสร็จ เขาจะต้องเดินทางออกจากเมืองจิงฉูไปสักระยะ แต่คลินิกสามัญชนของเขาจำเป็นต้องมีมีผู้ทำการรักษา

และหลิงหยุนก็ได้เลือกเด็กสาวอย่างเสี่ยวเม่ยหนิงให้เป็นผู้ที่ทำหน้าที่นี้แทนเขาแล้ว..

เสี่ยวเม่ยหนิงเคยเรียนรู้เรื่องการแพทย์จากท่านเสี่ยวหมอเทวดามากว่าสิบปี และความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนของเธอนั้น ก็นับว่าประสบความสำเร็จในขั้นเล็กๆ และหลังจากที่หลิงหยุนสอนวิชาเก้าเข็มปลุกชีพให้กับเธอไปแล้ว คลินิกสามัญชนของเขาก็จะเป็นสถานที่ฝึกหัดที่ดีที่สุดสำหรับเธอ

เวลา 8.30 น. ถังเมิ่งได้โทรเข้ามาเช็คกับหลิงหยุนว่าเขาอยู่ที่ใหน เพื่อที่ถังเมิ่งจะได้ไปหา หลิงหยุนจึงสั่งใหถังเมิ่งซื้อแผ่นภาพที่แสดงจุดฝังเข็มบนร่างกายมนุษย์มาให้เขาใหม่ จากนั้นจึงลงมือเขียนต่อ

ไป๋เซียนเอ๋อรู้สึกเบื่อจึงมานั่งเล่นในสวน และฝึกวิชาจิ้งจอกระเริงไฟอย่างขะมักเขม้น และรอคอยที่จะได้กลับไปแก้แค้นให้กับพ่อแม่ของนาง

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ถังเมิ่งก็ขับรถ Porche มาที่บ้านหลิงหยุน ในเมื่อหลิงหยุนมีรถสปอร์ตหรูหราหลายคันที่ได้มาจากมือสังหารขององค์กรนักฆ่า เขาจึงเปลี่ยนรถขับแทบทุกวัน

“ไว้วันใหนที่คนขององค์กรนักฆ่ามาถึงหน้าประตูบ้าน ฉันว่าคนแรกที่พวกมันจะฆ่าคงเป็นนาย!” หลิงหยุนต้องการหลอกให้ถังเมิ่งหวาดกลัว

“คิดจะฆ่าฉันน่ะเหรอ! กลัวแต่ว่าถ้าพวกมันรู้ว่าฉันเป็นน้องใคร ก็จะไม่กล้าน่ะสิ!” ถังเมิ่งพูดอย่างไม่หวาดกลัว

“นี่.. แผนผังจุดฝังเข็มที่พี่สั่งให้ฉันซื้อมา มีทั้งหมดสี่แผ่น!” ถังเมิ่งตอบพร้อมกับหยิบออกมาให้หลิงหยุน

นี่เป็นแผนภาพที่แสดงจุดฝังเข็ม และเส้นลมปราณต่างๆบนร่างกายมนุษย์ ในแผนภาพนั้นบ่งบอกเส้นลมปราณหลักๆไว้ทั้งหมดสิบสองเส้น ซึ่งรวมเส้นลมปราณเยิ่น และเส้นลมปราณตูทั้งแปดเส้นไว้ด้วย อีกทั้งยังมีจุดฝังเข็มเด่นๆ ตามหลักการแพทย์แผนจีนระบุไว้ด้วย

ภายในหนึ่งแผ่นนั้นมีภาพร่างกายมนุษย์อยู่ทั้งหมดสามภาพ – ภาพด้านหน้า ภาพด้านหลัง และภาพด้านข้าง ทุกอย่างเหมือนกับภาพที่ติดอยู่บนผนังห้องนอนของเสี่ยวเม่ยหนิง จะต่างกันก็เพียงแค่ขนาดเท่านั้น

“แล้วนี่นายซื้อมาทำไมตั้งมากมาย?”

“ตี้เสี่ยวอู๋ก็จะเอาด้วยหนึ่งแผ่น ฉันก็เลยซื้อมาเผื่อไว้อีกไง? ถ้าใครอยากได้เพิ่มฉันก็จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปซื้ออีก!” ถังเมิ่งตอบ

“แล้วตี้เสี่ยวอู๋ล่ะ?”

“นี่พี่หยุน.. เมื่อคืนนี้บ่อนใต้ดินที่เขตจิงฉีเล่นเสียไปตั้งสามสิบล้าน ไร้ฝีมือชะมัด!” ถังเมิ่งพูดเยาะเย้ยพร้อมกับหัวเราะเยาะ

หลิงหยุนได้ยินถังเมิ่งหัวเราะเยาะตี้เสี่ยวอู๋ เขาก็ตำหนิถังเมิ่งอย่างโมโห “เสียเงินไปตั้งสามสิบล้าน.. นายยังจะกล้าหัวเราะเยาะอีกงั้นเหรอ?”

ถังเมิ่งรีบยกมือขึ้นลูบศรีษะพร้อมกับเลียริมฝีปาก แต่ก็ไม่กล้าหัวเราะต่อ และได้แต่พูดกับหลิงหยุนด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

“พี่หยุน.. ฝ่ายนั้นประกาศสงครามกับเรา.. พวกมันประกาศว่าจะนำเงินมาเล่นพนันเพิ่มอีกห้าร้อยล้าน แล้วก็จะเล่นทุกบ่อนในจิงฉูเลยด้วย!”

“ห้าร้อยล้านเลยนะพี่หยุน! ขืนปล่อยให้พวกมันมาเล่นจนเราหมดตัวแล้วจากไป ถึงตอนนั้นพี่น้องของเราในจิงฉูจะเป็นยังไง? ไม่แย่กันไปหมดงั้นเหรอ?”

หลิงหยุนได้แต่แสยะยิ้ม “ห้าร้อยล้าน? จำนวนเงินไม่น้อยเลย! ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็คงจะไม่ธรรมดา!”

ด้วยจิตหยั่งรู้ และเนตรหยินหยางของหลิงหยุนในเวลานี้ เขากำลังตัดสินใจว่าจะเอาเงินห้าร้อยล้านนี้เข้ากระเป๋าตัวเอง

“ว่าไงพี่หยุน? มีวิธีที่จะตบหน้าพวกมันคืนแล้วใช่มั๊ย?”

ถังเมิ่งมองสีหน้าหลิงหยุนก็รู้ว่าเขาจะต้องคิดวิธีเอาคืนได้แล้วอย่างแน่นอน จึงได้แต่ร้องถามออกมาด้วยความตื่นเต้นและแววตาเป็นประกาย

“ดูเหมือนนายจะตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากสินะ?!”

ในที่สุดหลิงหยุนก็เข้าใจแล้วว่า เหตุใดถังเมิ่งจึงหัวเราะออกมาเมื่อครู่ แต่ถึงกระนั้นสีหน้าของหลิงหยุนก็ยังคงเรียบเฉย ไม่แสดงออกว่าจะตัดสินใจเช่นใด?

หลิงหยุนไม่เคยเล่นการพนันบนโลกใบนี้มาก่อน เขาจึงไม่เข้าใจกฏกติกาการเล่นพนันดีนัก และคิดว่าคงจะต้องมีการฝึกซ้อมกับถังเมิ่งก่อน

“เอาล่ะ.. นายรอฟังคำตอบของฉันอีกที..”

หลิงหยุนนิ่งไปครู่หนึ่งจึงพูดต่อว่า “แล้วเรื่องสปีดโบ๊ทที่เมืองเหวินโจวล่ะ นายไปจัดการเรื่องค่าเสียหายให้กับทางร้านหรือยัง?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ถังเมิ่งก็ตอบกลับด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ยังเลย.. นี่ขนาดไม่ใช่เรือลำใหม่เอี่ยม และได้ส่วนลดแล้ว ยังต้องเสียเงินตั้งสองล้านหก.. เศร้าชะมัด!”

“นายจะเศร้าไปทำไม? ฉันก็เอารถหรูกลับมาให้นายแล้วตั้งหลายคัน มีคันใหนบ้างที่มูลค่าต่ำกว่าหนึ่งล้าน?” “ใครบ้างจะไม่รู้สึกเสียดายเงิน? เรือดีขนาดนั้น.. พี่กลับจมมันทิ้งเฉยเลย น่าเสียดายจริงๆ!”

“แล้วไปจัดการเงียบๆล่ะ! อย่ากระโตกกระตาก..”

หลิงหยุนรู้ดีว่ากลุ่มเทพอินทรีย์กำลังตามหาตัวยอดฝีมือบนเกาะเตียวหยูอยู่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะมาเยี่ยมเยียนเขาถึงที่บ้านเมื่อไหร่?

แต่ไม่ช้าก็เร็ว.. พวกมันจะต้องมาอย่างแน่นอน!

 “นี่.. มีสองเรื่องที่นายต้องไปจัดการสองให้ฉันอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้!”

“เรื่องแรก.. ไปหาซื้อเรือยอร์ชหรูหราให้ฉันสองลำ ยิ่งหรูหรามากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ลำเล็กให้เอาไปจอดไว้ที่ทะเลสาบจิงฉู ส่วนลำใหญ่ให้เอาไปจอดไว้ที่อ่าวจิงฉู นายมีปัญหาอะไรมั๊ย?”

“ต้องมีปัญหาอยู่แล้ว! เรือส่วนตัวไม่อนุญาตให้จอดในทะเลสาบจิงฉู และเราก็ไม่มีสถานที่สำหรับเก็บเรือด้วย!” ถังเมิ่งสามารถบอกถึงปัญหาที่จะต้องเกิดขึ้นได้ทันที

หลิงหยุนตอบกลับไปยิ้มๆ “นายก็ไปหาวิธีการแก้ปัญหามา หรือจะสร้างที่สำหรับจอดเรือไว้ข้างบ้านหลังนี้จะได้มั๊ย?”

ถังเมิ่งตอบด้วยน้ำเสียงขมขื่น “ถ้าพี่ไม่ได้ใช้เงิน พี่จะกระอักเลือดหรือยังไง?”

ถังเมิ่งไม่เข้าใจว่าเหตุใดหลิงหยุนจึงจะต้องซื้อเรือยอร์ช และสำหรับเรือยอร์ชหรูหราสองลำก็ต้องใช้เงินกว่ายี่สิบล้าน คนที่จะซื้อก็คงต้องเป็นคนที่ร่ำรวยมหาศาล หรือไม่ก็เป็นคนที่มีอำนาจอิทธิพล

แต่ถึงกระนั้นถังเมิ่งก็ได้แต่แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก และคิดในใจว่ายังโชคดีที่หลิงหยุนไม่สั่งให้เขาซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวให้ แต่ก็คงอีกไม่นานหรอก..

 “ส่วนเรื่องที่สอง..”

ถังเมิ่งได้ยินเสียงของหลิงหยุนก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ พร้อมกับแอบคิดในใจว่า ‘อย่าบอกนะว่าพี่หยุนจะสั่งให้ซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจริงๆ!’ เพราะถ้าเป็นความจริง.. เขาคงต้องกระอักเลือดก่อนแน่

หลิงหยุนหัวเราะ “นายไปจัดการหาแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านหลังนี้อาทิตย์ละสองครั้ง อ่อ.. แล้วก็ที่บ้านในอ่าวจิงฉู แล้วก็บ้านของเหยาลู่ด้วย..”

ถังเมิ่งถึงกับยกมือขึ้นมือทาบอกอย่างโล่งใจ “เรื่องแค่นี้สบายมาก! ก็แค่จ้างบริษัทรับทำความสะอาดโดยตรง แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว”

“แล้วก็รถพวกนี้.. นายไปจัดการเปลี่ยนป้ายทะเบียนใหม่ให้เรียบร้อย แล้วก็ให้หลินเมิ่งหานไปหนึ่งคัน เหยาลู่อีกหนึ่งคัน..”

หลิงหยุนเกือบจะหลุดปากไปว่าให้กงเสี่ยวลู่อีกหนึ่งคัน แต่เมื่อคิดได้ว่าไม่ถูกต้องนัก เขาจึงหยุดไว้ไม่พูดออกมา..

ลูกศิษย์กับครูไม่ควรรักกัน.. สำหรับหลิงหยุนแล้ว เขาไม่ใส่ใจกับกฎเกณฑ์เหล่านี้เลยแม้แต่น้อย แต่กงเสี่ยวลู่คงจะเป็นกังวล และคงต้องให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป

“ได้พี่หยุน!” ถังเมิ่งตอบกลับทันที

หลังจากสั่งงานเรียบร้อยแล้ว หลิงหยุนก็ถามถึงเรื่องเปิดคลีนิค “เรื่องพิธีเปิดคลีนิคพรุ่งนี้ นายเตรียมงานไปถึงใหนแล้ว?”

ถังเมิ่งยิ้มพร้อมตอบกลับไปว่า “สบายใจได้พี่หยุน ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน!”

“หวังว่านายจะไม่ทำอะไรใหญ่โตมากมายนะ!?” หลิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมกับถามต่อ “แล้วเรื่องนางพยาบาลล่ะ ”

“ฉันจ้างมาเรียบร้อยแล้ว.. ทั้งหมดสามคน สวยๆทั้งนั้นเลย..” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ถังเมิ่งก็รีบขยิบตาให้หลิงหยุน

“ที่นี่เป็นคลินิก ไม่ใช่เวทีประกวดนางงาม นายจะเอาสาวสวยมาทำไม? ทำไมไม่เลือกที่มีประสบการณ์?” หลิงหยุนพูดเองก็พูดไปอย่างนั้นไม่ได้จริงจังอะไร

“เอาล่ะ. นายจะทำอะไรก็ไปทำ ฉันจะขึ้นไปข้างบนทำงานต่อ!”

พูดจบหลิงหยุนก็ลุกขึ้นยืน เขายังเขียนวิชสเก้าเข็มปลุกชีพไม่เสร็จเลย เพราะนี่เป็นวิชาฝังเข็มที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงมาก จึงเขียนออกมาได้ค่อนข้างยาก

“นี่พี่หยุน.. แล้วเรื่องห้าร้อยล้านล่ะ?!” ถังเมิ่งรีบวิ่งไปถามหลิงหยุน

หลิงหยุนยิ้มสดใส “ไม่ต้องห่วง.. เงินห้าร้อยล้านนั่นต้องเป็นของพวกเรา ไม่มีทางหลุดไปใหนได้อย่างแน่นอน!”

ระหว่างที่เดินขึ้นไปชั้นสอง หลิงหยุนก็ได้ยินเสียงถังเมิ่งคุยโทรศัพท์กับตี้เสี่ยอู๋ “ฉันอยู่กับพี่หยุนที่บ้าน นายเข้ามาได้เลย!”

เมื่อขึ้นไปข้างบน หลิงหยุนก็ใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมงในการเขียนวิชาเก้าเข็มปลุกชีพ และในที่สุดเขาก็เขียนออกมาได้สำเร็จ จากนั้นจึงเริ่มแก้ไขจุดฝังเข็มบนแผ่นภาพที่ถังเมิ่งซื้อมา

หลิงหยุนคุ้นเคยกับจุดฝังเข็มบนร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดี งานนี้จึงนับว่าเป็นงานเด็กๆสำหรับเขา เพียงแค่สะบัดปากกาไม่กี่ที บนแผ่นภาพก็ปรากฏจุดฝังเข็มหลักๆอยู่เต็มไปหมด

จากนั้น นอกเหนือจากเส้นลมปราณพื้นฐานทั้งสิบสองเส้น ซึ่งมีทั้งเส้นลมปราณเยิ่น และเส้นลมปราณตูนั้น หลิงหยุนก็วาดเส้นลมปราณเพิ่มอีกหกเส้น

เส้นลมปราณทั้งหกที่หลิงหยุนเขียนเพิ่มเติมก็คือ เส้นลมปราณชง เส้นลมปราณไต้ เส้นลมปราณอินเหวย์ เส้นลมปราณหยาง เส้นลมปราณหยิน และเส้นลมปราณหยางเจี๋วย

เมื่อครั้งที่เส้นลมปราณของหลิงหยุนคนเดิมถูกทำลายนั้น ก็คือเส้นลมปราณหยางเจี๋วยนี้เอง แต่ตอนนี้เขาได้รักษาจนหายดีไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว

หลังจากที่ทำงานทุกอย่างเสร็จแล้ว หลิงหยุนก็พอใจในผลงานอย่างมาก เขานั่งชื่นชมผลงานชิ้นเอกของตนเองก่อนจะยิ้มและพยักหน้า

“นี่สิจึงจะเป็นจุดฝังเข็มบนร่างกายมนุษย์ที่ถูกต้อง!”

และในเวลานั้นเองซึ่งเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้าพอดี หลิงหยุนก็รู้ว่าตี้เสี่ยวอู๋ได้มาถึงบ้านของเขาแล้ว และกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ตี้เสี่ยอู๋กำลังสูบบุหรี่อย่าเคร่งเครียด และผุดลุกผุดนั่งอย่างร้อนใจ

หลิงหยุนรีบเขียนเคล็ดวิชาที่เหมาะกับตี้เสี่ยวอู๋ออกมาอีกสองชุด คือวิชา

ในเวลาไม่นาน.. หลิงหยุนก็เขียนเคล็ดวิชาการฝึกกำลังภายในที่เหมาะสมกับตี้เสี่ยวอู๋เสร็จอีกสองชุด ซึ่งก็คือวิชานู่เตา และวิชาพลังมังกร ทั้งสองวิชาล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกเพื่อสร้างความแข็งแกร่งภายใน

ตอนนี้ตี้เสี่ยวอู๋เพิ่งจะอายุเพียงแค่สิบแปดปี แต่รูปร่างกลับสูงถึงหนึ่งเมตรเก้าสิบเซ็นติเมตร ร่างกายของเขาทั้งสง่างามและแข็งแรง อีกทั้งยังเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่ง วิชาสำหรับการฝึกกำลังภายในทั้งสองวิชานี้ จึงเหมาะกับตี้เสี่ยวอู๋ราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

วิชานู่เตานั้นเป็นวิชาที่ใช้ฝึกเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งภายใน และเมื่อถึงเวลาต้องใช้ จุดตันเถียน และเส้นลมปราณภายใน จะถ่ายเทพลังออกมาได้ราวกับทะเลที่คลุ้มคลั่ง

ส่วนวิชาพลังมังกรนั้น เป็นวิชาที่ช่วยเพิ่มพลังจากเดิมได้ถึงสิบเท่า หากนำไปใช้ในระหว่างต่อสู้นั้น จะสามารถเพิ่มศักยภาพของตนเองได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

หลิงหยุนเขียนเคล็ดวิชาบ่มเพาะทั้งสองเสร็จในเวลาเที่ยงตรงพอดี เขาจึงเดินลงมาข้างล่างอย่างอารมณ์ดี

“พี่หยุน..” ถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋เห็นหลิงหยุนเดินลงมาก็รีบลุกขึ้นทักทายพร้อมกัน

หลิงหยุนเดินไปหาตี้เสี่ยวอู๋พร้อมกับยื่นของในมือให้ “รับไป!”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเริ่มสอนวรยุทธให้กับนาย!” หลิงหยุนพูดยิ้มๆ

“จริงเหรอ?! ขอบคุณพี่หยุนมาก!”

ตี้เสี่ยวอู๋ยื่นมือออกไปรับอย่างตื่นเต้น เขาลืมเรื่องที่สูญเสียเงินไปจนหมด และรู้สึกตัวเบาอย่างมีความสุข

“ส่วนนี่เป็นแผนภาพจุดฝังเข็มบนร่างกายมนุษย์ ฉันจัดการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว นายเอาไปท่องให้ขึ้นใจ แล้วก็ท่องเคล็ดวิชาบ่มเพาะทั้งสองนี้ด้วย ท่องจำให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพรุ่งนี้บ่ายฉันจะเริ่มสอนให้กับนาย!”

ตี้เสี่ยวอู๋กลืนน้ำลายอย่างตื่นเต้นดีใจ เขามองถังเมิ่งที่กำลังนึกอิจฉา

“แต่ก่อนอื่นพวกเราไปหาข้าวเที่ยงกินกันก่อนดีกว่า!” หลิงหยุนร้องบอก