ตอนที่ 224 สารภาพผิด

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 224 สารภาพผิด

 

“ที่นี่นะเหรอ”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางมองภูเขาหิมะที่หยงเวยนําทางนางมา

 

“ขะ ขอรับ” หยงเวยตอบพลางก้มหน้าลงเล็กน้อยตลอดการเดินทางพวกมันเจอคนของ อาณาจักรฮัวและจงหลายครั้งแต่ทุกครั้งหญิงสาวตรงหน้า มันก็จัดการเองจนหมด ทําเอาหยงเวยไม่กล้าทําตัวตามสบายต่อหน้านางเลย

 

“ไม่ต้องเกร็งไป แต่ข้าว่าเจ้าคงเป็นห่วงมากไปเองกระมัง” จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางปลายตาขึ้นไปบนยอดเขา

 

“ที่นี่คือเขาลืมเลือนเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรจิ้งจอกขาว” จิ้งจอกเหมันต์พูดพลางเดินเข้าไปในเขตอสูรอย่างเชื่องช้า

 

“เขาลืมเลือน?” หยงเวยเลิกคิ้วอย่างสงสัยเพราะมันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

 

“ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเปลี่ยนชื่อไปหรือเปล่าแต่สมัยก่อนมันชื่อนั้นจริงๆอาจจะเมื่อ 5 หรือ 6 พันปีก่อนก ระมัง” จิ้งจอกเหมันต์ตอบเพราะนางย้ายไปอยู่ที่เจตอสูรผาไร้กันนานมากแล้วแทบจะจําเส้นทางแถวนี้ไม่ได้เสียด้วยซ้ํา

 

“ท่านเคยอยู่แถวนี้หรือขอรับ” หยงเวยถามอย่างประหลาดใจนางพูดราวกับคุ้นเคยกับที่นี่ดี

 

“จะว่าแบบนั้นก็ได้”จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางหยุดเดินไปพริบตานั้นร่างของอสูรจิ้งจอกสีขาวจํานวนหนึ่งก็วิ่งเข้า มาล้อมพวกหยงเวยเอาไว้ทําเอาหยงเวยประหลาดใจอย่าง มากเพราะก่อนหน้านี้มันก็อยู่ในภูเขาหิมะแห่งนี้ได้พักใหญ่แต่กลับไม่เคยทราบเลยว่ามีอสูรจิ้งจอกมากมายถึงขนาดนี้เอาจริงๆมันนึกว่ามารดามันเป็นจิ้งจอกตัวเดียวในเขาเสียอีก

 

“นายหญิง” อสูรจิ้งจอกตัวหนึ่งพูดพลางย่องเข้ามาหาจิ้งจอกเหมันต์อย่างเชื่องช้า ด้วยร่างกายใหญ่โตของจิ้งขอกขาวแม้มันจะนั่งลงบนหิมะแล้วก็ยังดูใหญ่กว่าตัวของจิ้งจอกเหมันต์เสียอีก

 

“ไม่ได้พบกันนาน พวกเจ้ายังสบายดีหรือ”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางมองเหล่าจิ้งจอกหลายสิบตัวที่รายล้อมนางอยู่

 

“ทุกอย่างสงบสุขดีเจ้าค่ะ” อสูรจิ้งจอกขาวที่คลานเข้ามาเมื่อครู่ตอบพลางจําแลงกายเป็นมนุษย์เพื่อให้ตัวเองอยู่ต่ํากว่าจิ้งจอกเหมันต์

 

“ก็สมควรจะเป็นเช่นนั้น”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางหัน มาขยิบตาให้หยงเวยครั้งหนึ่ง ราวกับจะบอกว่าเห็นไหมล่ะเจ้าเป็นห่วงมากไปเอง

 

“นายหญิง” อยู่ๆอสูรจิ้งจอกตหนนึ่งที่อยู่ด้านหลังก็ เอ่ยปากขึ้นด้วยท่าที่หวั่นๆพลังของจิ้งจอกเหมันต์ยามนี้เห นือกว่าแต่ก่อนเสียอีกไม่แปลกเลยที่พวกนางจะเกร็งขนาดนี้

 

“ทําไมท่านถึงเดินทางมากับเด็กของหยงหยวนละเจ้าคะ”ได้ยินคําถามของอสูรด้านหลัง จิ้งจอกเหมันต์ก็พลันขมวดคิ้วทันที

 

“หยงหยวน ใครกัน” แม้นางจะจากหุบเขานี้ไปนานแต่ก็ไม่ได้หลงลืมชื่อลูกน้องของตนแต่อย่างไร นางจําไม่ ได้เลยว่าเคยมีลูกน้องชื่อนี้ด้วย

 

“นางหมายถึง ปิงหยวน เจ้าค่ะ นางละเมิดกฎเข้าไปในหมู่บ้านของมนุษย์แถมยังคบหากับมันอย่างไม่บริสุทธิ์ใจแถมยังทิ้งชื่อที่นายท่านตั้งให้แล้วเอาแส้ของมนุษย์มาใช้เจ้าค่ะพวกเราก็เลยขับไล่นางออกจากฝูง”ได้ยินเช่นนั้นหยงเวยก็ทราบทันทีว่าทําไมมันถึงไม่เคยเห็นจิ้งจอกตนอื่นนอกจากมารดามันเลย

 

“อ๋อ เจ้าเป็นลูกของปิงหยวนไม่สิเจ้าเป็นลูกของหยงหยวนสินะ”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางหันมามองหยงเวย

 

“ขะ ขอรับ” หยงเวยพยักหน้าอย่างลําบากใจมันไม่เคยทราบเลยว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นด้วย

 

“แล้วหยงหยวนอยู่ที่ไหนกัน”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางแผ่พลังอสูรออกไปรอบๆ นางเป็นจิ้งจอกที่มีพลังมากที่ สุดในเหล่าลูกน้องของนางหยงหยวนสมควรรู้ตั้งแต่นางก้าว เข้ามาในเขตอสูรแล้ว

 

“ตั้งแต่โดนขับไล่ออกจากฝูง นางก็อยู่ที่เนินตะวันออกเจ้าค่ะ”อสูรจิ้งจอกที่อยู่ในร่างมนุษย์รายงาน

 

“อืม ข้ารู้แล้ว”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางเดินไปทางเนินตะวันออกตามที่ลูกน้องของนางรายงาน นานมากแล้วที่นางไม่ได้ทําตัวเหมาะกับการเป็นเจ้าเขตอสูรเช่นนี้แต่ก่อนเพราะมีพวกราชาคนอื่นนางเลยไม่ได้ดูสูงส่งจนเหมือนเทพพระเจ้าเช่นนี้แถมพักหลังๆมานี้นางกลับสนิทกับพวกราชาตนอื่นมากกว่าปกติทําเอามาดราชินีของนางดูแปลกตาไปเลย

 

“นายหญิง”ไม่จําเป็นต้องเดินไปถึงเนินตะวันออกอย่าง ที่พวกลูกน้องของจิ้งจอกเหมันต์บอกเพราะเพียงเดินทางมาได้แค่ครึ่งทางร่างของมารดาจิ้งจอกของหยงเวยก็ปรากฏกายเบื้องหน้าจิ้งจอกเหมันต์พร้อมกับอสูรกวางที่ทําหน้าที่สัตว์ขี่ให้นาง

 

“นายหญิงข้า…” หยงหยวนเห็นนายหญิงของนางมากับหยงเวยก็พลันมีสีหน้าซีดเผือดทันทีแถมยิ่งเห็นเหล่าพี่น้องของนางที่ตามมาด้านหลังแทบไม่จําเป็นต้องเดาเลยว่านายหญิงน่าจะรู้เรื่องของนางแล้วเป็นแน่

 

“หยงหยวน เจ้าสารภาพความผิดของเจ้าต่อหน้านายหญิงซะ” จิ้งจอกขาวตนหนึ่งว่าพลางแยกเขียวออกมาราวกับจะข่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้พลังของหยงหยวนมากกว่าพวกนางแถมหยงหยวนยังมีอสูรกวางคอยช่วยอีกต่างหากทําให้พวกนางไม่สามารถลงโทษอะไรนางได้นอกจากขับไล่ออกจากฝูงเท่านั้นแต่ยามนี้นายหญิงกลับมาแล้ว ต่อให้อสูรกวางเข้าช่วยมันก็ต้องโดนเชือดในพริบตาแน่นอน

 

“นายหญิง ข้าขอโทษ” หยงหยวนล้มตัวลงคุกเข่าต่อหน้าจิ้งจอกเหมันต์นองมองไปที่หยงเวยด้วยความรู้สึกเป็นห่วงก่อนที่นางจะตรงเข้าไปยึดชายกระโปงของจิ้งจอกเหมันต์เอาไว้

 

“นายหญิง ข้ามีความรักกับมนุษย์ และเก็บเอาเด็กคนนี้ มาเลี้ยง”หยงหยวนพูดพลางหลังน้ําตาออกมา

 

“ข้าข้าทราบดีว่าท่านห้ามพวกเราไม่ให้ไปยุ่งกับมนุษย์แต่ข้ารักมนุษย์ผู้นั้นจริงๆ และข้าก็รักเด็กคนนี้จริงๆ ” หยงหยวนพูดทั้งน้ําตาสมัยก่อนเรื่องราวของอสูรและมนุษย์ไม่ ค่อยสู้ดีนักทําให้จิ้งจอกเหมันต์สั่งห้ามไม่ให้ไปยุ่งกับมนุษย์เอาไว้จริงๆ

 

“แต่ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเองนายหญิง ได้โปรดอย่าทําอะไรเวยเอ๋อเลย”นางขอร้องพลางมองหยงเวยด้วยท่าที่เป็นห่วงตั้งแต่จิ้งจอกเหมันต์เข้ามาในเขตอสูร นางก็ทําใจไว้แล้วว่าเรื่องนี้จะต้องถูกรายงานแต่ตอนแรกนางไม่ คิดว่าหยงเวยจะอยู่ที่นี่ด้วยมันทําให้นางกังวลอย่างมากว่าหยงเวยจะได้รับโทษไปด้วย

 

“หยงหยวน เจ้าใจเย็นก่อน” จิ้งจอกเห มันต์ว่าพลางยื่นมือไปจับบ่าของหยงหยวนเอาไว้หากเป็นเมื่อก่อนจิ้งจอกเหมันต์คงลงโทษนางไปแล้วแน่ๆ แต่ยาม นี้จิ้งจอกเหมันต์ได้สัมผัสความรักที่มีต่อมนุษย์มาแล้วสําหรับนางยามนี้การมีครอบครัวเป็นมนุษย์ไม่ใช่เรื่องผิดอีกต่อไป

 

“ไม่เจ้าค่ะ นายหญิง ท่านได้โปรดลงโทษข้าแต่เพียงผู้เดีย วเถอะ” หยงหยวนยังคงพยายามขอร้องให้ลงโทษนางทั้งๆที่จิ้งจอกเหมันต์ไม่ได้คิดจะลงโทษอะไรอยู่แล้วแท้ๆ

 

“ได้โปรดเถอะนายหญิง ท่านจะฆ่าจะแกงข้าก็ได้ แต่อย่า ทําอะไรเวยเอ๋อเลย” พูดจบนางก็กอดขาของจิ้งจอกเหมันต์ เอาไว้แน่น

 

“ข้าบอกให้เจ้าใจเย็น” จิ้งจอกเหมันต์เห็นหยงหยวนเอาแต่ฟูมฟายจนพูดไม่รู้เรื่อง นางเลยจัดการเขกกะโหลกนางไปที่หนึ่งเพื่อเรียกสติกลับคืนมา

 

“แต่ว่า นายหญิง พลังของท่านตอนนี้น่ากลัวมากข้า….”หยงหยวนว่าพลางเช็ดน้ําตาออกจากแก้มเพราะจิ้งจอกเหมันต์เลื่อนเป็นระดับบรรพกาลแล้ว เพียงส บตาหยงหยวนก็ขนหัวลุกจนทําอะไรไม่ถูก

 

“เฮ้อ ข้ากําลังจะบอกว่าข้าจะไม่ลงโทษเจ้า”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายถึง พลังของนางจะเพิ่มแต่ไม่ได้หมายความว่านางต้องเปลี่ยนไปเป็นคนอื่นเสียหน่อย

 

“นายหญิง ทําไมท่านถึงไม่ลงโทษนางละเจ้าคะ นางทํา ผิดกฎของท่านนะ” จิ้งจอกขาวอีกตนถามด้วยความสงสัยแม้จิ้งจอกเหมันต์จะย้ายไปที่อื่นแล้ว แต่พวกนางก็ยัง ถือกฎของนางเป็นกฎเหล็กเสมอมาการฝ่าฝืนนั้นมีโทษหนักอย่างแน่นอน

 

“เอาเป็นว่าข้ายกเลิกกฏนั้นก็แล้วกัน”จิ้งจอกเหมันต์ตัด รําคาญด้วยการยกเลิกกฎเสียตรงนี้เพราะนางเองก็มีไปจูเหวินเป็นหลานรักอยู่ จะมาห้ามลูกน้องตนเองมีความสัมพั นธ์กับมนุษย์ได้อย่างไร

 

“เอ๊ะ…” เหล่าจิ้งจอกขาวพากันมองหน้ากันเลิกลัก อยู่ๆ กฎก็หายไปทําเอาพวกนางสับสนไปหมดแบบนี้ความผิดของหยงหยวนก็ไม่มีน่ะสิ

 

“เช่นนั้น ท่านก็ไม่ทําอะไรเวยเอ๋อแล้วสินะเจ้าคะ” หยง หยวนถามพลางมองจิ้งจอกเหมันต์ตาปริบๆ

“ข้าพึ่งช่วยมันมา จะให้ข้าทําอะไรมันกัน” จิ้งจอกเหมันต์ ส่ายหน้าพลางแกะมือของหยงหยวนที่ยังกอดขานางออก

“ก็บอกว่าข้ายกเลิกกฏไปแล้ว เจ้าจะอะไรนักห นา” จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางส่ายหน้าอีกรอบนางอยู่ที่เทือกเขาเหมันต์ไม่ได้สร้างกฏอะไรมากมายเช่นที่นี่ทําให้นางใช้ชีวิตโดยไม่สนใจอะไรมานานหลายพันปี เพราะแบบนั้นนาง เลยอาจจะติดนิสัยขี่รําคาญมาก็เป็นได้

 

“แบบนี้จะดีหรือเจ้าคะนายหญิง” อสูรจิ้งจอกด้านหลัง ถามด้วยท่าที่ไม่มั่นใจ พวกนางระแวงมนุษย์มาตลอดจะให้ยกเลิกกฏแล้วไปหามนาย์ดูก็ไม่กล้า

 

“ก่อนหน้านี้ ข้าได้เจอมนุษย์คนหนึ่ง”จิ้งจอกเห มันต์ว่าพลางมองไปทางหยงเวย ความจริงที่มันเลือกที่จะช่วยหยงเวยนั้นเป็นเพราะมันมีกลิ่นของไปจูเหวินติดตัวอยู่ นั่นเองแถมยังมีกลิ่นของพวกหลินหลิน ปิงปิง และ หงเยว่อ กต่างหาก ทําให้นางเชื่อว่าหยงเวยคงรู้จักไปจูเหวินในระดับหนึ่งแน่ๆ

 

“มันเป็นเด็กน้อยที่ถูกอสูรที่แข็งแกร่งมากตนหนึ่งเก็บมา เลี้ยง นางแข็งแกร่งหลุดโลกเสียจนแม้แต่ข้าเองก็ไม่อาจเทียบนางได้”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางนึกถึงวันที่โดนอสูรแมงมุมจับตัวมานางนึกว่ามันนั้นจะตายแล้วเสียอีก

 

“แข็งแกร่งกว่านายหญิง” เหล่าอสูรจิ้งจอกพา กันขนลุกทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ลําพังนายหญิงพวกนางก็ทั้งกลัวทั้งเคารพแล้วแท้ๆ

 

“เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นหรอก แต่ข้าได้รู้ จักเด็กคนนั้นแล้วก็เลี้ยงดูเขาเหมือนหลาน ข้าเลยไม่คิดว่ามนุษย์จะเลวร้ายเสียหมดทุกคน”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางมอง มาทางหยงหยวน

 

“ดูจากที่เจ้ารักเด็กคนนี้มาก ข้าก็ยิ่งมั่นใจว่าการที่เข้า ได้พบรักกับมนุษย์ไม่ใช่เรื่องแย่สินะ”จิ้งจอกเหมันต์หัวเราะออกมาพลางมองหยงหยวนที่กําลังพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เมื่อกฏโดนยกเลิกไปแล้วหยงหยวนก็ไม่ได้ถูกขับไล่ออก จากกลุ่มแล้ว ทําให้นางสามารถกลับขึ้นไปบนยอดเขาอยู่ร่วมกับพี่น้องของนางได้ แถมนางยังได้รับหน้าที่ปรนนิ บัติให้จิ้งจอกเหมันต์อีกต่างหากทําให้การกลับมาเยี่ยมบ้า นเกิดของจิ้งจอกเหมันต์คราวนี้นับว่าไม่เลวเลยยกเว้นแต่เรื่องที่หยงหยวนพยายามจะให้หยงเวยเรียกนางว่านายหญิงย่าเท่านั้นเอง