บทที่ 1152 ระวัง ฉันจะพ่นเส้นเลือดแล้วนะ!

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

เสียงนั้น มาจากเย่เลี่ยน…

หลิงม่อตกตะลึง พลันชะงักมือทันที

แต่ในตอนนี้เอง สัมผัสอันตรายพลันแผ่ซ่านมา

ศพที่เดิมทีนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงพลันเบิกตาโพลง และยื่นมือคว้าไปที่ข้อมือหลิงม่ออย่างรวดเร็ว

“กรี๊ดดด!”

ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของกู่ซวงซวง เงาร่างของหลี่ย่าหลินพลันโฉบไหวดั่งสายลม ไปปรากฏตัวอยู่ข้างกายหลิงม่อ เธอรั้งตัวหลิงม่อออกมา และเงื้อจูบอสรพิษฟาดฟันลงไป…

ฉึก!

ขณะที่หลิงม่อกับหลี่ย่าหลินถอยออกไปยืนอยู่ในระยะสองเมตร ศพที่ถูกฟันมือขาดหนึ่งข้างพลันลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล

เขาบิดคอไปมา ในขณะที่แผลแขนข้างที่ขาดมีเลือดไหลทะลักออกมามากมาย แต่ดูจากปฏิกิริยาของเขา กลับไม่แสดงให้เห็นความเจ็บปวดหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด บนใบหน้าซีดขาวนั้น หลิงม่อมองเห็นเพียงดวงตากลวงโบ๋คู่นั้น…

“เขา…ฟื้นคืนชีพแล้ว!” สวี่ซูหานชี้ไปที่ศพ และพูดอย่างตื่นตะลึง

ทว่าเธอเองก็ไม่ถือว่าตอบสนองช้า ขณะเดียวกับที่กำลังช็อก ก็ไม่ลืมดึงกริชที่เหน็บเอวไว้ขึ้นมา

เพียงแต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศพที่ฟื้นคืนชีพแล้วยังซุ่มโจมตีเป็นอย่างนี้ สวี่ซูหานไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้จริงๆ…ไม่ใช่แค่เธอ แม้แต่พวกซย่าน่าก็ยังมีสีหน้าแบบเดียวกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกู่ซวงซวงที่เป็นมนุษย์เลย

“ศะ…ศพกระตุกหรอ…หรือว่า เมื่อกี้เขาแกล้งตาย” กู่ซวงซวงยืนอยู่ข้างหลังเย่เลี่ยน พลางพูดตะกุกตะกัก

“เป็นไปไม่ได้…เมื่อกี้เขาตายไปแล้วจริงๆ” ซย่าน่าพูดอย่างมั่นใจ

ในฐานะซอมบี้ระดับสูง เธอไม่มีทางพลาดเรื่องแบบนี้แน่นอน นอกเสียงจากว่าความสามารถพิเศษของอีกฝ่ายคือ “แกล้งตาย”

แต่หลังจากที่ถูกตัดแขนอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดแต่อย่างใด ซึ่งนี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยซักนิด

นอกจากนี้ หลังจากที่ศพร่างนี้ “ฟื้นคืนชีพ” ขึ้น กลับมีลมปราณที่อันตรายยิ่งกว่าก่อนหน้านี้แผ่ซ่านออกมาจากตัว

“กร๊อบแกร๊บๆๆ~~~” เสียงข้อต่อกระดูกของศพดังขึ้น…

“เหอะ…” ซย่าน่าแค่นหัวเราะ ทันใดนั้นเธอพุ่งตัวไปข้างหน้า เงื้อเคียวดาบในมือฟันลงไปที่หัวไหล่ซ้ายของศพอย่างแรง

การโจมตีที่เกิดขึ้นในพริบตาของเธอเรียกได้ว่ารวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด นอกจากหลี่ย่าหลินที่มีระดับวิวัฒนาการเดียวกันรวมถึงเย่เลี่ยนที่มีระดับวิวัฒนาการที่สูงกว่าแล้ว แม้แต่สวี่ซูหานที่เป็นซอมบี้เหมือนกันก็ยังมองตามการเคลื่อนไหวของเธอไม่ทัน

หลิงม่อ สวี่ซูหานและกู่ซวงซวงได้ยินเพียงเสียงแหวกอากาศดัง “สวบ” วินาทีต่อมาคมดาบของเธอก็ได้เฉือนเข้าไปในเนื้อบนหัวไหล่ของศพ

พลั่ก!

เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด ซย่าน่าเปล่งเสียงคำรามต่ำ ออกแรงกดเคียวดาบให้ลึกลงไปอีก

ท่ามกลางเสียงตัดเฉือนชวนเสียวฟัน ตำแหน่งหัวใจของศพแทบจะถูกฟัดขาดออกจากกันทั้งหมด

“แบบนี้แกน่าจะตายได้แล้วสินะ? ไม่ว่าแกจะเป็นตัวอะไร ขอเพียงไม่เปิดโอกาสให้แกลงมืออีกครั้งก็พอ” ซย่าน่าพูดเสียงเย็น

ทว่าขณะที่พูด คิ้วของเธอกลับขมวดบางๆ

“ตอนแรกนึกว่าเขาจะหลบซะอีก ถึงได้เล็งตำแหน่งที่โจมตีง่ายกว่า…แต่ไม่คิดเลยว่ามันไม่เพียงไม่หลบ แต่ร่างกายของมันยังอ่อนแอมากอีกด้วย หรือว่าเขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาจริงๆ? ถ้าอย่างนั้น…แสดงว่ามีความสามารถพิเศษแกล้งตายอยู่จริงๆ งั้นหรอ?”…

“ยังไม่ต้องคิดว่าความสามารถพิเศษแบบนี้มีอยู่จริงหรือเปล่า ถึงแม้จะมีอยู่จริง…เขาก็ไม่น่าจะใช้มันมาซุ่มโจมตีสิ…” ซย่าน่าคิดในใจ

พลั่ก…

เลือดมากมายไหลออกจากแผลของศพอย่างต่อเนื่อง ภายใต้พลังการฟาดฟันอย่างรุนแรงของซย่าน่า ศพหยุดเคลื่อนไหว และก้มหน้าลงต่ำ

แต่หลังจากได้ยินซย่าน่าพูดอย่างนั้น เขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแต่อย่างใด

“ตายแล้วหรอ?” ซย่าน่าจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพลันกระชากแขนไปข้างหลัง ทว่า…

“เป็นไปได้ยังไง?!” วินาทีต่อมา ซย่าน่าพลันเบิกตากว้าง

ศพที่เพิ่งแน่นิ่งไปพลันยกมือขึ้นจับสันดาบที่กำลังถูกดึงออกจากหัวใจของเขา

“หัวใจถูกแทงจนเละขนาดนั้นแล้ว เขากลับยังไม่ตายอีก…” สวี่ซูหานเผยสีหน้าตื่นตะลึงอีกครั้ง

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” ในที่สุดหลิงม่อก็มองเห็นความพิเศษของศพนี้อย่างชัดเจนแล้ว เขาแค่นเสียงเย็นชา และปล่อยหนวดสัมผัสสิบกว่าเส้นออกไปทันใด

หนวดสัมผัสเหล่านั้นพุ่งเข้าไปรัดข้อมือของศพ แต่ในตอนนี้เอง ซย่าน่ากลับกัดฟันบอกว่า “ไม่ใช่ตรงนั้น! ไม่ใช่ที่มือเขา…ข้างในตัวเขาต่างหาก!”

ระหว่างที่ซย่าน่าพยายามดึงเคียวดาบออกมา เธอสัมผัสได้ถึงแรงดึงที่มาจากหัวใจของเขาส่งผ่านคมดาบมา…พละกำลังขุมนั้นบวกกับเรี่ยวแรงของศพ ส่งผลให้ซย่าน่าสะดุดไปชั่วขณะ

ขณะที่ซย่าน่าพูด ประกายสีแดงพาดผ่านดวงตา ไม่นานคมดาบของเธอก็พลันส่องประกายสีเลือดตามมาด้วย แต่ว่า…ศพยังคงไม่สะทกสะท้าน

“อะไรนะ?! หรือว่า…พละกำลังนั่นไม่ได้มาจากศพร่างนี้?” ซย่าน่าคิดในใจ ปากก็พูดเตือนว่า “พี่หลิง ระวัง! ศพนี้มีปัญหา! เขาอาจ…ไม่ใช่คน! มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในร่างกายเขา!”

“ซ่อนอยู่ในร่างกาย…” สวี่ซูหานพูดทวนด้วยสีหน้าซีดเผือด ตอนที่คนผู้นี่เพิ่งปรากฏตัว ลมปราณที่แผ่อยู่รอบตัวเขา เป็นลมปราณของมนุษย์แน่นอน…แต่ตอนนี้ซย่าน่ากลับบอกว่า…

กู่ซวงซวงเองก็ยกมือปิดปาก เบิกตาตากว้างและคิดอย่างหวาดกลัวว่า “เป็นไปได้ยังไง…หรือว่าเขาจะเป็นเหมือนกับซอมบี้ร่างแม่สายพลังจิตตัวนั้น? แต่ซอมบี้ร่างแม่ตัวนั้นมีพลังจิตที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ร่างกายของมันก็ผ่านการกลายพันธุ์มาด้วย…แต่เจ้าตัวนี้กลับเดินคนละทางกันอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้ง…ถ้าหากเขาเป็นร่างแม่ เขาจะเปิดเผยตัวเองง่ายๆ อย่างนี้หรอ? แล้วยังรูปแบบการต่อสู้ที่ใช้ตัวเข้าสู้แบบนี้อีก…”

หลังจากที่คว้าเคียวดาบไว้ ศพร่างนั้นพลันพุ่งตัวเข้ามาหาซย่าน่าตามแนวดาบ เมื่อเลือดสีแดงพุ่งกระฉูดเป็นสายกลางอากาศ ศพนั้นพลันอ้าปากกว้าง

การจู่โจมของเขาเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่หลิงม่อกลับกำหมัดขวาแน่นทันใด และคำรามสุดเสียง “ขาดให้หมด! ขาดให้หมดซะๆ!”

เวลานี้จะปรับโหมดการโจมตีก็ไม่ทันแล้ว แต่ในเมื่ออีกฝ่ายใช้ร่างกายร่างนี้เป็นเกราะ…

เปรี๊ยะๆๆๆๆ!

ท่ามกลางเสียงดังเป็นระลอก มือของศพที่จับเคียวดาบไว้พลันระเบิดตั้งแต่กลางฝ่ามือลามไปจนทั่วแขน กลายเป็นเศษเนื้อมากมายที่กระจายอยู่กลางอากาศ

แต่ศพที่เสียแขนทั้งสองข้างไปแล้วยังคงพุ่งตัวไปหาซย่าน่าอย่างรวดเร็ว ปากที่อ้ากว้างก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคางหลุด และลึกลงไปในลำคอของมัน ราวกับมีบางสิ่งกำลังเคลื่อนขยับอยู่ในนั้น

“ไม่สะทกสะท้านเลยหรอ…” หลิงม่อกัดฟันกรอด

“บ้าจริง…” ซย่าน่าขมวดคิ้วและถอยหลังอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้น พร้อมกับบิดเอว ท่ามกลางเสียงแหวกอากาศ ปลายเท้าของเธอถูกเหวี่ยงไปที่ปลายด้ามจับของเคียวดาบ

พลั่ก!

การเคลื่อนไหวของศพชะงักงันอย่างไม่อาจควบคุม ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกลือกลิ้งอยู่ในลำคอเขาก็พลันถูกพ่นออกมาด้วย

เคร้งๆๆๆๆ!

หลี่ย่าหลินโฉบร่างไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าซย่าน่าอย่างรวดเร็ว เมื่อจูบอสรพิษร่ายรำ วัตถุที่มีลำตัวยาวเป็นเส้นสีแดงราวงูพิษก็ถูกต้านรับไว้อย่างหมดจดไม่มีเล็ดลอด

เรียกได้ว่าการเคลื่อนไหวของสองสาวซอมบี้นั้นไร้ที่ติ!

ขณะที่หลี่ย่าหลินต้านรับการโจมตี ซย่าน่าก็ทิ้งตัวลงบนอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็จ้องมองไปยังเลือดกองหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร…

“นั่นอะไรน่ะ…” สวี่ซูหานกับกู่ซวงซวงต่างขวัญหนีดีฝ่อ

เมื่อกี้พวกเธอเองก็ช่วยด้วยเช่นกัน…แต่กริชที่สวี่ซูหานขว้างออกไปเพียงปักเข้าที่ท้องของซอมบี้เท่านั้น ส่วนพลังคลื่นสะท้านของกู่ซวงซวงนั้นแทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย

การต่อสู้ที่แปลกประหลาดอย่างนี้ ได้เกินขอบเขตความเข้าใจของพวกเธอไปแล้ว

ในวินาทีที่หลี่ย่าหลินพุ่งตัวเข้ามายืนแทนที่ซย่าน่า เงาร่างของเสี่ยวเฮยพลันปรากฏตัวอยู่ข้างหลังศพร่างนั้น

หลิงม่อยกมือทั้งสองข้างขึ้น นิ้วมือกางออก พร้อมกับขมวดคิ้วเบาๆ “แกจะเป็นตัวอะไรก็ช่าง แค่แยกแกออกมาก็รู้แล้ว!”

เส้นสายแห่งพลังจิตของเสี่ยวเฮยเกี่ยวรัดรอบตัวศพแน่น และในเสี้ยววินาทีที่สัมผัสได้ถึงแรงต้าน หนวดสัมผัสนับร้อยเส้นพลันพุ่งทะยานไปที่ศพร่างนั้น

พรวดๆๆๆ…

ท่ามกลางเสียงวัตถุเนื้อแข็งพุ่งแทงเนื้อกาย เลือดมากมายพุ่งกระฉูดออกมาจากร่างกายทุกส่วนของศพร่างนั้น และวัตถุลำตัวยาวเหล่านั้นก็พลันอ่อนแรงไปทันใด

เวลานี้ นอกจากเลือดจำนวนมากที่นองเต็มพื้น ก็ยังมีวัตถุเหล่านั้นที่ถูกหลี่ย่าหลินฟาดฟัน…

และด้านหลังศพที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม…บนผนังด้านนั้น ก็เต็มไปด้วยหยดเลือดมากมาย…

ทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดขึ้นเพราะการโจมตีของหลิงม่อ…

“หยุดแล้วหรอ…” กู่ซวงซวงคิดอย่างแตกตื่น

หลิงม่อเดินเข้าไปจับด้ามดาบ เส้นเอ็นปูดโปนบนหลังมือเขา จากนั้นก็พลันกระชากเคียวอาบออกมาอย่างแรง

เมื่อสูญเสียแรงค้ำไป ศพร่างนั้นก็ล้มเข้ามาทางหลิงม่อทันที

แต่ในเสี้ยววินาทีที่เขาใกล้จะล้มลงไป หลิงม่อกลับเหลือบเห็นท้ายทอยของเขา…

ระหว่างที่ล้มลงไป หมวกของเขาถูกเปิดขึ้น เผยให้เห็นส่วนที่แต่เดิมไม่สะดุดตาทุกคน…

วูบ!

หลิงม่อรีบเบี่ยงตัวหลบออกไปด้านข้าง ขณะเดียวกันก็รีบแผ่หนวดสัมผัสออกไปโจมตีตรงจุดนั้นทันที

เมื่อศพล้มลงไปเร็วขึ้น และกระแทกกับพื้นในที่สุด คนอื่นๆ ก็มองเห็นูแผลเหวอะหวะกลางท้ายทอยของศพร่างนั้น

ส่วนหลิงม่อที่ยืนอยู่หน้าศพ กลับยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดที่กระเด็นโดนหน้าตัวเองโดยไม่พูดอะไร

“เมื่อกี้…มีอะไรจู่โจมพี่งั้นหรอ?” ซย่าน่าเดินเข้ามารับเคียวดาบไปจากมือหลิงม่อ พลางถามขึ้น

หลิงม่อกลับยังคงจ้องที่รูแผลนั้น แล้วพยักหน้าตอบว่า “อื่ม…เมื่อกี้เขายังไม่ตายจริงๆ…”

“ถ้าอย่างนั้น…สิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา คือตัวอะไรกันแน่?” สวี่ซูหานมองวัตถุลำตัวยาวที่อยู่บนพื้นพวกนั้น ตัดสินใจเขี่ยหนึ่งในนั้นขึ้นมา แล้วอยู่ๆ ก็หันไปมองศพที่ถูกเจาะจนพรุนเป็นกระชอนด้วยสีหน้าหวาดผวา “นี่มัน…เส้นเลือดในร่างกายของเขานี่!”

“ใช่แล้ว…” หลิงม่อพูดต่อ “ตอนแรกกะว่าจะทำลายมันเพื่อให้ร่างจริงเผยตัว แต่ไม่คิดว่าจะดันไปโจมตีถูกจุดเข้าน่ะสิ”

“แต่พ่นเส้นเลือดของตัวเองออกมาอย่างนั้น มันก็…ยังไงก็ตาม เมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเราก็ไม่มีทางรู้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาคืออะไร” กู่ซวงซวงพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว

สวี่ซูหานเองก็พยักหน้าอย่างเสียดาย หลี่ย่าหลินกลับกำลังกวาดมองไปรอบๆ มีเพียงซย่าน่าที่จ้องมองหลิงม่ออย่างครุ่นคิด

ขณะที่สาวๆ กำลังถกเถียงกันอยู่ หลิงม่อกลับจ้องมองรูแผลตรงท้ายทอยนั้นอย่างไม่ละสายตา…

—————————————————————————–