บทที่ 177 คนที่ผมรัก

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลินจือไม่คิดว่าเธอจะพูดคุยกับลูน่าได้อย่างถูกคอ ลูน่าในฐานะภรรยาของจอร์แดน ก็ย่อมมีความรู้ความสามารถที่หลากหลาย และความชอบของหลินจือที่มีมาตั้งแต่เด็กก็คือการอ่านหนังสือ จะพูดว่ารอบรู้ในเรื่องของหนังสือคงไม่ได้ แต่หนังสือที่ขึ้นชื่อทั่วไปทั้งในและต่างประเทศนั้นล้วนอ่านมันมาหมดแล้วทั้งสิ้น

ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันจากหนังสือเล่มโปรด จากนั้นก็ลามไปสู่หัวข้ออื่นๆ จอร์แดนที่เตรียมอาหารอยู่ในครัว เมื่อเห็นพวกเธอคุยกันอย่างออกรสออกชาติ ก็ออกมานั่งร่วมด้วย

แต่จอร์แดนไม่ได้มีส่วนร่วมในการสนทนาของพวกเธอ ทำเพียงนั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆเท่านั้น

จอร์แดนมองไปยังหลินจือด้วยสายตาที่รักใคร่และเอ็นดู ลูน่าก็เช่นกัน

หลินจือรับรู้ได้ ว่าคนทั้งสองนั้นเห็นเธอเป็นดั่งลูกสาวจริงๆ

สำหรับเธอแล้ว แม้ในตอนนี้จะยังยอมรับกับความจริงในเรื่องนี้ไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลต่อความชอบที่เธอมีให้กับจอร์แดนและลูน่าเลย

ฤดูใบไม้ร่วงที่เปกก้านั้นสวยงามมาก บรรยากาศสบายๆและเงียบสงบในสวนนี้ บวกกับบริเวณโดยรอบที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก หลินจือรู้สึกมีความสุขมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตอนยังเป็นเด็กเธอไม่เคยได้รู้สึกถึงความอบอุ่นในครอบครัวเลย แม้ว่าแม่ของเธอที่เป็นแม่เลี้ยงจะดูแลเธอมาเป็นอย่างดี แต่ชาร์ลีกับเรียวจิก็ไม่เอาไหน

มีสามีและลูกชายแบบนี้ ชีวิตของแม่เลี้ยงเธอก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไร มีปากเสียงกันไม่เว้นในแต่ละวัน

แต่วันนี้ตอนนี้ นั่งอยู่กับคนแปลกหน้าสองคนแบบนี้ เธอกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน

หลังอาหารกลางวันจอร์แดนประคองลูน่ากลับไปนอนพักผ่อนที่ห้อง หลินจือจึงไปยังห้องหนังสือของจอร์แดนเพื่ออ่านหนังสือ

ชั้นบน ในห้องนอนของจอร์แดนกับลูน่า

ลูน่ากอดจอร์แดนร้องไห้ไม่หยุด ขอบตาของจอร์แดนก็แดงก่ำด้วยเช่นกัน กอดลูน่าแน่นและไม่ได้พูดอะไร

ผ่านไปสักพัก ลูน่าพูดกับจอร์แดนทั้งน้ำตาว่า“ไม่ได้ให้กำเนิดลูกของคุณ เป็นความเสียใจอย่างมากในชีวิตของฉัน แต่ตอนนี้เธอมาอยู่ข้างกายคุณแล้ว ต่อให้ต้องตายฉันก็ไม่เสียใจแล้ว”

จอร์แดนพูดอย่างเจ็บปวดใจว่า“อย่าพูดอะไรโง่ๆแบบนี้ ร่างกายของคุณยังแข็งแรงดี”

ลูน่าถอนหายใจในอ้อมแขนของเขา“เหมือนมาก แทบไม่ต้องพิสูจน์อะไรเลย ฉันก็รู้ว่าเธอคือลูกของคุณกับผู้หญิงคนนั้น”

จอร์แดนกอดเธอแน่นและพูดว่า“ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าโชคชะตาจะเล่นตลกแบบนี้ และไม่คาดคิดด้วยว่า เธอจะทิ้งลูกสาวคนหนึ่งไว้ให้ผม”

เมื่อนึกไปถึงหญิงสาวที่ตัวเองเคยตกหลุมรักเมื่อสมัยหนุ่มๆ ภายในใจของจอร์แดนก็ยังคงสวยงามเสมอ

ตอนที่เขาเรียนอยู่ที่เมืองเจสเวิร์ด ได้พบกับผู้หญิงคนแรกในชีวิตที่เขาตกหลุมรัก ทั้งสองต่างรักกันมาก ตัดสินใจกันว่าจะแต่งงานกันทันทีหลังจากที่เรียนจบ

แต่ช่วงเวลาดีๆมักคงอยู่ไม่นาน ในวงการข้าราชการของพ่อเขาถูกกดดันและบีบบังคับจากฝ่ายตรงข้าม เขาจึงถูกเรียกตัวกลับเมืองเวลฟ์อย่างเร่งด่วน หลังจากนั้นครอบครัวของพวกเขาก็ถูกกดขี่ข่มเหงสารพัด เขาติดต่อหญิงสาวคนนั้นไม่ได้ และไม่กล้าที่จะติดต่อ

เพราะในตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าครอบครัวของพวกเขาจะปลอดภัยหรือไม่ จะกล้าติดต่อไปหาผู้หญิงที่ตนรักได้ยังไง? หากทำเธอเดือดร้อนไปด้วย ก็เท่ากับทำร้ายเธอด้วยหรือไม่ใช่ ?

ผ่านไปหลายปีเรื่องของพ่อเขาก็สงบลงเขากลับไปยังเมืองเจสเวิร์ดเพื่อตามหาผู้หญิงที่เขารัก แต่ไม่พบเธอแล้ว ผู้คนมากมาย เขาได้ทำเธอหายไปแล้ว

ดังนั้น หนังสือเล่มใหม่ของเขาจึงมีชื่อว่าฉันจะหาคุณให้เจอนี่เป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา

เพียงแต่ว่า เขาไม่คาดคิด ว่าเป็นเพราะหนังสือเล่มนี้ทำให้เขาได้รู้จักกับหลินจือ ตอนเจอหลินจือครั้งแรกเขาตกตะลึงมาก เพราะเธอมีหน้าตาที่ละม้ายคล้ายคลึงกับผู้หญิงคนนั้น เหมือนกันแทบจะทุกส่วน

หลังจากที่หลินจือกับเทาเท่จากไป เขาได้ให้คนไปตรวจค้นประวัติของหลินจือ และหลังจากที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของชาร์ลี เขาก็แทบจะมั่นใจได้ในทันทีว่าเธอคือลูกสาวของเขา

เพียงแต่ว่า ได้ยินว่าแม่ของเธอให้กำเนิดเธอได้ไม่นานก็ลาจากโลกนี้ไป เขาเองก็เศร้าเสียใจกับเรื่องนี้อยู่หลายวัน

หญิงสาวที่เขาเฝ้าตามหามากว่าครึ่งค่อนชีวิต กลับลาจากโลกนี้ไปนานแล้ว เขารู้สึกราวกับหัวใจถูกควักออกก็ไม่ปาน

ดังนั้นที่เขาบอกว่าต้องการจะรับหลินจือเป็นลูกบุญธรรมนั้น ไม่ใช่เพราะเขาชอบนิสัยของหลินจือเท่านั้น แต่เป็นเพราะเธออาจจะเป็นลูกสาวแท้ๆของเขาด้วยก็ได้

ตอนนี้ต้องทำแค่ตรวจดีเอ็นเอเท่านั้น ทุกอย่างก็จะกระจ่าง

แต่จอร์แดนไม่คิดจะบอกความจริงทุกอย่างกับหลินจือ เขากลัวหลินจือจะรับไม่ได้ ก็จึงใช้การเป็นลูกบุญธรรมนี้ของพวกเขามากระชับและผูกสัมพันธ์กันไปก่อน

นี่อาจจะเป็นชะตาฟ้าลิขิตระหว่างพวกเขาก็เป็นได้

เขาเขียนหนังสือเล่มนี้ให้กับผู้หญิงที่เขารัก และให้กับแม่ผู้ให้กำเนิดเธอ ซึ่งก็เป็นดั่งสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของพวกเขา

อารมณ์ของลูน่ายังคงไม่สงบ“ ฉันดีใจมาก ดีใจมากจริงๆ ”

จอร์แดนเปิดอกสารภาพกับลูน่าตั้งแต่แรก ว่าเขาเคยมีคนรักที่รักมากคนหนึ่ง

และจอร์แดนก็เคยสัญญา ว่าหากแต่งงานกับเธอแล้ว ก็จะดูแลเธอเป็นอย่างดี และหลังจากที่แต่งงานกันจอร์แดนก็ทำได้อย่างที่พูด แม้เธอจะมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพจนไม่สามารถมีบุตรได้ จอร์แดนก็ไม่เคยละเลยเธอ

ต้องรู้ก่อนว่าในตระกูลแม็กซิมัสที่เป็นครอบครัวใหญ่แบบนี้ เธอไม่สามารถมีบุตรได้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดี ก่อนหน้านั้นพ่อแม่ของจอร์แดนก็เคยบอกเขาให้หย่ากับเธอ เพื่อให้จอร์แดนแต่งงานใหม่

แต่ก็ถูกจอร์แดนปฏิเสธกลับเสียงแข็ง จนมีอยู่ช่วงหนึ่งถึงกับขาดการติดต่อกับทางครอบครัวเพราะสาเหตุนี้

หลายปีมานี้เพราะทุกคนต่างก็อายุมากขึ้น พ่อแม่ของเขาก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นอีกต่อไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายก็ถึงได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง

ดังนั้น ก็พอจะนึกภาพออกว่าถ้าหากหลินจือเป็นลูกสาวของจอร์แดน ลูน่าจะรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากแค่ไหน

ในที่สุดจอร์แดนก็ไม่ต้องตัวคนเดียวไร้เงาลูกหลานอีกต่อไป แม้ลูกคนนี้เธอจะไม่ได้เป็นคนให้กำเนิดเอง แต่เธอก็ดีใจแทนจอร์แดน ยิ่งเมื่อคิดไปถึงหากเธอต้องตายจากโลกนี้ไปก่อน จอร์แดนก็ยังมีลูกสาวอีกคนที่ห่วงใยและคอยอยู่เคียงข้างดูแล ก็จึงยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีก

ลูน่าให้คำมั่นกับจอร์แดนว่า“ฉันจะปฏิบัติต่อเธออย่างดี จะรักเธอเหมือนลูกตัวเอง เธอทำให้ชีวิตของเราสมบูรณ์อย่างที่สุด”

“อืม”จอร์แดนรู้ ว่าลูน่าจะต้องทำดีกับหลินจือ เพราะลูน่าก็เป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกัน

บางที วาสนาของเขากับผู้หญิงคนนั้นอาจจะมีมันแค่นี้ แต่ก็ยังดี ที่เขายังได้เจอลูกสาวของพวกเขา จากนี้ต่อไป เขาจะรักและทุ่มเทดูแลหลินจือให้เป็นอย่างดี

หลินจืออ่านหนังสือในห้องหนังสือของจอร์แดนอยู่สักพัก ก็ได้รับคลิปวิดีโอที่นานิส่งมาให้

เนื้อหาในคลิปคือบทสัมภาษณ์ของเทาเท่ที่ถูกนักข่าวสัมภาษณ์ในสนามบิน หลินจือไม่คิดว่าเทาเท่จะกลับเมืองเจสเวิร์ดแล้ว เธอยังกังวลว่าหากตอนค่ำกลับไปที่โรงแรมแล้วเจอกับเขา เธอจะมองหน้าเขายังไง

ในคลิปนั้นนักข่าวต่างพากันรายล้อมเทาเท่ มีคนถามว่า“ประธานเทาเท่ ไม่ทราบว่าผู้หญิงในคลิปวิดีโอนั้นเป็นใครครับ ?”

บนสันจมูกของเทาเท่สวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ ใบหน้ามืดมนไม่คิดจะสนใจใคร

ได้ยินดังนั้นเขาก็ยิ้มเยาะให้นักข่าวแล้วพูดว่า“คำถามของคุณไม่สิ้นคิดไปหน่อยเหรอ ? ผมเข้าไปจูบเธอขนาดนั้น เธอจะเป็นใครได้อีก ? ก็ต้องเป็นคนที่ผมรักสิ”

นักข่าวคนนั้นถูกสวนกลับจนพูดไม่ออก แต่ในขณะที่ถูกสวนนั้นก็รู้สึกราวกับว่าถูกสาดความหวานใส่ไปด้วย เพราะว่า การได้ยินเทาเท่ผู้ซึ่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวมาพูดถึงเรื่องความรักแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย