ตอนที่ 133 ฉินซินหยิ่ง

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ขณะที่ถังซีกำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาแสนอบอุ่นกับคุณแม่ทั้งสองภายในโรงเรียน ด้านนอกโรงเรียนเซียวจิ้นหนิงนั่งอยู่ในรถ กำพวงมาลัยรถแน่นด้วยมือทั้งสองข้าง พลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ทำไม! ทำไมคุณแม่ถึงทำอย่างนี้กับฉัน! คุณแม่พูดไม่ใช่หรือว่าถึงแม้เซียวโหรวจะกลับมา คุณแม่ก็จะยังคงปฏิบัติต่อฉันในฐานะลูกสาวแท้ๆ คุณแม่บอกฉันไม่ใช่หรือว่าฉันจะยังคงเป็นลูกสาวตระกูลเซียว ถึงแม้มันจะกลับมา! ทำไมตอนนี้คุณแม่ถึงทำกับฉันแบบนี้! ทำไมถึงสนใจแต่เซียวโหรวแบบนี้ ทำไม!

 

 

เซียวโหรว! เซียวโหรว! แกมาปรากฏตัวทำไม! แกมาปรากฏตัวทั้งๆ ที่มีฉันอยู่ทำไม! ทำไมแกถึงมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของฉันไป!

 

 

เซียวจิ้นหนิงมองไปที่นักข่าวรอบๆ ประตูโรงเรียน คนพวกนี้กำลังรอให้เซียวโหรวออกมาเพื่อจะสัมภาษณ์ แล้วเขียนข่าวตามที่เซียวโหรวบอก ทำให้เธอเสียชื่อเสียง!

 

 

นักข่าวที่เคยไล่ล่าและบูชาเธอทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว รออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนทั้งวันเพื่อรวบรวมเนื้อหาข่าว และเขียนบทความเพื่อทำลายชื่อเสียงเธอ มีอะไรดีหรือในตัวเซียวโหรว ที่ยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายทั้งๆ ที่อายุยี่สิบสาม เซียวโหรวเป็นเพียงความอับอายของตระกูลเซียว! ทำไมคนตระกูลเซียวถึงตาบอดยอมรับผู้หญิงคนนี้เข้ามาในตระกูล เธอต่างหากที่เป็นลูกสาวตระกูลเซียวผู้นำความภาคภูมิใจมาสู่ตระกูล และมีเพียงเธอเท่านั้นที่ควรได้รับเกียรติจากพวกเขา ทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าใจในเรื่องนี้…

 

 

เซียวโหรว… เซียวโหรว! ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่! ฉันไม่มีวันปล่อยแกไป!

 

 

เซียวจิ้นหนิงเหยียบคันเร่งอย่างแรง รถพุ่งออกไปข้างหน้า นักข่าวที่ประตูโรงเรียนรู้สึกได้ถึงแรงลมที่พัดกระโชก และเห็นเพียงท้ายรถยนต์คันหนึ่งขับออกไป พวกเขารีบหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป แต่รถหายลับสายตาไปแล้ว

 

 

นักข่าวสาวคนหนึ่งมองไปที่ถนนซึ่งมีรอยยางรถยนต์ทิ้งไว้ และกล่าวพึมพำว่า “เมื่อกี้ฉันเห็น… เซียวจิ้นหนิง…”

 

 

นักข่าวที่รวมกลุ่มกันอยู่เริ่มถกเถียงถึงเหตุการณ์นี้ทันที “เซียวจิ้นหนิงหรือ”

 

 

“คุณเห็นไม่ผิดใช่ไหม”

 

 

“ไม่ผิดหรอก!”

 

 

“มาเลย ถ่ายรูปและเขียนบทความเลย เซียวจิ้นหนิง ลูกสาวตัวปลอม ไปที่ประตูโรงเรียนเพื่อหาเรื่องเซียวโหรว ลูกสาวตัวจริง ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปด้วยความโกรธ”

 

 

“เธอต้องมาที่นี่เพื่อข่มเหงรังแกเซียวโหรวแน่ๆ แต่เป็นเพราะมีพวกเรารออยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน เธอเลยต้องหลบไป มาเร็ว ถ่ายภาพรอยล้อรถนี่แหละ”

 

 

“แต่ถึงยังไงก็มีกล้องวงจรปิดที่ประตูโรงเรียนไม่ใช่หรือ โทรหาตำรวจ แจ้งตำรวจว่ามีการชนแล้วหนีที่นี่สิ!”

 

 

นักข่าวพยายามทุกวิถีทางที่จะทำได้ เพื่อช่วยกันจับตัวเซียวจิ้นหนิง

 

 

ตำรวจในพื้นที่และตำรวจจราจรมาถึงในไม่ช้า นักข่าวรีบกรูเข้าไปหาพวกเขา “คุณตำรวจตรวจดูกล้องวงจรปิดหรือยังครับ”

 

 

“คุณตำรวจ ระบุตัวผู้กระทำผิดจากกล้องวงจรปิดได้หรือยังครับ”

 

 

“คุณตำรวจ คนๆ นั้นขับรถชนเด็กนักเรียนหรือเปล่า”

 

 

“คุณตำรวจ…”

 

 

ตำรวจหน้าบึ้ง ท่าทางโกรธเล็กน้อยเมื่อถามว่า “พวกคุณใช่ไหมที่แจ้งตำรวจ ใครเป็นคนแจ้ง”

 

 

ตำรวจไม่รู้จะพูดอย่างไรดี พวกเขาตรวจดูวิดีโอของกล้องวงจรปิดหลังจากได้รับโทรศัพท์ พบแค่ผู้หญิงคนหนึ่งขับรถพุ่งออกไป แต่ไม่มีเหตุการณ์ชนแล้วหนีแต่อย่างใด มีนักข่าวมากมายอยู่ที่นี่ ต้องเป็นหนึ่งในพวกเขาที่แจ้งความเท็จ!

 

 

“ไม่มีนี่คะ พวกเรามาที่นี่หลังจากได้ยินข่าว เราแค่ต้องการสัมภาษณ์เพื่อพาดหัวข่าวสังคม” นักข่าวสาวคนหนึ่งตะโกนบอก

 

 

นักข่าวคนอื่นๆ พูดเป็นเสียงเดียวกับเธอ

 

 

พวกตำรวจต่างกลอกตา นักข่าวเหล่านี้ตะโกนกันไปมาข้ามหัวพวกเขา ตำรวจเห็นจากวิดีโอแล้วว่าพวกนักข่าวมารออยู่ที่นี่… แล้วทำไมถึงได้กลายเป็นปาปารัสซี่มาสัมภาษณ์หัวข้อข่าวสังคม ใครจะเชื่อ!

 

 

“อย่ามารวมตัวกันที่นี่ โรงเรียนเป็นสถานที่สอนหนังสือแก่เด็กๆ ไม่ใช่สถานที่หาข่าว อย่ามารบกวนเด็กนักเรียนที่นี่ ถ้าพวกคุณต้องการทำข่าวก็ไปที่สนามบิน หรือตามกองถ่ายหนังโน่น อย่ามาออกันอยู่หน้าประตูโรงเรียนแบบนี้!”

 

 

นักข่าว “…” คุณตำรวจนี่ช่างรู้ไปหมดเสียจริงๆ !

 

 

นักข่าวคนหนึ่งยังดื้อด้าน “คุณตำรวจ ช่วยกรุณาตอบคำถามก่อนหน้านี้ของเราได้ไหมครับ มีการชนแล้วหนีเกิดขึ้นที่นี่จริงๆ หรือเปล่า มีนักเรียนบาดเจ็บไหม”

 

 

“ไม่มี! ไม่มีใครถูกรถชนทั้งนั้น มีแต่คนขับรถผิดกฎหมาย กลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว!” คราวนี้คุณตำรวจดูโกรธจริงๆ

 

 

หลังจากนักข่าวแยกย้ายกันไป ตำรวจจราจรก็โทรหาเซียวจิ้นหนิง…

 

 

 

 

ที่แผนกออกแบบเสื้อผ้า เฉียวอินเตอร์เนชันแนลกรุป

 

 

ในฐานะนักออกแบบแฟชั่น ฉินซินหยิ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่บุคคลที่เป็นผู้นำทางแฟชั่นในต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของเฉียวอินเตอร์เนชันแนลกรุป จึงขอให้ฉินซินหยิ่งมาเป็นนักออกแบบพิเศษให้กับบริษัท เธอไม่ยอมรับในทีแรก แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าไม่มีโอกาสใดที่เธอจะได้เข้าร่วมงานกับเฉียวอินเตอร์เนชันแนลกรุป ถ้าเธอไม่รับตำแหน่งนี้ เธอจึงต้องทำงานที่แผนกออกแบบเสื้อผ้าของบริษัท เธอต้องอยู่ที่นี่เท่านั้นจึงจะเข้าใกล้เฉียวเหลียงได้

 

 

ด้วยตำแหน่งนักออกแบบพิเศษที่ได้รับเชิญมา เธอไม่สามารถบริหารจัดการแผนกออกแบบของเฉียวอินเตอร์เนชันแนลกรุปได้ แต่เธอก็พอใจที่ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับนักออกแบบแถวหน้า เธอมีห้องทำงานส่วนตัว และมีผู้ช่วยออกแบบด้วย

 

 

ตอนนี้ฉินซินหยิ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานของเธอ หน้านิ่วคิ้วขมวดอ่านข่าวบนอินเตอร์เน็ทอยู่ที่โซฟา ผู้หญิงที่เธอพบเมื่อวานนี้สวยมากจนเธอรู้สึกกลัว เหมือนกับที่เธอรู้สึกเวลาเฉียวเหลียงกับถังซีอยู่ด้วยกัน และเธอรู้สึกว่าเธอกำลังจะเสียเฉียวเหลียงไป…

 

 

ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร…

 

 

เซียวโหรว…

 

 

เมื่อวานนี้อาห้าเรียกเธอว่าคุณเซียวโหรว เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนนั้นต้องชื่อ เซียวโหรว!

 

 

เธอได้เห็นข่าวอื้อฉาวของเซียวจิ้นหนิงดาราดังในข่าววันนี้ ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเซียวโหรว…

 

 

ฉินซินหยิ่งลุกขึ้นนั่งตัวตรง แล้วพิมพ์ชื่อเซียวโหรวกับเซียวจิ้นหนิงในคอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นข่าวเรื่องลูกสาวตัวจริงลูกสาวตัวปลอมก็โผล่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

 

 

สิบห้านาทีต่อมาประกายเยือกเย็นก็วาววับในดวงตาฉินซินหยิ่ง เธอยิ้มออกมาอย่างเย็นชา คว้าโทรศัพท์มือถือมาโทรหาใครบางคน “ค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของเซียวจิ้นหนิง”

 

 

เซียวจิ้นหนิงสวมหน้ากากและหมวก นั่งอยู่ในร้านกาแฟบนหลังคาตึกสปริงออฟปารีส เธอมองหญิงสาวตรงหน้า ซึ่งแต่งหน้าจัดและมีรอยยิ้มบนใบหน้า แล้วขมวดคิ้วถามว่า “ฉันไม่รู้จักคุณ คุณต้องการอะไรจากฉัน”

 

 

ฉินซินหยิ่งยิ้ม ตอบว่า “คุณเซียว… โอ! ไม่ใช่สิ คุณเหยา ถึงคุณจะไม่รู้จักฉัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันไม่รู้จักคุณ”

 

 

เมื่อเซียวจิ้นหนิงได้ยินฉินซินหยิ่งเรียกเธอว่าคุณเหยา ประกายเยือกเย็นก็วาววับผ่านดวงตาเธอ และเธอกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง “คนทั่วไปมากมายรู้จักฉัน!”

 

 

ฉินซินหยิ่งจิบกาแฟ ยิ้มด้วยท่าทีสบายๆ “แต่ไม่มีใครช่วยคุณ”

 

 

เซียวจิ้นหนิงขมวดคิ้ว หรี่ตาลงเมื่อถามว่า “คุณหมายความว่ายังไง”

 

 

ฉินซินหยิ่งยิ้ม วางถ้วยกาแฟในมือลง แล้วมองหน้าเซียวจิ้นหนิง “คุณเซียว คุณเกลียดเซียวโหรวใช่ไหม คุณต้องการแทนที่เธอใช่ไหม ฉันช่วยคุณได้”

 

 

“คุณต้องการทำอะไร”

 

 

ฉินซินหยิ่งยิ้มและตอบว่า “ฉันไม่ได้ต้องการทำอะไรเลย ฉันแค่เห็นว่าคุณน่าเวทนา และอยู่ในจุดต่ำสุดของชีวิต ฉันก็เลยอยากช่วยคุณ”