ตอนที่ 1956 การตายของเฉียวเยี่ยเฟิง (2) / ตอนที่ 1957 การตายของเฉียวเยี่ยเฟิง (3)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1956 การตายของเฉียวเยี่ยเฟิง (2)

“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว แค่เพราะหลายปีมานี้มีสตรีมารบกวนข้ามากเกินไปจนสังหารไม่หมด เวลาเดินออกไปข้างนอกข้าจึงสวมหน้ากากเอาไว้ ภรรยาข้าจะได้ไม่ต้องรู้สึกรำคาญใจ”

เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว…

คำพูดของเขาเกือบทำให้เฉียวเยี่ยเฟิงสติแตก ดวงตาของนางแดงก่ำแล้วพยายามจะเดินมาหาอวิ๋นเซียวอยู่หลายครั้งแต่ก็ต้องทรุดลงไปที่พื้นทุกครั้งเพราะบาดเจ็บสาหัส

ทำไมล่ะ

ทำไมถึงเป็นแบบนี้

นางคงไม่อารมณ์เสียถ้าจักรพรรดิปีศาจเป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาน่าเกลียดจริงๆ แต่เขาทั้งอ่อนเยาว์ หล่อเหลาและทรงพลัง! นางจะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างไร

อีกทั้งนางยังเกือบจะได้เป็นผู้หญิงของเขา!

“เฟิงเอ๋อร์” เฉียวจื่อเสวียนพยุงเฉียวเยี่ยเฟิงขึ้นมาแล้วเงยหน้ามองอวิ๋นเซียว “น้องสาวของข้ารู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตนางด้วย อีกอย่างที่นี่คือนครเฟิงอวิ๋น เหล่ายอดฝีมือของอาณาจักรจินหยางไม่มีทางยอมให้ท่านสังหารนางแน่”

ขณะที่เขาพูดแบบนี้ เฉียวจื่อเสวียนก็หันไปมองชายชราที่พึ่งโจมตีอวิ๋นเซียวก็เห็นว่าเขายังอยู่ข้างๆ สีหน้าของเขาแสดงออกชัดเจนว่าเขาจะโจมตีอวิ๋นเซียวทันทีถ้าอวิ๋นเซียวกล้าโจมตีเฉียวเยี่ยเฟิง

เฉียวจื่อเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “จักรพรรดิปีศาจ ข้ารู้ว่าท่านแข็งแกร่งแต่อาณาจักรจื่อเยว่ของพวกเราก็ไม่ได้อ่อนแอ เสด็จพ่อเคารพท่านมากและยังอยากให้เฟิงเอ๋อร์แต่งงานกับท่าน ถ้าท่านสังหารน้องสาวของข้า ข้าเกรงว่าอาณาจักรจื่อเยว่จะไม่ปล่อยท่านไป”

ตอนนี้เฉียวจื่อเสวียนคิดหนักมาก

จักรพรรดิปีศาจยังเยาว์และแข็งแกร่ง ถ้าเขาให้น้องสาวเขาแต่งงานกับอีกฝ่าย ความแข็งแกร่งของอาณาจักรจื่อเยว่ก็จะเพิ่มขึ้นและไม่นานก็จะเอาชนะอาณาจักรจินหยางได้ น้องสาวของเขารู้ความผิดตัวเองแล้วดังนั้นนางไม่มีทางทำพลาดเหมือนเดิมแน่

อวิ๋นลั่วเฟิงสัมผัสได้ถึงความโกรธของอวิ๋นเซียว นางจึงกำหมัดแล้วส่งสายตาเย็นชาไปให้เฉียวจื่อเสวียน รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง

“ขอโทษด้วยนะแต่ข้าเป็นคนใจแคบ ทั้งชีวิตเขามีข้าเป็นผู้หญิงของเขาได้คนเดียว ถ้าใครกล้าแยกเราออกจากกัน ข้าก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถปล่อยนางไปได้”

เฉียวจื่อเสวียนหน้าถอดสีเล็กน้อยแล้วฝืนยิ้ม “แม่นาง ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นนะ”

อวิ๋นเซียวกอดอวิ๋นลั่วเฟิงแน่นขึ้น ตอนที่เขามองอวิ๋นลั่วเฟิง สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความจริงจังและอบอุ่น แต่เมื่อเขาหันไปหาเฉียวจื่อเสวียน เขาก็ดูเย็นชาเหมือนเดิม

“นางสามารถตัดสินทุกอย่างในชีวิตของข้าได้! …

…ถ้านางอยากให้ข้าตาย ข้าก็จะตายเพื่อนาง ถ้านางอยากให้ข้าอยู่ ก็ไม่มีใครสามารถสังหารข้าได้ทั้งนั้น! …

…ขนาดชีวิตข้ายังเป็นของนาง แล้วเจ้าบอกว่านางไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นเรื่องนี้งั้นหรือ”

แม้แต่ชีวิตของเขาก็ขึ้นอยู่กับนาง ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น!

อวิ๋นเซียวรู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงพูดแบบนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สตรีคนอื่นมายุ่งกับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่คิดมากที่จะเน้นความสำคัญเรื่องนี้อีกครั้ง! ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เขาก็คงสังหารคนพวกนี้จนหมดแล้ว!

“เฟิงเอ๋อร์ ข้าจะจัดการสตรีพวกนั้นโดยไม่ให้มือของเจ้าแปดเปื้อน ข้าจะจัดการพวกคนที่ชื่นชอบข้าด้วยตัวเอง!” พริบตาเดียวอวิ๋นเซียวก็ไปปรากฏตัวข้างหน้าเฉียวเยี่ยเฟิง

ก่อนที่ชายชราจากอาณาจักรจินหยางจะได้ทันตอบสนอง อวิ๋นเซียวก็จับศีรษะนางบิดอย่างแรงจนกระเด็นออกไปจากร่าง ทำให้เลือดสาดกระจายไปทั่ว

ทุกคนตกตะลึง บางคนทนมองฉากเช่นนี้ไม่ไหวจึงต้องวิ่งไปอาเจียน

อวิ๋นเซียวมองมือของเขาแล้วหันไปมองอวิ๋นลั่วเฟิงก่อนจะพูดอย่างใสซื่อว่า “ข้าแค่ขยับมือแล้วนางก็ตาย ข้าไม่ได้ตั้งใจ…”

ตอนที่ 1957 การตายของเฉียวเยี่ยเฟิง (3)

มุมปากของอวิ๋นลั่วเฟิงกระตุก

เขาแค่ขยับมือแล้วนางก็ตายงั้นหรือ

ขยับ…มือ?

แต่ว่าเมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงเห็นท่าทางใสซื่อของเขา นางก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร ถึงอย่างไรต่อให้อวิ๋นเซียวไม่ได้สังหารนาง อวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่คิดจะไว้ชีวิตนางอยู่ดี ก่อนหน้านี้นางหยุดเขาก็แค่เพราะนางอยากจัดการด้วยตัวเอง…

“ไม่เป็นไร นางสมควรแล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่แล้วพูดอย่างเฉยชา

ดูเหมือนว่าสำหรับนางแล้ว การสังหารใครสักคนก็ง่ายดายไม่ต่างจากกินข้าว

เฉียวจื่อเสวียนตะลึง เขามองเด็กสาวที่นอนอยู่ในแอ่งเลือดแล้วรู้สึกเสียใจและโกรธแค้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบนางแต่นางก็ยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา แล้วนางก็ถูกสังหารต่อหน้าต่อตาเขางั้นหรือ แต่ว่าเฉียวจื่อเสวียนรู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าพูดคำใดออกไป

คนที่เหลือก็รู้สึกตะลึงที่อวิ๋นเซียวสามารถสังหารเฉียวเยี่ยเฟิงอย่างเด็ดขาดแม้ว่าจะอยู่ภายใต้การข่มขู่กดดันจากยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างอาณาจักรจินหยาง

“เจ้าหนุ่ม!”

เฉิงเฟยหยางโกรธจัดจนลุกพรวดขึ้นมาแล้วตะโกนอย่างเย็นชาว่า “เจ้าไม่สนใจคำสั่งของข้างั้นหรือ”

เขาไม่ได้โกรธที่เฉียวเยี่ยเฟิงตาย ชีวิตของเฉียวเยี่ยเฟิงเกี่ยวอะไรกับเขาเล่า เขาก็แค่โกรธเพราะอวิ๋นเซียวกล้าเมินคำสั่งแล้วสังหารคนต่อหน้าเขา!

เขาจะทนได้อย่างไร

แต่ว่า…

อวิ๋นเซียวไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขาแล้วเดินไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง

สายตาเย็นเยียบกระหายเลือดของเขาแสดงความอบอุ่นเมื่อเขามองหญิงสาว

“ถ้าท่านอยากครอบครองอาณาจักรทั้งสี่ข้าจะพิชิตมาให้ท่าน”

อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ “ข้าอยากทำด้วยตัวเองมากกว่า”

ชายหนุ่มนิ่งไปแล้วยิ้มบาง “ได้ ถ้าอย่างนั้น ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านเอง”

ถ้าท่านอยากพิชิตโลกใบนี้ ข้าก็จะอยู่เคียงข้างท่าน ข้าจะเป็นทัพหน้าแล้วกำจัดคนที่ขัดขวางแผนการอันยิ่งใหญ่ของท่านให้เอง

บทสนทนาที่โอหังของพวกเขากระตุ้นความโกรธของผู้คน

เฉิงเฟยหยางกำหมัดและดวงตาของเขาก็ฉายแววเย็นชาและดุร้าย “เสด็จพ่อเพคะ องค์หญิงอาณาจักรจื่อเยว่ตายแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับคนตาย พวกเราควรเริ่มการประลองระหว่างสี่อาณาจักรให้เร็วที่สุดนะเพคะ”

ความเห็นนี้ทำให้เฉิงเฟยหยางได้สติ

ใช่แล้ว ตอนนี้สำหรับเขาการประลองระหว่างสี่อาณาจักรสำคัญที่สุด ส่วนเรื่องการจัดการกับบุรุษผู้นี้ เขาค่อยจัดการกับอีกฝ่ายหลังจากที่จบการประลองระหว่างสี่อาณาจักรก็ได้

“ในเมื่อบุตรสาวของข้าช่วยขอร้องแทนเจ้า ครั้งนี้ข้าก็จะปล่อยเจ้าไปก่อน!” เฉิงเฟยหยางยิ้มเย็นแล้วดวงตาทรงอำนาจของเขาก็ฉายแววเย็นเยียบ “แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้มาจากอาณาจักรใดเลย ดังนั้นเจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าร่วมการประลอง”

บุรุษผู้นี้แข็งแกร่งมากจนแม้แต่จินหยางก็สู้เขาไม่ได้…

ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมให้บุรุษคนนี้เข้าร่วมการประลอง

อวิ๋นเซียวมองเฉิงเฟยหยางอย่างเฉยชาและกลิ่นอายสังหารก็ถูกปล่อยออกมาจากร่างเขา กลิ่นอายรุนแรงราวกับพายุ ทำให้คนรอบๆ สำลักไปทันทีราวกับว่ามีมือมาบีบหัวใจของพวกเขาจนหายใจไม่ออก

ทันใดนั้นก็มีข้างหนึ่งมาวางบนหลังมือของอวิ๋นเซียว เขาหันไปก็เห็นสายตาร้ายกาจที่คุ้นเคย

“นี่เป็นการต่อสู้ของข้า อวิ๋นเซียว ข้าไม่อาจพึ่งพาท่านไปได้ตลอด ข้าอยากพึ่งพากำลังของตัวเองเพื่อครอบครองโลกใบนี้!”

ดวงตาของหญิงสาวหนักแน่นมากจนอวิ๋นเซียวถอนกลิ่นอายสังหารของตัวเองกลับมาแล้วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ได้ แล้วแต่ท่านเถอะ”