บทที่ 465 พรุ่งนี้ให้คำตอบ

บัญชามังกรเดือด

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปีศาจดำที่พุ่งเข้ามาอย่างราวกับลมโหมพัดอย่างบ้าคลั่ง หม่าหงเทาฟันออกไปทันที

  ปีศาจดำโยกตัวหลับทันที ไม่เพียงแค่หลบออกเท่านั้น คาดไม่ถึงว่าจะไม่ลดการบุกโจมตี พุ่งเข้าไปที่ด้านข้างหม่าหงเทาทันทีทันใด

  หม่าหงเทาจำเป็นต้องเก็บดาบแล้วถอยหลัง

  แม้แต่ฉินเทียน ยังอดไม่ได้ที่จะแอบพยักหน้าเงียบๆ ปีศาจดำคนนี้ เป็นยอดฝีมือที่หาตัวจับยากคนหนึ่งจริงๆ

  ดูเหมือนว่าวงการฝึกยุทธไม่ได้ขาดแคลนคนที่มีพรสวรรค์ สาเหตุที่วิชาบู๊ร่วงโรย เป็นเพราะว่าหลายคนเลือกความสุขสบาย

  ได้รับค่าตอบแทนจำนวนมากมาย ซ่อนตัวอยู่ในตระกูลร่ำรวยสูงศักดิ์ ยินดีที่จะเป็นสุนัขที่ร่ำรวยสูงศักดิ์ ตัวหนึ่ง

  การต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ทำให้หลิวเต๋อและลูกศิษย์สี่สัตว์เทวะต่างก็ถูกดึงดูดความสนใจ พวกเขาลืมที่จะต้องจัดการกับฉินเทียนไปชั่วคราว ดวงตาที่จ้องมองการต่อสู้ไม่กะพริบ

  หยางคุนอยากจะนำปืนขึ้นมาเล็งเป้าไปที่หม่าหงเทาหลายครั้งหลายหน แต่ว่า เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่เย็นชาของฉินเทียน สุดท้ายเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เก็บลงไปอย่างลำบากใจ

  เขาทราบดีว่า การต่อสู้ของหม่าหงเทาและปีศาจดำ สามารถมองเป็นการต่อสู้ของวงการฝึกยุทธได้

  แต่ว่าแพ้ชนะเป็นตาย ทั้งหมดล้วนอยู่ในกติกา

  แต่เขา ทันทีที่ใช้อาวุธ ก็คือการละเมิดฝ่าฝืนกติกา

  พวกเขาตระกูลหยาง ใกล้จะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์ของสหพันธ์ธุรกิจทางใต้แล้ว ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ จะให้มีปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามาไม่ได้ ทั้งนี้จะได้ไม่คุ้มเสีย

  โครม!

  โครมโครม!

  ปีศาจดำประชิดหม่าหงเทา ติดต่อกันสามฝ่ามือ

  หม่าหงเทาโยกหลบอย่างสุขุม ฝ่ามือของปีศาจดำตบลงไปบนก้อนหิน เศษหินลอยกระจัดกระจาย

  หยางคุนกล่าวเสียงดังอย่างตื่นเต้น: “ปีศาจดำ ฆ่ามันซะ!”

  “ฆ่ามันแล้ว ฉินเทียนก็หนีไม่รอดด้วยเช่นกัน!”

  ฉินเทียนสูบบุหรี่อย่างสบายอกสบายใจ กล่าวเสียงเรียบ: “เหลาหม่า ได้เวลาแล้ว พวกเราควรกลับไปนอนแล้ว”

  “รับทราบ!”

  เหลาหม่าตะโกนสุดเสียง แสดงวิชาเพลงดาบม้งออกมา

  ทันใดนั้น ปีศาจดำถูกบังคับให้ร่นถอยหลังอย่างต่อเนื่อง อันตรายซุ่มซ่อนอยู่ทุกด้าน

  เขาทราบดีว่า หากยังไม่หนี ก็อาจจะหนีไม่ได้แล้วจริงๆ

  “คุณชาย รีบหนีไป!”

  เขากระโดดหนีออกมา มุ่งหน้าวิ่งไปทางหยางคุน

  หยางคุนตกใจ ยังไม่ทันได้สติกลับมา หม่าหงเทาที่อยู่ด้านหลังก็ไล่ตามมาแล้ว

  ทันทีที่ดาบแปลกประหลาดไม่มีที่เปรียบ ฟันทแยงลงมา จากไหล่ซ้ายของปีศาจดำ

  “อ๊าก!”

  เสียงร้องแหลมน่าเวทนา ปีศาจดำล้มลงตรงหน้าของหยางคุน

  ปากกระอักเลือดสีแดงสด ดวงตาสองข้างเบิกโพลง แม้แต่ตายก็ยังยากที่จะตายตาหลับ

  “แก คุกเข่าเดี๋ยวนี้ ขอโทษพี่เทียนซะ”หม่าหงเทานำดาบม้งที่อาบเลือดในมือ วางไว้บนลำคอของหยางคุน

  “อย่าฆ่าฉัน!!”ดาบคมที่เย็นเฉียบ ทำให้วิญญาณของหยางคุนหลุดลอย

  ขาทั้งสองข้างของเขาอ่อนยวบ คุกเข่าลงไปบนพื้น โดยไม่ได้ตั้งใจ

  ฉินเทียนพ่นลมหายใจออกทางจมูก นำบุหรี่ในมือโยนทิ้ง เขาไม่ได้สนใจหยางคุนในทันที แต่กำลังมองหลิวเต๋อ กล่าวอย่างดูแคลน: “ไก่ขันทางทิศตะวันออก ผีวิญญาณนับร้อยล่าถอย”

  “แกรู้ไหมว่าหมายความว่าอะไร?”

  “ไก่……”หลิวเต๋อกำลังจะพูดอะไรอย่าง ทันใดนั้นหน้าก็ถอดสี

  เขาเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว มองฉินเทียน กล่าวเสียงเบา: “คุณคือ……คนของสำนักระกา?”

  ฉินเทียนยิ้มเยาะไม่พูดจา

  หลิวเต๋อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เช็ดเหงื่อเย็นที่บนหน้าผาก คารวะต่อฉินเทียนด้วยท่าทางที่นอบน้อมเป็นพิเศษ กล่าวอย่างหวาดกลัว: “เป็นผมที่โง่เขลา ลบหลู่คุณผู้ชาย”

  “อนาคตยังอีกยาวไกล วันหน้าหากมีวาสนาพบกันอีกครั้งในยุทธจักร ค่อยตั้งใจฟังคำสั่งสอนของคุณชาย”

  “รีบไป!”

  พาลูกศิษย์ทั้งหลายของเขา หลบหนีไปอย่างจนตรอก

  หยางคุนกำลังตกอยู่ในภวังค์ของความตกใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้ยินว่าฉินเทียนพูดอะไร

  เขาเห็นว่าอยู่ๆก็หลิวเต๋อปฏิบัติตัวต่อฉินเทียนด้วยความนอบน้อมแบบนั้น ยังนึกว่าเป็นเพราะกลัวนักฆ่าใต้หล่าของฉินเทียน

  เขากัดฟันแน่น กล่าว: “คนแซ่ฉิน มีปัญญาแกก็ฆ่าฉันเลยซิ!”

  “ดูซิว่า แกจะสามารถมีชีวิตรอดออกไปจากเมืองจิ่นหูได้ไหม!”

  ฉินเทียนเดินเข้ามาด้วยความยิ้มแย้ม กล่าว: “คุณชายหยาง คุณแค่ต้องตอบคำถามข้อเดียวเท่านั้น ก็สามารถไปได้แล้ว”

  “ก่อนหน้านี้คุณเกรงใจผม เป็นเพราะเพื่อนให้ผมช่วยคุณนัดอานกั๋วและตระกูลจ้าวแห่งหยุนชวน”

  “ตอนนี้ บอกผมมา ว่าแท้ที่จริงแล้วคุณวางแผน จะทำอะไรกับพวกเขากันแน่”

  เมื่อเห็นหยางคุนคิดจะทำปากแข็ง ฉินเทียนกล่าวเสียงเรียบต่อทันที: “ถึงแม้ผมจะไม่ฆ่าคุณ แต่ว่า การทิ้งรอยแผลไว้สักสองสามรอยบนร่างกายคุณ ก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก”

  “ดังนั้นทางที่ดีคุณควรไตร่ตรองให้รอบคอบ ว่าจะบอกหรือไม่บอกผม”

  หยางคุนตัวสั่นระริก เวลานี้ฉินเทียนในสายตาของเขา ก็คือปีศาจร้ายที่มีรอยยิ้ม

  เขากัดฟัน กล่าวอย่างเศร้าซึม: “พ่อของฉันกับผู้นำตระกูลอีกจำนวนหนึ่ง กำลังหารือว่าจะสร้างสหพันธ์ธุรกิจทางใต้ นำเส้นทางธุรกิจของเจ็ดเมืองทางใต้ รวมเข้าด้วยกัน”

  “เขาต้องการเป็นหัวหน้าสมาพันธ์ ดังนั้นต้องการหาเสียง”

  อ๋อ?

  ข่าวคราวนี้ กลับทำให้ฉินเทียนประหลาดใจอยู่บ้าง

  เขาเลิกหางคิ้วขึ้น กล่าว: “ดังนั้น เมื่อถึงเวลา อานกั๋วและตระกูลจ้าวแห่งหยุนชวน ในมือของทุกคนต่างก็มีกันคนละเสียง?”

  หยางคุนกัดฟันกล่าว: “จากการหารือของห้าวงศ์ตระกูลในตอนนี้ เจ็ดเมืองของหยุนชวน นอกจากเมืองทั้งห้าฮู๋แล้ว ห้าวงศ์ตระกูลให้มีคนละเสียง”

  “ที่เหลือทั้งหกเมือง ทั้งหมดมีหกเสียง สิทธิการลงคะแนน ย่อมต้องอยู่ในมือของผู้รับผิดชอบเมืองนั้น”

  ที่แท้ก็เป็นแบบนี้

  ในที่สุดฉินเทียนก็เข้าใจแล้ว

  เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง ยิ้มกล่าว: “ต้องการได้คะแนนเสียงของอานกั๋วและตระกูลจ้าวแห่งหยุนชวน โดยการผ่านผม อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร”

  “คุณชายหยาง ขอเพียงแค่ตระกูลหยางของพวกคุณยอมรับเงื่อนไขผมข้อหนึ่ง ผมจะทำให้พวกคุณได้นั่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าสมาพันธ์ โดยไม่ต้องเปลืองแรงเลยสักนิด”

  “จริงหรือ?”หยางคุนอึ้งไปครู่หนึ่ง กล่าวอย่างตื่นเต้น: “เงื่อนไขอะไร คุณว่ามา?”

  ฉินเทียนยิ้มกล่าว: “เป็นลูกน้องของผม”

  “แกว่าอะไรนะ?”หยางคุนได้สติกลับคืนมา กล่าวอย่างเดือดดาล “ฉินเทียน แกมากเกินไปแล้ว!”

  “ให้พวกเราตระกูลหยางเป็นลูกน้องของแก ควบคุมเส้นทางธุรกิจของเจ็ดเมืองทางใต้แทนแก ความอยากของแก จะมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า!”

  ฉินเทียนหัวเราะชอบใจ

  “ความอยากของผมผลสุดท้ายแล้วจะมากหรือไม่มาก เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็จะได้รู้แล้ว”

  กลับมาถึงโรงแรม ฉินเทียนก็ได้รับข่าวไม่ดีข่าวหนึ่ง

  อู๋เทียนสงที่รับหน้าที่ติดต่อประสานงานโครงการที่ดินหรูอี้กับเทศบาลพูดด้วยความตื่นเต้น เมื่อครู่เทศบาลเพิ่งโทรศัพท์มา เนื่องด้วยความำคัญของแลนด์มาร์คแห่งนี้

  ถ้าหากแบบพิมพ์เขียวที่พวกเขาส่งไป ไม่สามารถทำให้เทศบาลพึงพอใจได้ ถ้าอย่างนั้นก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ

  เทศบาลจะนำที่ดินผืนนี้ มอบให้กับกิจการที่สามารถส่งแบบพิมพ์เขียวที่น่าพอใจ

  “จะต้องเป็นแผนของตระกูลหยาง!”

  “เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เทศบาลเพิ่งจะประกาศผลไปเมื่อตอนบ่าย ตอนกลางคืนตระกูลหยางก็ทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิดได้”

  “ตอนเช้าสั่งตอนเย็นเปลี่ยนแปลง จะมากเกินไปแล้วจริงๆ!”

  เถียหลินเฟิงขมวดหว่างคิ้วกล่าว: “เทศบาลใช้ข้ออ้างเพื่อภาพลักษณ์ของแลนด์มาร์ค เพื่อเปิดทางให้แก่คนอื่น พวกเราก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน”

  “ฉินเทียน ตอนนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?”

  ฉินเทียนยิ้มเจื่อนๆกล่าว: “ดูเหมือนว่าตอนนี้ ทำได้แค่เพียงใช้แบบพิมพ์เขียวตัดสินแพ้ชนะแล้ว”

  “ประธานอู๋ ที่ผมให้คุณไปค้นหานักออกแบบและสตูดิโอ เป็นอย่างไรบ้าง?”

  อู๋เทียนสงรีบส่งข้อมูลหนาเตอะไปมาให้ กล่าว: “นักออกแบบและสตูดิโอห้าสิบอันแรกของโลก อยู่ที่นี่หมดแล้ว”

  “ในนั้นยังมีผลงานแสดงถึงประสิทธิภาพการออกแบบของพวกเขาด้วย”

  “ประธานฉินหลังจากคุณดูจบแล้ว รีบตัดสินใจ ว่าพวกเราควรจะไปจ้างคนไหน”

  ฉินเทียนพยักหน้า กล่าว: “เวลาไม่เช้าแล้ว ทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะ”

  “พรุ่งนี้ผมให้คำตอบพวกคุณ”