กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 645
ชายชราชุดดำยิ้มเข้ม “ทหารอารักขาที่คุ้มครองเจ้ามากมายเช่นนั้น ข้าจะไม่ป้องกันได้อย่างไรกัน”

ฝูกวงมองไปยังความว่างเปล่าที่ซึ่งไม่มีลมหายใจเลยแม้แต่น้อย โดยปกติทหารอารักขาที่คุ้มครองเจ้านายเป็นการลับนั้นไร้ซึ่งความเคลื่อนไหวใดๆแล้ว

“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ฝูกวงกล่าวด้วยเสียงทุ้มโดยระมัดระวังอย่างสูงสุด

รูม่านตาของกู้ชูหน่วนหดตัวพร้อมกับมองไปยังชายชราชุดดำตรงหน้าอีกครั้งอย่างละเอียด

นางสามารถรับประกันได้อย่างแน่นอนว่าคนผู้นี้รู้จักนางเป็นอย่างดีและคุ้นเคยยิ่งนัก ไม่เช่นนั้นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ระยะเวลาอันสั้นนี้จัดการกับยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่รอบกายนางได้อย่างสิ้นซาก

นี่……เกรงว่าจะเป็นการฆ่าสังหารที่เตรียมการเอาไว้มานานแล้วสินะ

“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญว่าวันนี้พวกเจ้าจะต้องตายกันหมด”

ชายชราชุดดำโบกมือมือสังหารชุดดำสิบแปดคนนั้นก็ได้พุ่งเข้าไปสังหารกู้ชูหน่วนและฝูกวงโดยพร้อมกัน แต่ละกระบวนท่าโหดเหี้ยมโดยพุ่งไปยังตำแหน่งหมายเอาชีวิตซึ่งแสดงชัดว่าต้องการจัดการพวกเขาให้ตายโดยไร้ซึ่งความปรานีใดๆ

มือสังหารร่วมมือกันอย่างพร้อมเพรียงและทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือที่คัดเลือกมาเป็นหมื่นลี้ กู้ชูหน่วนทำได้เพียงรวมพลังกับฝูกวงต่อสู้กับศัตรูเท่านั้น

“ชิ้ง…… ”

ในป่าอันมืดสนิทปรากฏเครื่องจักรสังหารขึ้น ใบมีดสีขาวแต่ละรอยราวกับสายฟ้าฟาดบนท้องฟ้าซึ่งทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นเป็นวงกว้าง

ประกายแสงสีขาวมือสังหารทั้งสิบแปดคนดูราวกับจะรู้ว่าจุดหมานเอาชีวิตของกู้ชูหน่วนและฝูกวงอยู่ที่ใด แต่ละกระบวนท่ายับยั้งต่อกระบวนท่าของพวกเขา ต่อสู้จนกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆไร้ซึ่งวิธีการโจมตีกลับ

“ปึงปึงปึง…… ”

“แคร๊ง…… ”

ฝูกวงนั้นเกิดเหงื่ออันเย็นแตกเต็มหน้าผาก หลายครั้งก็เกือบจะถูกมือสังหารหมายเอาชีวิต โชคดีที่กู้ชูหน่วนสามารถช่วยเขากำจัดได้ทันเวลา

เขากล่าวอย่างร้อนรนว่า “นายท่านวรยุทธ์ที่คนเหล่านี้ฝึกฝนดูเหมือนจะออกแบบมาเพื่อยับยั้งพวกเราเป็นพิเศษ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเราจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย”

ไหนเลยที่กู้ชูหน่วนจะไม่รู้

วรยุทธ์ของตัวนางเองแม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่รู้ชัดแต่คนเหล่านี้กลับเข้าใจแจ่มแจ้ง ทุกกระบวนท่านั้นใช้มาตอบโต้ทั้งสิ้นโดยกดนางเอาไว้แทบตาย

ที่สำคัญที่สุดคือไม่ง่ายเลยที่จะจัดการให้พวกเขาแยกออก ขณะที่กำลังจะจัดการสังหารเส้นทางนองเลือดได้ทางหนึ่ง ทั้งสิบแปดคนนี้ก็ราวกับรวมกลุ่มกันขึ้นใช้ค่ายกลแนวตั้งและแนวนอนประสานกันเพื่อขังพวกเขาไว้ในค่ายกลอย่างแน่นหนาอีกครั้ง

การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาเลย

กู้ชูหน่วนก็ไม่ต้องการที่จะต่อสู้เป็นเวลานาน

ต่อสู้นานไปต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

“ชิ้ง……”

เพียงแค่วอกแวกเล็กน้อยแขนของกู้ชูหน่วนก็ถูกฟันดาบหนึ่ง

ฝูกวงใช้กระบวนท่าดาบสายรุ้งและใช้พละกำลังทั้งหมดในร่างกายสะเทือนมือสังหารชุดดำออกและกล่าวอย่างขึงขังว่า “ข้าจะขวางพวกเขาไว้ นายท่านท่านไปก่อน”

ไป?

ไปอย่างไร?

ที่นี่ยังมียอดฝีมือระดับหกจับตามองอยู่

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ยิ่งอยู่ยิ่งคับขันขึ้นเรื่อยๆฝูกวงคนเดียวต่อสู้กับคนจำนวนหลายคน ตรงท้องก็ถูกสับแผลหนึ่งโดยที่เลือดก็ได้ไหลรินลงมา

กู้ชูหน่วนถูกบีบจนไม่เหลือทางออก หลายครั้งที่เกือบตายและแววตาซึ่งอดดุร้ายไม่ได้ นางถือด้ามดาบไว้ในมือข้างหนึ่งและมืออีกข้างหนึ่งกำปลายดาบไว้ กระบวนท่าเบื้องบนสู่ใต้หล้าใบไม้โดยรอบร่วงหล่นลงและลอยหมุนอยู่กลางอากาศราวกับจิตวิญญาณร่ายรำหมุนเวียนอยู่เช่นนั้น ทันใดนั้นใบไม้ร่วงราวกับมีดวงตาและกลายเป็นใบมีดอันแหลมคมพุ่งเข้าใส่มือสังหารทั้งสิบแปดคน

“ชู่ว์ๆๆๆ……”

นอกจากใบมีดคมจากใบไม้ร่วงแล้วยังมีพลังดาบของกู้ชูหน่วนรวมทั้งพลังสีม่วงที่พุ่งออกมาจากบนศีรษะของนาง

พละกำลังของกระบวนท่านี้ร้ายกาจกว่าเมื่อครู่นี้ของนางมากมายนัก อากาศโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นไอสังหารทั้งสิ้น

สัตว์ป่าและนกจำนวนมากต่างหลบหนีไป

รูม่านตาอันแหลมคมของชายชราชุดดำหดตัวลงเล็กน้อย

เพิ่มระดับแล้ว……

ในสถานการณ์เช่นนี้นางกลับเพิ่มระดับได้……เพิ่มพูนไปถึงสามระดับเต็มๆ

ถึงแม้ว่าจะยังอยู่ในขั้นกลางระดับสามแต่พละกำลังที่นางเพิ่งแสดงออกมาเมื่อครู่นั้นทรงพลานุภาพกว่าระดับสี่เสียอีก

และ……กระบวนท่านี้เหตุใดถึงได้คุ้นตาเช่นนี้?

ฝูกวงตกอยู่ในอันตรายแต่โชคดีที่คมดาบเหล่านั้นพุ่งจนมือสังหารที่ต่อสู้กับเขาอยู่ต้องคลายกระบวนท่าเพื่อปกป้องตัวเอง ถึงได้สามารถเก็บชีวิตกลับมาได้

“ชิ้งๆๆ…… ”

มือสังหารชุดดำทั้งหมดหลบหนีจากคมดาบได้แต่คมดาบไล่ตามพวกเขาไม่หยุดโดยจะไม่ยอมรามือหากไม่บรรลุเป้าหมาย ต่อสู้จนพวกเขาไม่สามารถจัดรูปร่างค่ายกลได้ หลายคนในนั้นยังถูกคมดาบใบไม้ร่วงทำให้บาดเจ็บจนบนชุดดำปรากฏเลือดแดงอยู่บ้าง

ชายชราชุดดำหัวเราะเยาะ “คิดว่าเพิ่มพูนถึงระดับสามแล้วจะสามารถรอดชีวิตได้หรือ? งี่เง่า”

ดาบอ่อนอยู่ในมือกู้ชูหน่วน กระบวนท่าดาบเดินเฉียนคุนเท้าเดินบนมังกรและงู พุ่งแทงมือสังหารชุดดำดังชิ่วๆๆ

วรยุทธ์ของนางก้าวหน้าได้รวดเร็วเกินไปและความเร็วก็รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ มือสังหารผู้หนึ่งไม่สามารถหลบได้ทันถูกฟันตรงหน้าอกดาบหนึ่ง รูปแบบค่ายกลทั้งสิบแปดคนก็ยุ่งเหยิงอีกครั้งในทันใด

“เพียงแค่ข้าไม่อยากตาย ผู้ใดก็ไม่สามารถสังหารข้าได้”

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ใช้ความรวดเร็วสู้กับความรวดเร็ว ความโหดเหี้ยมสู้กับความโหดเหี้ยม ยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งฮึกเหิมมากขึ้น ต่อสู้ก็ยิ่งมีชัยมากยิ่งขึ้น

วิธีการต่อสู้ของนางเป็นวิธีการต่อสู่แบบไม่คิดชีวิต แต่ละกระบวนท่าแน่วแน่ไม่สนใจชีวิตของตนเองเลย

แม้ว่ามือสังหารชุดดำจะไม่สนใจชีวิตของตนเอง แต่ทั้งสองฝ่ายก็ตั้งใจแน่วแน่ที่หมายจะเอาชีวิตโดยที่ชั่วขณะหนึ่งนั้นสูสีกัน

ยอดฝีมือเพียงระดับสามเท่านั้นสามารถต่อสู้ฝีมือพอๆกับมือสังหารทั้งสิบแปดคนได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อยิ่งนัก