เดิมทีโจมอนอยากที่จะยกแก้วดื่มกับหลินจือ เทาเท่ก็กลับดื่มเหล้าของหลินจือจนหมด เหลือเขาที่อยู่ทื่ออยู่ตรงนั้น จะให้ทำตัวถูกได้ยังไง?
หลินจือก็รู้สึกอึดอัดมาก เทาเท่ช่างทำตัวน่ารังเกียจจริงๆ
ดีที่ซานารีบลุกขึ้นยืนทันที หันไปพูดยิ้มๆว่า “พี่ดื่มกับเราสักแก้วนึง”
น้ำเสียงของซานาเรียกตัวเองว่าพี่ได้อย่างสนิทสนม ทำให้ไวท์ที่อยู่ด้านข้างเกือบเหล้าพุ่งออกมาจากปาก ขณะที่เขามองไปทางซานาอย่างหงุดหงิดก็เห็นว่าเธอนั้นได้ชนแก้วดื่มกับโจมอน
โจมอนถือโอกาสที่ซานาหยิบยื่นให้นี้ มองไปที่ซานาอย่างรู้สึกขอบคุณ ซานาตอบกลับเขาด้วยรอยยิ้ม
ท่าทางการพูดคุยของคนทั้งสอง ไวท์เห็นก็รู้สึกว่าพวกกำลังส่งสื่อรักผ่านสายตากัน
ต่อจากนั้นหลินจือก็ไม่ได้ดื่มอีก เพราะเธอไม่อยากใช้แก้วที่เทาเท่ได้ใช้ไป ถ้าไม่เห็นแก่หน้าทุกคน เธออยากที่จะเอาเหล้าสาดใส่หน้าเขา ที่เขาไม่มีมารยาทอย่างนั้น
นานิและหลินจือนั่งด้วยกัน เธอเข้ามาใกล้แล้วพูดแขวะกับหลินจือว่า “ฉันมีลางสังหรณ์ว่าท่านประธานเทาเท่กับเพื่อนๆของเขากำลังตามจีบภรรยาอยู่”
“เธอดูไวท์ซิ ท่าทางอยากที่จะแยกซานาออกมาเป็นชิ้นๆ เห็นได้ชัดว่าใช้วิธีที่ผิด มีผู้หญิงที่ไหนชอบการถูกปฏิบัติตอบอย่างนี้? อีกอย่างนะฉันว่าต่อให้เขาจะใช้ใจจีบเธอ หมอซานาอาจจะไม่ใจอ่อน”
“ส่วนประธานโซเมนน่ะหรอ ตอนนี้เขายิ่งรักสนุกและชิวมากเท่าไหร่ หลังจากนี้เขาก็ต้องยิ่งชดใช้สิ่งที่เขาทำมากยิ่งกว่า”
หลินจือพูดเสียงต่ำว่า “นี่เธอเป็นโค้ชเรื่องความสัมพันธ์ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
นานิยังพูดแก้ต่างอีกว่า “เล่นบทรักมาเยอะ ก็เลยเข้าใจหลักการจากตรงนั้นเยอะ”
ทำงานมาหลายปีอย่างนี้ เธอได้รับบทบาทหลากหลาย ทุกๆบทบาทมีชีวิตเป็นของตัวเอง ที่ต่างก็พูดกันว่าละครเหมือนชีวิต ชีวิตเหมือนละคร ตามที่เปลี่ยนไปในทุกๆบทบาทที่เธอเล่น ก็ได้ตกตะกอนทางอารมณ์มากยิ่งขึ้น
หลินจือพูดพลางถอนหายใจเบาๆ “ไวท์ใช้วิธีผิดจริงๆ”
ถ้าไวท์ยังคงคิดถึงซานาอยู่จริงๆ แล้วใช้วิธีปฏิบัติกับซานาแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
นานิพยักหน้าพูดรับว่า “ในจุดนี้ความเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งของไวท์เทียบกับเทาเท่ไม่ได้เลย อย่างน้อยหลังจากที่เทาเท่รู้หัวใจตัวเอง ตอนนี้ก็จีบเธอ เอาเธอกลับมาด้วยความใจจริง”
นานิก็พูดด้วยเสียงไม่พอใจอีกว่า “เข้าใจไม่ทะลุปลุโปร่งพอ อาจจะเพราะเขาเจ็บยังไม่พอ”
คนกลุ่มนั้นกินดื่มกันจนค่ำ สุดท้ายคนที่มีสติดีอยู่มีแค่หลินจือ ส่วนเทาเท่ก็ยังพอไหว
โจมอนถูกผู้จัดการของเขาส่งรถมารับ ควีนและซานาต่างคนต่างเรียกคนขับรถแทนมา
ไวท์นอนเมาอยู่บนโซฟาของเทาเท่ เดิมทีโซเมนอยากที่จะอยู่ที่บ้านเทาเท่ที่นี่ แต่เขาเห็นควีนเรียกคนขับรถแทน เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปกับควีน
นานิที่เมาก็ได้ถูกหลินจือนำตัวมาไว้ที่บ้านของตัวเธอเอง เทาเท่เห็นเงาหลินจือประคองนานิเดินออกไปอย่างไม่หันกลับมามองก็ใช้มือคลึงที่หน้าผาก
ตั้งแต่เขาดื่มแก้วเหล้าของเธอ เธอก็ไม่พูดกับเขาอีกเลย
โกรธแล้วล่ะ
ชีวิตเขามันยากจริงๆ
เขาไม่อยากให้หลินจือดื่มแก้วเหล้านั้นกับโจมอน ไม่อยากเห็นเธอกับโจมอนพูดคุยกันแม้สักนิดเดียว พอเกิดอารมณ์ชั่ววูบก็แย่งแก้วเหล้าของเธอมาดื่มคาที่
ตอนนี้เป็นไง เขาต้องมาชดใช้ให้อารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง
เทาเท่กลับบ้านอย่างปวดหัว และคิดว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะไปง้อยังไงดี
เช้าวันถัดมา เทาเท่ใส่เสื้อเรียบร้อยและเตรียมตัวออกจากบ้านไปทำงาน พอออกจากบ้านก็เห็นว่ามีคนงานเปิดประตูรถบรรทุกอยู่ที่หน้าตึกของหลินจือ รถบรรทุกลากพันธุ์ไม้มาหลายต้น
หลินจือที่ใบหน้าเรียบเนียนกำลังก้มหน้าเซ็นชื่อรับของอยู่ที่ปากประตู เทาเท่เดินเข้าไปถามว่า “ใครส่งมา?”
หลินจือไม่สนใจเขา ยังคงก้มหน้าเซ็นชื่อต่อ
เทาเท่พูดเรื่องที่ไม่น่าสนใจ คิดไปถึงเมื่อคืนที่ตัวเองทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ เธอยังคงโกรธเขาอยู่แน่
พนักงานที่อยู่ด้านข้างพูดยิ้มๆกับเขาว่า “เป็นผู้ชายที่ใช้นามว่าJส่งให้กับคุณหลินจือครับ เห็นบอกว่าแฟนของเขาเพิ่งจะย้ายบ้านใหม่ ต้องการพันธุ์ไม้มาฟอกอากาศ
นามJส่งมา? แฟน?
นั่นคงต้องเป็นเจเทาวน์เป็นแน่
เทาเท่แสยะยิ้ม เจเทาวน์นี่เสแสร้งจริงๆ
เอาพันธุ์ไม้มาฟอกอากาศ ไม่ละทิ้งโอกาสใดๆที่จะเอาอกเอาใจหลินจือเลย
แผนสูงนักนะ ตัวไม่อยู่ แต่กลับไม่ห่างจากโลกของหลินจือ
หลังจากที่หลินจือเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วก็พูดว่า “รบกวนพวกคุณช่วยฉันย้ายเข้าไปไว้ข้างในด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”
หลินจือพูดจบก็เข้าไปในบ้าน เหมือนกับไม่เห็นเทาเท่ที่กำลังยืนอยู่
เทาเท่เดินเข้าไปขวางหน้าเธอ ก้มมองเธอแล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “เมื่อคืนผมขอโทษ”
หลินจือเงยหน้ามองเขา ยิ้มอย่างเลือดเย็นว่า “ถ้าขอโทษแล้วมันมีประโยชน์ แล้วจะให้ตำรวจทำอะไรดี?”
เทาเท่ “…….”
หลินจือฟังคำของโทษของเขาที่พูดมาทั้งหมดจนเบื่อแล้ว ก็เลยพูดประโยคนี้ดักด้วยเสียงเรียบ หลังจากนั้นก็เดินอ้อมออกมากลับเข้าบ้านไป
ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าทำอย่างนั้นมันไม่เหมาะสม แต่กลับทำอย่างไม่แคร์ใคร ทำให้ตอนนั้นเธอกับโจมอนต่างก็กระอักกระอ่วน หลังจากเกิดเรื่องแล้วมาขอโทษ มันจะชดเชยอะไรได้?
เทาเท่ที่ถูกทิ้งไว้ข้างนอกหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกไป
เมื่อคืนนานิดื่มเยอะตอนนี้ยังนอนอยู่ที่ห้อง
หลินจือชี้กำกับให้คนงานวางพันธุ์ไม้ให้เข้าที่ หลังจากนั้นก็โทรหาเจเทาวน์
“ขอบคุณที่ส่งพันธุ์ไม้มาให้ฉันนะคะ ได้ใช้พอดีเลย” เมื่อวานหลังจากที่หลินจือได้ย้ายมาก็ไม่ได้ติดต่อเจเทาวน์เลย เจเทาวน์คงรู้มาจากการเสริชเมื่อคืนของโจมอนกับนานิว่าพวกเขาปาร์ตี้กินข้าวด้วยกัน
เจเทาวน์พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ผมรู้ว่าคุณเพิ่งย้ายเข้าไปคงไม่มีเวลาจัดแต่งอะไรพวกนี้ อันไหนที่จะช่วยคุณได้ผมก็ช่วยคุณไปครับ”
หลินจือคิดอยู่ชั่วครู่แล้วยังคงเลือกอธิบายให้เจเทาวน์ฟัง “เมื่อคืนพวกเรา……”
“หลินจือ ผมบอกแล้วไงว่า คุณไม่ต้องอธิบายอะไรให้กับผม ผมเชื่อคุณ” เจเทาวน์พูดขัดเธอทันที
แต่เจเทาวน์เชื่อเธออย่างนี้ หลินจือกลับคิดถึงเช้าวันนั้นที่เธอกับเทาเท่เกือบจะเกิดฉากอย่างว่าขึ้นมาทันที ในใจก็ให้รู้สึกผิดเข้าไปอีก
แม้ว่าจะเป็นแฟนแค่ในนาม แต่ว่าสิ่งที่เธอทำเหมือนไม่ใช่เลยสักนิด
เธอไม่สามารถที่จะมีความสัมพันธ์คลุมเครือที่ไม่รู้จักหยุดกับเทาเท่อีกต่อไปได้ หลินจือสาบานในใจเงียบๆว่าจะแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเทาเท่ให้ชัดเจน
หลินจือถามถึงอาการของคุณแม่เจนีอีก เจเทาวน์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆว่า “ก็เหมือนเดิมครับ”
หรือจะพูดอีกอย่างนึงว่า ยิ่งแย่ลงทุกวัน
ยาเคมีที่ใช้รักษาโรคมะเร็งทำให้เธอทรมานไม่น่าดู แต่ว่าเรื่องพวกนี้เขาปิดหลินจือไว้ หลินจือรับปากว่าจะเป็นแฟนในนามให้กับเขาเพื่อช่วยเขาและให้แม่เขาจากไปอย่างพะว้าพะวงอะไร เขาก็ให้รู้สึกขอบคุณมากแล้ว
เรื่องอื่นๆ เขาจะไม่ร้องขอมากเกินไป
เจเทาวน์พูดอีกว่า “เดี๋ยวสองสามวันนี้ผมจะกลับ เปิดกล้อง The Legend of Concubine Rong”
หลินจือพูดอย่างกังวลว่า “แล้วแม่ของคุณที่อยู่ทางนั้น…..”
เจเทาวน์พูดตอบว่า “พยายามที่จะอยู่เป็นเพื่อนก็พอแล้ว จะว่าไปแม่คงไม่อยากให้ผมทิ้งงานหรอกครับ”
“งานที่เตรียมไว้อาทิตย์ก่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะให้ทุกคนรอผมไม่ได้แล้ว
หลินจือก็ไม่พูดว่าอะไร