“ไม่เห็นจะยักรู้มาก่อนเลยว่าเสี่ยวหยูมีพี่ชาย”
“แปลก .. ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”
“นั่นสิ .. พวกเขาดูไม่เหมือนกันเลย” ทุกคนมองไปที่พวกเขาสลับกันขึ้นลง
เจียงเสี่ยวหยูเลือกภาพน่ารักๆ ของเธอบนหน้าจอก่อนจะอัพโลหดมันขึ้นไว้ในโฟลเดอร์ส่วนตัวใน QQ
ไอคอน QQ ซึ่งเป็นรูปเพนกวินสวมผ้าพันคอสีแดงกำลังกระโดด เธอคลิกเปิดมันอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัดว่าเจ้าของร้านกำลังคุยกับเธอเกี่ยวกับคอมโบและเทคนิคต่างๆ ในเดวิลเมครายสาม เธอส่งข้อความเสียงถึงเขา (เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ)
จากนั้นเธอก็กระโดดออกมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์
สถานการณ์ตอนนี้ดูขุ่นไปเล็กน้อย เจียงเสี่ยวหยูจึงพูดขึ้นเพื่อให้ทุกอย่างคลายลง “เจ้าออกมาโดยไม่มีคำลา เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่ผ่านมาพวกเรา ..”
เขาต้อการที่จะพูดว่า ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ แต่เขากลับเปลี่ยนคำศัพท์อย่างรวดเร็วว่า “พระบิดาของเราเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน”
“แฮ่ม!” นาหลันฮงวูกระแอมเบาๆ “เด็กหญิงคนนี้อยู่ในร้านนี้มาเป็นเวลานานโดยไม่มีอันตรายหรือถูกรังแก พวกท่านสามารถมั่นใจได้ในเรื่องนี้”
“ข้ารู้!” น้ำเสียงของชายคนนี้ดูนุ่มนวลแต่ในนั้นแฝงไปด้วยความเย็นชาเย่อหยิ่งและเยือกเย็น
“ข้าเกรงว่ามันจะเกินขีดจำกัดของความสามารถในเขตผู้ฝึกฝนในดินแดนทะเลทรายที่จะกลั่นแกล้งเด็กเจ้าหญิงน้อย” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนเอ่ย
“หืม?”
“ดินแดนทะเลทรายร้างคืออะไร?”
พวกเขามองหน้ากันด้วยความงุนงง หลายคนขมวดคิ้วเล็กน้อย
เจียงซวนจ้องที่เจียงเสี่ยวหยูและพูดว่า “เจ้าอยู่ข้างนอกมานานแล้ว ได้เวลากลับแล้ว!”
เมื่อเจียงเสี่ยวหยูได้ยินคำว่ากลับ เธอรู้สึกไม่พอใจและทำหน้ามุ่ยทันที “ไม่! ข้าไม่ต้องการกลับไปยังสถานที่เย็นและเงียบสงบ!”
ที่สำคัญกว่านั้นหากเธอกลับไปเธอก็จะอดเล่นเกมและกินของอร่อยๆ
เจียงซวนพูดด้วยเสียงจริงจัง “ด้วยตัวตนของเจ้า เจ้าไม่ควรอยู่กับผู้ฝึกฝนเหล่านี้!”
ทหารองครักษ์ทั้งสองพยายามเกลี้ยกล่อมเธอ “องค์หญิงน้อยท่านจะมาอยู่ในประเทศร้างแห่งนี้ได้อย่างไร ด้วยสถานณะของท่านที่นี่ไม่เหมาะสมกับท่ายเลย โปรดกลับไปพร้อมนายน้อยเถอะ!”
เจียงเสี่ยวหยูหันหน้าและยังคงปฏิเสธ
“พระบิดาของเราพูดคุยกับท่านอาจารย์หลงของสำนักสวรรค์และท่านได้ลงทะเบียนให้เจ้าในภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแล้ว” เจียงซวนส่ายหัว “ข้าอยู่ข้างเจ้า แต่พระบิดาของเราประสงค์ให้เจ้ากลับไปเพื่อไปร่ำเรียนที่สำนักสวรรค์”
“ไปสำนักอะไร?” เจียงเสี่ยวหยูลังเลใจ “ข้าไม่อยากไปเรียน! ข้าจะอยู่ที่นี่ ทำไมข้าต้องไปเรียน?”
เจียงซวนกล่าวเสียงเข้ม “การลงทะเบียนในสำนักสวรรค์นั้นสำคัญมาก หากเจ้าไม่ไปผลที่ตามมาจะยิ่งใหญ่และมันไม่เพียงส่งผลกระทบต่อเจ้าเท่านั้น!”
“ไม่! ข้าไม่ไป!” เจียงเสี่ยวหยูกอดอกและตะโกนอย่างดื้อรั้น “ทำไมต้องไป ถ้าสำคัญหนักก็ให้ท่านพ่อไปเรียนเอง!”
ใบหน้าเจียงซวนกระตุก
“เจ้าพูดงั้นหรอ?”
“ไม่ข้าไม่อยากไป ข้าจะไม่ไป!”
“อืม ..” ซูเทียนจิกล่าวว่า “ถ้าเด็กคนนี้ไม่ต้องการจะไปที่สำนัก เอ่อ .. สวรรค์ เธอสามารถอยู่ที่นี่ได้นะ ว่าแต่ทำไมเธอต้องไปที่นั่น!?”
“นั่นสิ ..” หลันยันพึมพำ “ข้าไม่เคยได้ยินชื่อสำนักสวรรค์นั่นมาก่อน ถ้าเธอต้องไปที่นั่นเธอสามารถเรียนที่สำนักหลิงหยวนของเราได้ ด้วยความสามารถของเสี่ยวหยูเธอจะพูดจัดเข้าคลาสเอแน่นอน”
“ใช่!” เจียงเสี่ยวหยูเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะนี้ทันที “ถ้าข้าต้องไปเรียนข้าไปเรียนที่หลิงหยวนก็ได้ ทำไมข้าต้องไปเรียนที่สำนักสวรรค์ด้วย”
“สำนักหลิงหยวน?” ผู้มาใหม่ทั้งสามคนทำหน้างง เจียงซวนถามกลับ “สำนักหลิงหยวนคืออะไร?”
เจียงเสี่ยวหยูชี้ให้เห็นประตู “ตรงนั้น! เป็นหนึ่งในสถานศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในตาจิน!”
“!!??” เจียงซวน
“ไร้สาระ!” เขากระแทกเสียงและมือลงบนโต๊ะ “เจ้าคิดว่าสำนักสวรรค์คืออะไร? จะเอาไปเปรียบเทียบกับสำนักของนักรบขนาดเล็กสำหรับคนธรรมดาอย่างนี้ได้อย่างไร”
“ทำไมจะไม่ละ?” เจียงเสี่ยวหยูพูดจริงจัง “ข้าชอบสำนักหลิงหยวนมากๆ ผู้คนในนั้นมีความสามารถและเป็นผู้เล่นที่ดี ทำไมข้าถึงจะเรียนที่หลิงหยวนไม่ได้?”
เยเสี่ยวเย้เดินไปด้านข้างของเธอและกระซิบ “เจ้าพูดถูกหรือเจ้าจะมาเรียนที่สำนักโอเซียนของเราก็ได้ ทำไมเจ้าต้องไปเรียนที่สำนักสวรรค์ด้วย ข้าไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมันดีหรือไม่?”
“เจ้ามันเหมือนกบที่ซ่อนตัวใต้บัว! ไม่แลปกที่เจ้าจะไม่รู้จักสำนักสวรรค์!” องครักษ์สองคนหัวเราะ
“ดีจริงหรอ?” เยเสี่ยวเย้ทำหน้างง “มันอยู่ในพื้นที่รอบเมืองครึ่งหรือเปล่า? หึ เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ฝึกฝนจากเมืองครึ่งยังต้องขอเทคนิคการสร้างสิ่งประดิษฐ์จากพันธมิตรวู่เว้ยของเรา”
“เมืองครึ่งอะไร?” องครักษ์หัวเราะ “สำนักสวรรค์มีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ สาวกของสำนักสวรรค์ไม่เพียงแต่จะมีชนชั้นสูงอย่างเดียวที่นั่นรวมไปด้วยองค์หญิงและองค์ชายจากทุกประเทศที่ล้วนเต็มไปด้วยู้ฝึกฝน และนอกจากนี้ยังมีอาจารย์และผู้เฒ่าจากตระกูลซวนหยวนและจิงจิวจากวังฉีจ่าว ซึ่งเป็นผู้ฝึกฝนในตำนานอันโด่งดัง”
“วังฉีจ่าวคือใคร?”
“ข้าไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเขา ..
ผู้คนในร้านมองหน้ากัน ชื่อสำนักสวรรค์ .. ตระกูลโบราณซวนหยวนและจิงจิว
“น้องหลี่” หลิงวันหยินกระซิบ “ใช่ที่อาจารย์ฉีจ่าวที่อยู่ในม้วนเอกสารโบราณของเราหรือเปล่า ..”
“ข้าก็คิดงั้น ..” หลี่หลงหยวนดูตกใจ “ข้าว่า .. เจ้าพูดถูก!”
“พวกเขา ..” ทั้งคู่ดูตกใจ “พวกเขาเป็นคนจากดินแดนอื่นหรอ?”
“พวกเขาเป็นคนที่ถูกบันทึกไว้ในม้วนเอกสารโบราณของเราหรือไม่!?”
“เวิ่นหยัน!” เจียงซวนมอง “เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไร”
“ข้าขออภัยนายน้อย”
เจียงซวนมองไปที่เจียงเสี่ยวหยูและพูดว่า “เจ้ารู้ไหมว่าเพราะเหตุใดพระบิดาของเราจึงได้ขอให้ข้ามาที่นี่ เพราะท่านรู้ว่าเจ้าดื้อรั้นและตั้งใจที่ไม่กลับมา ท่านจึงส่งข้ามา”
เขาส่ายหัวและถอนหายใจ “พระบิดาของเราบอกให้พาตัวเจ้ากลับไปแม้เจ้าจะไม่อยากกลับก็ตาม”
“อืม ..” ผู้คนในร้านมองดูและคิดทบทวนว่ามันไม่ถูกต้องที่พวกเขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในครอบครัว
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คิดว่ามันถูกต้องที่จะนิ่งเฉย
พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากส่งข้อความบน QQ
ซงฉิงเฟิง [ท่าน! ข่าวร้าย! มีคนต้องการที่จะพาตัวเสี่ยวหยูไปจากร้านของเรา!]
[เจ้าหมายถึงอะไร? ใครกันที่จะพาตัวเสี่ยวหยูไป] ฟางฉียังคงยุ่งอยู่กับพัฒนาทักษะของเขาในเดวิลเมครายสาม [อย่าเพิ่งกวนข้า!]
[เจ้าไม่อยากช่วยเสี่ยวหยูของเจ้าหรอ?] เพียงเสี้ยววิข้อความจากซูเทียนได้แจ้งเตือนถึงเขา