ตอนที่ 351

Taming Master

เมืองไพโรมีคฤหาสน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปกลาง

ภายในสำนักงานขุนนางด้านบนของปราสาทมีคนสามคนนั่งอยู่รอบๆโต๊ะกลมเล็กๆและสนทนากัน

พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เฮิร์ซหัวหน้ากิลด์ของกิลด์โลตัสและฟิโอลันลอร์ดแห่งคฤหาสน์ไพโร

และคนสุดท้ายคือลอร์ดของกิลด์โลตัส เอียน

“งั้นเธอหมายความว่าตอนนี้เธอเริ่มสูญเสียพลังแล้วหรอ?”

สำหรับคำถามจากเอียน ฟิโอลันพยักหน้าขณะตอบกลับ

“ใช่แล้ว ยังมีคฤหาสน์อีก 4 แห่งที่เหลืออยู่… คฤหาสน์ถัดไปก็จัดการได้เช่นกัน แต่ปัญหาเริ่มต้นหลังจากนั้น มีอัศวินไวเวิร์นเหลืออยู่…”

และเฮิร์ซพูดเสริมอีกสองสามคำ

“ใช่ ขีดจำกัดของเราอยู่ที่คฤหาสน์ถัดไปเท่านั้นจินซุง”

และเหตุผลที่เฮิร์ซและฟิโอลันเรียกเอียนมา แม้แต่เอียนก็เดาได้แล้ว

เอียนรู้ดีว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะหมดพลัง

เอียนพึมพำอยู่ในใจ

‘ฉันหวังว่าจะมีเวลาอีกสักนิด…’

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเอียนก็ถามเฮิร์ซว่า

“ครั้งที่แล้วเมืองไพโรและโลตัสนำนักเวทย์ไปที่คฤหาสน์เอลิเจียนได้ยังไง?”

“หอคอยเวทย์มนตร์เพิ่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นเราจึงผลิตนักเวทย์ออกมา… แต่พวกเขาจะพร้อมใช้งานในสัปดาห์หน้า”

‘หอคอยเวทมนตร์’ เป็นโรงงานผลิตกองทัพระดับสูงสุดที่ถูกสร้างขึ้นในดินแดนของราชอาณาจักร

สามารถเดาได้จากชื่อของมัน มันคือสถานที่ที่สามารถผลิต ‘นักเวทย์’ ได้

ก่อนที่หอคอยเวทย์มนตร์จะถูกสร้างขึ้น มันเป็นไปได้ที่จะสร้างนักเวทย์ออกมาต่อสู้โดย ‘การจ้างทหารรับจ้าง’ แต่เมื่อสร้างหอคอยเวทย์มนตร์แล้วพวกเขาก็สามารถฝึกฝนนักเวทย์ของตนเองได้

ความแตกต่างนั้นยอดเยี่ยมมาก

สามารถผลิตได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการจ้างทหารรับจ้างมากและสามารถฝึกฝนรักเวทย์ระดับสูงได้ตั้งแต่ระดับ 5 ขึ้นไป

และถ้าพวกเขาโชคดีบางครั้งนักเวทย์ที่มีระดับ 7 ขึ้นไปก็ปรากฏตัว

นอกจากนี้หากนักเวทย์ระดับทั้ง 7 ปรากฏตัวขึ้นก็สามารถเทียบได้กับความแข็งแกร่งของรีเมียร์นักเวทย์อันดับ 1 ได้เลย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ไม่สามารถใช้งานได้ทันที

ฟิโอลันค่อยๆเปิดริมฝีปากของเธอ

“เอียน ถึงเวลาแล้วที่นายจะต้องเข้าร่วม”

เฮิร์ซพยักหน้า

“ถูกต้อง ตอนนี้ออกมาจากอาณาจักรปีศาจได้แล้ว”

เอียนแค่เกาหัว

มันเป็นแผนดั้งเดิมของเอียนที่จะปรากฏตัวในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายและประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่เคียงข้างเขา

แต่นั่นต้องใช้เวลามากกว่าที่เขาวางแผนไว้และไม่มีทางที่เขาจะให้เวลาที่แน่นอนได้ว่าเขาจะทำสำเร็จเมื่อใด

และนั่นคือสาเหตุที่เอียนถูกบังคับให้พยักหน้า

“ก็ได้ ฉันจะเข้าร่วมกับนายตั้งแต่สงครามครั้งต่อไป”

ด้วยคำตอบของเอียน ทั้งฟิโอลันและเฮิร์ซต่างรู้สึกอิ่มเอมใจ

“นายตัดสินใจดีแล้วเอียน!”

“ดีๆ ฉันไม่กังวลอีกต่อไปแล้ว”

และเฮิร์ซพูดเพิ่มคำอีกสองสามคำ

“และพาฮูนี่ย์มาด้วยนะ เขามักจะบอกฉันเสมอว่ามีเควสต์เมื่อไหร่ก็ตามให้ฉันเรียกเขามา”

เอียนพยักหน้า

“โอเค ฉันจะพาฮูนี่ย์กับโนเอลมาด้วย”

ฮูนี่ย์ตะลึงเล็กน้อยหลังจากฟังคำพูดของเอียน

“โนเอล? ไม่มากเกินไปสำหรับเขาที่จะรับมือกับสงครามกิลด์หรอ?”

เฮิร์ซรู้จักคาโนเอลไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาควบคุมได้ไม่ดีและอยู่ในเลเวลที่ต่ำ

เอียนหัวเราะ

“เขาเติบโตขึ้นมากหลังจากติดตามฉันไปตลอด เขาสามารถจัดการกับคนมากกว่าหนึ่งคนได้ด้วยตัวเองแล้ว”

เฮิร์ซตอบกลับ

“ก็ได้ ถ้านายพูดอย่างนั้นฉันจะเชื่อคำพูดของนายเอง”

จากนั้นพวกเขาสามคนก็เริ่มวางแผนที่เป็นรูปธรรมสำหรับสงครามสี่ครั้งถัดไปและมันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานมาก

สำหรับเอียนที่อยู่ห่างจากกิลด์เป็นเวลานานเขาต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความเข้าใจเรื่องภายในและกลยุทธ์การต่อสู้ของกิลด์

และหลังจากเสร็จสิ้นการวางกลยุทธ์ เอียนก็ไปที่โรงประมูล

‘ฉันขายไอเทมส่วนใหญ่ที่ได้มาในช่วงหลายวันนี้และเลเวลของฉันก็เพิ่มขึ้นมาก ฉันต้องเปลี่ยนอุปกรณ์อีกครั้ง’

เลเวลปัจจุบันของเอียนอยู่ที่ประมาณ 290 ต้นๆ

ไอเทมที่เขาสวมใส่อยู่ในตอนนี้มีเลเวลประมาณ 200 ดังนั้นเขาจึงต้องทำอะไรบางอย่างกับพวกมัน

และจนถึงตอนนี้เควสต์ลับของทะเลทรายเซลามัสได้ถูกยกเลิกไปแล้ว

หากสามารถเคลียร์เควสต์ของเซลามัสได้ ‘การพิพากษาของราชาวิญญาณ’ [1] ก็สามารถอัพเกรดขึ้นไปอีกระดับ

‘สงครามกิลด์ถัดไปอีกสองวันนับจากนี้… เนื่องจากไม่ใช่เควสต์ระยะยาวจึงสามารถทำได้’

ยังไม่มีอาวุธใดที่มีพลังโจมตีมหาศาลที่สามารถทำให้ ‘อาวุธทำลายโลก’ อับอายได้

และอาวุธที่น่าทึ่งนั้นเป็นอุปกรณ์หลักของเอียนนั่นคือการพิพากษาของราชาวิญญาณ

ดังนั้นเอียนจึงเริ่มคิดอย่างกว้างขวาง

เป็นเพราะความคาดหวังว่าการพิพากษาของราชาวิญญาณจะทรงพลังขนาดไหนเมื่อได้รับการอัพเกรดเป็นระดับถัดไป

แต่เขาก็ไม่แน่ใจนักว่ามันจะออกมาอย่างไร

แต่รู้ว่าเขาจะได้รับไอเทมที่เรียกว่า ‘เวทย์ซัมมอนของราชาวิญญาณ’

และนั่นก็ช่วยเอียนด้วยเช่นกัน

และฝีเท้าของเอียนเริ่มเร็วขึ้น

 

* * *

 

‘ฉันคิดว่าถูกต้องแล้ว…’

ภูเขาหินขนาดใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโฮลดรีม

เอียนกำลังเดินไปรอบๆภูเขาหินเกือบครึ่งวัน

เป็นเพราะเขาพยายามหา ‘แท่นบูชามังกรบินเซลามัส’

เอียนเปิดหน้าต่างเควสต์ของเซลามัสหลังจากค้นหาสถานที่ของแท่นบูชาอยู่นานมาก

 

– – – – – 

 

– การทดสอบของเผ่าเซลามัส (ลับ , เชื่อม) –

 

ท่านได้รับการยอมรับว่าเป็นนักรบระดับ S สูงสุดจากอิคริปส์ผู้พิทักษ์เผ่าเซลามันและได้รับคะแนนสูงสุดตลอดกาล

ตอนนี้ท่านจะต้องท้าทายงานที่ไม่มีใครทำได้

หากท่านปลุกมังกรบินของแท่นบูชาของเผ่าเซลามัส เขาจะนำทางท่าน

ระดับความยากเควสต์ : SSS

เงื่อนไขของเควสต์ : นักรบเซลามัสระดับ S ที่อิคริปส์รู้จัก

ซัมมอนเนอร์เลเวล 200 ขึ้นไป

จำกัดเวลา: ไม่มี

รางวัล: วิวัฒนาการของ ‘การพิพากษาของราชาวิญญาณ’

‘เวทย์ซัมมอนของราชาวิญญาณ’

 

– – – – – 

 

และเมื่อหน้าต่างเควสต์เปิดขึ้น ตำแหน่งของแท่นบูชาจะปรากฏขึ้นพร้อมกับไฟสีแดงบนแผนที่ขนาดเล็กที่แสดงอยู่ทางด้านขวาบน

‘ถูกแล้วนิ’

เอียนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

ไม่มีมอนสเตอร์ตัวไหนในทวีปกลางที่สามารถต่อสู้กับเอียนได้

และเพื่อเป็นการพิสูจน์ เบื้องหลังเอียนมีเพียงคาร์เซอุสในร่างมังกรเท่านั้นและไม่มีใครอื่น

ไม่มีใครสามารถเอาชนะการข่มขู่ของคาร์เซอุสได้

เขาเดินไปประมาณ 5 นาทีได้แล้ว

คาร์เซอุสที่เดินตามเขาพูดว่า

“เจ้านาย ข้ารู้สึกได้ถึงพลังของมังกรจากยอดเขาตรงนั้น”

เอียนเหลือบมองไปยังทิศทางที่คาร์เซอุสมองไปและยืนยันตำแหน่ง

และที่ยอดเขาอันไกลโพ้นจะเห็นหินรูปร่างคล้ายหัวมังกร

“ดีล่ะ…!”

สิ่งแรกที่ต้องทำคือปลุกมังกรที่แท่นบูชา

เหตุผลในการอัญเชิญคาร์เซอุสมาก็เพื่อชี้ตำแหน่งของมังกรได้อย่างง่ายดายและคาร์เซอุสก็ทำได้ดีมาก

“คาร์เซอุสพาฉันไปหน่อย”

คาร์เซอุสตอบด้วยการพยักหน้าครั้งใหญ่

“รับทราบครับเจ้านาย”

คาร์เซอุสกางปีกขนาดใหญ่และกระพือปีกพร้อมกับร่างขนาดยักษ์ของมันบินขึ้นไปบนอากาศ

 

* * *

 

[ท่านได้ค้นพบแท่นบูชาของมังกรบินเซลามัสซึ่งมีประวัติศาสตร์ของยุคโบราณเป็นครั้งแรก]

[ท่านได้รับชื่อเสียง 150,000 หน่วย]

[ความสามารถในการต่อสู้ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 25 หน่วย]

[ความเป็นผู้นำและความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างถาวรอย่างละ 100 หน่วย]

 

“ฮ่า ดีตั้งแต่เริ่มเลย!”

คำพูดหลุดออกจากปากของเอียน

มันเป็นรางวัลที่คล้ายกันกับที่เขาได้รับเมื่อเขาเริ่มเควสต์ในครั้งแรก แต่นี่เป็นรางวัลที่อัพเกรดขึ้นมาอีก

และเอียนก็กระโดดลงมาจากด้านหลังของคาร์เซอุสและก้าวเท้าขึ้นไปบนยอดเขาและคาร์เซอุสก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง

เนื่องจากยอดเขานั้นแคบ ร่างกายของเขาจึงเหมาะสมมาก

ทันทีที่เอียนก้าวเท้าขึ้นไปบนยอดเขา พื้นก็เริ่มแตก

Crrk- Crrk- Crrrk-!

“หืม…?”

เอียนรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าก็สงบสติตัวเองและเห็นแสงสีเขียวพุ่งออกมาจากรอยแตก

Kukukung-!

‘นี่คือหินมังกรบินใช่ไหม?’

เอียนขยับไปมาเพื่อทรงตัวบนโขดหินที่พังทลายและเกล็ดสีเหลืองเริ่มปรากฏขึ้นจากหิน

หลังจากนั้นไม่นาน

หินขนาดใหญ่บนภูเขาหินกลายเป็นมังกรที่สง่างามซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น

Kyaaaa-!!

ข้อความระบบโผล่ขึ้นมาในเวลาเดียวกันกับเสียงคำราม

กริ๊ง-

 

[เงื่อนไขสำเร็จแล้ว มังกรบินแห่งเผ่าเซลามัสได้ตื่นขึ้นหลังจากหลับใหลมาแสนนาน]

 

ทั้งเอียนและคาร์เซอุสคว้าขึ้นไปบนสันเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการร่วงหล่น

แต่แล้ว

ทั้งร่างของคาร์เซอุสถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาวและมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกต่อไป!

สิ่งนี้ทำให้เอียนงุนงงมาก

‘อะไรกันน่ะ?’

และข้อความระบบก็อธิบายว่าทำไมคาร์เซอุสถึงหายไป

 

[นักรบเซลามัสได้เข้าสู่พื้นที่แรกของ ‘ประตูแห่งมังกร’]

[เป็นพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงไม่สามารถเข้าไปได้]

[มอนสเตอร์ที่ถูกอัญเชิญทั้งหมดจะถูกยกเลิกอัญเชิญ]

[ปิดการใช้งานความสามารถของอุปกรณ์ทั้งหมด (ยกเว้นอาวุธของนักรบเซลามัส)]

[สกิลทั้งหมดจะถูกปิดผนึก (ยกเว้นสกิล ‘นักรบเซลามัส’)]

[ที่ประตูของการทดสอบเซลามัส ท่านสามารถใช้อุปกรณ์และสกิลที่ได้รับจากมิตินี้เท่านั้น]

 

เอียนเคลื่อนย้ายไปที่ด้านหลังของมังกรด้วยดวงตาที่สดใส

‘เป็นเหมือนประตูทางผ่านของนักรบงั้นหรอ…?’

แต่ความคิดของเอียนไม่สามารถดำเนินต่อได้ในขณะที่… 

 

[กอดไว้ให้แน่นนะ นักรบแห่งเซลามัส]

 

และด้วยเหตุนี้เอียนจึงได้ยินเสียงปีกของมังกร

Flap – Flap -!

แสงสีทองของมันส่องไปทุกทิศทางและมันก็เริ่มเคลื่อนไหว

‘อะไรเนี่ย! ครั้งที่แล้วฉันตกลงสู่พื้นดินและตอนนี้ฉันกำลังจะขึ้นสู่ท้องฟ้า?’

มันเป็นความคิดที่น่ากลัวสำหรับเอียน

ร่างของมังกรทองเริ่มบินขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความเร็วมหาศาล

“อ๊ากกกกกกกกกก…!!!”

 

[1] การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา = การพิพากษาของราชาวิญญาณ