เล่มที่ 12 เล่มที่ 12 ตอนที่ 345 ทำลายวรยุทธ์ทั้งหมด

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

สัตว์เทพซื่อฉิงเป็นสัตว์วิเศษตัวหนึ่งที่ตำหนักเสวียนปิงเลี้ยงไว้ในสระไร้รัก เวลาปกติมันจะสงบนิ่งอยู่ในตำหนักเสวียนปิง หากหมุดกร่อนรักไม่เกิดความผิดปกติ มันไม่มีทางออกมาจากสระและแสดงอาการคลุ้มคลั่ง

เมื่อฮูหยินปิงจีไปถึง สัตว์เทพซื่อฉิงได้ทำร้ายคนในตำหนักที่เฝ้าอารักขาสระไร้รักไปแล้วหลายคน

ฮูหยินปิงจีใช้เวลาไปไม่น้อยกว่าจะกำราบสัตว์เทพซื่อฉิงให้สงบลงได้

นางมีท่าทีเคร่งเครียด ใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “โยวเหยามีอารมณ์รักใคร่ถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ”

อารมณ์รุนแรงของสัตว์เทพซื่อฉิงจะสัมพันธ์กับความผิดปกติของหมุดกร่อนรัก ผู้ที่มีหมุดกร่อนรักฝังอยู่ในร่างกายหากเกิดอารมณ์รักใคร่ลึกซึ้ง อารมณ์ของสัตว์เทพซื่อฉิงจะยิ่งเปลี่ยนแปลงมากขึ้น

ด้านหลังฮูหยินปิงจีมีบุรุษผู้หนึ่งอายุราวสี่สิบกว่าปี ในมือถือพัดขนนก แววตาแหลมคมเฉลียวฉลาดดุจเหยี่ยว ผมยาวปล่อยสยาย เขามีท่าทีแปลกประหลาด ก่อนจะค่อยๆ เดินมาข้างหน้าและโบกพัดขนนกในมือไปทางสัตว์เทพซื่อฉิง ทันใดนั้นพลันเกิดแสงสว่างสีแดงม่วงปกคลุมไปทั่วร่างสัตว์เทพซื่อฉิง สัตว์เทพซื่อฉิงที่เดิมทีสงบลงแล้วยิ่งเชื่อฟังคำสั่ง คลานลงไปในสระไร้รักแต่โดยดี

คนผู้นั้นโบกพัดขนนกในมือกลับอย่างรวดเร็ว แววตาสงบนิ่งหันไปพูดกับฮูหยินปิงจี “เจ้าตำหนัก มีคนทำอันใดบางอย่างกับสัตว์เทพซื่อฉิงตัวนี้ หมุดกร่อนรักในร่างกายของนายน้อยหาได้เพิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ อย่างน้อยก็เกิดขึ้นมาสามเดือนแล้วขอรับ”

มีคนทำอันใดกับสัตว์เทพซื่อฉิง?

ช่างใจกล้ายิ่งนัก!!!

“ยวี่จี ผู้ใดเป็นคนทำ? ”

ยวี่จีมีแววตาจริงจัง เขาไขว้นิ้วมือซ้ายพลางร่ายอาคมลงบนอากาศ อากาศที่ร่ายอาคมไปพลันเกิดภาพมายาขึ้น ภายในภาพมายาปรากฏภาพเหตุการณ์ขณะที่มีคนเข้ามาทำอันใดบางอย่างกับสัตว์เทพซื่อฉิง

ผู้ที่ลงมือกับสัตว์เทพซื่อฉิง มิใช่ใครอื่น นั่นคือหนานกงลั่วอวิ๋น

“บัดซบ! ”

ฮูหยินปิงจีหันหลังไป ใช้พลังภายในอันแข็งแกร่งซัดหนานกงลั่วอวิ๋นที่ยืนอยู่ด้านหลังกระเด็นลอยไปไกลกว่าห้าจั้ง หนานกงลั่วอวิ๋นกระอักเลือดในทันที

ฮูหยินปิงจีพลิกฝ่ามือพลางเดินพลังภายใน ต้องการลงมือกับหนานกงลั่วอวิ๋นอีกครั้ง ทว่าเมี่ยวอวี่กลับยื่นแขนทั้งสองออกไปขวางหน้าฮูหยินปิงจี

“ฮูหยิน ท่านโปรดยั้งมือด้วย คุณหนูหนานกงจงรักภักดีกับฮูหยินมาโดยตลอด นางไม่กล้าขัดคำสั่งของฮูหยิน ยิ่งไม่มีทางคิดคดทรยศฮูหยิน คุณหนูหนานกง… คุณหนูหนานกง นางจะต้องมีเรื่องทุกข์ใจแน่นอนเจ้าค่ะ”

“เรื่องทุกข์ใจ นางมีเรื่องทุกข์ใจอันใด? ”

แม้ฮูหยินปิงจีจะยอมฟังคำทัดทานของเมี่ยวอวี่ ทว่าดวงตาที่เย็นชายังคงมองหนานกงลั่วอวิ๋น และให้โอกาสหนานกงลั่วอวิ๋นได้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น

หนานกงลั่วอวิ๋นกระอักเลือดออกมาหลายครั้ง สีหน้าซีดขาว ครู่หนึ่งจึงเงยหน้าขึ้นมองฮูหยินปิงจี

ผ่านไปครู่ใหญ่ หนานกงลั่วอวิ๋นยังไม่มีท่าทีจะเอ่ยคำอธิบาย เมี่ยวอวี่ร้อนใจยิ่งนัก เกรงว่าหากชักช้าไปกว่านี้ ฮูหยินปิงจีจะเปลี่ยนใจ นางจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณหนูหนานกง ท่านพูดอันใดบ้างสิ! ท่านอยากตายหรืออย่างไร? ”

หนานกงลั่วอวิ๋นเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ฮูหยิน… ลั่ว… ลั่วอวิ๋นทำให้ท่านต้องผิดหวัง เรื่องทั้งหมดเป็นความคิดของลั่วอวิ๋น เป็นลั่วอวิ๋นที่ทนเห็นนายน้อยทรมานจากพิษหมุดกร่อนรักไม่ได้ ดังนั้นจึงได้ทำลงไปโดยพลการ เรื่องเลยเถิดมาถึงจุดนี้แล้ว ลั่วอวิ๋นไม่มีอันใดแก้ตัว ฮูหยิน… ฮูหยินได้โปรดลงโทษตามสมควร! ”

หนานกงลั่วอวิ๋นพูดอธิบายอยู่พักใหญ่ หลังจากพูดจบก็ดูเหมือนนางพูดไม่ตรงประเด็น ไม่ยอมพูดตามความจริง

เมี่ยวอวี่ยิ่งร้อนใจ “ไม่ใช่เช่นนั้น คุณหนูหนานกง เหตุใดท่านถึงไม่พูดความจริงออกมา เรื่องไม่ได้เป็นอย่างนั้น… ”

“หึ ไม่มีอันใดแก้ตัวหรือ? ถือดีอย่างไรที่พูดว่าไม่มีอันใดแก้ตัว! ” ฮูหยินปิงจีมีท่าทีขุ่นเคือง เมื่อเห็นคนที่ตนคาดหวังไว้ไม่เป็นดั่งที่หวัง นางรู้สึกเดือดดาลจนตัวสั่นเทา “เจ้า… เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากจริงๆ ”

เยี่ยโยวเหยาเป็นถึงนายน้อยแห่งตำหนักเสวียนปิง ฮูหยินปิงจีให้ความสำคัญกับเยี่ยโยวเหยามากกว่าฉินเทียนบุตรชายแท้ๆ ของตนเองเสียอีก นางให้หนานกงลั่วอวิ๋นหมั้นหมายกับเยี่ยโยวเหยา เห็นได้ชัดว่านางให้ความสำคัญต่อหนานกงลั่วอวิ๋นเป็นอย่างมาก

กลับนึกไม่ถึงว่า หนานกงลั่วอวิ๋นจะกล้าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ลับหลังนาง

“องครักษ์ ลากตัวออกไป ทำลายวรยุทธ์ของนางและขังไว้ในคุกนรก”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง พลางหันไปมองหนานกงลั่วอวิ๋นอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

แม้ตระกูลหนานกงจะมีสถานะสูงส่ง เป็นตระกูลใหญ่อันสูงศักดิ์และมีศิษย์มากมาย ทว่าพูดกันตามตรงแล้ว ก็เป็นเพียงขุนนางรับใช้จักรวรรดิ

ฮูหยินปิงจีหมั้นหมายหนานกงลั่วอวิ๋นให้กับเยี่ยโยวเหยา นอกจากมองเห็นความภักดีของตระกูลหนานกงที่มีต่อจักรวรรดิแล้ว เหตุผลสำคัญอีกอย่างก็คือ ฮูหยินปิงจีชุบเลี้ยงหนานกงลั่วอวิ๋นมาตั้งแต่เล็ก อีกทั้งวรยุทธ์ของนาง ฮูหยินปิงจีก็เป็นผู้สั่งสอนด้วยตนเองทั้งสิ้น

เวลานี้ฮูหยินปิงจีออกคำสั่งให้ทำลายวรยุทธ์ของหนานกงลั่วอวิ๋น เห็นได้ชัดว่านางผิดหวังในตัวหนานกงลั่วอวิ๋นเป็นอย่างมาก

หนานกงลั่วอวิ๋นที่แทบจะหมดสติ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เมื่อได้ยินคำสั่งลงโทษนางของฮูหยินปิงจี ก็เบิกตาทั้งสองกว้าง นางเงยหน้าขึ้นมอง พยายามดิ้นรนคลานเข้าไปหาฮูหยินปิงจี

“ฮูหยิน ลั่วอวิ๋นขอร้องท่าน จะลงโทษลั่วอวิ๋นอย่างไรก็ได้ ทว่าอย่าทำลายวรยุทธ์ลั่วอวิ๋น ฮูหยิน ลั่วอวิ๋นขอร้องท่าน ได้โปรด… อย่าทำลายวรยุทธ์ลั่วอวิ๋น ลั่วอวิ๋นยินดีรับโทษทุกอย่าง อย่าทำลายวรยุทธ์ลั่วอวิ๋น ได้โปรด… ”

หนานกงลั่วอวิ๋นพูดอ้อนวอน น้ำตาไหลอาบสองแก้มโดยไม่รู้ตัว

หนานกงลั่วอวิ๋นรู้ดี วรยุทธ์ที่นางฝึกฝนมานั้น หากต้องการทำลายวรยุทธ์ทั้งหมด ก่อนอื่นจำเป็นต้องตัดเส้นเอ็นทั้งมือและเท้า

เช่นนี้ก็เท่ากับปล่อยให้นางตาย

นางรักใคร่เยี่ยโยวเหยาอย่างลึกซึ้ง แม้รู้ว่าภายในใจของเยี่ยโยวเหยาไม่มีนาง ทว่านางยินดีรอคอยอยู่เงียบๆ ข้างกายเยี่ยโยวเหยา รอจนกว่าจะมีสักวันที่เขายอมเปิดใจให้นาง

แม้วันนั้นจะไม่มีทางมาถึงก็ตาม แต่ไม่ว่าเขาจะทำอันใด นางก็เต็มใจทำทุกอย่างเพื่อเขา

ทว่าคนที่ไร้วรยุทธ์ ทั้งยังถูกตัดเส้นเอ็นแขนขาทิ้ง ยังจะทำเรื่องอันใดให้เยี่ยโยวเหยาได้อีก? นางจะยืนข้างกายเขาได้อย่างไร?

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ หากนางต้องใช้ชีวิตอย่างคนพิการไร้สามารถในคุกนรกที่มีคำคืนอันแสนยาวนาน ก็ยังทรมานยิ่งกว่าการสังหารนางเสียอีก

ฮูหยินปิงจีเผชิญหน้ากับคำวิงวอนของหนานกงลั่วอวิ๋น ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ นางก็ยังเย็นชาไร้ซึ่งความเห็นใจ

เมี่ยวอวี่มองหนานกงลั่วอวิ๋นที่กำลังถูกคนในตำหนักลากตัวออกไป มองเห็นใบหน้าหวาดกลัวของหนานกงลั่วอวิ๋น นางคิดจะขอร้องวิงวอนแทนหนานกงลั่วอวิ๋น ทว่าท้ายที่สุดก็ถูกคำพูดโหดเหี้ยมของฮูหยินปิงจียับยั้งเอาไว้

“หากผู้ใดคิดพูดวิงวอนแทนนางแม้แต่คำเดียว ข้าจะลงโทษเช่นเดียวกับนาง”

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ ทุกคนต่างเงียบกริบ ไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่น้อย

ฮูหยินปิงจีหันไปมองสัตว์เทพซื่อฉิงภายในสระไร้รัก ก่อนจะหรี่นัยน์ตาลงอย่างเชื่องช้า “เมี่ยวอิน เมี่ยวเซิ่ง พวกเจ้าสองคนไปจับตัวสตรีนางนั้นกลับมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”

“เจ้าค่ะ! ” เมี่ยวอินกับเมี่ยวเซิ่งตอบรับอย่างพร้อมเพรียง

เมี่ยวอวี่ใบหน้าเปลี่ยนสี รีบเข้าไปพูดกับฮูหยินปิงจีว่า “ฮูหยิน ไม่เช่นนั้นให้บ่าวไปเชิญนายน้อยกลับมาก่อน ดูว่านายน้อยจะอธิบายว่าอย่างไรดีหรือไม่? หากเจ้าตำหนักบุ่มบ่ามจับกุมคนของนายน้อยในเวลานี้ เกรงว่า… ”

“เกรงว่าอันใด? ” ฮูหยินปิงจีหันไปมองเมี่ยวอวี่ด้วยสายตาเย็นชาและตัดบทคำพูดของนาง “เจ้าเองก็ชอบปกป้องเขา! ”

เมี่ยวอวี่รีบปิดปาก ไม่พูดอันใดออกมาอีกเลย

ในเวลานี้ เยี่ยโยวเหยาที่อยู่ในแดนต้องห้ามสกุลจง กำลังดุร้ายกระหายเลือด ไอปีศาจเข้มข้น เขาไล่ล่าสังหารสมุนไพรกินคนอย่างบ้าคลั่ง

ยิ่งเขาสังหารพวกมันมากเท่าไร สมุนไพรกินคนก็ยิ่งขยายพันธุ์มากขึ้นเท่านั้น เขาไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในตำหนักเสวียนปิง

และไม่รู้ว่าซูจิ่นซีเป็นตายร้ายดีอย่างไร หลังจากที่นางถูกสัตว์เทพกิเลนคาบเข้าไปในถ้ำ