ตอนที่ 492 จับตัว
หลี่ซื่อโดนคนเหล่านี้จับมัดอย่างชำนาญและพาตัวออกไป ส่วนอันอิงเฉิงไล่ตามคนเหล่านั้นออกไปไกลแล้ว อีกฝ่ายเดิน ๆ หยุด ๆ อันอิงเฉิงจึงเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
ล่อเสือออกจากถ้ำ จู่ ๆ เขาก็คิดได้อย่างฉับพลัน ทันใดนั้นเขาจึงรีบย้อนกลับไปยังทิศทางที่จากมาโดยเร็ว
“หรูเสวี่ย หรูเสวี่ย ! ” เวลานี้อันอิงเฉิงกระวนกระวายใจอย่างมาก เขามิรู้ว่าคนเหล่านั้นจับตัวหลี่ซื่อไปไว้ที่ใด หากบอกว่าเพื่อข่มขู่ตนเวลานี้ก็ควรออกมาได้แล้ว เหตุใดยังมิมีใครออกมาแม้แต่คนเดียว
เขาวิ่งออกไปตามหานางแทบจะทั้งภูเขา แต่ก็หาร่องรอยของหลี่ซื่อมิพบ เวลานี้ท้องฟ้าใกล้พลบค่ำแล้วแสงไฟจึงเริ่มสว่างขึ้น
อันอิงเฉิงรีบกลับไปที่เรือน จากนั้นก็ควบม้าตรงไปยังทิศทางของเมืองจิงทันที
“เกอเอ๋อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ใดลงมือ ? ” ความหวังสุดท้ายของอันอิงเฉิงจึงตกมาอยู่ที่อันหลิงเกอ อย่างไรนางก็อยู่ในเมืองหลวง อีกทั้งบัดนี้อันหลิงเกอก็รับหน้าที่ดูแลงานในจวนอ๋องด้วย หากมีผู้ใดผิดปกติก็ย่อมสัมผัสได้อย่างแน่นอน
แต่อันหลิงเกอส่ายหน้าเพราะมิรู้ว่าผู้ใดจับตัวหลี่อี๋เหนียงไป อย่างไรหลี่อี๋เหนียงก็มิเคยไปมาหาสู่กับพวกนางอีก
ครั้นเมื่อคิดได้ว่าอันอิงเฉิงมิใช่ท่านโหวอีกแล้ว ทั้งยังสละตำแหน่งเพื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในป่า หากเป็นคนที่คิดทำร้ายก็น่าจะสังหารพวกเขาในป่าลึกไปแล้ว วิธีนี้มีความเป็นไปได้มากกว่าอีก
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นแค่จับตัวหลี่ซื่อออกมาจึงใช้วิธีล่อเสือออกจากถ้ำเพื่อมิให้อันอิงเฉิงปะทะซึ่งหน้า นี่จึงพิสูจน์ได้ว่าเจตนาของอีกฝ่ายมิได้อยู่ที่ตัวของหลี่ซื่อ ด้วยเหตุนี้จึงมิได้ทำร้ายนางนั่นเอง
อันหลิงเกออธิบายเยี่ยงนี้ ในใจของอันอิงเฉิงก็รู้สึกดีขึ้นมิน้อย เดิมทีเขาเป็นห่วงชีวิตของหลี่ซื่อมาก เมื่อได้ยินอันหลิงเกอกล่าวเยี่ยงนี้ก็วางใจและหันมาคำนึงถึงความรู้สึกบุตรี
“เจ้าตำหนิพ่อที่ปกป้องนางมิได้ใช่หรือไม่ ? ”
อันหลิงเกอส่ายหน้า ท่านพ่อปกป้องอีกฝ่ายได้หรือไม่เกี่ยวอันใดกับนาง ? ตอนนี้นางก็เป็นแม่คนแล้ว หลี่หรูเสวี่ยก็มีร่างกายอ่อนแอมาตลอด ขอแค่มิได้เข้ามายั่วโมโหนางอีก สักวันนางก็คงปล่อยให้หลี่หรูเสวี่ยจากไปอย่างสงบ
แต่อันหลิงอี…
“จริงสิท่านพ่อ สถานที่ที่ควรหา ท่านหาหมดแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ ? ” เวลานี้อันหลิงเกอแกล้งเอ่ยถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว อันอิงเฉิงกังวลเยี่ยงนี้คงหามิทั่วทุกแห่งหรอก
“แน่นอนว่าหาหมดทุกที่แล้ว เพียงแต่…” กล่าวถึงตรงนี้อันอิงเฉิงก็หยุดชะงักไป จู่ ๆ เขาก็นึกถึงสถานที่หนึ่งได้ เขายังมิเคยไปหาและเมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็เตรียมวิ่งไปหาทันที แต่ถูกอันหลิงเกอขวางไว้
“พาตัวมา”
อันอิงเฉิงยังมิทันออกไปหา จู่ ๆ หลี่ซื่อก็ปรากฎตัวฉับพลัน
เรื่องที่ทำให้อันหลิงเกอคาดมิถึงคือผู้ที่จับตัวหลี่อี๋เหนียงไปนั้นเป็นชางเอ๋อ
อันหลิงเกอชะงักไปทั้งร่างและยืนมองชางเอ๋อสั่งลูกน้องจับตัวหลี่อี๋เหนียงขึ้นบนที่สูง
มีผู้คนจำนวนมากยืนล้อมอยู่นอกจวนอ๋องมู่ซึ่งเป้าหมายก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเพื่อข่มขู่
เขายังเด็กถึงเพียงนี้จักเป็นไปได้อย่างไร ?
“เกอเอ๋อ นี่เจ้ากำลังกลั่นแกล้งพ่อใช่หรือไม่ ? ” อันอิงเฉิงแสดงท่าทางมิอยากเชื่อออกมา คุณชายใหญ่ชางเอ๋อผู้นี้มิใช่คนที่ติดตามอันหลิงเกอตั้งแต่เยาว์วัยหรอกหรือ เหตุใดจึงกระทำเรื่องเยี่ยงนี้ได้
“ชางเอ๋อ นี่คือเรื่องอันใด ? ” อันหลิงเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย นางมิรู้ว่าเหตุใดชางเอ๋อจึงลักพาตัวหลี่อี๋เหนียงไป เพราะบัดนี้หลี่อี๋เหนียงไปอยู่ในป่าที่ห่างไกลและมิได้ติดต่ออันใดกับพวกนางแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้นคือนิสัยของหลี่อี๋เหนียงคงมิเคยไปล่วงเกินชางเอ๋อ
ว่าไปแล้วหลี่อี๋เหนียงก็ยังเป็นป้าแท้ ๆ ของเขาด้วย
“เพราะเหตุใดหรือ ? เพราะข้าอยากกลับไปอยู่ในวังกับพระเชษฐา!” อันหลิงเกอคาดมิถึงว่าชางเอ๋อส่งเสียงเคร่งขรึมออกมาเยี่ยงนี้ สายตาของเขาจับจ้องไปยังหนิงเอ๋อที่ปี้จูกำลังอุ้มอยู่ด้านข้าง อันหลิงเกอจึงอดตัวสั่นมิได้
มู่จวินฮานบอกนางแล้วว่าวันข้างหน้าชางเอ๋ออาจเดินตามรอยจ้าวหลานหยู่ แต่นางในตอนนั้นมิยอมเชื่อและเลือกเชื่อชางเอ๋อมากกว่า
ทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้คือความจริง นางมิสามารถมิเชื่อได้อีก นางมองไปยังชางเอ๋อที่อายุยังน้อยแต่ความชั่วร้ายเหมือนหลี่กุ้ยเฟยและจ้าวหลานหยู่มาก
“ชางเอ๋อ เจ้าคิดทำอันใด ? ” น้ำเสียงของอันหลิงเกอสั่นเครือ มิรู้ว่าเพราะเหตุใดชางเอ๋อจึงทำเยี่ยงนี้ แต่ดูเหมือนชางเอ๋อมิได้ตั้งใจตอบนาง ทว่าชี้มายังหนิงเอ๋อ
“โหวอัน หากท่านอยากได้นางคืนก็จงนำตัวเด็กคนนั้นมาให้ข้า” เวลานี้ชางเอ๋อจ้องมองมาทางหนิงเอ๋อซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ใช้มืออีกข้างกดมีดไปบนลำคอของหลี่ซื่อ พอเห็นเช่นนั้นหัวใจของอันอิงเฉิงก็หดเกร็ง
อันอิงเฉิงมิกล้าเดิมพันด้วยชีวิตของหลี่ซื่อ แต่ในเวลาเดียวกันก็มิสามารถทำร้ายหนิงเอ๋อได้
“หืม ? ” ชางเอ๋อเห็นอันอิงเฉิงลังเลมิตัดสินใจเสียทีจึงออกแรงจับมีดแน่นขึ้น จากนั้นก็กดบนลำคอของหลี่ซื่อกระทั่งเห็นรอยเลือดไหลซึมออกมา
“อย่า ! ” น้ำเสียงของอันอิงเฉิงไร้เรี่ยวแรงอย่างเห็นได้ชัด ชางเอ๋อมิได้อยากเอาชีวิตของหลี่ซื่อแต่อย่างใด เขาแค่กรีดบนผิวหนังของนางเล็กน้อยเพื่อให้เลือดซึมออกมาเท่านั้น
ในเวลาเดียวกันหลี่หรูเสวี่ยก็ตื่นขึ้น ตั้งแต่โดนจับตัวมาจนถึงตอนนี้นางมิรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น แค่รู้สึกเจ็บบนคอจึงทำให้ได้สติคืนมา
คนที่จับนางมาก็คือชางเอ๋ออย่างนั้นหรือ ? หลี่ซื่อแสดงท่าทีมิอยากเชื่อ นางคิดหันไปมองแต่ถูกชางเอ๋อดึงกลับไปอย่างโหดเหี้ยม
“หากท่านยอมก็ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จักได้ลิ้มรสความลำบากเฉกเช่นหมู่เฟยของข้า” น้ำเสียงของชางเอ๋อเต็มไปด้วยความเย็นชา ทั้งยังจ้องเขม็งไปทางอันหลิงเกอ
อันหลิงเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย เหตุใดชางเอ๋อเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ ในตอนแรกนางมิควรใจกว้างต่อชางเอ๋อจริงหรือ ?
“ทั้งหมดนี้ท่านแม่ของเจ้าล้วนหาเรื่องใส่ตัวทั้งสิ้น รวมทั้งสตรีที่อยู่ในมือเจ้าตอนนี้ด้วย ถึงนางตายไปก็เปล่าประโยชน์ ! ” อันหลิงเกอเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย็นชา ร่างกายของชางเอ๋อจึงสั่นเทิ้ม อันหลิงเกอจักปล่อยไปง่าย ๆ หรือ ?
“ท่านแม่ของเจ้าสละยศถาบรรดาศักดิ์เพราะมิอยากให้เจ้าเจริญรอยตามนาง” หลี่กุ้ยเฟยคิดเยี่ยงนี้จริง ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของอีกฝ่ายนั้นอันหลิงเกอก็รู้ดี
เมื่อเห็นชางเอ๋อแล้ว ในใจของอันหลิงเกอก็เกิดความรู้สึกบรรยายออกมามิได้ ชางเอ๋อเป็นเด็กที่นางเฝ้าฟูมฟักจนเติบใหญ่ เหตุใดระหว่างพวกตนจึงกลายมาเป็นแบบนี้ ?
“ท่านต้องชดใช้ให้หมู่เฟยของข้า ! ” ครานี้ชางเอ๋อเปลี่ยนเป้าหมายแล้วโจมตีไปทางอันหลิงเกอ นัยน์ตาของเขาฉายแววที่เต็มไปด้วยความแค้นออกมา
เวลานี้อันหลิงเกอก้าวไปข้างหน้าและมองชางเอ๋อ นางคาดมิถึงว่าเขากลายมาเป็นเยี่ยงนี้
เหล่าองครักษ์เตรียมการป้องกันไว้แล้ว อันหลิงเกอจึงเดินไปข้างหน้าจนพบว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของชางเอ๋อก็คือที่ปรึกษาของจ้าวหลานหยู่
เป็นตามที่คาดไว้จริง