ตอนที่ 400 : กินเกลี้ยง

Black Tech Internet Cafe System

“เสี่ยวหยู”

 

“หืม?” เจียงเสี่ยวหยูที่กำลังใจจดใจจ่อกับการต่อสู้ หันมาหาคนที่เรียกชื่อเธอ

 

“หะ? พี่สือเอ๋อ” เธอหันมองที่นาหลันหมิงสือด้วยความงุนงง

 

นาหลันหมิงสือกระซิบบางอย่างที่ข้างหูเธอ

 

 

เวิ่นหยันในเวลานี้เขารู้สึกได้ว่าพลังงานดาบบินกำลังก่อตัวหนาคล้ายป่าทึบ เวิ่นหยันตอนนี้ยืนเหงื่อตกอยู่บนพื้นดินที่รอบข้างเต็มไปด้วยดาบจิตวิญญาณที่ปีกลงพื้น ดูเหมือนว่ามันจะยากเกินกว่าที่เขาจะขยับตัว

 

“เจ้าเป็นใครกันแน่!?” ใบหน้าของเจียงซวนกระตุกเมื่อมองไปที่ฟางฉีนี่คนหรือปีศาจกันแน่

 

นี่คืออาณาจักรนักรบบรรพบุรุษอันยิ่งใหญ่หรือนี่!?

 

ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าเขาเริ่มไม่เข้าใจกับคนที่ยืนอยู่รอบๆ ละแวกนั้น

 

หากนักรบบรรพบุรุษมีพลังมากเช่นนี้ เขาเองก็สงสัยเหมือนกันว่าพลังของนักรบศักดิ์สิทธิ์นั้นจะเป็นเช่นไร

 

เป็นไปไม่ได้! เขาปลอบใจตัวเองอย่าเงียบๆ เป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นจะมีพลังเท่ากับเขา แค่คิดก็ตะลึงมากพอแล้ว นอกจากนี้เขาได้ยินผู้ชมที่ยินอยู่พูดกันอย่างชัดเจน .. ถึงผู้อาวุโสไร้ชื่อ

 

ฟังดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดคุ้นเคยกับพลังชิกิโอโรชินากิ ในขณะเดียวกันเขาเห้นบางคนเริ่มกระสับกระส่าย

 

ซงฉิงเฟิงยกมือขวาขึ้นและรวบรวมพลังไฟ “เจ้าของร้านทำได้ข้าก็ต้องได้ ดูชิกิโอโรชินากิในมือข้า!”

 

หลินเซียวพูดเกทับ “ชิกิโอโรชินากิไม่เห็นมีอะไรให้ดู ดูพลังดาบนับไม่ถ้วนของข้าดีกว่า!” จากนั้นดาบนับสิบลอยขึ้นเป็นกำลังด้านหลังเขา!

 

เจียงซวนและองครักษ์ทั้งสองของเขาตกตะลึง

 

เหลียงชีแสดงความเห็น “ดาบจิตวิญญาณของเจ้าของร้านและเทคนิคดาบนับไม่ถ้วนของผู้อาวุโสไรชื่อนั่นช่างคล้ายกัน”

 

“แน่นอนว่าเทคนิคของผู้อาวุโสคนนั้นช่างงดงาม!”

 

“ข้าเองยังติดใจกับดาบในระดับยี่สิบสามของผู้อาวุโสนาหลันฮงวูอยู่เลย ข้าคิดว่ามันมีพลังมากและเขาเองสามารถจัดเก็บทุกคนได้อย่างไร้ที่ทางหนี แม้แต่ผู้ฝึกฝนในอาณาจักรอื่นก็เกือบถูกฆ่า”

 

ใบหน้าของผู้มาใหม่เหล่านั้นดูซีดไป

 

“มันยังขาดอะไรไปสำหรับโอโรชิของเจ้าของร้าน ..”

 

“ข้าสงสัยว่าเจ้าของร้านสามารถควบคุมเวลาได้หรือไม่ ..”

 

“มีคนกล่าวว่าเจ้าของร้านได้รับเปลวไฟแห่งการเวลา หรือบางทีเขาอาจจะสามารถควบคุมมันได้”

 

เจียงซวน “…”

 

เวิ่นหยัน “…”

 

ซือหมิงองค์รักษ์อีกคนพูดไม่ออกเช่นกัน

 

พวกเขารู้สึกงงงวย ทำไมคนเหล่านี้ถึงได้มีพลังมากกว่าคนทั่วไป? ตรงกันข้ามพวกเขายังสามารถปราบปรามและควบคุมเวลาได้ .. ผู้คนจากดินแดนทะเลทรายร้างมีการพัฒนาที่สูงขึ้น!?

 

เจียงซวนวางแผนที่จะพาเจียงเสี่ยวหยูไปกับเขาด้วย แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเขามีโอกาศประสบความสำเร็จกับแผนนี้น้อยมาก จากสิ่งที่เขาเรียนรู้เกี่ยวกิบดินแดนทะเลทรายร้างแห่งนี้ในความคิดกับสิ่งที่เป็นช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

ตอนนี้เขาเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในขณะจ้องมองที่ฟางฉี

 

เขาคิดว่าอาณาจักรทะเลทรายร้างแห่งนี้คงเป็นเพียงแค่บ่อปลาเล็กๆ แต่ไหงมันกลับกลายเป็นฐานของมังกรและเสือ

 

เขายกมือขึ้นเงาดำเลือนลางปรากฎขึ้นในมือเขา บรรยากาศรอบตัวเริ่มเย็นชา

 

“โครก!” เสียงแปลกๆ ดังขึ้น

 

ทุกคนมองไปที่เวิ่นหยัน

 

“…” เวิ่นหยันดูเขินอาย ท้ายที่สุดเขาไม่มีเวลาแวะกินข้าวจากการเดินทางอันยาวนาน

 

เขาไม่ได้เป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นเขากลัวอย่างสุดขีดและแทบควบคุมพลังความแข็งแกร่งได้ในตอนนี้

 

“เอิ่ม ..” เขาสูดหายใจ “กลิ่นนี้มันเป็นกลิ่นที่ดีมาก มันคืออะไร!?”

 

เจียงเสี่ยวหยูส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับเจียงซวน

 

เมื่อเขาเปิดฝากล่องกลิ่นหอมอ่อนโชยเตะจมูกชวนล่อใจให้ผู้ฝึกฝนหวั่นไหว

 

“โครก!” ใบหน้าของเจียงซวนมืดมน

 

“นี่คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อร่อยที่สุดในร้านเรา!” ตาของเจียงเสี่ยวหยูกลมโตราวดวงจันทร์ “นอกจากกลิ่นที่หอมหวลแล้วรสชาติน้ำซุปยังเข้มข้นแถมยังสามารถชำระสิ่งที่ไม่บริสุทธิืให้ร่างกายได้อีกด้วย อ่ะ! ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า”

 

เจียงซวนมองถ้วยด้วยใบตาเบิกกว้าง

 

“ได้!” ดูเหมือนว่าในที่สุดเขาก็พบทางออกจากสถานการณ์อันยากลำบากนี้ “ข้าจะจัดการกับเจ้าทีหลัง หลังจากกินบะหมี่เสร็จ เตรียมตัวรับมือให้ดีละเจ้าน้องสาวตัวแสบ!”

 

เขาจ้องหน้าฟางฉีไม่ละสายตา

 

หลังจากได้กัดบะหมี่ไปหนึ่งคำดวงตาของเขาเปร่งประกาย “ว้าว! มันอร่อยมาก”

 

“ซู้ด .. ซู้ด”

 

องครักษ์ทั้งสองยืนกลืนน้ำลาย

 

“ที่นี่เรามีมากมาย” ฟางฉีกล่าว “พวกเจ้าเป็นแขกจากที่ไกลๆ ดังนั้นหากต้องการเพียงแค่บอกข้า แต่พวกเจ้าต้องจัดเตรียมด้วยตัวเอง”

 

“…”

 

ในไม่ช้าอีกสา่มคมก็ซู้ดบะหมี่ด้วยความเอร็ดอร่อย

 

“ข้าประหลาดใจที่เจ้าเป็นผู้หญิงที่เก่ง” หากไม่ใช่เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมันคงยากที่จะรับมือ

 

การต่อสู้เพื่อฝึกฝนอาจกลายเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดในภายหลัง ท้ายที่สุดพวกเขาไม่สามารถทำให้ขายหน้าหรือเสื่อมเสียถึงครอบครั้งได้

 

ฟางฉีเป็นคนไม่ได้คิดมากและเห็นได้ชัดว่าเสี่ยงหยูเองเป็นผู้หญิงด้วยความไม่คิดมากเขาเลยไม่เคยคาดถึงผลที่จะตามมา

 

นาหลันหมิงสือที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังเพลิดเพลินกับชานมถั่วแดงให้มือ

 

เธอหันไปเห็นเจียงเสี่ยวหยูมอบสัญญาณชัยชนะด้วยมือของเธอพร้อมยิ้มเล็กๆ

 

ณ อีกด้านหนัง

 

“เป็นไปได้อย่างไร”

 

“อาหารอันโอชะ! มันเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก!” เวิ้นหยันตะโกน “ข้าแปลกใจที่มีอาหารที่อร่อยแบบนี้ในดินแดนทะเลทรายร้างแห่งนี้”

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังจิบซุป เขารู้สึกได้ถึงแก่นจิตวิญญาณสำคัญในร่างกายที่กำลังถูกขลัดเกลาในทันที

 

เจียงเสี่ยวหยูยังคงมอบขวดโค้กให้พวกเขา

 

“อึก .. อึก”

 

แท่งรถเผ็ด

 

ชานม ..

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

 

“เจ้าของร้าน! เจ้ามีอาหารหรือเครื่องดื่มเพิ่มหรือไม่ นำพวกมันมาให้เราทั้งหมด เราจะเหมาทั้งหมด!”

 

“อันที่จริงพี่ใหญ่ของข้ามีความกระหายอย่างยิ่ง พ่อของข้าบอกว่าเขาเคยขโยสมุนไพรจิตวิญญาณด้วย ..” เจียงเสี่ยวหยูกระซิบความลับให้ฟางฉีฟัง

 

“ไม่! ถ้าพวกเจ้าต้องการพวกเจ้าต้องรอจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้!” ฟางฉีตะโกน

 

“อะไร!!??”