แดนนิรมิตเทพ บทที่ 540
ทั้งสองคนเดินลงบันไดหินและเดินผ่านทางเดินกว้างสองเมตร ภายในทางเดินสะอาดเรียบร้อย และไม่มีร่องรอยว่ากลไกถูกกระตุ้นแต่อย่างไร

ทางเดินยาวมากและลึกลงไปในใต้ดิน เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากทางเดิน ก็เห็นพระราชวังใต้ดินขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้า

ข้างหน้าเป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ มีสะพานกว้างและดูเหมือนว่าน้ำจะแห้งไปหลายปีแล้ว ล้อมรอบด้วยกำแพงภูเขาสีดำ เห็นได้ชัดว่าเป็นภูเขาศักลามาชิ

เมื่อเห็นภาพนี้ เฉินโม่ก็เข้าใจสาเหตุที่แม่น้ำใต้ดินหายไป เพราะถูกภูเขาศักลามาชิขวางไว้ คาดว่าแม่น้ำสายเล็กเส้นนั้น เป็นน้ำใต้ดินที่ไหลเข้ามาใน

พระราชวังใต้ดิน ส่วนด้านในมีห้องหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมากมาย มีเพียงบันไดเท่านั้นที่ถูกสร้างขึ้นมา พวกเขาสองเดินไปตามบันได แล้วเดินเข้าไปในห้องหินมากมาย ข้างในมีเครื่องใช้ที่แตกเสียหาย แล้วยังมีโครงไม้ที่ผุพังแล้ว แต่ไม่มีสิ่งของมีค่าอะไร

เฉินโม่รู้สึกได้ถึงชี่ทิพย์จาง ๆ อยู่ในห้องหิน ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนน่าจะมีของจำพวกเครื่องรางเก็บไว้ที่นี่ เพียงแต่ถูกโจรปล้นสุสานนำออกไปแล้ว

เมื่อเดินไปข้างหน้าต่อ ไม่นานพวกเขาสองคนก็เดินมาถึงหน้าประตูหินสีเขียวขนาดใหญ่

มีคนสองกลุ่มรออยู่ที่นี่แล้ว

คนกลุ่มที่หนึ่งสวมชุดนักบวชและหัวโล้น อีกกลุ่มหนึ่งเป็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ โดยมีชายชราสวมชุดซุนจงซานสีดำและบอดี้การ์ดอีกหลายคนอยู่ด้านหลัง

ดูเหมือนว่าทั้งสองกลุ่มกำลังเผชิญหน้ากันอยู่

เมื่อเห็นเฉินโม่กับหยวนชิงซานเข้ามาอย่างกะทันหัน สายตาของคนสองกลุ่มก็มองมาที่พวกเขาพร้อมกัน

“ฮึ่ม นึกไม่ถึงว่าจะยังมีคนพบสถานที่แห่งนี้อีก ดูเหมือนว่าเมืองโบราณจิงเจวี๋ยในตำนานเล่าขานมันก็แค่นั้น ไม่มีอะไรพิเศษ!” หญิงสาวกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาและหยิ่งผยอง

หยวนชิงซานเตรียมพร้อมรับมือ เห็นได้ชัดว่าชายหัวโล้นสามคนนั้นเป็นยอดฝีมือของนิกายตันตระที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง พลังความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่สามารถรับรู้ชี่แท้ของชายชราที่อยู่ข้างหลังหญิงสาวได้ แต่เพียงแค่มองก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

“เฉินไต้ซือ ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะรับมือยาก!” หยวนชิงซานเตือนเบา ๆ

ใบหน้าของเฉินโม่ราบเรียบ เขาไม่พูดอะไร เพียงแค่จ้องประตูหินสีเขียวขนาดใหญ่

เมื่อเห็นว่าตนเองถูกละเลย หญิงสาวก็รู้สึกโกรธ ชี้เฉินโม่และกล่าวอย่างเย็นชา “เฮ้ เจ้าหนู แกเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่?”

เฉินโม่เพิกเฉยเธอ ยังคงจ้องมองประตูหินด้วยความเหม่อลอย

“เจ้าหนู ฉันกำลังถามแกอยู่ แกหูหนวกหรือไง?” หญิงสาวตะโกนด้วยความโมโห

เฉินโม่ขมวดคิ้ว หันไปมองหญิงสาวที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณเป็นใคร?”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้น แล้วชี้ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ที่สวมสูทสีดำ และกล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง “เสี่ยวหวาง บอกเขาสิว่าฉันเป็นใคร!”

ชายหนุ่มโค้งคำนับและกล่าวว่า “ครับ คุณหนู!”

ชายหนุ่มหันไปมองเฉินโม่ด้วยสายตาเหยียดหยาม “เจ้าหนู ฟังให้ดีน่ะ พวกเรามาเป็นคนของตระกูลไช่แห่งก่างวาน และนี่คือไช่เหวินหย่าเป็นคุณหนูของตระกูลไช่!”

“ตระกูลไช่แห่งก่างวาน!” หลังจากได้ยินว่าเป็นคนของตระกูลไช่แล้ว แม้แต่หยวนชิงซานซึ่งเป็นนักบู๊ที่อยู่แดนในชั้นสูงสุดยังรู้สึกอึ้งเล็กน้อย และสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เฉินโม่เคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลไช่แห่งก่างวานแล้ว เมื่อก่อนเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในประเทศหัวเซี่ย คือไช่อิ้งเวินซึ่งเป็นผู้นำของตระกูลไช่

“ที่แท้เป็นคุณหนูของตระกูลไช่ที่เป็นอดีตตระกูลร่ำรวยที่สุดในประเทศหัวเซี่ย”

เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบประโยคหนึ่ง แต่เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่า ก่างวานอยู่ทางใต้สุดของประเทศหัวเซี่ย แต่คนของตระกูลไช่กลับเดินทางมาที่ชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของหัวเซี่ย เพื่อมาค้นหาเมืองโบราณจิงเจวี๋ย ตระกูลไช่มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

“เจ้าหนู ในเมื่อแกเคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลไช่แล้ว ยังไม่รีบขอโทษคุณหนูของฉันอีก!” ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวเยาะเย้ย

สีหน้าของไช่เหวินหย่าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เชิดหน้ามองเฉินโม่ด้วยท่าทางหยิ่งยโส