แดนนิรมิตเทพ บทที่ 541
เฉินโม่ไม่ได้สนใจชายหนุ่มคนนั้น มองดูไช่เหวินหย่า พูดนิ่งๆว่า “ตระกูลไช่ของพวกเธอไม่อยู่ที่ก่างวานให้ดีๆ มาที่นี่เพื่ออะไร?”

ไช่เหวินหย่าสบถออกมา ถลึงตาจ้องเฉินโม่ แล้วถามกลับว่า “แล้วนายละ นายมาทำอะไรที่นี่?”

เฉินโม่มองเธอ ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วเดินตรงไปยังประตูหินสีเขียว

“นี่ อย่าคิดว่านายไม่พูดฉันก็เดาไม่ออกนะ นายเองก็คงมาเพราะดอกฮิกันบานะด้านในเหมือนกันละสิ!” ไช่เหวินหย่ายิ้มเยาะเย็นชา”ฉันจะบอกนายให้นะว่าดอกฮิกันบานะนั่นเป็นของฉันแน่นอน ใครกล้าคิดเมาแย่ง อย่าได้หาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

เฉินโม่มองไปยังหยวนชิงซาน แล้วถามอย่างแปลกใจว่า “ดอกฮิกันบานะ?”

หยวนชิงซานส่ายหัว “ผมไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้มาก่อน แต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นสมบัติในราชินีจิงเจวี๋ยอย่างแน่นอนครับ ไม่อย่างนั้นตระกูลไช่ที่อยู่ใต้สุดของประเทศหัวเซี่ยคงไม่มาตามหาถึงตะวันตกเฉียงเหนือหรอกครับ”

หลังจากที่เฉินโม่นิ่งไปสักพัก แล้วก็เดินต่อไปยังประตูหิน

เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าประตูหิน เฉินโม่ยื่นมือออกไปผลักประตูหิน

เวลานี้ พวกไช่เหวินหย่า และพระภิกษุอีกสามรูปสำนักลับที่อยู่ด้านข้าง แสดงสีหน้าแปลกประหลาด จ้องมองมือของเฉินโม่ที่ยื่นออกไป

ปึง!

มีเสียงดังขึ้น มือของเฉินโม่ถูกประตูหินสีเขียวดีดออกมา

“เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย!” เฉินโม่สีหน้าเฉยชา มั่นใจกับสิ่งคาดเดาในใจของตัวเอง

“ฮ่าๆ ไอ้หนุ่ม ประตูหินบานนี้มีค่ายกลปกปักรักษาไว้ แม้แต่เจี่ยงไต้ซือยังเปิดไม่ได้ แล้วอย่างนายยังคิดอยากจะเข้าไป? ฝันไปเถอะ!” ไช่เหวินหย่าพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม

ไช่เหวินหย่าพูดจบ ผู้อาวุโสด้านหลังของเธอก็แสดงสีหน้าหยิ่งยโส สายตาที่มองเฉินโม่มีความเหยียดหยาม

เฉินโม่เหลือบมองผู้อาวุโสด้านหลังไช่เหวินหย่า สีหน้าเรียบเฉย หันหลังเดินถอยหลังหลายก้าว จากนั้นก็หันกลับไปมองประตูหินสีเขียว แล้วคิดวิเคราะห์

แววตาหยวนชิงซานหลุกหลิก สุสานของราชินีจิงเจวี๋ยอยู่แค่ตรงหน้า หากว่าต้องถูกประตูหินเล็กๆเพียงบานเดียวขวางไว้ ก็คงจะน่าเสียดายมากไม่ใช่หรอ?

“เฉินไต้ซือครับ ผมขอลองดูครับ!” หยวนชิงซานถามเฉินโม่เสียงเบา

เฉินโม่ไม่พูดอะไร ไม่ได้อนุญาตแต่ก็ไม่ได้ห้าม

หยวนชิงซานรู้สึกร้อนรน หันหลังไปมองประตูหินสีเขียวบานนั้น จากนั้นก็ก้าวเท้าออกไป ปล่อยหมัดใส่ประตูหิน

ปัง!

เสียงดังสนั่นสั่นสะท้านจนพระราชวังใต้ดินสั่นไหวเล็กน้อย แต่ประตูหินก็ยังปกติเหมือนเดิม ส่วนหยวนชิงซานถูกดีดกระเด็นลอยออกไป เซถอยหลังไปกว่าเจ็ดแปดก้าว ถึงจะสามารถยืนหยุดนิ่งได้

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้!”

หยวนชิงซานสีหน้าตกตะลึง หมัดนี้เขาใช้พลังบำเพ็ญมากถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะเป็นประตูเหล็กก็สามารถถูกหมัดนี้ของเขาต่อยเป็นรูได้ แต่ประตูหินบานนี้กลับไม่เสียหายใดๆเลยสักนิด

“นี่คือค่ายกลอะไร? ทำไมถึงได้แข็งแกร่งมากเช่นนี้!” หยวนชิงซานพูดออกมา แล้วหันไปถามพวกไช่เหวินหย่า

พวกไช่เหวินหย่ารวมทั้งพระภิกษุของสำนักลับสามคนนั้น ไม่รู้สึกตกใจสักนิด แต่กลับมีสีหน้ายิ้มเยาะ เหมือนรู้แต่แรกแล้วว่าจะต้องมีผลลัพธ์เช่นนี้

พระภิกษุของสำนักลับคนหนึ่งที่ถือเหวัชระไว้ แจ้งชื่อของตัวเองก่อน แล้วพูดว่า “โยม พวกข้าเคยลองแล้ว ค่ายกลในประตูหินบานนี้ หนักปะทะหนัก หากยิ่งเจ้าโจมตีหนักมากเพียงใด มันก็จะดีดกลับแรงหนักมากเท่านั้น”

หยวนชิงซานหันไปมองเฉินโม่ พูดอย่างรู้สึกเศร้าใจว่า “หรือว่าเราจะต้องถูกประตูหินบานนี้ขวางไว้งั้นหรือครับ?”

สุสานของราชินีจิงเจวี๋ยในตำนานอาจจะอยู่เพียงแค่เอื้อมนี้เท่านั้น แต่ทุกคนกลับทำได้แค่ยืนอยู่หน้าประตู เข้าไปไม่ได้ เหมือนดั่งเห็นห้องที่มีสมบัติล้ำค่าวางกองเต็มไปหมด แต่ทุกคนกลับเปิดประตูห้องไม่ออก

พระภิกษุสำนักลับสามรูปไม่พูดจาอะไร บนใบหน้าเต็มไปด้วยความจนใจ

เจี่ยงไต้ซือที่อยู่ด้านหลังของไช่เหวินหย่า สีหน้าแปรเปลี่ยน แล้วพูดว่า “ฉันมีแผนอย่างหนึ่ง พวกเราทั้งสามฝ่ายมารวมพลังกันเปิดประตูหินบานนี้ ทุกท่านคิดว่ายังไง?”

หยวนชิงซานมองเฉินโม่ สีหน้าของเฉินโม่ก็ยังกำลังคิดวิเคราะห์อยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ตอบรับอะไร