บทที่ 330 ขอยืมเงิน

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

บทที่ 330 ขอยืมเงิน

เฮ้ย!

ยัยเจ๊เทพีนั่นยังมีหน้าทักมาหาเขาอีกหรือ?

ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้นางบล็อกเขาไปแล้วไม่ใช่หรือไง?

หรือว่าตอนนี้มีเรื่องเร่งด่วนขึ้นมา?

“?”

หลินเป่ยเฉินตอบกลับไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

เทพีกระบี่หิมะไร้นามพิมพ์ตอบกลับมาทันทีว่า “น้องชาย ช่วงนี้เจ้าสบายดีหรือไม่? คิดถึงพี่สาวคนนี้มากไหม? อิอิ บัดนี้พี่สาวมีปัญหาเล็กน้อย กำลังหลบหนีเอาตัวรอดจากการถูกตามฆ่าน่ะจ้ะ โปรดให้พี่สาวยืมเงินสักหน่อยเถิด ถ้าไม่คิดดอกเบี้ยจะดีมาก หรือถ้าไม่เอาคืนเลยก็จะดีที่สุด”

หลินเป่ยเฉินใบหน้ากระตุก

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

“ไม่ได้พูดเล่นนะ ถ้าน้องชายไม่ช่วยเหลือคราวนี้ พี่สาวคงต้องตายแน่ๆ”

นี่คือข้อความตอบกลับจากเทพีกระบี่หิมะไร้นาม

หลินเป่ยเฉินนิ่งคิดอยู่เล็กน้อยก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ครั้งสุดท้ายที่เขาติดต่อเทพีกระบี่หิมะไร้นาม ดูเหมือนว่านางจะไม่ว่างเพราะกำลังหลบหนีอะไรบางอย่างอยู่ใช่ไหม?

หรือว่านางถูกตามล่าตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว?

ถูกไล่ล่านานขนาดนี้ ยังไม่โดนจับตัวอีกเหรอเนี่ย

สถานการณ์คงหนักหน่วงเอาการเลยสินะ

“แล้วก่อนหน้านี้ทำไมต้องบล็อกกันด้วย?” หลินเป่ยเฉินพิมพ์ข้อความถามกลับไป

เทพีกระบี่หิมะไร้นามตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “บล็อกอะไรกัน? น้องชายหมายความว่าอย่างไร? ก่อนหน้านี้พี่สาวถูกตามล่าต้องเอาตัวรอดสุดชีวิต ที่ต้องตัดการสื่อสารกับเจ้าก่อนชั่วคราว ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกที่ตามล่าตรวจจับสัญญาณได้ และดีไม่ดี เจ้าอาจจะพลอยเดือดร้อนไปด้วยก็ได้…”

สรุปว่าบล็อกด้วยความหวังดีว่างั้น

หลินเป่ยเฉินขมวดคิ้วหน้าเครียด

แต่มันก็เป็นเหตุผลที่พอรับฟังได้อยู่นะ?

ยังไงเขาก็เป็นคนใจดีอยู่แล้ว

“เอาเถอะ เรื่องที่ผ่านมาถือว่าข้าให้อภัยก็แล้วกัน” หลินเป่ยเฉินส่งข้อความกลับไป “แต่ถ้าท่านถูกตามล่าอยู่เช่นนี้ เกิดข้าให้ยืมเงินไปแล้วท่านโดนฆ่าตายขึ้นมา ข้าจะไปเอาเงินคืนได้จากใครล่ะ?”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความกลับมาเพิ่มความมั่นใจให้กับเขา “เจ้าไม่รู้อะไรเสียแล้ว ถ้าเจ้าให้ข้ายืมเงินที่เป็นเหรียญทองคำพวกนั้น ข้าก็จะสามารถนำไปซื้ออาวุธวิเศษมาดูแลตัวเองได้ มิหนำซ้ำ ยังสามารถโจมตีกลับพวกที่ตามล่าข้าได้อีกด้วย”

“อาวุธวิเศษในดินแดนทวยเทพสามารถซื้อได้ด้วยเหรียญทองจริงสิ?” หลินเป่ยเฉินพิมพ์ข้อความถามกลับไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

ข้อความจากเทพีกระบี่หิมะไร้นามเด้งกลับมาทันที “เหรียญทองที่เจ้าส่งมามีค่ามากเมื่ออยู่บนดินแดนเทพ…มันสามารถช่วยให้ข้าซื้ออาวุธวิเศษได้แน่นอน แต่ก่อนอื่นเลิกพูดอ้อมค้อมได้แล้ว ตกลงว่าน้องชายจะให้พี่สาวยืมเงินหรือไม่ พี่สาวต้องรีบไปแล้วนะ”

หลินเป่ยเฉินชะงักไปเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกหลอกลวงเหมือนที่ผ่านๆ มา

แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ ถึงเทพีกระบี่หิมะไร้นามจะเป็นเพียงเทพีฝึกหัด แต่ก็เป็นเทพีที่อาศัยอยู่บนดินแดนแห่งเทพ ผูกมิตรเอาไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย วันหน้าวันหลัง เขาอาจจะให้นางช่วยตามหายมทูตเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ เพื่อเป็นหนทางกลับสู่โลกมนุษย์อีกครั้งก็ได้

เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือต้องทำให้นางรอดชีวิตก่อน

“ตกลง ท่านอยากยืมเงินเท่าไหร่?” เด็กหนุ่มส่งข้อความกลับไปในที่สุด

“3 หมื่นได้ไหม?”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามตอบกลับมาเร็วไว

“ได้สิ เอาไว้ชาติหน้าตอนบ่ายๆ ข้าจะเอาไปวางไว้ให้ที่หน้าหลุมศพของท่านก็แล้วกัน” หลินเป่ยเฉินพิมพ์ไปก็สบถคำหยาบไปด้วย

“งั้น 2 หมื่น 5 ก็ได้ หรือแค่ 2 หมื่นก็พอแล้ว…”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามยังคงส่งข้อความกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้

หลินเป่ยเฉินถอนหายใจและพิมพ์ข้อความ “ขโมยเอาน่าจะง่ายกว่านะ”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความกลับมาด้วยความไม่พอใจ “ที่พี่สาวต้องหนีการตามล่าเช่นนี้ ก็เพราะไปขโมยแผ่นยันต์ศักดิ์สิทธิ์ของผู้อื่นมาเนี่ยแหละ”

“อ้าว…งั้นก็ถือว่ามีประสบการณ์แล้วไง ครั้งนี้น่าจะขโมยได้สบายแล้ว”

หลินเป่ยเฉินพยายามให้กำลังใจ

ยัยเจ๊นี่ไม่ใช่เทพีฝึกหัดหรอก แต่เป็นจอมโจรฝึกหัดมากกว่า

“ว่าแต่ว่าท่านสามารถช่วยซื้ออาวุธวิเศษให้ข้าสักหน่อยได้ไหม?” หลินเป่ยเฉินเปลี่ยนเรื่องอย่างกะทันหัน

ถ้าเกิดเขาได้ครอบครองอาวุธวิเศษจากดินแดนทวยเทพสักชิ้นสองชิ้น อยากรู้เหมือนกันว่าพวกไป๋ไห่ชินกับเจ้าหน้าที่มือปราบพวกนั้น จะกล้ามาหาเรื่องเขาอีกหรือไม่

“หยุดสิ่งที่เจ้ากำลังคิดอยู่เดี๋ยวนี้ ประการแรก เจ้าใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ ประการที่สอง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถถูกส่งลงไปที่โลกของเจ้าได้…โปรดจำให้ขึ้นใจนะ น้องชาย” เทพีกระบี่หิมะไร้นามปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย

หลินเป่ยเฉินถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

“ก็ได้ งั้นเรามาคุยเรื่องธุระกันต่อ ท่านสามารถช่วยติดต่อเทพีกระบี่ให้ข้าได้หรือไม่?”

หลินเป่ยเฉินเปลี่ยนใจและส่งข้อความถามกลับไปอีกครั้ง

“หืม? เจ้าอยากจะติดต่อกับนางทำไม?”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความถามกลับมาด้วยความสงสัย

หลินเป่ยเฉินพิมพ์ตอบกลับไปว่า “บัดนี้ ข้าเองก็กำลังหลบหนีการตามล่าอยู่เช่นกัน สถานการณ์ยิ่งมายิ่งเลวร้าย ข้าจำเป็นต้องติดต่อเทพีกระบี่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง”

“ถ้าอย่างนั้น…” ข้อความจากเทพีฝึกหัดขาดช่วงไปอึดใจใหญ่ ก่อนที่จะมีข้อความเพิ่มเติมมาว่า “ข้าสามารถติดต่อเทพีกระบี่ให้เจ้าได้ แต่นางเป็นเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์และมีพลังแข็งแกร่งที่สุดในดินแดนทวยเทพ ต่อให้ข้าเสนอหน้าเข้าไปขอความช่วยเหลือ บรรดาลิ่วล้อของนางก็คงไม่อนุญาตให้ข้าเข้าพบนางง่ายๆ”

“ท่านก็คิดหาวิธีให้ได้สิ” พลัน หลินเป่ยเฉินเริ่มมีความหวังขึ้นมาและตัดสินใจกดโอนเงินไป 100 เหรียญทองคำ

ติ๊ง!

มีข้อความแจ้งเตือนว่าการโอนเงินสำเร็จแล้ว

เทพีกระบี่หิมะไร้นามรับเงินด้วยความเร็วแสง มีข้อความใหม่จากนางถูกส่งมาว่า “โบราณกล่าวไว้เงินสามารถจ้างผีโม่แป้งได้ ข้าสามารถติดต่อเทพีกระบี่ให้น้องชายได้แน่นอน เพียงแต่ว่ามันมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ประเมินดูแล้วเจ้าน่าจะต้องจ่ายค่าดำเนินการทั้งหมด 400,000 เหรียญทองคำ”

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโต

ราคาแพงขนาดนั้นเชียวหรือ

“นี่ไม่คิดว่าราคาโหดเกินไปหน่อยหรือไง?” หลินเป่ยเฉินพิมพ์รัวเร็วด้วยความฉุนเฉียว

เทพีกระบี่หิมะไร้นามตอบกลับว่า “แล้วเจ้าคิดว่าการติดต่อเทพีกระบี่ มันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ หรือไง?”

หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

“ราคาสูงเกินไป ข้ามีเงินไม่พอ” เด็กหนุ่มตอบตามความจริง

“น้องชาย ครั้งนี้พี่สาวไม่ได้หลอกเจ้านะจ๊ะ พี่สาวกำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าได้เงินจากเจ้า ข้าก็จะสามารถแก้ไขปัญหาของตนเองได้ แล้วหลังจากนั้นก็จะเดินทางไปติดต่อเทพีกระบี่ให้เจ้า…เอาเป็นว่าลดราคาให้เหลือ 350,000 เหรียญทองคำก็แล้วกัน ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความตอบกลับมาด้วยความห่างเหิน

อ่านดูจากการยื่นคำขาดเช่นนี้ หลินเป่ยเฉินไม่มีทางต่อรองราคาได้อีก

และการเข้าพบเทพเจ้าระดับสูงก็น่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะจริงๆ

แต่เด็กหนุ่มยังไม่ยอมแพ้ พยายามต่อรองราคาต่อไป “เหลือ 300,000 ไม่ได้หรือ”

“ตกลง” เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความตอบกลับมาเร็วไว

หลินเป่ยเฉินพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว

เดี๋ยวนะ

ทำไมยอมง่ายจังวะ?

แบบนี้ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

“เจ้าไปเตรียมเงินไว้ให้พร้อมก็แล้วกัน ได้เงินครบเมื่อไหร่ พี่สาวสัญญาว่าจะติดต่อเทพีกระบี่ให้เจ้าทันที ว่าแต่ว่า 300,000 เหรียญทองคำนั้น เจ้าสามารถหามาได้ภายในเวลาหนึ่งวันหรือไม่?”

เทพีกระบี่หิมะไร้นามพิมพ์ข้อความด้วยความกระตือรือร้น

“ได้…”

หลินเป่ยเฉินกำลังจะพิมพ์ข้อความว่า “ได้ซะที่ไหนกันเล่า” แต่ดันมือลั่น ส่งคำแรกออกไปเสียก่อน

“ประเสริฐ” เทพีกระบี่หิมะไร้นามส่งข้อความตอบมาด้วยความดีใจสุดขีด “ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ไปเตรียมเงินให้พร้อมเถิด พี่สาวไม่รบกวนเจ้าแล้ว ขอแค่อดทนอีกวันเดียวเท่านั้น ข้าก็จะได้ล้างแค้นตัววายร้ายพวกนั้นสักที”

นี่คือข้อความสุดท้ายจากเทพีฝึกหัดก่อนที่การสื่อสารจะขาดหายไป

หลินเป่ยเฉินปิดแอปวีแชทและยืนปวดหัวอยู่ตรงนั้น

ดูเหมือนเรื่องจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาวางแผนเอาไว้แล้วสิ

ถ้าเขาสามารถติดต่อเทพีกระบี่ได้ เขาก็จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้แน่นอน

แต่เด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าเรื่องราวนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

เขามองข้ามอะไรไปหรือเปล่านะ?

“คุณชายหลิน เป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ?” มี่หรู่หยานเห็นว่าหลินเป่ยเฉินเงียบงันไปอย่างกะทันหัน สีหน้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเขาและต้องสอบถามออกมาในที่สุด

“อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก แค่อาการทางสมองกำเริบนิดหน่อย”

หลินเป่ยเฉินยกมือชี้ที่ขมับของตนเอง

ทุกครั้งที่เขานำโทรศัพท์มือถือออกมาใช้งาน หลินเป่ยเฉินจะแก้ตัวว่าตนเองมีอาการทางสมองกำเริบเสมอ และไม่เคยมีใครสงสัยเลยสักคนเดียว

หลินเป่ยเฉินยกมือนวดขมับโดยไม่รู้ตัว

300,000 เหรียญทองคำ

นั่นเท่ากับ 3 หมื่นล้านหยวนเลยนะ

แล้วเขาจะไปเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหน?

ทรัพย์สินในสำนักฝากเงิน มีอยู่ไม่น่าจะเกิน 16,000 เหรียญทองคำ

ตอนแรกเด็กหนุ่มเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ร่ำรวยแล้วเสียอีก

แต่ดูตอนนี้สิ เงินที่เขามีอยู่ มันแทบไม่มีค่าอะไรเลย

หรือว่าจะลองยืมเงินเฒ่าทะเล?

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเฒ่าทะเลจะมีเงินมากมายขนาดนั้นหรือไม่ ต่อให้มี แต่การที่หลินเป่ยเฉินปฏิเสธข้อเสนอไม่ยอมเข้าร่วมกับชาวทะเล ชายชราก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาด้วยเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น

หรือว่าจะไปขโมยใครดีวะ?

แต่ในเมืองหยุนเมิ่ง ไม่น่าจะมีบ้านเรือนเศรษฐีอยู่มากมายเท่าไหร่

อีกอย่าง สถานการณ์ตอนนี้มีพวกนักล่าอสูรออกอาละวาด บรรดาจวนตระกูลใหญ่ต่างก็วางกำลังเวรยามคุ้มกันแน่นหนามากขึ้นกว่าเดิม

หรือว่าเขาจะเข้าไปปล้นสำนักฝากเงินดี?

แต่ได้ข่าวว่าสำนักฝากเงินพวกนั้น มีผู้คุ้มกันที่น่ากลัวมากกว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่มือปราบอีก

หลินเป่ยเฉินเกาหัวแกรก คิดหาหนทางไม่ได้

จังหวะนั้น เขาหันกลับไปมองหน้าจอถ่ายทอดสดอีกครั้ง แล้วดวงตาก็เป็นประกายแวววาว

หัวใจของหลินเป่ยเฉินเกิดแสงแห่งความหวังสว่างไสว

จริงด้วยสิ!

เขาคิดวิธีได้แล้ว แม้มันจะเป็นวิธีที่ผิดปกติไปสักหน่อยก็ตาม !!!