220 : ผู้ชนะการแข่งขันการตายก็คือนาย!

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 220 : ผู้ชนะการแข่งขันการตายก็คือนาย!

 

สุดท้ายแล้วหยางอี้ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้

 

เหล่าคนรวยรุ่นที่สอง “….”

 

น่าอายจัง

 

จะทำยังไงกันดี?

 

แม้ว่าเหล่าคนรวยรุ่นที่สองนั้นจะชอบการโอ้อวด แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าโอ้อวดตัวเองต่อหน้าผู้จัดการซอสของโรงแรมแอตแลนติส–

 

และเอาจริงๆแล้วบ้านพวกเขานั้นก็มีเงินอยู่เล็กน้อยเท่านั้นแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ยังชอบที่จะโอ้อวดอยู่ดีแต่เมื่อมีผู้จัดการของโรงแรมที่มีมูลค่านับหมื่นล้านอยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นจะเอาชนะได้ยังไงกัน?

 

ท่ามกลางใบหน้าที่งุนงงของพวกเขาซุนฮาวก็กระโดดออกมาพร้อมกับตระโกนออกมาอย่างเสียงดัง “ปกติแล้วพวกนายชอบทำตัวน่ากลัวกันไม่ใช่รียังไง?! ทำไมคราวนี้ถึงทำตัวเหี่ยวเฉาแบบนี้?!”

 

ไม่นานบนเรือยอทช์สุดหรูก็มีคนตระหนักอะไรบางอย่างขึ้นมา

 

“พวกเรายังมีคุณชายใหญ่จากเมืองเซี่ยงไฮ้อยู่ไม่ใช่หรอ?”

 

“ใช่! พวกเราลืมนายน้อยไปได้ยังไงกัน?”

 

“เฉียนเทียนอี้! เขาคือราชาตัวจริง!”

 

“ไม่สิ ต้องเรียกว่านายน้อยผู้มีความสามารถมากที่สุด!

 

“เร็วๆรีบไปเชิญเขามาเร็ว!”

 

“นายน้อยเฉียนกำลังปาร์ตี้อยู่แน่ๆ!”

 

หลังจากนั้นก็มีคนรวยรุ่นที่สองหลายคนวิ่งลงไปเพื่อเชิญนายน้อยเฉียนขึ้นมา

 

“เฉียนเทียนอี้”

 

ทางด้านของเจียงเฉินนั้นก็มีคนที่หน้าเปลี่ยนสีไปเช่นกัน

 

“นายรู้จักเขาด้วยหรอ?”

 

“เขาคือใครกัน?”

 

“เฉียนเทียนอี้ เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเฉียนทงที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีเศรษฐีในประเทศ ทรัพย์สินของตระกูลเฉียนรวมๆแล้วกว่าหนึ่งแสนล้าน! เขานั้นจัดว่าเป็นลูกหลานคนรวยตัวจริงเสียงจริง! แม้ว่าเขานั้นจะมาจากเซี่ยงไฮ้แต่เขานั้นก็มักจะเดินทางไปเมืองหลวงบ่อยๆดังนั้นเขาจึงมีอิทธิพลมากในเมืองหลวงและเมืองเซี่ยงไฮ้!”

 

“รวยขนาดนั้นเลยหรอ?!”

 

“ถ้าคนๆนี้อยู่บนเรือของฝ่ายนั้นจริงๆพวกเรามีปัญหาแน่!”

 

ในเวลานี้เองซุนฮาวก็หัวเราะออกมา!

 

“ฮ่าฮ่าฮา! พวกแกตายแน่!”

 

ซุนฮ่าวชี้ไปที่เจียงเฉิน “ไม่ว่านายจะเป็นใคร รวยแค่ไหนนายก็ต้องตาย!”

 

เจียงเฉินพูดอย่างไม่สนใจ “แต่เมื่อกี้ใครก็ไม่รู้สาบานว่าจะรีบไสหัวไป แต่ทำไมตอนนี้ถึงยังไม่ไปกันนะ?”

 

“หึ!”

 

ซุนฮ่าวพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะพูดออกมาอย่างหยิ่งผยอง “แกไม่รู้จักชื่อของเฉียนเทียน งั้นหรอ?!”

 

“คนๆนั้นเป็นใครกัน?”

 

เจียงเฉินถามกลับเบาๆ

 

“นี่นายไม่รู้จริงๆ?”

 

ซุนฮาวยิ้มกว้าง “งั้นฉันก็ค่อยโล่งใจหน่อย เพราะนั่นหมายความว่านายยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเขา! คนที่ไม่เคยได้ยินชื่อของเฉียนเทียนอี้คนๆนั้นก็จะไม่มีวันเป็นคู่ต่อสู้ของเขา!”

 

เจียงเฉินยิ้มเยาะออกมา “ฉันไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อนดังนั้นฉันก็เลยไม่สมควรเป็นคู่ต่อสู้ของเขางั้นหรอ งั้นนายก็คงยอดเยี่ยมมากเลยสินะ แล้วจะอยู่ตรงนี้ไปทำไมล่ะทำไมไม่ไปสวรรค์สักที?”

 

เจียงเฉินพูดออกมา “ถ้างั้นฉันก็ขอยืมคำนายหน่อยก็แล้วกันนะนายไม่เคยได้ยินชื่อของฉันคนนี้นั่นก็หมายความว่านายเองก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับฉันใช่ไหมล่ะ? หรือบางทีคนโง่อาจจะไม่มีความกลัวกันนะ?”

 

“แก!

 

ซุนฮ่าวราวกับโดนใบมีดแทงด้วยคำพูดของเจียงเฉินร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้านด้วยความโกรธ!

 

ไอ้เวรนี่มันเป็นใครกัน?

 

ฉันเคยเห็นเศรษฐีในประเทศมาก็ไม่น้อยแต่ฉันกลับไม่เคยเห็นมันมาก่อนจริงๆ!

 

แกมันจะอายุเท่าไหร่กันเชียว?!

 

ซุนฮ่าวหงุดหงิดกับเจียงเฉินเมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งและชื่อเสียงของเฉียนเทียนอี้อีกครั้งเขานั้นก็รู้สึกราวกับว่าชัยชนะนั้นได้อยู่ในกำมือของเขาแล้วและมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแพ้

 

เพราะยังไงซะเฉียนเทียนอี้ก็อยู่ข้างฉันคนนี้!

 

“ว่ายังไง?”

 

เสียงแผ่วเบาดังขึ้นมาบนเรือยอทช์หรู

 

ชายคนหนึ่งสวมเสื้อยืดคาร์ดิแกนแต่ตัวสบายๆเดินออกมา

 

และเหล่าคนรวยรุ่นที่สองก็พากันหลีกทางให้เขาทีละคน–

 

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ก็สามารถทำให้เห็นถึงสถานะของคนๆนี้ที่ไม่ธรรมดาเลย! และแน่นอนว่าเขานั้นก็คือ….

 

เฉียนเทียน

 

เมื่อซุนฮ่าวเห็นคนๆนี้เดินเข้ามาเขาก็พูดด้วยความเคารพอย่างรวดเร็ว “พี่เทียนอี้ ผมคงต้องรบกวนพี่แล้ว”

 

เฉียนเทียนอี้พูดออกมาอย่างเกียจคร้าน “ฉันได้ยินว่ามีเรื่องเกิดขึ้นแล้วนายก็ไปโต้เถียงกับอีกฝ่ายเพราะผู้หญิง?”

 

“ที่ไหนกันครับ” ซุนฮ่าวพูดออกมา “ผมก็แค่รู้สึกสงสัยว่าผู้หญิงระดับเทพธิดานั้นไปตกอยู่ในมือของเด็กจนๆได้ยังไงนะครับ”

 

เฉียนเทียนยิ้มองไปรอบๆเรื่อยอทช์ของเจียงเฉินอย่างเฉยชาก่อนจะมองไปเห็นซอส จางเทียนเหิงและหานซูหยานเขานั้นก็สาปแช่งออกมาทันที “ไอ้โง่!”

 

ซุนฮ่าวตกตะลึง : เป็นไปได้ไหมว่าเฉียนเทียนอี้กำลังด่าฉัน?

 

“แน่นอนว่าฉันด่าแกนั่นแหละ!”

 

เฉียนเทียนอี้พูดออกมา “ถ้าเขามีความสามารถมากพอที่จะขับเรือยอทช์หรูได้และยังสามารถเชิญผู้จัดการโรงแรมแอตแลนติส นักแสดงแถวหน้าของประเทศอย่างหานซูหยานมาเพื่อสนับสนุนเขาได้เขาจะเป็นคนธรรมดาได้ยังไงกัน?!”

 

ซุนฮ่าว “…”

 

เมื่อคิดดีๆแล้ว แม่งเอ้ย!

 

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ!

 

เจียงเฉินคนนี้จะต้องมีเบื้อหลังแน่นอน!

 

“แต่พี่เทียนอี้”

 

ซุนฮ่าวพูดออกมาอย่างไม่เต็มใจ

 

“งั้นเรื่องนี้ฉันจัดการเอง!”

 

เฉียนเทียนอี้พูดออกมาอย่างเย็นชา!

 

ซุนฮาว “???”

 

“แกเป็นน้องชายของฉัน! แต่แกกลับสร้างปัญหาให้พี่ชายคนนี้! ดังนั้นใครก็ได้ตบปากของเขาให้ฉันที!”

 

เฉียนเทียนอี้ไม่สนใจประวัติของครอบครัวของซุนฮาวเขาพูดสั่งออกมาทันที

 

เจียงเฉินขมวดคิ้ว

 

ช่างเป็นชายที่หยิ่งผยองจริงๆ!

 

และทุกคนที่อยู่ฝั่งของเจียงเฉินต่างก็ต้องตกตะลึง

 

ถัดจากเฉียนเทียนอี้ก็มีคนรวยรุ่นที่สองเดินขึ้นมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ คนหนึ่งเข้ามาล็อคตัวซุนฮ่าวเอาไว้อีกคนก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเฉียนเทียนอี้ทันที!

 

เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ!

 

หลังจากตบไปเบาๆสองสามครั้ง ปากและรูจมูกของซุนฮ่าวก็มีเลือดไหลออกมาะ

 

แต่ซุนฮ่าวกลับไม่กล้าร้องออกมาแม้แต่น้อย

 

“พอแล้ว!”

 

เฉียนเทียนอี้สั่งออกมาอย่างเฉยเมย

 

ซุนฮ่าวที่ถูกมองว่าเป็นนายน้อยหนุ่มจากเมืองหลวง แต่เขานั้นก็ถูกตบจากคำสั่งของเฉียนเทียนอี้ทันทีเพียงเพราะเขานั้นไปสร้างปัญหาให้กับตัวของเฉียนเทียน

 

ผู้คนที่อยู่ฝั่งของเจียงเฉินพากันเงียบ

 

เมื่อเห็นว่าซุนฮ่าวถูกทุบตีแม้ว่าความโกรธในใจของพวกเขาจะลดลง แต่สิ่งนี้ก็พิสูจน์อะไรบางอย่างได้

 

พลังและสถานะของเฉียนเทียนอี้คนนี้อยู่เหนือว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้

 

ซุนฮาวคนนี้มีหน้าที่ใหญ่และหยิ่งทนงแค่ไหนแต่กลับไม่กล้าที่จะร้องออกมาด้วยซ้ำตอนที่ถูกเฉียนเทียนอี้สั่งให้ตบหน้าของเขาแค่นี้ก็เห็นแล้วว่าคนๆนี้มีอำนาจมากขนาดไหน?

 

“ฉันได้สั่งสอนน้องชายของตัวเองไปแล้ว ตอนนี้”

 

เฉียนเทียนอี้มองไปที่เจียงเฉินก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพูดออกมาว่า “ถึงตาของนายแล้ว!”

 

เจียงเฉิน “???”

 

เฉียนเทียนอี้ไม่ได้มองไปที่เจียงเฉินแต่เขาก็พูดออกมาอย่างเฉยเมย “ถ้าตบไม่ดังนายมีปัญหาตามมาแน่ ถึงแม้ว่าจะเป็นฝั่งของน้องชายของฉันที่เริ่มก่อน แต่นายเองก็ผิดด้วย”

 

เจียงเฉิน “…”

 

เฉียนเทียนอี้ “ฉันตบน้องชายของฉันไปสิบที่ ดังนั้นนายต้องตบตัวเองยี่สิบที แล้วหลังจากนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะไม่ถือว่าเกิดขึ้นมาก่อนและเราก็จะได้แล่นเรือจากกันไป”

 

หลันหน่วนหยานตกตะลึงจนยืนนิ่งไปทันทีที่เธอได้ยิน!

 

ในโลกใบนี้ยังจะมีคนหน้าด้านขนาดนี้อยู่อีกหรอ?

 

เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน?

 

รุ่นน้องของเจียงเฉินก็เริ่มสาปแช่งข้ามเรือยอทช์ทันที “หึหึ คิดว่าตัวเองเนื้อหอมมากรียังไง? คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?! คิดว่าตัวเองเป็นผู้พิพากษาหรือตำรวจหรอ? จะให้รุ่นพี่ของฉันตบหน้าตัวเองหรอ? เพื่ออะไร?!”

 

“ก็ไม่มีอะไรมาก”

 

เฉียนเทียนอี้พูดออกมาอย่างเฉยเมยและเอาแต่ใจ “ก็เพราะฉันคือเฉียนเทียนอี้ยังไงล่ะ! มันก็แค่นั้นเองแล้วนายก็คิดจะขวางทางฉันงั้นสินะ!”

 

ทุกคนตกตะลึงไปกับความเอาแต่ใจและความเฉยเมยของเฉียนเทียนอี้ทันที

 

“ฮ่าๆ-”

 

เจียงเฉินพูดออกมา “แล้วถ้าฉันไม่ตบล่ะ?”

 

“นายก็จะต้องเสียใจไปตลอดไป”

 

เฉียนเทียนอี้พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

 

เมื่อเขาพูดประโยคนั้นออกมา ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความจริงจัง ไม่มีท่าทางอ่อนโอนแม้แต่น้อย ราวกับเขานั้นกำลังพูดความจริงที่คนทั้งโลกต่างก็รู้

 

เจียงเฉินรู้สึกตลกกับท่าทางของเฉียนเทียนอี้คนนี้ขึ้นมาทันที

 

“อ่อ งั้นฉันขอเสนอเงื่อนไขบ้างก็แล้วกัน”

 

เจียงเฉินเป็นคนถ่อมตัวและชอบเก็บตัวต่อหน้าคนธรรมดา แต่สำหรับคนอย่างเฉียนเทียนอี้และซุนฮ่าวที่ชอบรังแกคนอื่น

 

เขานั้นก็ยินดีที่จะต้อนรับอีกฝ่าย!

 

“ถ้านายยินดีที่จะตบปากตัวเอง 40 ที”

 

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเย็นชา “ฉันก็จะทำเป็นว่าเรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!”

 

คนรวยรุ่นที่สองบนเรือพากันเงียบทันที!

 

ความเดือดปะทุขึ้นมา

 

“พระเจ้า! เด็กคนนี้มันบ้าไปแล้ว!”

 

“เขาจะให้พี่เทียนอี้ตบหน้าตัวเอง เขากำลังมองหาความตายรึยังไงกัน?!”

 

“หึหึ เขานั้นกลายเป็นผู้ชนะการแข่งการตายแล้ว!”

 

เจียงเฉินพูดกับเฉียนเทียนอื้อย่างเย็นชา “ไม่งั้นนายก็จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!”

 

ดวงตาของเฉียนเทียนอี้เป็นประกายขณะจ้องไปที่เจียงเฉิน

 

สีหน้าของเขานั้นไม่ได้มีความรู้สึกโกรธแต่มันเป็นความรู้สึก

 

น่าสนใจ!

 

“หึหึ”

 

เฉียนเทียนอี้ปรบมือ

 

ทุกคน “???”

 

“กล้าหาญจริงๆ!”

 

เฉียนเทียนอี้เยาะเย้ยออกมา “นายเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าพูดกับฉันแบบนี้ตั้งแต่ที่ฉันนั้นจบมัธยมต้นมา และคนสุดท้ายที่พูดกับฉันแบบนี้ก็ถูกโยนลงแม่น้ำหวงผู้ไปแล้ว!”

 

ในตอนนี้เองก็มีนายน้อยจากเมืองหลวงอีกสองสามคนเดินออกมาจากห้องโดยสาร

เป็นหวางเฉียนกับลู่เหว่ย!

 

คนเหล่านี้เดิมที่แล้วมาที่ซานย่าก็เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยง

 

เดิมที่พวกเขานั้นก็อยู่ในห้องโดยสารแต่พอพวกเขาได้ยินว่าข้างนอกเกิดเรื่องพวกเขาก็เลยเดินออกมาดู–

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

สู่เว่ยกับหวางเฉียนเห็นเจียงเฉินที่กำลังมองมาอย่างเย็นชา!

 

แม่งเอ้ย!

 

สีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปทันที!

 

พวกเขาไม่คิดเลยว่าถนนจะแคยถึงขนาดทำให้พวกเขาต้องมาเจอเจียงเฉินที่นี่!

 

เมื่อเห็นลู่เว่ยเจียงเฉินก็ต้องรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา

 

ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาขอให้เป็นหัวหน้าโครงการ Ready Player 2?

 

ทั้งสองสบตากัน

 

สู่เวยยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วนและไม่กล้าเสียมารยาท–

 

เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว!

 

พี่เฉินนั้นเป็นคนให้ฉันรับผิดชอบโครงการนี้ถึงแม้ว่ามันจะเข้าสู่ขั้นตอนการถ่ายทำไปแล้วก็ตาม

 

แต่การที่ฉันหนีออกมาเที่ยวเล่นงานปาร์ตี้แบบนี้อาจทำให้ฉันสูญเสียความไว้วางใจที่พี่เฉินมีต่อฉันได้!

 

ถ้าพี่เฉินบอกยัยเด็กสาวลู่ลู่ซวนบ้านั่น ด้วยนิสัยของเธอเธอจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่ออย่างแน่นอน…และผลลัพธ์ที่จะตามมาก็คือหายนะ!

 

เมื่อลู่เว่ยคิดถึงฉากการทุบตีที่อาจจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ขาของเขานั้นก็อ่อนแรงลงทันที

 

และเขาก็เริ่มคิดเลยว่าเขานั้นจะซื้อวีลแชร์รุ่นไหนดี

 

ในเวลานี้เองเฉียนเทียนอี้ยังคงส่งเสียงข่มขู่เจียงเฉินอยู่อย่างต่อเนื่อง

 

“เทียนอี้!”

 

สู่เว่ยรีบเขาไปขัดจังหวะอีกฝ่ายทันที

 

เฉียนเทียนอี้นั้นค่อยข้างเกรงใจลู่เว่ยอยู่มากพอสมควรเขานั้นหันไปยิ้มและถามออกมา “มีอะไรเกิดขึ้นหรอครับ? อาเว่ย?”

 

ใบหน้าของลู่เว่ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้เขานั้นพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ดำคล้ำและเคร่งขรึม “เทียนอี้ นายไม่ควรทำให้คนๆนั้นขึ้นเคือง!”

 

รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉียนเทียนอี้ค่อยๆหายไป –

 

“อะแฮ่ม”

 

กลู่เว่ยรีบบอกกับเฉียนเทียนอี้ทันที “เขาคือพี่ชายของฉันพี่เฉินเขาเป็นคนมีความสามารถมากมากจนกลายเป็นราชาปีศาจได้เลย!”

 

เฉียนเทียนอี้ทำหน้ามึนงง “ราชาปีศาจ?”

 

“เขาเป็นคนที่พวกเราไม่สมควรไปสร้างความตื่นเคืองด้วยอย่างเด็ดชาด!”

 

สู่เว่ยพูดออกมา “และเขานั้นก็เป็นคนประเภทที่ชอบจัดการกับเหล่าลูกคนรวยโดยเฉพาะด้วย!”

 

“เพราะงั้น นายรีบขอโทษพี่เฉินของฉันดีกว่า ไม่อย่างนั้น…”

 

สู่เว่ยไม่ได้พูดต่อ เขานั้นรู้ดีว่าระดับความแข็งแกร่งของเฉียนเทียนอี้นั้นอยู่พอๆกับหลิงหยุน!

 

แต่หลิงหยุนก็ยังเคยโดนเจียงเฉินตบลงไปนอนกับพื้นมาแล้ว!

 

ดังนั้นเขาจึงได้แต่ภาวนาให้เฉียนเทียนอี้สามารถเข้าใจมันได้ด้วย ตัวเอง!

 

เฉียนเทียนอี้ “???”

 

แม้ว่าเขานั้นจะเป็นคนที่เย่อหยิ่งแต่เขานั้นก็รู้ดีว่าพลังอำนาจของลู่เว่ยนั้นอยู่ระดับไหน

 

มันน้อยกว่าตัวเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น!

 

ถ้าสู่เว่ยบอกว่าคนๆนี้มีความสามารถมาก งั้นก็ดูเหมือนว่าเขานั้นจะไม่อาจทำให้เจียงเฉินคุ้นเคืองได้จริงๆ!

 

แม่งเอ้ย!

 

ใบหน้าของเฉียนเทียนอี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ขอโทษนะแต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว…”

 

ในเวลานี้เองก็มีซูเปอร์ยอทช์อีกลำแล่นเข้ามา

 

บนเรือซูเปอร์ยอทช์ลำนั้นมีทั้งคนรวยและชนชั้นสูงที่เข้ามาจัดงานเลี้ยงเพื่อเส้นสายทางธุรกิจระหว่างกันและกัน

 

และในหมู่พวกเขานั้นก็มีหนิวต้าเยี่เป็นผู้นำ!

 

หนิวต้าเย่นั้นมีพื้นเพมาจากทะเลจีนใต้เขาจึงมีอิทธิพลในวงการธุรกิจในบริเวณทะเลจีนใต้เป็นอย่างมาก

 

ดังนั้นวันนี้เขาก็เลยจัดเรือซูปเปอร์ยอทช์มาเพื่อพาเหล่านักธุรกิจเหล่านี้ไปเที่ยวชมทะเลจีนใต้สักครั้ง

 

ในคนกลุ่มนี้เต็มไปด้วยนายทุนผู้ร่ำรวยจากเมืองหลวงมากมาย

 

เหล่าคนใหญ่คนโตเหล่านี้นั้นมักจะจัดงานปาร์ตี้เป็นเรื่องปกติ

 

พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีอายุ อำนาจและหน้าตาที่ค่อนข้างดีดังนั้นถ้าหากพวกเขาไม่พูดเรื่องธุรกิจกันแล้วพวกเขาจะพูดเรื่องอะไรกันได้อีก?

 

ก็ต้องเป็นเรื่องการโอ้อวด!

 

และสิ่งที่พวกเขานั้นชอบนำมาโอ้อวดกันก็คือ

 

ชายของพวกเขา!

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณหนิว หนิวเสี่ยวเฉียงของคุณอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ?”

 

“แล้วเขาเรียนที่ไหนงั้นหรอ?”

 

“อย่าพูดถึงมันเลย เขาหยุดเรียนไปนานแล้ว อ่อ ฉันได้ยินมาว่าซุนฮ่าวลูกชายของนายไปเรียนที่อเมริกางั้นหรอ?”

 

“ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กนี่มันชอบการเรียน เขาเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยไอวีหลีกแถมยังเรียนเก่งจนสามมรถติดหนึ่งใน 20 ของสาขาได้เลยทีเดียว!”

 

พ่อของซุนฮ่วพูดออกมาในขณะที่ทำหน้าตานิ่งๆแต่ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกดี

 

แม้ว่าธุรกิจของฉันจะมีขนาดไม่เท่ากับของนายแต่ลูกชายของฉันเรียนเก่งกว่าลูกชายของนายมาก!

 

มันยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ?!

 

“ถ้าหากเราจะหาคนที่มีความแข็งแกร่งมากๆเราก็ไม่ควรที่จะพลาดคนจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไป! โดยเฉพาะลูกชายของคุณเฉียนเทียนหยูนั้นก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับวงการธุรกิจ เพราะเขานั้นมีเส้นสายที่หลากหลายและเป็นเด็กที่ดูมีอนาคตไกลมากๆ!”

 

“ที่ไหนกัน?”

 

พ่อของเฉียนทียนอี้ส่ายหัว “ลูกบุญธรรมของฉันก็เป็นคนธรรมดาๆเท่านั้นแหละ บางทีอาจจะมีดีไม่เท่าพวกคุณด้วยซ้ำ แต่– หึหึ สิ่งที่เขานั้นมีเป็นข้อได้เปรียบก็คือความกตัญญู! เขานั้นไม่ทำให้ฉันต้องรู้สึกลำบากใจแม้แต่น้อย!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ใช่แล้ว นิสัยแบบนี้แหละเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด!”

 

เหล่าคนใหญ่คนโตพากันพูดสนับสนุนออกมา

 

การคบหากับคุณชายใหญ่ตามเมืองหลวงเพื่ออะไรกัน?

 

ก็เพื่อเส้นสายทางธุรกิจในอนาคตยังไงล่ะ–

 

เมื่อกลุ่มคนใหญ่คนโตพากันคุยโม้โอ้อวดกันไปมา ไม่นานก็มีคนสังเกตุเห็นเรือยทช์สุดหรูที่จอดลอยลำอยู่ระยะไกล และดูเหมือนว่ากำลังมีปัญหากันอยู่ด้วย!

 

“ดูเหมือนที่นั่นจะเกิดเรื่องนะ…”

 

“น่าจะเป็นพวกหนุ่มๆที่เลือดร้อน!”

 

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก พวกเขาคงแค่เล่นกันเองล่ะมั้ง…”

 

ในเวลานี้เองหนิวต้าเยีที่มีสายตาเฉียบแหลม

 

เขามองออกไป

 

เจียงเฉิน?

 

คุณเจียง?!

 

ทำไมเขาถึงไปอยู่บนเรือยอทช์ลำเล็กกัน?

 

เกิดปัญหาอะไรขึ้น?

 

สับสน!

 

หนิวต้าเย่เมื่อรู้ว่าเจียงเฉินนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เขาย่อมไม่สามารถละเลยได้

เขานั้นต้องรีบเข้าไปสนับสนุนเจียงเฉิน!

 

พ่อของเฉียนเทียนอี้ส่ายหัวไปมาก่อนจะโออวดลูกชายของตัวเองต่อ “ฉันมักจะสอนเฉียนเทียนอี้ว่า เราต้องทำตัวดีและมีคุณธรรมตลอดเวลา! บ้านที่สะสมความดีก็จะมีแต่งานฉลอง ส่วนบ้านที่มีแต่ความไม่ดีก็จะมีแต่ล่มสลาย! เด็กคนนี้ก็เลยโตมาอย่างถ่อมตนและมีคุณธรรม มันทำให้ฉันนั้นปลื้มใจมาก”

 

ในเวลานี้เองหลิวต้าเยก็ตะโกนออกมา “ดูสิ ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นกัน?”

เหล่าคนใหญ่คนโตต่างหันไปมองด้วยสีหน้างุนงง ลูกชายที่พวกเขาเพิ่งโอ้อวดกันอย่างสุดกำลัง

 

ลูกหลานที่น่าชื่นชมยินดี รักการเรียน มีนิสัยที่ดี กตัญญู..

 

บนเรือซูปเปอร์ยอทช์ลำนั้น ลูกชายของพวกเขานั้นถูกลายล้อมไปด้วยสาวสวย–

 

หนิวต้าเย่ “…”

 

พ่อของหยางอี้ “…”

 

พ่อของซุนฮ่าว “…”

 

พ่อของเฉียนเทียนอี้ “…”

 

เหล่าคนใหญ่คนโต “…”

 

ฉากนี้มันน่าอายมาก

 

แล้ว…..

 

พลิกโต๊ะ

 

เกรี้ยวกราด!

 

โอ๊ย!

 

ฉันเพิ่งจะโอ้อวดพวกแก บอกว่าพวกแกเรียนเก่ง ทำธุรกิจเก่ง มีชื่อเสียงที่ดีและที่สำคัญที่สุดมีนิสัยที่ดี!

 

แต่สุดท้าย..

 

พวกแกกลับมาจัดปาร์ตี้กัน?!

 

เจ้าลูกเวร!

 

อย่าหักใบหน้าของพวกแกได้ไหม?!

 

มาเลยนะมาให้ฉันฟาดเดี๋ยวนี้!

 

โกรธ!

 

กลับมาที่เฉียนเทียนอี้ ซุนฮ่าวและหยางอี้ที่กำลังโอ้อวดไปยังฝั่งของเจียงเฉินพวกเขานั้นก็เห็นเรือแล่นเข้ามาใกล้ๆพวกเขาพอดี

 

จากนั้นพวกเขานั้นก็สัมผัสได้ถึงสายตาจากพ่อของพวกเขาที่แหลมคมและอยากจะถลกหนังของพวกเขาออกมาทั้งเป็น!

 

ตัวสั่น!

 

สายตาแห่งความตายถูกส่งออกมาจากพ่อของพวกเขา

 

จู่ๆพวกเขาก็ถูกความกลัวเข้าปกคลุม!

 

“ผม ผม ผม…ให้ตายเถอะ!!”

 

“ไม่จริงใช่ไหม? ทำไมฉันถึงได้โชคร้ายขนาดนี้!”

 

“ฉันเพิ่งจะโกหกพ่อไปเองว่าฉันกำลังเรียนอยู่ที่อเมริกา!”

 

“ฉันก็ด้วยฉันเพิ่งจะโกหกพ่อไปว่าฉันออกมาทำธุรกิจ”

 

“ฉัน…พ่อไม่ได้ตีฉันมาแค่สามวันเองนะ!”

 

หนิวต้าเย่เองก็ตกตะลึงเขานั้นรีบแนะนำตัวของเจียงเฉินให้บรรดาคนใหญ่คนโตบนเรือได้ฟังทันที

 

“ชายหนุ่มคนนั้นก็คือคุณเจียง!”

 

“อะไรนะ?!”

 

ก่อนหน้านี้หนิวต้าเย่นั้นได้พูดคุยกับพวกเขาถึงเรื่องของเจียงเฉินมาก่อน

 

คนๆนี้มีทั้งบริษัทกฎหมายเทียนกวน โรงพยาบาลหมิงเต่อ โรงแรมผาง อาคารศูนย์กลางทางการเงิน

 

รายชื่อทรัพย์สินเหล่านี้มีชื่อเสียงมากพอที่จะทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง พวกเขาเองก็ขอร้องให้หนิวต้าเย่แนะนำเจียงเฉินให้พวกเขาได้รู้จัก

 

แต่อย่างไรก็ตาม….

 

ลูกชายตัวน้อยผู้ซื่อตรงและนิสัยดีของพวกเขากลับพยายามหาที่ตายด้วยการยั่วยุเจียงเฉินผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นอย่างเมามัน!

 

กลุ่มผู้ใหญ่เริ่มพากันแสดงความโมโหออกมา

 

“แม่งเอ้ย! รีบพาฉันเข้าไปใกล้ๆเรือลำนั้นเดี๋ยวนี้เลย!”

 

“เข้าไปเร็ว ฉันจะเข้าไปทุบตีพวกเดรัจฉาน!”

 

“แม่งเอ้ย! ฉันไม่ได้ทุบตีไปสามวัน มันถึงกล้าออกมาหาเรื่อง!”

 

ภายใตคาสูง เรอยอทชของพวกเขากแลนเขาไปหาเรอยอทชของ ลูกๆของพวกเขาทันที

 

หลังจากนั้น

 

ฉากการทุบตีครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น!

 

ด้วยความโกรธเกรี้ยวจากคนใหญ่คนโตจากทุกวงการ ไม่ว่าจนคนที่ต้องใช้ไม้เท้าหรือนั่งวิลแชร์พวกเขาก็กระโดดข้ามเรือกันอย่างขยันขันแข็งและเข้าทุบตีทันที่การกระโดดข้ามเรือของพวกเขานั้นแม้แต่กัปตันแจ็คจากเรือแบล็คเพิร์ดยังต้องอาย!

 

เสียงร้องถูกส่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

เสียงโหยหวนจากดวงวิญญาณและหมาปาดังออกมาอย่างต่อเนื่อง!

 

“บัดซบ! แกไม่ได้บอกหรอว่าแกกำลังเรียนอยู่ที่อเมริกา แล้วนี่แกเพิ่งเรียนงั้นหรอ?”

 

“เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ!”

 

“เจ้าลูกเลว! แกโกหกฉันว่าแกไปทำธุรกิจที่ออสเตรเลีย!”

 

“เพี้ยะ! เพี้ยะ! เพี้ยะ!”

 

“หยางอี้ เจ้าลูกเลว อย่าบอกนะว่าแกเป็นตัวเริ่มยั่วยุคุณเจียง ฉันจะฆ่าแก!”

 

“พ่อครับ ไว้ชีวิตผมด้วย!”

 

“หยางอี้ คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้”

 

“พ่อ อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาผมโดดลงทะเลแน่!”

 

“กระโดดหรอ?! เอาเลยกระโดดเลย! ถ้าแกไม่โดดฉันนี่แหละจะโยนแกให้ฉลามกิน!”

 

“เฉียนเทียนอี้! ฉันอุตส่าห์ชื่นชมแกต่อหน้าคนมากมาย! แต่แกกลับมาทำตัวไร้สาระอยู่ที่นี่! แกทำให้ฉันต้องเสียหน้า! ฉันจะทุบตีแกให้ตาย!”

 

หลังจากนั้นเฉียนเทียนอี้ก็ถูกทุบตีอย่างรุนแรง (จนกระทั่งหลายปีผ่านไปเขาก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์ในวันนี้ -)

 

เจียงเฉินยักไหล่

 

ตอนแรกก็คิดว่าจะแน่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเอาเข้าจริงแล้วมันก็แค่กลุ่มเด็กปฐม!

 

ภาพของพวกเขาก่อนหน้านี้ฉันน่าจะถ่ายรูปไว้สักหน่อยว่าสภาพของพวกเขาก่อนโดนทุบตีจนแม่ตัวเองจำไม่ได้มันเป็นยังไง!

 

สุดท้ายแล้วก็มีแต่พวกขยะทั้งนั้น!