966 ต้องฆ่า
“เข้ามาได้”
“ผู้ว่าเขตกั่ว เมี่ยวซีเหอมาแล้วครับ”
“บอกให้เขาเข้ามาได้เลย” กั๋วเจิ้งเหอลุกออกจากเตียง
เมี่ยวซีเหอเดินเข้ามาในห้อง มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบหน้ากัน
“สวัสดีครับ ผู้นําเดี่ยว” กั๋วเจิ้งเหอพูด
“สวัสดีครับ ผู้ว่าเขตกั่ว
ทั้งสองมองหน้ากัน และพยายามคาดเดาความคิดของอีกฝ่าย
“พวกคุณสําหรับความช่วยเหลือนะครับ” กั่วเจิ้งเหอพูด
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ” เมี่ยวซีเหอพูด “แล้วผมก็เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดด้วย” เขาไม่ปฏิเสธในเรื่องนี้
“เมี่ยวเทียนชวนเสียสติไปแล้วจริงๆ” กั่วเจิ้งเหอพูด “ผู้นําาเมี่ยว ที่ผมเชิญคุณมาเพราะมีอยู่สองเรื่อง เรื่องแรกก็เพื่อขอบคุณคุณ อีกเรื่องก็คือ ผมอยากให้คุณช่วยเราคิดหาวิธีจัดการกับภัยคุกคามครั้งนี้ด้วย”
เรื่องที่สองนั้นเป็นเรื่องที่เขาให้ความสําคัญและใส่ใจมากเป็นพิเศษ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันรุนแรงมากพอแล้ว แต่เรื่องที่เกิดในเวลานี้กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เพราะในครั้งนี้ ผู้ชายคนนั้นได้เลือกเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเป้าหมายของเขา นั่นเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า อีกฝ่ายเข้าขั้นวิกลจริตไปแล้ว เขาเป็นปีศาจบ้าคลั่งที่ไม่มีอะไรหยุดเขาได้และทําทุกอย่างอย่างที่เขาต้องการ “ผมคิดถึงปัญหานี้มาหลายวันแล้วเหมือนกันครับ” เมี่ยวซีเหอพูด “ถ้าเป็นตัวผมที่เขาไล่ตามการใช้ผมเป็นเหยื่อล่อถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่มีเรื่องหนึ่งที่เราต้องรู้ เราต้องยืนยันให้ได้ก่อนว่าเขายังอยู่ในเขตเหอ”
“เฮ้อ ผมก็ได้แต่หวังว่า ตอนนี้เขาจะไปอยู่ที่อื่นแล้ว” กั๋วเจิ้งเหอพูด เมี่ยวซีเหอเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “เขาอาจจะไปแล้วก็ได้ครับ”
“ก่อนหน้านี้ เขาได้พยายามลอบสังหารผมที่ด้านนอกหุบเขา” เมี่ยวซีเหอพูด “เขาได้รับบาดเจ็บหนักมา ผมคิดว่าเขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว”
“จริงเหรอครับ? ถ้าอย่างนั้นนี่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีมาก” กั๋วเจิ้งเหอพูด
เขาหวังว่าจะได้เห็นเมี่ยวเทียนชวนตายไปซะ ไม่ว่าเขาจะตายยังไงหรือที่ไหนก็ตามแต่ ขอแค่กําจัดเขาไปได้ก็พอแล้ว
“ครับ”
“แต่ผมก็ยังไม่วางใจ”
“ปัญหาก็คือ ผมยังคิดหาวิธีการดีดีไม่ออกเลย
หรือเราต้องรอให้เขาโจมตีอีกครั้ง?
วิธีการนี้ต้องขึ้นอยู่กับโชคด้วย ถ้าเมี่ยวเทียนชวนเลือกที่จะอยู่เฉยๆไม่ทําอะไรเลย มันก็บอกไม่ได้เลย ว่าพวกเขาต้องรอไปอีกนานแค่ไหน
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องปรึกษากันแล้ว
ทั้งสองพูดคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่เมี่ยวซีเหอจะขอตัวออกไปจากห้อง หลังจากที่ชายชราจากไปไม่นาน หญิงสาวหน้าสะสวยดูมีความสามารถก็เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย “พี่? พี่มาทําอะไรที่นี่ครับ?” กั๋วเจิ้งเหอประหลาดใจที่ได้เห็นพี่สาวของเขาที่นี่ “พี่เป็นห่วง” เธอพูด “ถ้าไม่อย่างนั้นพี่จะมาที่นี่ทําไมล่ะ?”
คนที่มาหาเขาก็คือถั่วซือหรง ตอนที่เธอกลับไปที่บ้าน เธอก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องชายของเธอ เธอรู้สึกเป็นห่วงเขามาก เธอจึงบอกให้แม่ของเธออยู่ที่บ้าน ส่วนเธอก็เดินทางมาหาเขาที่นี่
“ผมก็ยังอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ?” กั๋วเจิ้งเหอรู้สึกอบอุ่นหัวใจเมื่อมีคนในครอบครัวอยู่ใกล้ๆ โดยเฉพาะพี่สาวที่เอ็นดูเขาเสมอมา
“พี่ว่า คุณแม่พูดถูกนะ” กั่วซือหรงพูด “มันจะดีที่สุดถ้าเธอไปจากที่นี่ เธอลองไปคุยกับคุณพ่อแล้วย้ายไปที่อื่นดีกว่าไหม?” เธอพยายามพูดโน้มน้าวน้องชาย
“ก็ได้ครับ ถ้ามีเวลาผมจะคุยกับคุณพ่อดู” กั่วเจิ้งเหอพูด
“พี่ นี่ก็ใกล้จะถึงปีใหม่แล้ว” เขาพูด “พี่น่าจะรีบกลับบ้านดีกว่านะ คุณพ่อกับผมต่างก็ไม่ได้อยู่บ้าน ตอนนี้ที่บ้านก็เหลือคุณแม่แค่คนเดียว”
“พี่ว่าจะกลับพรุ่งนี้” กั๋วซือหรงพูด
“ดีครับ”
สองพี่น้องพูดคุยกันสักพัก กั๋วซือหรงก็ช่วยพยุงกั๋วเจิ้งเหอเดินไปรอบๆห้อง
กว่าพวกเขาจะรู้ตัว มันก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
“พี่ ผมจัดการหาที่พักไว้ให้พี่แล้ว” กั๋วเจิ้งเหอพูด “พี่ไปพักเถอะ ผมอยู่ที่นี่ไม่เป็นอะไรหรอก” “พี่ไม่รีบ” ถั่วซือหรงพูด “พี่จะอยู่คุยกับเธออีกสักพักแล้วค่อยไป”
อยู่ๆประตูห้องก็เปิดออก ชายหนุ่มผิวออกเหลืองโผล่หน้าเข้ามาในห้อง
“โอ๊ะ ขอโทษทีครับ”
“ไม่เป็นไร”
ดูเหมือนเขาจะเดินเข้าผิดห้อง เขาจึงเดินออกไปด้านนอก
หลังสามทุ่ม กั๊วซือหรงก็กลับไป หลังเธอเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยของน้องชายได้ไม่นานชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเธอ
“สวัสดีครับ คุณผู้หญิง”
ชายคนนี้ก็คือคนที่เข้าห้องผิดก่อนหน้านี้
“สวัสดีค่ะ” กั่วซือหรงพูด “คุณคือ?”
“ผมชื่อว่า เมี่ยวฉางเชิง ครับ ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณครับ”
“ขอโทษด้วยนะคะ” กั๋วซือหรงยิ้ม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเธอ เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง และความงามของเธอทําให้มีผู้ชายหลายคนอยากเข้าหา
“เผื่อว่าคุณจะเปลี่ยนใจ นี่เป็นเบอร์โทรของผมครับ” ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกผิดหวังที่ถูกปฏิเสธ เขายิ้มและยื่นกระดาษที่เขียนเบอร์โทรของเขาให้กับเธอ กั๋วซือหรงเดินจากไปโดยไม่คิดแม้แต่จะมองกระดาษแผ่นนั้น
“ท่าทางดีจริงๆ ฉันชอบ” ชายหนุ่มพูด
ชายวัยหกสิบเดินออกมาหาเมี่ยวฉางเชิงและพูดว่า “ฉางเชิง ผู้นําบอกให้นายไปหาเขาหน่อย”
“ได้ครับลุงสาม”
“พ่อเรียกหาผมเหรอครับ?”
“ลูกไปทําอะไรมา?” เมี่ยวซีเหอจ้องมองชายหนุ่มที่เป็นลูกชายของตนเอง
“ไม่ได้หาอะไรนี่ครับ”
“ตอนนี้พวกเราอยู่ข้างนอก จ๋าที่พ่อบอกเอาไว้ให้ดี ไม่ว่าจะทําอะไรเราต้องห้ามทําตัวโดดเด่นจนเกินไป”
“ผมจะจ่าเอาไว้ครับพ่อ” เมี่ยวฉางเชิงพูด “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมออกมาข้างนอก ผมรู้ว่าต้องทํายังไง”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” เมี่ยวซีเหอพูด
“แล้วเราจะกลับบ้านกันเมื่อไหร่เหรอครับพ่อ?”
“พรุ่งนี้”
“ได้ครับ”
ถั่วซือหรงไปที่ที่พักที่กั๋วเจิ้งเหอเตรียมไว้ให้ น้องชายของเธอได้สั่งให้คนพาเธอมาส่ง มันเป็นที่พักส่วนตัวของกั๋วเจิ้งเหอเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยหรือพื้นที่โดยรอบ ล้วนถูกจัดการเอาไว้อย่างพร้อมสับ
ชายที่พาเธอมาพูดว่า “ถ้าต้องการอะไร โทรหาผมได้ทุกเมื่อนะครับ คุณกั่ว”
“อืม ได้ค่ะ” เธอตอบ “ขอบคุณนะคะ”
เธอเดินเข้าไปในตัวบ้านและมองไปรอบๆ หลังจากอาบน้ําเสร็จแล้วเธอก็ไปที่เตียงนอน มันเป็นหนึ่งวันที่ยาวนาน แต่เธอกลับนอนไม่หลับ เธอกลิ้งตัวไปมาและเริ่มรู้สึกร้อน เธอรู้สึกราวกับกําลังถูกไฟเผาอยู่
เกิดอะไรขึ้น?
เธอลุกขึ้นนั่ง ประสบการณ์หลายปีที่ผ่านมาบอกกับเธอว่า มีบางอย่างผิดปกติ
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง! เธอเริ่มรู้สึกหนักหัวขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ดีแล้ว!”
ในเมื่อเธอยังอยู่ที่เขตเหอ เธอจึงรีบโทรไปหาน้องชายของเธอในทันที
“อะไรนะ?” หลังจากที่ได้รับสายจากพี่สาว กั๋วเจิ้งเหอก็ต้องตกใจ “พี่ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะให้คนไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”
ไม่นานก็มีเสียงไซเรนตํารวจดังขึ้น
“ได้โปรดๆๆ อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย!” กั๋วเจิ้งเหอเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้องผู้ป่วย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ในเวลาเดียวกัน มันก็แฝงไว้ด้วยความเหี้ยมโหด
“ถ้าใครมันกล้ามาทําร้ายครอบครัวของฉัน ฉันจะฆ่ามัน!”
ในตอนที่เขารอคอยอย่างกระวนกระวายนั้น ตํารวจนายหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยของเขา
“เกิดอะไรขึ้นกัน?”
“พอเราไปถึงที่นั่น คุณกั๋วก็หมดสติไปแล้วครับ”
“หมดสติ?”
“ใช่ครับ เราเห็นคนน่าสงสัยอยู่นอกตัวบ้าน แต่ทันทีที่เห็นเรา คนคนนั้นก็รีบวิ่งหนีไปทันทีเลย เราตามจับเขาไม่ทันครับ”
“นอกจากหมดสติแล้ว พี่สาวของผมยังเป็นอะไรอีกไหม?” ถั่วเจิ้งเหอรู้สึกคล้ายหัวใจขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอในตอนที่ถามออกไป
“เธอไม่เป็นอะไรครับ โชคดีที่เราไปถึงที่นั่นทันเวลา”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” เขารู้สึกตัวเบาขึ้นมาก
“รีบพาตัวเมียวซีเหอไปที่นั่นเถอะ”
“ได้ครับ”
เมี่ยวซีเหอที่เพิ่งหลับก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“อะไรนะ? มีคนถูกพิษอีกแล้วเหรอ?” เขาตกใจ
เดี่ยวเทียนชวนตายไปแล้ว เขาค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้ เขาโดนระเบิดจนเละเป็นจุลไปแล้ว
ไม่มีทางที่ร่างกายของเขาจะกลับมารวมตัวได้ใหม่อีกครั้ง
“ใช่ครับ ช่วยไปดูเธอทีนะครับ”
“ได้สิ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เมื่อเขาไปถึงที่โรงพยาบาลและเห็นสภาพของกั๋วซือหรง สีหน้าของเมี่ยวซีเหอก็มืดครึ้ม
“ผู้นําาเมี่ยว พี่สาวของผมเป็นอะไรมากไหมครับ?” กั๋วเจิ้งเหอถาม
“เธอไม่เป็นอะไรครับ ผมสามารถจัดการพิษในตัวเธอตอนนี้ได้เลย”
“ดีครับ”
ไม่นาน ถั่วซือหรงก็ได้สติกลับมา
“พี่เป็นอะไรไหมครับ?” หลังจากที่เห็นกั๋วซือหรงได้สติกลับคืนมา กั๋วเจิ้งเหอก็ถามออกไป
“อืม พี่ไม่เป็นอะไร” เธอจับมือน้องชายเอาไว้
“ดีครับ ดี” ถั่วเจิ้งเหอกังวลจนแทบบ้า เหงื่อเย็นไหลซึมจนเต็มหน้าผากของเขา
“ขอบคุณมากนะครับ ผู้นําเชี่ยว ผมอยากรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเมี่ยวเทียนชวนรึเปล่า”
“มันอาจจะเป็นเขาก็ได้ครับ” เมี่ยวซีเหอพูด
“นั่นก็หมายความว่า เขายังอยู่ในเขตเหอสินะครับ?”
“น่าจะเป็นแบบนั้นครับ”
ทั่วทั้งเขตเหอระแวดระวังกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังคงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อีก แล้วคนที่รับเคราะห์ยังเป็นคนในครอบครัวของเขา กั๊วเจิ้งเหอจึงโมโหอย่างมาก
ภายในเมืองจึงเกิดการไล่ล่าตัวผู้ร้ายขึ้น
ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเหอ
เพี้ยะ!
“นี่มันอะไรกันครับ พ่อ?”
“แกไม่รู้จริงๆเหรอ ว่าได้ทําอะไรลงไป?” เมี่ยวซีเหอโมโหมาก
“ผะ-ผมไม่ได้หาอะไรเลยนะครับ”
“ไม่ได้ทําอย่างนั้นเหรอ? แกจะบอกฉันว่า แกไม่ได้วางยาผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ?”
“ผะ-ผม…”
“ฉันบอกแกไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่าที่นี่เป็นด้านนอกไม่ใช่ที่หุบเขาของเรา!” เมี่ยวซีเหอตะคอกเขาด้วยความโมโห “แกรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ถ้าพวกเขารู้ว่าแกเป็นคนทํา แกรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเรา?”
“ผมขอโทษครับพ่อ ผมขอโทษจริงๆ” เมี่ยวฉางเชิงหวาดกลัว เขาไม่คิดเลยว่า พ่อของเขาจะโมโหขนาดนี้
“แกรีบออกไปจากที่นี่คืนนี้เลย!”
“อะไรนะ? ไปตอนนี้เลยเหรอ? มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ผู้นําครับ ตอนนี้ พวกเขากําลังกระจายตัวออกไล่ล่าคนร้ายกันอยู่” หนึ่งในคนของเมี่ยวซีเหอพูด “ถ้าพวกเราออกไปตอนนี้ มันอาจจะเป็นการยอมรับว่าเป็นฝีมือของพวกเราก็ได้นะครับ”
“นั่นสินะ ฉันก็ลืมเรื่องนั้นไป ถ้าอย่างนั้นก็ปลอมตัวเขาซะ เราจะกลับกันพรุ่งนี้”
“ครับ”
ในโรงพยาบาลประจําเขตเหอ
“พี่บอกว่า ผู้ชายคนนั้นชื่อว่าอะไรนะครับ?”
“เดี่ยวฉางเชิง”
“เมี่ยว!?” ทันทีที่ได้ยินว่าเป็นแซ่นี้ กั๋วเจิ้งเหอก็นึกถึงกลุ่มคนที่ติดตามเมี่ยวซีเหอออกมาจากหุบเขา
เขาตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลทันที แล้วเขาก็พบชายที่กั๊วซือหรงพูดถึง
“ตรวจสอบเพิ่มอีก!”
จากภาพในกล้องวงจรปิด ทําให้เขาได้รู้ว่า ชายคนนั้นเดินทางมาที่นี่พร้อมกับเมี่ยวซีเหอ
“มันเป็นเขา!”
ถั่วเจิ้งเหอขมวดคิ้ว
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าหากมาทําร้ายคนในครอบครัวของเขา พวกเขาก็จะกลายมาเป็นศัตรูของเขาในทันที
“พี่พักผ่อนให้มากนะครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง” ถั่วเจิ้งเหอพูด
“พี่ไม่เป็นอะไรแล้ว เธออย่าทําอะไรไม่คิดนะ”
“ครับ ผมรู้ว่าต้องทํายังไง พี่นอนเถอะ”
หลังจากที่เขาออกมาจากห้องผู้ป่วยแล้ว สีหน้าของเขาก็ดูน่ากลัวอย่างที่สุด
“ผู้ว่าเขตกั่ว เราจะจับคนพวกนั้นไหมครับ?”
“ไม่ พวกเขาอันตรายเกินไป ผมขอคิดดูก่อนว่าจะจัดการกับพวกเขายังไงดี ตอนนี้ พวกคุณคอยจับตาดูพวกเขาเอาไว้ก็พอ”
“ได้ครับ”
เขากลับไปที่ห้องของตัวเอง เขาเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้องและใช้ความคิด