หลังจากดาราสาวคนนั้นวิ่งออกไป ซูซีจึงได้สติคืนมา จากนั้นเงยหน้าขึ้นและก็เห็นเทาเท่ไปอยู่ข้างๆหลินจืออีกครั้ง
ซูซีนึกถึงคลิปนั้นเมื่อก่อนหน้านี้ ภาพที่เทาเท่บีบหลินจือไปชิดมุมกำแพง กอดเธอไว้พยายามจะจูบ
ตอนนั้นที่เธอเห็นวิดีโอนั้น ก็โกรธแทบบ้า
นับดูแล้วเธอกับเทาเท่ก็รู้จักกันมาหลายปีแล้ว ช่วงนี้พวกเขาห่างเหินกันไม่พอ ถึงแม้ตอนที่พวกเขาเป็นแฟนกัน เทาเท่ก็ไม่ได้กอดเธอจูบเธออย่างเร่าร้อนแบบนั้น
ในสายตาเธอ เทาเท่เป็นคนเย็นชาอย่างมาก น้อยมากที่จะรุกก่อน
เขาไปแนบชิดหลินจืออย่างไม่มีศักดิ์ศรีแบบนั้นได้ไง?
ซูซีก็นึกถึงที่หลินจือพูดครั้งที่แล้วอีกครั้ง แค่เทาเท่ไม่ไปทำงานต่างที่ แค่เธอไม่อยู่ในช่วงประจำเดือน ทุกคืนพวกเขาก็คงใช้ชีวิตแบบสามีภรรยา ……
ตอนนี้เทาเท่เดินเข้าไปใกล้หลินจือเองอีกแล้ว มองไปที่หลินจือที่ดูระมัดระวังและมุ่งมั่น ซูซีก็เกือบจะกัดฟันแตก
ลีวายที่เกลียดหลินจือเหมือนกับซูซี ตอนนี้ก็พูดอย่างโกรธๆว่า:“ประธานเทาเท่ถูกใส่ของหรือเปล่า ปล่อยคนขาวสวยรวยอย่างคุณไป แล้วมาชอบผู้หญิงอย่างหลินจือเนี่ยะ?”
ซูซีหัวเราะอย่างเยือกเย็น:“ผู้ชายก็ระยำแบบนี้ ไม่ได้ของที่ดีที่สุดมาหรอก แต่พอได้แล้วกลับไม่รู้จักรักษา”
คิดถึงตอนนั้นที่เทาเท่เป็นสามีภรรยากับหลินจือ เทาเท่ไม่แลหลินจือสักนิด เย็นชากับหลินจือมาก
ตอนนี้หลินจือหย่ากับเขาแล้ว เขากลับเป็นศัตรูกับทั้งบ้านเพื่อหลินจือ
ไม่สิ จากที่หลินจือพูด พวกเขาสามีภรรยาใช้ชีวิตด้วยกันสั้นๆขนาดนั้น เธอสงสัยว่าเทาเท่ปฏิบัติต่อหลินจือใช่ความเย็นชาจริงๆหรือไม่
ว่ากันตามเหตุผลแล้วผู้ชายคนหนึ่งไม่ชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ก็น่าจะไม่แลเธอเลย ทำไมถึงได้ต้องการเธอบ่อยๆกัน?
ลีวายไม่รู้ความสัมพันธ์ในเมื่อก่อนของหลินจือกับเทาเท่ เธอคิดว่าที่ซูซีบอกว่าได้มาแล้วแต่ไม่รักษานั้นหมายถึงตัวซูซีเอง หมายถึงเทาเท่เคยได้ซูซีมาเลยไม่รักษาซูซี
ดังนั้นเธอจึงเสนอไปว่า:“ประธานซูซี คุณจะลองพยายามดูอีกหน่อยไหม?พยายามได้ประธานเทาเท่มา”
ซูซีกัดฟัน:“พยายามอย่างไร?ในสายตาเขาตอนนี้มีแต่หลินจือ”
ลีวายพูดเสียงเบา:“ใช้วิธีการเล็กน้อยไง เรื่องราวของคุณกับประธานเทาเท่เลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขหรือเปลี่ยนได้อีกแล้ว แต่จากอิทธิพลของพ่อคุณแล้ว เขาก็ต้องแต่งกับคุณสิใช่ไหม?”
ซูซีตะลึง
ใช้วิธีการเล็กน้อย?
เหมือนกับหลินจือตอนนั้น?
ซูซียอมรับ ถึงเธอดูถูกพฤติกรรมหลินจือตอนนั้น แต่เธอก็ใจเต้นมากจริงๆกับข้อเสนอของลีวาย
ตอนนั้นเทาเท่แต่งงานกับหลินจือได้เพราะนอนกับเธอ ตอนนี้ถ้าเธอมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเทาเท่ล่ะก็ เทาเท่ ก็ต้องแต่งกับเธอถูกไหม?
ลีวายพูดอีกว่า:“ที่จริงเรื่องแบบนี้ทำได้ง่ายมาก ประธานเทาเท่เข้าร่วมงานสังคมมากมายทั้งวัน คุณแค่จ้างพนักงานสักคนก็ได้แล้วนี่ ถึงตอนนั้นคุณค่อยให้นักข่าวหรือให้พ่อแม่คุณไปสกัดกั้นเขาไว้ ทำให้ทุกคนรู้เขาไม่อยากแต่งงานก็ต้องแต่งใช่ไหมล่ะ?”
ที่ลีวายพยายามสุดชีวิตให้ซูซีคบกับเทาเท่ ก็เพราะไม่อยากให้เทาเท่ไปจีบหลินจืออีก
หลินจือมีสิทธิ์อะไรที่ได้ดื่มด่ำความชอบและการตามจีบของผู้ชายตั้งมากมายขนาดนั้น?เอาเทาเท่ไปให้ซูซี แล้วเธอค่อยคิดหาทางทำลายความรู้สึกดีที่เจเทาวน์มีต่อหลินจือ สุดท้ายก็ให้คนที่ตามจีบไม่เหลืออยู่ข้างกายหลินจือสักคน
ถ้าได้ล่ะก็ เธอต้องทำให้หลินจือมีเรื่องอื้อฉาวไปทั่วทั้งวงการ และออกไปจากวงการเขียนบทโดยสิ้นเชิง
คิดถึงตรงนี้ ลีวายก็มักจะรู้สึกไม่สบายหน้าอก
ถึงแม้แผนของเธอยังไม่สำเร็จลุล่วง แต่พอนึกถึงความน่าเวทนาของหลินจือที่จะมาถึง เธอก็รู้สึกดีสุดๆ
ซูซีจ้องไปทางเทาเท่กับหลินจือเขม็ง เม้มริมฝีปากไม่พูดไม่จา แต่ในใจเธอพิจารณาถึงข้อเสนอของลีวายในแผนการต่างๆแล้ว
เธอไม่แคร์ว่าหลังแต่งงานไปเทาเท่จะยังดีกับเธอหรือไม่ เพราะว่าเปรียบเทียบกับเทาเท่แล้ว เธอรักอำนาจอิทธิพลเหล่านั้นที่เทาเท่และตระกูลฟอเรนามีต่างหาก
ที่สำคัญก็คือ แค่แต่งกับเทาเท่ เธอก็สามารถเรียกคืนชื่อเสียงของตัวเองกลับคืนมาได้เป็นอย่างดี และยังสามารถเหยียบย่ำหลินจือยัยผู้หญิงม่ายนั่นไว้ใต้เท้าได้แรงๆแล้ว
เทาเท่โทรสั่งควีนเสร็จก็ยังไม่ไป เขายังไม่ออกไปก็พอแล้ว นี่สายตาของเขายังมองมาที่หน้าเธออย่างกำเริบเสิบสานอีก หลินจือรู้สึกอายและหงุดหงิด
นานิเห็นเทาเท่ยังไม่คิดจะออกไป ก็คิดอะไรในใจ แล้วหาข้ออ้างออกไป
หลินจือไม่ได้ห้ามนานิจึงออกไป เหลือเธอเผชิญหน้ากับเทาเท่สองต่อสอง
ด้วยความที่ทำอะไรไม่ได้เธอเลยมองไปที่เทาเท่แล้วตอบโต้ไปว่า:“คุณจ้องฉันทำไม?หน้าฉันมีอะไรเหรอ?”
เทาเท่ตอบไปตรงๆ:“ก็คุณสวย”
หลินจือ:“……”
หน้าของเธอแดงอย่างควบคุมไม่อยู่ เพราะว่านิสัยเก็บตัวของเธอฟังคำชมตรงไปตรงมาแบบนี้ไม่ไหว
และก็ เทาเท่กลายเป็นคนหน้าด้านแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้พูดคำพูดเลี่ยนๆแบบนี้ได้
เธอพูดอย่างเซ็งๆ:“มองไปตั้งสามปีแล้ว สวยแค่ไหนก็เบื่อได้เหมือนกัน”
เทาเท่จ้องเธอแล้วพูดว่า:“มีคำนี้ไม่ใช่เหรอ?มองเท่าไหร่ๆก็ไม่เบื่อ”
หมายความว่า เขารู้สึกกับเธอเช่นนี้
หลินจือหงุดหงิดแปลกๆ
ตอนนี้เขามาพูดจาหวานๆใส่ มักจะทำให้เธอนึกถึงวันเวลาที่ถูกเขาเฉยเมยใส่ มักจะทำให้เธอหดหู่ใจ
ดังนั้น เธอจึงก้มหน้าพูดว่า:“ฉันเห็นอาจารย์ครูสมาแล้ว ไปคุยกับเธอหน่อยนะ”
หลินจือพูดจบก็หันกลับออกไป เทาเท่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขารู้สึกถึงความเยือกเย็นที่กะทันหันของเธอ แต่กลับไม่รู้ว่าเพราะอะไร
โซเมนบอกว่า จะจีบผู้หญิงคนหนึ่ง จะต้องพูดจาด้วยถ้อยคำหวานๆ และให้ของขวัญโดยไม่ลังเล ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน ก็ต้องให้เธอรู้สึกถึงความใส่ใจที่เขามีแต่เธอ
เขาทำตามแล้ว ทำไมเธอไม่ได้ดีใจเท่าไหร่นักเลยล่ะ?
นานิออกไปเพื่อไปหยุดดาราสาวชุดฟ้าคนนั้น เดินเข้าไปตรงทางเดินของห้องจัดงานเลี้ยงกอดอกรออย่างนิ่งๆ
ดาราสาวคนนั้นคุยโทรศัพท์ข้างนอกอยู่นาน เหมือนว่าสุดท้ายแล้วจะทำอะไรไม่ได้ ตอนกลับมาห้องงานเลี้ยงนี้อีกครั้ง ก็ตาแดงก่ำ
พอเห็นนานิเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า:“เพื่อนเธอคนนั้นเป็นใครกันแน่?ทำไมตัวละครใน”The Legend of Concubine Rong “ที่ฉันได้มาอย่างยากเย็นถึงถูกยกเลิกไป?”
นานิพิงไปที่กำแพง มองเล็กอันสวยงามของตัวเองแล้วพูดอย่างสบายๆ:“ซูซีกับลีวายไม่ได้บอกเอเหรอ?เธอคือนักเขียนบทฟิลคูล”นักเขียนบทหลักของThe Legend of Concubine Rong “”
“อะไรนะ?”ดาราสาวถอยหลังไปหลายก้าวอย่างตกใจ
ไม่น่าล่ะเธอถึงร่วมงานเลี้ยงวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ในคืนนี้ได้ ที่แท้เธอก็คือนักเขียนบท และยังเป็นนักเขียนบทของ”The Legend of Concubine Rong “อีก
เธอซวยมาก ถึงได้ไปขัดใจคนใหญ่โตแบบนี้ได้
แต่พอได้สติคืนมาเธอก็พูดอย่างไม่พอใจไปว่า:“แต่ว่า เพราะความคับข้องใจส่วนตัวของเธอแล้วมายกเลิกบทบาทของฉันแบบนี้ มาแก้แค้นเพราะปัญหาส่วนตัวแบบนี้ใช้ได้เหรอ?”
นานิส่งเสียงอย่างเยือกเย็น:“ตาข้างไหนของเธอเห็นว่าเธอโทรให้คนยกเลิกบทบาทของเธอ?”
ดาราสาวคิดอย่างละเอียด เธอเพิ่งกลับไปอยู่ด้านข้างซูซีก็จ้องมาทางพวกนานิอย่างโกรธจัดตลอด ไม่เห็นเพื่อนคนนั้นของนานิโทรศัพท์จริงๆ
แต่ เหมือนเธอจะเห็นว่าเทาเท่โทรศัพท์ไป……