เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 452
ตอนนี้ ตระกูลลู่กำลังยุ่งกันหมด แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว มันเป็นการยุ่งที่มีความสุข

อย่างน้อยตอนที่ลู่ฝานเดินอยู่ในตระกูลลู่ ลูกหลานตระกูลลู่ไม่น้อยถึงแม้บนใบหน้าจะมีความเสียใจ แต่พอเห็นลู่ฝาน ต่างก็พากันยิ้มหน้าบานออกมา แล้วโค้งคำนับให้กับเจ้าบ้าน

วันนี้ ลู่ฝานวางแผนจะจัดการเรื่องทั้งหมดให้เรียบร้อย

เขาไม่ได้ลืมโม่หยุนเฟยที่จำตัวไว้ในตอนนั้น

คุกใต้ดินของตระกูลลู่ อยู่ที่ใต้ห้องเก็บฟืนด้านหลัง หลังจากเปิดแผ่นหินออก ก็มีบันไดลงไป

คุกใต้ดินที่มืดและชื้นแฉะไม่เห็นแสงตะวัน พอเข้าไป ก็ได้กลิ่นเชื้อราที่เหม็นเน่า

“ท่านเจ้าบ้าน!”

พอคนรับใช้ที่คอยเฝ้าคุกใต้ดินของตระกูลลู่เห็นลู่ฝาน ก็รีบทักทายอย่างตื่นเต้น

ในสายตาของผู้ใหญ่รุ่นนี้ของตระกูลลู่ ลู่ฝานเปรียบเสมือนผู้กล้าที่มาฉุดช่วยตระกูลลู่ไว้ คนที่เก่งกาจโดดเด่นที่สุดในสามรุ่นของตระกูลลู่ จะนำพาตระกูลลู่เจริญรุ่งเรือง

ลู่ฝานก็หยักหน้ายิ้มให้สองคนนั้นเบาๆ สามารถรอดจากการต่อสู้กับตระกูลโม่มาได้ คนรับใช้สองคนนี้ก็ถือว่ามีความสามารถเหมือนกัน แถมยังจงรักภักดีต่อตระกูลลู่ ช่วงเวลาที่มีภัยไม่ได้หนีออกไป ลู่ฝานเคารพพวกเขาเหมือนกัน เขาได้เริ่มคิดไว้แล้ว ว่าหลังจากนี้จะเพิ่มเงินเดือนให้คนพวกนี้

อย่างน้อยงานที่ต้องมาเฝ้าคุกใต้ดินแบบนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องมาทำแล้ว ให้ไปหาร้านขายของสักร้าน ไปเป็นเจ้าของร้านเล็กๆ พวกเขาน่าจะยินยอม

“สถานการณ์ด้านล่างเป็นอย่างไรบ้าง?”

ลู่ฝานถามเสียงเบา

คนรับใช้เสื้อเขียวด้านข้างก็ตอบว่า “รายงานท่านเจ้าบ้าน ตอนที่ไอ้ชั่วโม่หยุนเฟยเข้ามาใหม่ๆ ยังทำตัวเก่ง ด่าทอตระกูลลู่ของเราตลอด คุณชายลู่หมิงเข้ามาหลายครั้ง หลังจากที่สั่งสอนเขาไปแล้ว ก็ไม่กล้าโวยวายอีก ตอนนี้คงเหลือชีวิตอยู่ครึ่งเดียวแล้ว”

ลู่ฝานพยักหน้า แล้วให้พวกเขานำทางไป เขาต้องการจะไปพบโม่หยุนเฟย

เดินขึ้นหน้าไป คุกใต้ดินของตระกูลลู่ใหญ่อยู่เหมือนกัน ขนาดเท่ากับห้องรับรองหลายห้องเลย

คนที่จะถูกขังในนี้ บ้างก็เป็นคนที่ทรยศตระกูลลู่ หรือพวกชั่วที่หักหลังแทงข้างหลังตระกูลลู่ หรือไม่ก็เป็นพวกคนของตระกูลโม่ที่ช่วงนี้พวกของลู่หมิงไปจับตัวมา

อย่างไรเสีย แม้แต่โจวเจิ้นโส่วก็ต้องทำงานภายใต้ความพึงพอใจของลู่ฝาน พวกลู่หมิงจะไปจับคนตามถนนคงไม่มากอะไร

ในเมืองเจียงหลิน ใครจะกล้ามายุ่งกับเรื่องของตระกูลลู่

ลู่ฝานก็ไม่ได้สนใจ มองดูสายตาที่ไร้ความหวังในคุกใต้ดิน สีหน้าของลู่ฝานก็นิ่งและไม่แยแส

ถึงแม้มีคนไม่น้อยที่พอเห็นลู่ฝานแล้วก็เริ่มร้องไห้ขี้มูกโป่งออกมา พูดขอร้องว่า “ท่านเจ้าบ้าน ผมผิดไปแล้ว”

“เจ้าบ้านลู่ฝาน ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะ”

ลู่ฝานไม่อยากจะมองพวกเขา เดินตรงไปอย่างเดียว

บริเวณนี้เป็นส่วนที่มืดที่สุดของคุก พอเดินเข้าใกล้ ก็ได้กลิ่นเหม็นโชยเข้ามา

ในคุกที่ทำจากเหล็ก โม่หยุนเฟยนอนแหมะอยู่บนพื้นเหมือนกับหนอนตัวหนึ่ง แขนขาถูกตีหักหมดแล้ว เขาก็เลยเคลื่อนไหวตัวเหมือนหนอนได้อย่างเดียว

ลู่ฝานให้คนมาเปิดประตูคุก แล้วก็ค่อยๆ เดินเข้าไป

โม่หยุนเฟยลืมตาแดงก่ำของตนเอง พอเห็นลู่ฝาน ก็ยิ้มอย่างหวาดกลัวออกมา

“ฮ่าๆ ลู่ฝาน มาแล้วหรือ ในที่สุดนายก็มา ที่ฉันไม่ยอมตายไปก่อน ก็เพราะรอนายเข้ามา”

ลู่ฝานมองโม่หยุนเฟยนิ่งๆ แล้วพูดว่า “ที่นายไม่ตาย เพระฉันไม่คิดจะให้นายตายไปอย่างสบายๆ ไงล่ะ นายจะรอฉันทำไม มีอะไรจะคำสุดท้ายจะพูดกับฉันหรือ?”

โม่หยุนเฟยยิ้มพูดอย่างหวาดกลัวว่า “มี มีแน่นอน ลู่ฝาน อย่าคิดว่ากำจัดตระกูลโม่ได้แล้ว นายก็จะสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ นายไม่รู้หรอก ฆ่าพวกเมิงซันที่นายฆ่าไป เป็นคนของสำนักโลหิตพิฆาต ฮ่าๆ นายฆ่าคนของสำนักโลหิตพิฆาต นายก็เข้าใกล้ความตายไปแล้ว!”