ตอนที่ 501 พบโดยบังเอิญในโรงน้ำชา

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 501 พบโดยบังเอิญในโรงน้ำชา

อันหลิงเกอคาดมิถึงว่าเฉินเจียอวี๋โอ้อวดตนเยี่ยงนี้ ดูท่าแล้วฮ่องเต้ทำดีกับนางมากจริง ๆ

หลี่กุ้ยเฟยมิได้รับความยุติธรรมเลย ทั้งยอมเสียเปรียบให้พี่เลี้ยงผู้นี้อย่างง่ายดาย

“ขอบพระคุณเหนียงเหนียงที่เมตตา” ในความเป็นจริงสำหรับอันหลิงเกอมองว่าความมั่งคั่งที่ทุกคนมอบให้ล้วนเหมือนกัน แม้นางเกลียดเฉินเจียอวี๋แต่ก็มิได้เกลียดเงินทองที่อีกฝ่ายประทานให้

ในเมื่อเฉินเจียอวี๋ใจกว้าง นางก็ยินดีรับไว้

“ดูเหมือนวันนี้เจ้าอารมณ์ดีมิน้อย ข้าจึงอยากพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง ! ”

มู่จวินฮานวางตำราในมือลง จากนั้นก็เดินมาตรงเบื้องหน้าอันหลิงเกอ

“ที่แห่งใดหรือเจ้าคะ ? ” อันหลิงเกอมิเข้าใจ ทว่าเมื่อสิ้นสุดคำพูดแล้วนางก็ตามอีกฝ่ายไป

อันหลิงเกอมิค่อยได้ไปสถานที่มีผู้คนขวักไขว่ แต่ครั้งนี้มู่จวินฮานพานางไปกลับเป็นสถานที่เยี่ยงโรงน้ำชา

โรงน้ำชาแห่งนี้อันหลิงเกอชื่นชอบมากแต่มิค่อยได้มาบ่อย นางรู้สถานะดีว่าหากมาบ่อยก็คงนำพาความวุ่นวายมาสู่ตนมิน้อย ด้วยเหตุนี้นางจึงยอมอ่านตำราอยู่ในจวนโดยมิยอมออกมาเปิดเผยตัวข้างนอก

ครั้นอยู่ในจวนโหว นางต้องพยายามปกป้องตนเองจากอันตรายทั้งปวง ทว่าบัดนี้มีมู่จวินฮานแล้วนางจึงรู้สึกผ่อนคลายโดยมิรู้ตัว

“มาฟังเรื่องเล่าหรือเจ้าคะ ? ” อันหลิงเกอมองมู่จวินฮานด้วยความสนใจและเมื่อเห็นเขานั่งลง ในใจของนางจึงรู้สึกผ่อนคลายและนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา

“อืม” มู่จวินฮานยกยิ้มเล็กน้อยแล้วมองขึ้นไปบนเวทีการแสดง

นักเล่าเรื่องทั้งสองคนนี้เป็นบุคคลที่เขามักชอบมาชมการแสดงอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี

อันหลิงเกอตั้งใจฟังอย่างสนุกสนานราวกับฟังเรื่องส่วนตัวของนักเล่าเรื่องผู้นั้นก็มิปาน

เมื่อเห็นนางสดใสเยี่ยงนี้มู่จวินฮานก็มีความสุขไปด้วย ทว่าตอนนี้กลับมีแขกที่มิได้รับเชิญมาแทรกกลางระหว่างทั้งสองคน

“จวินฮาน ท่านมาที่นี่ได้เยี่ยงไร ? ”

เป็นเสียงของอวี๋หมิงหลัน และอันหลิงเกอคิดอยากเลี่ยงออกไปแต่ก็มิทันแล้ว

“พระชายามู่ก็อยู่ด้วยหรือ” อันหลิงเกอยกยิ้มอย่างลำบากใจและไร้กะจิตกะใจฟังเรื่องเล่าบนเวทีอีก

ส่วนมู่จวินฮานก็สังเกตเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของภรรยาจึงรู้สึกมิค่อยดีและยังมิพอใจต่อการปรากฎตัวของอวี๋หมิงหลันด้วย

อวี๋หมิงหลันรู้แก่ใจว่าวันนี้มู่จวินฮานต้องพาอันหลิงเกอมาด้วย แต่ยังตั้งใจให้เป็นเยี่ยงนี้เพราะกลัวตกเป็นเป้าสายตา

“จวินฮาน เหตุใดท่านจึงพานางมายังสถานที่แห่งนี้ ? ” มู่จวินฮานคาดมิถึงว่าอวี๋หมิงหลันจักถามเยี่ยงนี้ เพราะนางเป็นเช่อเฟยของเจียงอ๋องแล้วมิควรเอ่ยเยี่ยงนี้อีก

แต่มู่จวินฮานยังมิทันได้ตอบก็ถูกอันหลิงเกอชิงตอบว่า “หากเจียงเช่อเฟยมิพอใจ ข้าไปก็ได้”

อันหลิงเกอมิอยากอยู่ต่อ ยิ่งเมื่อถูกอวี๋หมิงหลันพูดจาเยี่ยงนี้ใส่จึงมิค่อยสบอารมณ์

“มิใช่เยี่ยงนั้นหรอก นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยระหว่างข้ากับอ๋องมู่ หวังว่าพระชายาจักให้อภัย”

เรื่องเล็กน้อยหรือ ? หึ มิว่าเยี่ยงไรเรื่องเล็กน้อยกับสามีของผู้อื่นก็ช่างน่าขบขันเสียจริง

“ข้ามิได้สนใจอยู่แล้ว ทั้งสองคนคุยกันไปเถิด ส่วนข้าขอตัวลา” กล่าวจบ อันหลิงเกอก็แกล้งลุกขึ้นยืนแล้วเตรียมเดินจากไป

“เช่นนั้นก็ไปหาสถานที่น่าสนใจกันดีกว่า” มู่จวินฮานก็เดินตามอันหลิงเกอไปด้วย

“จวินฮาน…” อวี๋หมิงหลันเตรียมเดินตามไปแต่นึกได้ว่าสถานะของตนในตอนนี้มิค่อยเหมาะสม

“กลับจวนเถิด ไปชื่นชมดอกไม้ก็มิเลวเจ้าค่ะ” อันหลิงเกอพูดลอย ๆ ทว่ามู่จวินฮานคิดจริง

“ในเมื่อเจ้าอยากกลับแล้วก็ไปกันเถิด ข้ารับฟังความเห็นของเจ้าตลอดอยู่แล้ว” มู่จวินฮานแสดงท่าทีเอาอกเอาใจ เพราะรู้ว่าการปรากฏตัวของอวี๋หมิงหลันจักทำให้อันหลิงเกอมิสบายใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบเข้ามาเกลี้ยกล่อม

ภายในจวนอ๋องมู่

“สวนดอกไม้แห่งนี้เป็นฝีมือของผู้ใดถึงได้งดงามเยี่ยงนี้ ? ” อันหลิงเกอถามด้วยรอยยิ้ม ระหว่างทางมู่จวินฮานมิได้กล่าวอันใดกับนาง และความขุ่นมัวเมื่อครู่จึงมลายหายไปหมดสิ้น

“น้องสาวของชิงเฟิงชื่อว่าชิงหลิง” มู่จวินฮานกล่าวพลางโอบกอดนางไว้ อ้อมกอดของเขาทั้งกว้างและอบอุ่นจึงทำให้อันหลิงเกอหลวมตัวเคลิบเคลิ้ม

“มู่จวินฮาน” อันหลิงเกอเรียกชื่อของเขาเบา ๆ

“หืม ? ”

สีหน้าของอันหลิงเกอเคร่งขรึมขึ้นฉับพลัน มิรู้ว่ากำลังคิดเรื่องใดอยู่

“เป็นอันใดไปหรือ ? ”

มู่จวินฮานมิเข้าใจเพราะเมื่อครู่นางก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอย่างเห็นได้ชัด

“มิได้เป็นอันใด แค่หนาวเล็กน้อยเจ้าค่ะ”

กล่าวจบ อันหลิงเกอก็เตรียมเดินจากไปแต่ถูกมู่จวินฮานเดินมาขวางหน้าเอาไว้

“สำหรับเปิ่นหวางผู้นี้แล้ว เจ้าคือภรรยาของมู่จวินฮาน ! ”

มีเรื่องอันใดนางถึงมิยอมคุยกับเขา มันทำให้เขามิสบายใจเลย

“ขอบพระคุณในความรักที่ท่านอ๋องมีต่อข้า เพียงแต่เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นคงทำให้รู้สึกซาบซึ้งใจมิได้เจ้าค่ะ”

กล่าวจบ อันหลิงเกอก็หันหลังแล้วสาวเท้าให้เร็วกว่าเดิมเพื่อหลีกหนีให้พ้นจากสายตาของมู่จวินฮานโดยเร็ว เมื่อเห็นว่านางจากไปแล้ว นัยน์ตาของมู่จวินฮานก็เปลี่ยนเป็นคนพ่ายแพ้

เขารู้ว่าในใจของอันหลิงเกอยังมิปล่อยวางความเกลียดชัง ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบล้วนหวังให้นางใช้ชีวิตอย่างสบายใจเท่านั้น

“ซูโจว เจ้าคิดว่าข้าสามารถปลดปล่อยความแค้นในใจของนางได้หรือไม่ ? ”

หลังกลับมาในห้องหนังสือก็ดูเหมือนมู่จวินฮานเอาแต่พึมพำกับตนเอง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังค่อย ๆ เดินเข้ามา จากนั้นก็มองเขาจึงเห็นใบหน้าที่ดูเคร่งเครียด

“ท่านอ๋องคิดแทรกแซงการตัดสินใจของพระชายาหรือขอรับ ? ”

สีหน้าของซูโจวเปลี่ยนไปเพราะย่อมมองออกว่าอีกฝ่ายกำลังเป็นห่วงอันหลิงเกอ

“ในสายตาของเจ้าเห็นข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ ? ” มู่จวินฮานหรี่ตามองซูโจว ดูเหมือนความรู้สึกที่ซูโจวผู้นี้มีต่ออันหลิงเกอจักมิธรรมดา

ในเวลานี้แม้พวกตนกำลังปรึกษาหารือกันอยู่ แต่มู่จวินฮานก็รู้ดีว่าสถานะของพวกเขายังเป็นศัตรูต่อกัน

แม้ซูโจวมีความรู้สึกที่ดีต่ออันหลิงเกอ แต่เขาก็มิอนุญาตให้ซูโจวมีความคิดอื่นใดต่อนางอีก

“ข้าน้อยหวังเพียงว่าท่านอ๋องอย่าทำเรื่องที่ตนเองเสียใจก็พอ ส่วนพระชายาก็มีทางเลือกของนางเองขอรับ” กล่าวจบ ซูโจวก็ซ่อนตัวอีกครั้งโดยมิกล่าวอันใดกับมู่จวินฮานอีก

ในตอนที่มู่จวินฮานยอมใช้ร่างกายของตนเลี้ยงหนอนกู่ตัวแม่นั้น ซูโจวก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีความรักต่ออันหลิงเกอมิน้อย

จักว่าไปแล้วในใจของซูโจวก็ยังเกิดความอิจฉาเล็กน้อย

ในระหว่างที่ทั้งสองโต้ตอบกันมิกี่ประโยค อันหลิงเกอก็กลับมาถึงเรือนฝูหลิง

หลังซูโจวออกจากห้องหนังสือก็เดินมายังหน้าประตูเรือนของอันหลิงเกอโดยมิรู้ตัว

เมื่อเห็นว่าเขามิยอมเดินเข้ามา อันหลิงเกอจึงยิ้มให้

ความเข้าใจผิดในเวลานี้มลายหายไปหมดสิ้นแล้ว ตอนนี้สำหรับนางก็เห็นว่าซูโจวเป็นคนที่สามารถสนิทสนมได้โดยมิตะขิดตะขวงใจ

“เข้ามานั่งก่อนสิ” อันหลิงเกอมักชอบมานอนเล่นที่สนามหญ้าเพราะสำหรับนางแล้วช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนคือช่วงเวลาน่าทะนุถนอมที่สุดแล้ว

“แท้จริงที่ท่านอ๋องกล่าวก็มิผิดหรอกเพราะมีหลายครั้งหลายคราที่หากปล่อยวางก็อาจทำให้สบายใจขึ้นได้ขอรับ”

ซูโจวเอนกายนอนลงข้างกายของนาง ก่อนพูดประโยคที่กระทบจิตใจนางอย่างรุนแรง

“ข้า…”

“ข้าน้อยมิรู้ว่าสำหรับท่านเลือกจดจำความเจ็บปวดในอดีตที่ฝังรากลึกหรือสถานการณ์ที่ดีขึ้นแล้วในตอนนี้ แต่ที่แน่ชัดคือมารดาท่านหวังให้บุตรีอยู่อย่างมีความสุขขอรับ”

ซูโจวกล่าวอย่างอ่อนโยนเพราะอยากปลอบโยนนางจึงใช้น้ำเสียงอบอุ่นที่สุด

ซูโจวมีสถานนะค่อนข้างซับซ้อนมาก และด้วยเหตุนี้เขาย่อมคาดเดาความคิดของนางออก