บทที่ 158 อย่ามายั่วยุขีดจำกัดของฉัน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

ยิ้มอย่างดูถูก เชอร์รีนตีไปที่ฝ่ามือใบใหญ่ของเขาอย่างแรง ในน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความประชด

“คุณออกัสไม่ไปรักใคร่ใยดีกับหญิงที่ตนเองรัก แต่กลับมาวิ่งมายุ่งเรื่องที่นี่ทำไมคะ? อีกอย่าง ตอนนี้ฉันไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับคุณออกัสแล้ว ฉันอยากอ่อยใคร อยากจะทำอะไรบ้าง คุณออกัสไม่มีสิทธิ์มาไถ่ถามและยุ่งเกี่ยวค่ะ”

นัยน์ตาเปล่งประกาย ออกัสยักคิ้ว มองเธออย่างลึกซึ้ง ไม่ได้โกรธแต่กลับยิ้ม กลับไม่มีอารมณ์ใดๆ “ไม่มีความเกี่ยวข้องจริงๆ ทว่าหากเธออยากจะอ่อยเลอแปง นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ฉันขอเตือนให้เธอตายใจไปเลยจะดีกว่า……”

ไม่เจอกันสี่ปี เขายิ่งอยู่ยิ่งหล่อเหลา กลิ่นอายที่เผยออกมาก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น น่าหลงใหล และหน้าด้านขึ้นเช่นกัน!

“ฉันจะตายใจหรือไม่ ไม่ใช่คุณออกัสจะมาตัดสินค่ะ” เธอหัวเราะเยาะเย้ย ยั่วยุ

หัวเราะอย่างดูถูก ออกัสส่งเสียงออกฮื้มออกมาทางจมูก ก้มหน้ามองเธออย่างเย็นชา “ได้ งั้นเราก็ดูกันไป……”

นัยน์ตามองขึ้นบน มุมปากของเชอร์รีนแฝงรอยยิ้ม หยักหน้า “ดังนั้น ตอนนี้คุณออกัสสามารถจากไปได้แล้วใช่ไหมคะ ฉันไม่อยากถูกพวกผู้หญิงถูกว่าเป็นมื้อที่สามอยู่ข้างหลังนะคะ……”

ริมฝีปากเล็กอมชมพูนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งเถียงเก่งแล้ว และทำให้รู้สึกอยากจะฉีกทิ้ง!

โค้งตัวลงกะทันหัน จู่ๆ ก็อุ้มเธอเข้ามาในอ้อมกอด กอดเธอไว้ ร่างกายของทั้งสองติดแนบชิด วินาทีต่อไป เขาจูบเธอลงไปอย่างรุนแรง!

คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ ทันใดนั้น เธอใช้แรงทั้งหมดในร่างกายดิ้นรน ยกมือขึ้น ตบไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาอย่างแรง

ไม่ได้หลบ ออกัสรับการตบนั้นไว้เต็มๆ ริมฝีปากแหลมคม จ้องมองเธออย่าเย็นชา ราวกับว่าจะกลืนกินเธอเข้าไป

ไม่ได้กลัว ยิ่งไม่ได้หลบ เชอร์รีนเผชิญรับทันที “หรือว่า คุณออกัสเป็นคนที่ไม่รู้จักพอ มีหญิงสาวที่คนเองรักแล้วยังไม่พอใจ ยังจะมายั่วหญิงที่ถูกสามีทิ้งอย่างฉัน?”

“ปากน้อยๆ นี้ อยากให้ฉีกทิ้งจริงๆ เลยนะ แต่ละคำพูดออกมา ไม่มีคำไหนที่ทำให้คนชอบฟังเลย……”

“คุณเชอร์รีน คงจะพูดแต่สิ่งที่คนชอบฟัง น้ำเสียงอ่อนนุ่มดั่งสายน้ำ คุณอยากฟังเท่าไหร่ก็ฟังเท่าไหร่ ทำไมถึงต้องมาหาความท้าทายที่ฉันล่ะ? ”

ออกัสไม่ได้พูดอะไร หรี่นัยน์ตาที่ดำขลับ จ้องเธออยู่อย่างนั้น นัยน์ตาที่เย็นชากำลังพริ้มไหว อยากจะเย็นให้เธอเป็นน้ำแข็ง!

เชอร์รีนก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอออกมา นี่ผ่านไปสี่ปีแล้ว ระหว่างทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน เขามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกเธอเช่นนี้?

ทว่า เมื่อเห็นรอยฝ่ามือที่เด่นชัดบนใบหน้าที่หล่อเหลานั้น ความโกรธในหัวใจของเธอก็คลายลงเล็กน้อย รู้สึกเพียงแต่ว่ารอยฝ่ามือนั้นดูสบายตามาก

และแล้ว ในขณะนี้ มีเสียงเท้าเดินช่วงหนึ่งผ่านมา จากนั้น น้ำเสียงที่น้อยใจของซารางก็ดังผ่านมาจากชั้นบน สามารถได้ยินอย่างชัดเจน “คุณยาย ทำไมหม่ามี๊ยังไม่กลับมาคะ จะไม่เอาซารางแล้วใช่ไหมคะ?”

“จะไม่เอาซารางแล้วได้ยังไง ซารางของเราเป็นเด็กดีขนาดนี้ หม่ามี๊แค่ออกไปซื้อนิทานให้ซารางแล้ว เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” เป็นเสียงของกนกอร

“แต่ว่า เมื่อกี้คุณยายก็พูดแบบนี้ เดี๋ยวหม่ามี๊ก็กลับมาแล้ว หนูรอมานานขนาดนี้ หม่ามี๊ยังไม่กลับมาเลยค่ะ คุณยาย หม่ามี๊ถูกหมาป่าใหญ่จับไปแล้วหรือเปล่าคะ?” น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มมีความอยากร้องไห้แฝงอยู่ “หนูไม่เอานิทานแล้วค่ะ จะเอาแต่หม่ามี๊”

“ซารางลืมแล้วเหรอ ยังมีคุณลุงตำรวจอยู่นะ? คุณลุงตำรวจมีปืน สามารถยิงให้เข้าหมาป่าวิ่งหนีไปได้ เรารออยู่ที่นี่สักพัก หม่ามี๊ต้องกลับมาแน่นอน!”

ฟังเสียงที่ดังผ่านมาจากชั้นบน หัวใจของเชอร์รีนเต้นเร็วขึ้นทันที เธอดูรนขึ้นมาเล็กน้อย ร่างกายสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้

เธอกลัว ว่าออกัสจะฟังออก

หากพูดว่าไม่ตื่นเต้น นั่นเป็นเรื่องปลอม!

เธอกลัว ว่าออกัสจะแย่งซารางไป ไม่ว่ายังไงแล้ว ซารางคือลูกของเขา!

ทว่า ขณะนี้ เธอเข้าใจอย่างดียิ่ง ตัวเองห้ามรนเด็ดขาด ห้ามกระวนกระวาย ยิ่งห้ามให้เขาเห็นร่องรอยใดๆ บนใบหน้า

สูดหายใจลึก ผ่อนคลาย นัยน์ตาของเชอร์รีนมองใบหน้าเขาอย่างเฉยชา อยากจะมองให้ออกว่าเขาได้สนใจเสียงพวกนั้นหรือเปล่า

ทว่า ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่ได้มีการเคลื่อนไหวของอารมณ์ นัยน์ตาที่ดำขลับจ้องเธออย่างโหดร้าย ราวกับว่าจะแทงเธอเข้าไปเป็นๆ

เห็นท่าแล้ว หัวใจที่กังวลอยู่ของเชอร์รีนก็วางใจลงสักที ร่างกายที่ตึงแน่นก็ผ่อนคลายลง ก็ยังอดกลืนน้ำลายไม่ไหว

ขอแค่ ความสนใจของเขาอยู่บนตัวของเธอก็ดีแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คำพูดพวกนั้นของซารางเขาคงไม่ได้ตั้งใจไปฟังอยู่แล้ว

หลังจากนั้น เป็นเสียงที่กนกอรกล่อมให้ซารางกลับเข้าไปในห้อง ถึงแม้ว่าเจ้าเด็กน้อยจะไม่ค่อยอยาก ทว่าก็ไม่ได้งอแง กลับปล่อยให้อุ้มกลับไปอย่างง่ายดาย

เสียงเท้าเดินหายไป เชอร์รีนจึงจะวางใจลงอย่างถ่องแท้ ในใจก็มีความมั่นใจแล้ว

“คุณออกัสควรจะจากไปแล้วหรือเปล่าคะ? ระหว่างเราทั้งสองไม่มีอะไรให้คุยแล้วค่ะ! สิ่งที่ควรพูด สิ่งที่พูดได้ เมื่อกี้ได้พูดออกมาหมดแล้ว!”

ยิ้มโค้งที่ริมฝีปากอย่างเย็นชา ออกัสหรี่ตามองเธอ น้ำเสียงที่ต่ำเต็มไปด้วยคำเตือน “ดีที่สุดเธอควรอยู่ห่างกับเลอแปง ไม่เช่นนั้น ผลที่ตามมารับผิดเอง……”

“น่าตลกจริงๆ คุณสามารถควบคุมตัวเองได้ แล้วยังสามารถควบคุมผู้อื่นได้อีกเหรอ?” ยิ่งไปกว่านั้น เธอหัวเราะเสียงเบาออกมา

ยิ้มโค้งด้วยรอยิ้มที่ทำให้รู้สึกกลัว เขาค่อยๆ เอนตัวลง ริมฝีปากที่เซ็กซี่โค้งขึ้น มองเธอจากมุมบน “ดีที่สุดเธออย่าสงสัยในคำพูดของฉัน ไม่มีพ่อค้าคนไหนที่ไม่ขี้โกง นี่คือคำสรุปที่เธอเคบบอกฉัน ดังนั้นพ่อค้าอย่างฉัน จะเลือกลงมือแต่กับจุดอ่อนของเธอ เข้าใจไหม?”

ยืนหลังตรง เชอร์รีนกอดอก แฝงความตั้งใจไว้เล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมคุณถึงคัดค้านการที่ฉันอยู่กับเลอแปงขนาดนี้?”

“น้องชายของตัวเองขึ้นเตียงกับอดีตภรรยา และยังกลิ้งไปมาด้วยกัน ทำในเรื่องที่ฉันเคยทำมาก่อน ถุ้ย ภาพแบบนั้นช่างทุเรศมาก……”

“มีเพียงแต่คุณเท่านั้นที่แหละที่สกปรก ทุเรศ! หรือว่า เรื่องที่ขึ้นเตียงกับคุณป้าของตัวเอง นายไม่รู้สึกทุเรศ?” เชอร์รีนอยากจะตบกลับไปอย่างแรงอีกครั้ง!

นัยน์ตาลึกซึ้งดั่งมหาสมุทร คลื่นซัดผ่านไปมา ออกัสก็ไม่พูดอะไร จ้องมองเธออยู่อย่างนั้น

ค่อยๆ ปิดตาลง หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เชอร์รีนลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขารู้สึกสงสารหยาดฝน และรู้สึกโกรธเธอใช่ไหม?

จริงๆ แล้ว ทำไมเธอต้องทำเช่นนี้ล่ะ?

พูดไว้ว่าลืมก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอถึงต้องพูดถึงเรื่องที่ทำให้ตัวเองรู้สึกคลื่นไส้ด้วย? ไม่ว่ายังไงแล้ว สี่ปีนั้นก็ผ่านมาแล้ว ทำไมต้องนึกถึงอีก?

ไม่ได้มองเขา และไม่ได้พูดอะไร เชอร์รีนหันหลัง เดินขึ้นตึกไปอย่างรวดเร็ว